รสสุคนธ์ ชื่อที่ออกจากปาก ก็ดูว่าธรรมดา แต่นามสกุลสิไม่ธรรมดา นักธุรกิจใหญ่ที่ใคร ๆ ก็รู้จักเชียวล่ะ ก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าคงไม่ใช่คนเลวเกวอะไร หากอย่างไรเสียก็ยังไม่น่าไว้ใจอยู่ดี ด้วยวัย ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าความจริงที่ได้รับฟังจาก "คุณนาย" นั้นมีเพียงครึ่งเดียว คำสั่งจึงมีอยู่ว่าหากเรือของไต้ก๋งที่คุ้นเคยผ่านมาก็ฝากสองแม่ลูกขึ้นฝั่งไปด้วยจะได้จบเรื่อง แต่คำบอกกล่าวนี้ควรต้องเก็บเป็นความลับ ... เพราะความหวั่นระแวงยังมีอยู่เต็มหัวใจทั้งนาบุญ และ รัตตวัลย์ในคราบของ "รสสุคนธ์"
แต่ในความหวั่นระแวง ... นาบุญก็พบสิ่ง .... ที่ค่อนข้างจะบันเทิงใจ "คุณนาย" สู้คนกว่าที่คิด เมื่อตั้งตัวติดจากเหตุการณ์ที่เผชิญเขาก็ต้องยอมรับว่าราศีของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็ "คุณนาย" อย่างที่เรียกจริง ๆ เป็นคนที่ลูกล่อลูกชนมีพอตัว เพียงแต่อาจไม่ได้ระมัดระวังอย่างเช่นเขาที่อยู่ในสถานการณ์ที่ระแวดระวังภัยเป็นนิจศีล ดังนั้นเมื่อมีการลองเชิง .... "ความจริง" จึงหลุดออกมาบ้างประปราย บัดนี้เขารู้แล้วว่าความสามารถของเธอเรียกได้ว่ารอบด้าน เทคโนโลยี บัญชี จนกระทั่งถึงการปฐมพยาบาลและเรื่องของยาสามัญประจำบ้าน
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนละเอียด ภายในรูปลักษณ์ที่บอบบางในความเป็นผู้หญิงก็ซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ไม่ใช่น้อย คำพูดคำจาถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ยังเหมือนกับนางกวางระแวงไพร แต่ทุกความเห็น ทุกการตัดสินใจ ประกอบด้วยสติปัญญา เด็ดขาด และ เฉียบคม ในสถานการณ์เฉพาะหน้า เธอช่วยป้าเหลียงแบบคนมีความรู้ ความช่างสังเกตในเรื่องของเอิบ แม้จะระแวงแต่ก็ทำให้นาบุญต้องเริ่มคิดให้มากิดให้หนักกับสถานการณ์รอบตัว และ ที่สำคัญต้องไม่ให้พลาด ไม่ให้พลาดเหมือนคราวที่ต้องเสียลูกน้องไป เพราะ การตัดสินที่ไม่รอบคอบพอ เรื่องของเอิบก็น่าสงสัย แต่เรื่องของ "คุณนาย" ก็ยังไม่อาจไว้ใจได้เช่นกัน
แต่การมีใครซักคนเอาไว้บริหารปาก และ บริหารความคิด
ก็จุดรอยยิ้มที่มุมปากของนาบุญได้เช่นกัน
ถึงไม่พูด ถึงไม่คิด แต่ภาษากายก็บอกว่า "ดีต่อใจ"
ผู้ชายคนนี้ "อ่อนโยน" ภาพลักษณ์ดิบ ๆ แท้ที่จริงแล้วคือความเรียบง่ายอย่างยิ่ง ยิ่งนานวันไปนิสัยที่แท้จริงก็ค่อยเผยโฉมออกมาเรื่อย วาจาสั้น ๆ ห้วน ๆ ท่าทางยียวนกวนประสาทไม่ยี่หระกับใครทั้งหญิงชาย ดูน่าหวั่นกลัว .... หากไม่นานเธอก็ชักชิน เพราะเริ่มจะรู้ว่าทุกอย่างคือความจริงใจ รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น บางครั้งกับการซ้อมค้างของเขาก็ทำให้เธอเลิกกังวลกับปัญหาที่วนเวียนอยู่ในหัวได้บ้าง ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอทั้งฉุนเฉียว บางทีก็ขำขัน บางครั้งก็สะท้อนใจ ปะปนไปด้วยความอบอุ่นเล็ก ๆ ว่ายังมีใครที่พอจะพึ่งได้ด้วยความสนิทใจระดับหนึ่ง
การเจรจาปกติระหว่างเขาและเธอ เป็นอาการห้วนมาก็ห้วนกลับ ที่ไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มจะชิน และ เริ่มจะมองด้วยสายตาที่ไม่มีอคติได้บ้าง โดยเฉพาะสิ่งที่เขาปฏิบัติกับลูกชายของเธอ "มันปู" หรือ เจ้าเปี๊ยก อย่างที่เขาชอบเรียก ถ้อยคำและน้ำเสียงสั้น ๆ ฟังกระด้าง หากมองเข้าไปให้ลึกก็คือความเอื้อเอ็นดูแบบผู้ชาย ๆ อย่างที่เธอยากให้ "พ่อ" ตัวจริงของมันปูได้มีและได้เป็น หากในช่วงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา "เขา" ไม่เคยทำ และ ยามนั้นที่ถ้อยคำขอบคุณ ... แบบมีคำลงท้ายสุภาพได้ออกจากปาก และ เขาก็อารมณ์ดีพอที่เย้าแหย่
ภาพที่เห็นไม่ผิดอะไรกับการเป็นพ่อแม่ลูก ทั้งที่ในความจริงยังไม่มีใครคิดถึงเพียงนั้น
อีกทั้งการลองเชิงก็ยังไม่จบสิ้น เขาถามคำถาม และ เธอก็ตอบคำถามนั้นด้วยคำถาม
หากการลองเชิงที่ชิงไหวพริบและค้นหาคำตอบบัดนี้ไม่ได้ตึงเครียดและคร่ำเคร่งอย่างที่เป็นมา
กลับกลายเหมือนกับว่าต่างฝ่ายต่างอยากจะค้นหา "เพื่อ" รู้จักกันให้มากขึ้น เธอคือใคร ?
