สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
ชีวิตหลังเกษียณ มา 10 กว่าปีมานี่ เป็นชีวิตที่มีความสุขค่ะ ไม่เคยคิดถึงความตาย
ตื่นเช้ากว่าวันไปทำงานอีก เกษียณใหม่ๆ ก็พบเพื่อนก๊วนใหม่ตอนเดินออกกำลังกันในหมู่บ้าน
เดินออกกำลังตอนเช้า ....จบ ก็ไปจ่ายตลาด ชอปปิ้ง ตลาดนัดในหมู่บ้าน กลับมาทานอาหาร
เช้า ที่บางทีก็ได้จากตลาดนัด ... จบแล้วก็ดูทีวี นิดหน่อย อาบน้ำ สักพัก อ้าว เตรียม
อาหารกลางวันได้แล้ว จบอาหารกลางวันนอนดูทีวี หลับๆ ตื่นๆ แป๊ปเดียวเย็นแล้ว ทานอาหาร
เย็น ดูทีวี อาบน้ำนอน ...อ้อ ก่อนเดินออกกำลังตอนเช้า ก็สวดมนต์ทำวัตรเช้ากับ 7-11 ด้วยค่ะ
บางวัน ก็ไปสังสรรค์มื้อกลางวัน กับเพื่อน กลุ่มโน้น กลุ่มนี้ อย่างน้อย เดือนละครั้ง พบหมอตาม
นัดอีก เพื่อดูแลสุขภาพ
4-5 ปีหลังสุขภาพแย่ลง ก็งดเดินออกกำลัง .... เปลียนเป็นยืดกล้ามเนื้อ บนเตียง หน้าเตียง
วันนี้ มีภาระดูแลคุณสามี ที่นอนป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า ก่อนพยาบาล จะมาเข้าเวรตอน 7 เช้า
ก็เพิ่มภาระกิจ ขึ้นมาอีก กลางวันก็ เดินเข้าเดินออก ไปให้กำลังใจคนป่วย อย่างอื่นก็เหมือนเดิม
คิดว่า ความตาย ก็คือหมดกรรม วันนี้ ยังมีกรรมที่ต้องชดใช้ ดูแลสามี ลูกๆ ก็รีบใช้กรรมนี้
และไม่สร้างกรรมใหม่ขึ้นมาอีก อ้อ การดูแลนี้ Happy ในการปฏิบัตินะคะ
ไปวัดนี่ บางปีแทบไม่เคยไปวัดเลย ห่างวัด ห่างพระ มากๆ เลย ชีวิต คิดบวก ค่ะ
ตื่นเช้ากว่าวันไปทำงานอีก เกษียณใหม่ๆ ก็พบเพื่อนก๊วนใหม่ตอนเดินออกกำลังกันในหมู่บ้าน
เดินออกกำลังตอนเช้า ....จบ ก็ไปจ่ายตลาด ชอปปิ้ง ตลาดนัดในหมู่บ้าน กลับมาทานอาหาร
เช้า ที่บางทีก็ได้จากตลาดนัด ... จบแล้วก็ดูทีวี นิดหน่อย อาบน้ำ สักพัก อ้าว เตรียม
อาหารกลางวันได้แล้ว จบอาหารกลางวันนอนดูทีวี หลับๆ ตื่นๆ แป๊ปเดียวเย็นแล้ว ทานอาหาร
เย็น ดูทีวี อาบน้ำนอน ...อ้อ ก่อนเดินออกกำลังตอนเช้า ก็สวดมนต์ทำวัตรเช้ากับ 7-11 ด้วยค่ะ
บางวัน ก็ไปสังสรรค์มื้อกลางวัน กับเพื่อน กลุ่มโน้น กลุ่มนี้ อย่างน้อย เดือนละครั้ง พบหมอตาม
นัดอีก เพื่อดูแลสุขภาพ
4-5 ปีหลังสุขภาพแย่ลง ก็งดเดินออกกำลัง .... เปลียนเป็นยืดกล้ามเนื้อ บนเตียง หน้าเตียง
วันนี้ มีภาระดูแลคุณสามี ที่นอนป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า ก่อนพยาบาล จะมาเข้าเวรตอน 7 เช้า
ก็เพิ่มภาระกิจ ขึ้นมาอีก กลางวันก็ เดินเข้าเดินออก ไปให้กำลังใจคนป่วย อย่างอื่นก็เหมือนเดิม
คิดว่า ความตาย ก็คือหมดกรรม วันนี้ ยังมีกรรมที่ต้องชดใช้ ดูแลสามี ลูกๆ ก็รีบใช้กรรมนี้
และไม่สร้างกรรมใหม่ขึ้นมาอีก อ้อ การดูแลนี้ Happy ในการปฏิบัตินะคะ
ไปวัดนี่ บางปีแทบไม่เคยไปวัดเลย ห่างวัด ห่างพระ มากๆ เลย ชีวิต คิดบวก ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 26
เราอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ จขกท. ต้องการค่ะ
แต่ขออนุญาตตอบ ... เพราะชอบคำถามนี้จัง ...
