สงคราม....ชาบู ที่อาจดุเดือดกว่า US กับ ซีเรีย...

ขออภัยที่เปิดหัวล่อเป้า....แค่อยากให้ได้อรรถรสในการคิดเท่านั้นครับ ^^

เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับผมเพียงเล็กน้อย....ในฐานะ ลูกค้า หรืออาจจะไม่เกี่ยวในฐานะอะไรทั้งนั้นก็ได้

เพียงแค่...อยากเล่าในมุมมองของคนธรรมดาคนหนึ่ง....

เข้าเรื่องเลยดีกว่า....

พอดีเปิดเฟสบุคแล้วเห็นโฆษณา ชาบูของนักแสดงตลกท่านนึง ขึ้นมาหน้าเฟสบุคบ่อยๆ เลยกดเข้าไปดูในฐานะร้านเปิดใหม่ในพื้นที่ ตจว แห่งหนึ่ง

ที่เข้าไปดูเป็นบุตเฟต์ หมู ราคา 25x-. บุฟเฟต์เนื้อทะเล รวมๆ 35x-. ส่วนเนื้อ ตปท 39x-. ถ้าจำราคาไม่ผิดประมาณนี้

ดูจากรูปอาหารที่นำมาเสริฟเป็นเนื้อสไลด์รวมมาในถาดใหญ่ มีกุ้งไม่กี่ตัว หอยนิวซีแลนด์ นับได้ 3-4 ตัว เต้าหู้ปลา ลูกชิ้น บลาๆๆๆ

เมื่อเทียบกับราคาแล้ว....คนในพื้นที่แบบผมต้องบอกเลยว่า ค่อนข้างแพง....เพราะในพื้นที่ที่อยู่ ร้านชาบูเกิดเหมือนดอกเห็ด

เปิดอยู่ทุกมุมเมือง ไหนจะร้านหมูกะทะ แบบกระทะธรรมดาและบวกเตาย่างซีฟูด....ที่กินยังไงก็ไม่อร่อย เหมือนเอาซากสัตว์มาให้ย่างยังไงยัง

งั้นอาหารที่ว่ามาไม่มีความสดเลยซักอย่าง เลยต้องไปแข่งกันที่ "ราคา" เนื้อย่าง+จะเรียกว่ากึ่งๆซีฟูดแช่แข็งจากอินเดียก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น

หมึก ปู หอย กุ้ง อะไรต่างๆ ล้วนแล้วแต่ เนื้อ ฝ่อ ยุ่ย  อาจจะมองดู คุ้มค่าในราคา หัวละ 199 แต่ก็อย่างว่า แข่งขันกันที่ ราคา ไม่เน้นคุณภาพ

เอาปริมาณคนกินเยอะเข้าว่า ถัวต่อหัวยังพอจ่ายค่า เช่าแล้วเหลือกำไร..บ้าง..พออยู่ได้หรือไม่ขาดทุน ไหนจะแข่งกับบุฟเฟต์ในห้าง แค่ห้าง

เล็กๆ ยังมีถึง 3 ร้าน ร้านที่ร่อแร่ก็มี ขายดีก็เห็น....ปิดหนีต่อหน้าก็ได้เห็นมาแล้ว

ที่ปิดตัวลงไปก็เยอะ....ที่ติดป้ายเซ้งไว้หลักล้านก็แยะ....

ร้านที่ว่ามาในพื้นที่ล้วนแล้วแต่เคยไปลองมาแล้ว....ตามประสาคนญาติเยอะ ที่มักจะพาญาติไปเลี้ยงข้าวเมื่อเจอหน้ากัน

ร้านล่าสุดที่ไปมาหัวละ 179 บาท ไป 8 คน กินเบียร์ไป 2 ขวด รวมน้ำแข็งน้ำเปล่าแล้ว จ่ายไปไม่ถึง 1400 บาท....ทำกินเองหมดหลักพันขึ้น

แน่นอน กับจำนวนคน 8 คน ทั้งเด็กเสริฟ ทั้งค่าเช่า ทั้งค่าแอร์ ที่กะจะฆ่ากันให้ตายกันเลยทีเดียว ผลประโยชน์เลยตกเป็นของผู้บริโภค....

สถานการ์แบบนี้เรียกว่า สงครามได้หรือยัง? แต่เป็นสงครามด้านอาหารที่เรียกว่า ชาบู อาจจะเหมารวมไปถึงหมูกระทะด้วยละกัน ในฐานะที่อยู่

ในเซคชั่นเดียวกัน อีกไม่นานคงเห็นร้านที่ว่านี้ ล้มหายจากไปอย่างช้าๆ เหลือเพียงแค่....อาคารร้าง และคราบน้ำตาหลังสงคราม....ที่ฟัดกันจน

เละเทะด้านราคาแล้วเหลือรอดอยู่เพียงไม่กี่ร้าน....ต่อจากสงครามร้านกาแฟ สงครามน้ำหวานที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า ชา.... ถัดไปคงเป็น คำว่า ชา

เช่นกันที่ชื่อว่า "ชาบู".....

ขออภัยไม่ได้เรียบเรียง พิมพ์ตามที่คิดได้ ที่จำได้ คิดว่าคงมีคนสนใจที่จะทำธุรกิจนี้อีกไม่น้อย....เผื่อเกิดไอเดียอะไรเพิ่มเติม

ตอนพิมพ์อยู่นี้เกือบตี 3 แล้ว ง่วงแท้ ผิดพลาดประการใดขออภัยมณีศรีสุวรรณมา ณ ที่นี้....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่