สัมปทานหัวใจ (กึ่งรีวิว) : หัวใจ .... และ การลองเชิง
แต่ในความหวั่นระแวง ... นาบุญก็พบสิ่ง .... ที่ค่อนข้างจะบันเทิงใจ "คุณนาย" สู้คนกว่าที่คิด เมื่อตั้งตัวติดจากเหตุการณ์ที่เผชิญเขาก็ต้องยอมรับว่าราศีของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็ "คุณนาย" อย่างที่เรียกจริง ๆ เป็นคนที่ลูกล่อลูกชนมีพอตัว เพียงแต่อาจไม่ได้ระมัดระวังอย่างเช่นเขาที่อยู่ในสถานการณ์ที่ระแวดระวังภัยเป็นนิจศีล ดังนั้นเมื่อมีการลองเชิง .... "ความจริง" จึงหลุดออกมาบ้างประปราย บัดนี้เขารู้แล้วว่าความสามารถของเธอเรียกได้ว่ารอบด้าน เทคโนโลยี บัญชี จนกระทั่งถึงการปฐมพยาบาลและเรื่องของยาสามัญประจำบ้าน
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนละเอียด ภายในรูปลักษณ์ที่บอบบางในความเป็นผู้หญิงก็ซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ไม่ใช่น้อย คำพูดคำจาถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ยังเหมือนกับนางกวางระแวงไพร แต่ทุกความเห็น ทุกการตัดสินใจ ประกอบด้วยสติปัญญา เด็ดขาด และ เฉียบคม ในสถานการณ์เฉพาะหน้า เธอช่วยป้าเหลียงแบบคนมีความรู้ ความช่างสังเกตในเรื่องของเอิบ แม้จะระแวงแต่ก็ทำให้นาบุญต้องเริ่มคิดให้มากิดให้หนักกับสถานการณ์รอบตัว และ ที่สำคัญต้องไม่ให้พลาด ไม่ให้พลาดเหมือนคราวที่ต้องเสียลูกน้องไป เพราะ การตัดสินที่ไม่รอบคอบพอ เรื่องของเอิบก็น่าสงสัย แต่เรื่องของ "คุณนาย" ก็ยังไม่อาจไว้ใจได้เช่นกัน
ก็จุดรอยยิ้มที่มุมปากของนาบุญได้เช่นกัน
ถึงไม่พูด ถึงไม่คิด แต่ภาษากายก็บอกว่า "ดีต่อใจ"
ผู้ชายคนนี้ "อ่อนโยน" ภาพลักษณ์ดิบ ๆ แท้ที่จริงแล้วคือความเรียบง่ายอย่างยิ่ง ยิ่งนานวันไปนิสัยที่แท้จริงก็ค่อยเผยโฉมออกมาเรื่อย วาจาสั้น ๆ ห้วน ๆ ท่าทางยียวนกวนประสาทไม่ยี่หระกับใครทั้งหญิงชาย ดูน่าหวั่นกลัว .... หากไม่นานเธอก็ชักชิน เพราะเริ่มจะรู้ว่าทุกอย่างคือความจริงใจ รู้สึกอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น บางครั้งกับการซ้อมค้างของเขาก็ทำให้เธอเลิกกังวลกับปัญหาที่วนเวียนอยู่ในหัวได้บ้าง ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอทั้งฉุนเฉียว บางทีก็ขำขัน บางครั้งก็สะท้อนใจ ปะปนไปด้วยความอบอุ่นเล็ก ๆ ว่ายังมีใครที่พอจะพึ่งได้ด้วยความสนิทใจระดับหนึ่ง
การเจรจาปกติระหว่างเขาและเธอ เป็นอาการห้วนมาก็ห้วนกลับ ที่ไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มจะชิน และ เริ่มจะมองด้วยสายตาที่ไม่มีอคติได้บ้าง โดยเฉพาะสิ่งที่เขาปฏิบัติกับลูกชายของเธอ "มันปู" หรือ เจ้าเปี๊ยก อย่างที่เขาชอบเรียก ถ้อยคำและน้ำเสียงสั้น ๆ ฟังกระด้าง หากมองเข้าไปให้ลึกก็คือความเอื้อเอ็นดูแบบผู้ชาย ๆ อย่างที่เธอยากให้ "พ่อ" ตัวจริงของมันปูได้มีและได้เป็น หากในช่วงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา "เขา" ไม่เคยทำ และ ยามนั้นที่ถ้อยคำขอบคุณ ... แบบมีคำลงท้ายสุภาพได้ออกจากปาก และ เขาก็อารมณ์ดีพอที่เย้าแหย่
อีกทั้งการลองเชิงก็ยังไม่จบสิ้น เขาถามคำถาม และ เธอก็ตอบคำถามนั้นด้วยคำถาม
กลับกลายเหมือนกับว่าต่างฝ่ายต่างอยากจะค้นหา "เพื่อ" รู้จักกันให้มากขึ้น เธอคือใคร ?