เราเตรียมตัวแก่ เตรียมตัวตายจริงจังมาตั้งแต่ตอนอายุ 23 ปี
ก่อนหน้านั้น นึกถึงความตายยังไงก็นึกไม่ออก ยิ่งความแก่นี่ได้แต่ท่องตามบทสวดมนต์ไปเรื่อยๆ
ว่าเรามีความแก่เป็นธรรมดา ... ไม่สามารถล่วงพ้นความแก่ไปได้
แต่ความคึกคะนองตามวัย ยังมีอยู่เต็มพิกัด
พออายุเข้าสี่สิบปี ผมเริ่มหงอก ทีนี้เห็นชัดเลย
ผิวพรรณหน้าตาก็ไม่เปล่งปลั่งเหมือนเก่า
เรี่ยวแรงที่เคยกระโดดโลดเต้นได้ราวกับว่า มีสปริงติดอยู่ที่ข้อเท้า ก็ไม่สามารถทำได้นานๆอย่างเดิมแล้ว
แถมหากโดดผิดท่าขึ้นมา บาดเจ็บขึ้นมา ร่างกายก็สมานตัวเองให้ดีดังเดิม ได้ช้ากว่าที่เคยเป็นมากนัก
คราวนี้บทสวดมนต์ที่เคยภาวนามาเนิ่นนานเริ่มให้ผล
เพื่อนๆเรา (ที่เป็นนักปฏิบัติธรรม) เริ่มเปลี่ยนรูปแทนตัวเองเป็นรูปกระโหลกบ้าง ใช้แอพแต่งให้ตัวเองแก่กว่านี้ยี่สิบปีบ้าง
ยิ่งเห็นยิ่งช่วยเตือนสติกันและกันยิ่งขึ้น
ดาราขวัญใจ ที่สมัยวัยรุ่นเราเคยคลั่งไคล้
มาถึงขณะนี้ บางคนไม่เหลือเค้าเดิมเลย .... บางคนก็เปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติไปแล้ว
ความชรา ช่างน่ากลัวนัก มรณา ช่างน่าพรั่นพรึง
แต่ในทางกลับกัน
เราถามตัวเองบ่อยๆ ว่า ทุกข์กับความแก่ และความตายที่กำลังจะมาถึงมากแค่ไหน
เรากลับเห็นมุมที่ดีของสองสิ่งนี้ ตรงที่คอยย้ำเตือนไม่ให้เราประมาท ลดบรรดาความยโสโอหังลงไปได้ชะงัด
ทุกวันนี้ ..
เราเตรียมรับมือกับความไร้เรี่ยวแรง และความล่มสลายของร่างกายที่อาศัยนี้ ด้วยการทำสิ่งที่เราเชื่อว่าจะเอาติดตัวไปได้ค่ะ
เพื่อนฝูงที่เห็นกันมาค่อนชีวิต ตอนนี้เริ่มตระหนักถึงความจำเป็น และเวลาที่จำกัดในการสั่งสมความดี
ต่างก็พากันเพลาๆเรื่องงานลง แล้วหันไปทำกิจกรรมอาสาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นกันมากขึ้น ตามแต่วิชาชีพที่ตนถนัด
เราอยากเหลือคุณงามความดีไว้เป็นผลงานบนโลกใบนี้ก่อนตาย
แต่ไม่ว่าจะได้ผลงานระดับบันลือโลก หรือจะเงียบเชียบ เรียบหายดุจสายลมแผ่วๆ... ไม่สำคัญ
ที่สำคัญที่สุด คือหากเราได้ตายพร้อมๆกับละตัวตนได้เด็ดขาด นั่นแหละ ปรารถนาอันสูงสุด
แต่ขออนุญาตตอบ ... เพราะชอบคำถามนี้จัง ...
