อรชุนเกิดความเข้าใจเรื่องการเกิดขึ้นของโลกและสภาวะซึ่งคล้ายๆกับคำว่า "ภพ" ในทางพระพุทธศาสนา
เลยต้องการนำความเข้าใจดังกล่าวมาสนทนาแลกเปลี่ยนกับทุกๆท่าน ณ ที่นี้
ถ้าหากความเข้าใจของอรชุนผิดพลาดไป ก็รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
การรับรู้หรือการมีผัสสะในสิ่งที่สามารถสัมผัสได้โดยอาศัยอายตนะช่วยในการรับรู้นั้น
นำมาซึ่งการสมมติบัญญัติตามกระบวนการที่เราเรียกว่า"การเรียนรู้"
และนั่นก็เป็นการสร้างโลกและการสร้างสภาวะด้วย
โลกและสภาวะที่ผมกล่าวถึงนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย
กล่าวคือเมื่อเกิดการเปรียบเทียบ การเทียบเคียง หรือการพิจรณาจำแนกให้เห็นความแตกต่างในสรรพสิ่ง
นั้นคือการมีสภาวะตามที่ผมเข้าใจ กล่าวคือการมีความเข้าใจว่าอันนี้สวย หรือไม่สวย ลักษณะดีหรือลักษณะชั่วต่างๆ
การมีสมมติบัญญัติอย่างนี้เรียกว่าการมีสภาวะ
เมื่อมีสภาวะในสรรพสิ่งแล้วจึงได้ชื่อว่าตกอยู่ในโลก
เมื่อตกอยู่ในโลกสมมติจึงมีความยินดียินร้ายต่อสรรพสิ่งในโลกนั้นด้วย
เบื้องต้น อรชุนมีความเข้าใจประมาณนี้ครับ และอรชุนก็เพิ่งพิจรณาทำความเข้าใจ
จึงอาจทำให้อธิบายได้ไม่ค่อยดีนัก
หากเพื่อนๆที่สนใจศึกษาธรรมะทั้งหลายอยากจะให้ข้อชี้แนะหรือสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยน
ความเข้าใจกันก็เชิญเลยยินดีทั้งนั้นครับ
การสร้างโลกและการสร้างสภาวะ
เลยต้องการนำความเข้าใจดังกล่าวมาสนทนาแลกเปลี่ยนกับทุกๆท่าน ณ ที่นี้
ถ้าหากความเข้าใจของอรชุนผิดพลาดไป ก็รบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
การรับรู้หรือการมีผัสสะในสิ่งที่สามารถสัมผัสได้โดยอาศัยอายตนะช่วยในการรับรู้นั้น
นำมาซึ่งการสมมติบัญญัติตามกระบวนการที่เราเรียกว่า"การเรียนรู้"
และนั่นก็เป็นการสร้างโลกและการสร้างสภาวะด้วย
โลกและสภาวะที่ผมกล่าวถึงนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย
กล่าวคือเมื่อเกิดการเปรียบเทียบ การเทียบเคียง หรือการพิจรณาจำแนกให้เห็นความแตกต่างในสรรพสิ่ง
นั้นคือการมีสภาวะตามที่ผมเข้าใจ กล่าวคือการมีความเข้าใจว่าอันนี้สวย หรือไม่สวย ลักษณะดีหรือลักษณะชั่วต่างๆ
การมีสมมติบัญญัติอย่างนี้เรียกว่าการมีสภาวะ
เมื่อมีสภาวะในสรรพสิ่งแล้วจึงได้ชื่อว่าตกอยู่ในโลก
เมื่อตกอยู่ในโลกสมมติจึงมีความยินดียินร้ายต่อสรรพสิ่งในโลกนั้นด้วย
เบื้องต้น อรชุนมีความเข้าใจประมาณนี้ครับ และอรชุนก็เพิ่งพิจรณาทำความเข้าใจ
จึงอาจทำให้อธิบายได้ไม่ค่อยดีนัก
หากเพื่อนๆที่สนใจศึกษาธรรมะทั้งหลายอยากจะให้ข้อชี้แนะหรือสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยน
ความเข้าใจกันก็เชิญเลยยินดีทั้งนั้นครับ