เราเตรียมตัวแก่ เตรียมตัวตายจริงจังมาตั้งแต่ตอนอายุ 23 ปี
ก่อนหน้านั้น นึกถึงความตายยังไงก็นึกไม่ออก ยิ่งความแก่นี่ได้แต่ท่องตามบทสวดมนต์ไปเรื่อยๆ
ว่าเรามีความแก่เป็นธรรมดา ... ไม่สามารถล่วงพ้นความแก่ไปได้
แต่ความคึกคะนองตามวัย ยังมีอยู่เต็มพิกัด
พออายุเข้าสี่สิบปี ผมเริ่มหงอก ทีนี้เห็นชัดเลย
ผิวพรรณหน้าตาก็ไม่เปล่งปลั่งเหมือนเก่า
เรี่ยวแรงที่เคยกระโดดโลดเต้นได้ราวกับว่า มีสปริงติดอยู่ที่ข้อเท้า ก็ไม่สามารถทำได้นานๆอย่างเดิมแล้ว
แถมหากโดดผิดท่าขึ้นมา บาดเจ็บขึ้นมา ร่างกายก็สมานตัวเองให้ดีดังเดิม ได้ช้ากว่าที่เคยเป็นมากนัก
คราวนี้บทสวดมนต์ที่เคยภาวนามาเนิ่นนานเริ่มให้ผล
เพื่อนๆเรา (ที่เป็นนักปฏิบัติธรรม) เริ่มเปลี่ยนรูปแทนตัวเองเป็นรูปกระโหลกบ้าง ใช้แอพแต่งให้ตัวเองแก่กว่านี้ยี่สิบปีบ้าง
ยิ่งเห็นยิ่งช่วยเตือนสติกันและกันยิ่งขึ้น
ดาราขวัญใจ ที่สมัยวัยรุ่นเราเคยคลั่งไคล้
มาถึงขณะนี้ บางคนไม่เหลือเค้าเดิมเลย .... บางคนก็เปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติไปแล้ว
ความชรา ช่างน่ากลัวนัก มรณา ช่างน่าพรั่นพรึง
แต่ในทางกลับกัน
เราถามตัวเองบ่อยๆ ว่า ทุกข์กับความแก่ และความตายที่กำลังจะมาถึงมากแค่ไหน
เรากลับเห็นมุมที่ดีของสองสิ่งนี้ ตรงที่คอยย้ำเตือนไม่ให้เราประมาท ลดบรรดาความยโสโอหังลงไปได้ชะงัด
ทุกวันนี้ ..
เราเตรียมรับมือกับความไร้เรี่ยวแรง และความล่มสลายของร่างกายที่อาศัยนี้ ด้วยการทำสิ่งที่เราเชื่อว่าจะเอาติดตัวไปได้ค่ะ
เพื่อนฝูงที่เห็นกันมาค่อนชีวิต ตอนนี้เริ่มตระหนักถึงความจำเป็น และเวลาที่จำกัดในการสั่งสมความดี
ต่างก็พากันเพลาๆเรื่องงานลง แล้วหันไปทำกิจกรรมอาสาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นกันมากขึ้น ตามแต่วิชาชีพที่ตนถนัด
เราอยากเหลือคุณงามความดีไว้เป็นผลงานบนโลกใบนี้ก่อนตาย
แต่ไม่ว่าจะได้ผลงานระดับบันลือโลก หรือจะเงียบเชียบ เรียบหายดุจสายลมแผ่วๆ... ไม่สำคัญ
ที่สำคัญที่สุด คือหากเราได้ตายพร้อมๆกับละตัวตนได้เด็ดขาด นั่นแหละ ปรารถนาอันสูงสุด
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบความรู้สึกของ สว.( 50+)ว่าเมื่อกังวล/กลัวกับความเสื่อม ความชราและ...ความตายแล้ว มีวิธีคิดยังไงไม่ให้เครียด
เลยอยากทราบ ท่าน สว.เหล่านี้ มีวิธีวางใจ ปรับวิธีคิดอย่างไร ไม่ให้กังวลหรือกลัวไปกับความเสื่อม ความชรา
และ...ความตายที่คืบคลานเข้ามาหา
สำหรับ สว บางคน ถ้าบอกให้ระลึกถึงมรณานุสติ เขาก็ไม่เอา เพราะยิ่งทำให้ใจยิ่งรู้สึกหดหู่ท้อถอย
พอบอกให้ไปใช้ชีวิตให้ร่าเริงเบิกบาน ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆร่วมรุ่น ก็รู้สึกว่า ไม่ใช่ตัวของตัวเอง ไม่ใช่แนว
บอกให้เข้าวัดฟังธรรม ก็ไม่เอา บอกว่า ไร้สีสัน ยิ่งทำให้จิตวังเวง นึกถึงความตายมากกว่าเดิมอีก
บอกให้ไปปลูกผัก ทำสวนเล็กๆน้อย เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว เพื่อไม่ให้ว่างเกิน ก็ไม่เอา บอกว่าไม่ชอบ ไม่เคยทำ
ก็เลยอยากทราบไอเดียของ สว.ในห้องนี้ ว่ามีหลักปฏิบัติอย่างไรที่เหมาะที่ควร และช่วยลดความกังวลความกลัว
ในความเสื่อม ความชรา และความตาย เพื่อที่เมื่อถึงวันนั้น จะได้วางใจไปสู่สุคติได้อย่างไม่ขัดขืนไม่หวาดกลัว
ขอบพระคุณมากค่ะ