สวัสดีครับ
นมัสเต (สวัสดีในภาษาฮินดี) เพื่อนๆพี่ๆน้าๆลุงๆทุกๆคนนะครับ ผมชื่อ "เซน" นี่เป็นการเขียน รีวิวการเดินทางของผมครั้งที่ 2 บนพันทิพยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมเป็นคนที่ชื่นชอบการเดินทางมากๆ การเดินทางมันทำให้ผมไปเจอสถานที่แปลกๆ คนใหม่ๆ วัฒธรรมใหม่ๆ
ต่อจากตอนที่แล้ว ผมเที่ยวในเมืองพาราณสี ใครยังไม่ได้อ่านเเนะนำให้ไปอ่านนะเดี๋ยวจะไม่อิน 5555
https://ppantip.com/topic/37553784/comment5
ละในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปยังเมืองต่อไปนั้นก็คือ(เสียงพี่โอ๊ต ปราโมทย์ ในรายการจันทร์ช๊อคโลก)นั้นก็คือ!!!....เมืองพุทธคยา เมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐพิหาร รัฐที่ถือว่าจนในอินเดีย เมืองแห่งศาสนาพุทธ เมืองที่มีต้นศรีมหาโพธิ์ (ต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะเทอนึกออกมะ?) เมืองคยาอยู่ห่างจากเมืองพาราณสีประมาณ 242 กิโลเมตร จากเมืองพารณสีผมเลือกนั่งรถไฟใช้เวลาโดยประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆตามเวลาบนตั๋ว ถ้าทุกคนพร้อมที่จะอ่านเรื่องราวการเดินทางของผมแล้วหละก็ บริหารสายตาใหม่มั่น หาเบาะนุ่มมารองก้น ถ้าพร้อมแล้วก็ เลื่อนหน้าจอของท่านลงไปอ่านโลดดดดด
ขอขัดนิดเดียวเท่านั้นครับ ฮาฮาฮา
ผมที่เพจ Facbook ด้วยนะ ชื่อว่า "นัด-ตะ-พัด Journey With ZEN"
https://www.facebook.com/ZenNathaphat/ หากกดติดตามกันแล้วก็ออกเดินทางกันเลยยย...ย
รถไฟชั้น Sleep Class
ชั้นนี้ยังไม่ใช้ที่ถูกที่สุดนะครับ แค่ Sleep Class เป็นตู้นอนไม่ที่มีแอร์ ที่ Backpacker ส่วนใหญ่เลือกใช้เพราะ ราคาถูกมากๆเมื่อเอาไปเทียบกับตู้ที่มีเเอร์ราคาต่างกันมากกว่าเท่าตัว และที่สำคัญคือถ้าอยากสัมผัสกับความธรรมชาติ กลิ่นอายข้างทาง กลิ่นผู้คนที่สับสนวุ่นวาย ความ Real อินเดีย อย่างไม่ทรหดจนเกินไปต้องตู้ Sleeper Class นี่แหละครับตอบโจทย์ที่สุด ถ้าหากอยากสัมผัสความวุ่นวายมากกว่านี้แนะนำไปต็ Second Class เลยครับโคตรพ่อโคตรแม่วุ่นวาย ทั้งคนมีตั๋วและไม่มีตั๋วแย่งกันนั่งเต็มไปหมด เป็นตู้โดยสารที่ไม่มีทางเดินเพราะทุกคนจะกรูขึ้นไปแล้วนั่งนอนทุกที่ๆมีที่ว่าง (ดังภาพ 1.1 ด้านล้าง)
ภาพ 1.1 ( ขอบคุณภาพจาก
https://www.flickr.com/photos/asienman/23048522626... )
จากพาราณสีสู่พุทธคยา
ประสบการณ์ครังเเรงของผมเริ่มต้นที่ พาราณสี....รถ auto คันน้อยๆที่จองไว้กับทางโฮสเทลมาจอดรอรับตามเวลาเปะ บ่าย 2 ผมออกเดินทางจาก StopHostel ไปยังสถานีรถไฟ พาราณสี (Varanasi JN) โดย มีราคามาตรฐานคือคนละ 50 รูปี รถไฟที่จะพาผมไปสู่เมือง Gaya ออกเวลา บ่าย 4 โมง และจะถึงสถานีคยาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งเวลาตามตั๋ว ตอนนี้เวลาบ่าย 2 บรรยากาศเมืองพาราณสีโคตรวุ่นวายทั้งฝุ่นควัน เสียงแตรที่ดังลั่นสนั่นแสบแก้วหู สภาพถนนประหนึ่งว่ากำลังวิ่งอยู่บนดวงจันทร์
สถานี พาราณสี (Varanasi JN)
สถานีรถไฟพาราณสี (Varanasi JN) เป็นสถานีที่ใหญที่สุดของเมืองคนเยอะมากๆเยอะจนหายใจแทบไม่ออกตอนนี้อีกครึ่งชั่วโมงก็สี่โมงแล้วผมรีบวิ่งฝ่าฝูงชนไปดูตรางเวลารถไฟนั้นไง!!!! มันเล่นกูอีกแล้วรถไฟเลือนเวลาออกไปอีกหนึ่งชั่วโมงจาก 4 โมงเป็น 5 โมง พี่จอยเคยเล่าให้ผมฟังว่าพี่แกเคยเจอรถไฟดีเลย์ไปหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเต็มๆ รถไฟอินเดียจะมีการประกาศเรื่อยๆว่ารถไฟดีเลย์หนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงผ่านไปรถไฟยังไม่มา ก็ประกาศอีกว่าดีเลย์อีหนึ่งชั่งโมงนะนายจ๋า ประกาศแบบนี้เรื่อยๆจนรถไฟมา เป็นการหลอกล่อให้เรารอไปเรื่อยๆ หน้าหงุดหงิดจริงๆ สาเหตุที่ดีเลย์ส่วนใหญ่จะมาจากหมองลงปกคลุมบางฝนตกหนักบ้าง ทำให้ทัศนวิสัยทางการมองเห็นน้อยลง มีคนเคยประท้วงให้การรถไฟอินเดียคืนค่าโดยสาร แต่รถไฟอินเดียก็ตอบกลับมาว่าการรถไฟผิดอะไรไปเรียกร้องกับหมอกกับฝนนู้นที่ทำให้รถไฟมาช้า เอ้าอย่างงี้ก็ได้ด้วยเว้ย อินเดียจริงๆ
กลับมาสู้การรอรถไฟดีเลย์หนึ่งชั่วโมงของผมดีกว่า ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงหน้าจอที่วีขนาดใหญ่ที่โชว์ตรางรถไฟที่รายล้อมไปด้วยแขกตัวน้อยตัวใหญ่ยื่นนั่งนอน เกลื่อนกลาดเต็มสถานี สงสัยจะรอมาหลายชั่วโมง
อีก 15 นาทีจะ 5 โมงแล้ว เวลาที่ตรางเวลาก็ไม่เปลี่ยนผมรีบไปที่ชานลาหมายเลข 9 พอไปถึงปุ๊บ ....ไหน...ไหนรถไฟไม่เห็มมีเลยรถไฟเลย รอสักพักมีรถไฟมามั่นใจว่ามันต้องใช่แน่ๆ ผมรีบกระโดดขึ้นรถไฟที่มาหยุดอยู่ตรงนี้แล้วผมก็ได้ผมว่าความแน่นอนคือความไม่แน่นอน รถไฟขบวนนี่ไม่ใช่ขบวนรถที่จะไปคยา เจ้าหน้าที่ขอดูตั๋ว ปรกฏว่า รถขบวนของผมเปลี่ยนไปชานลาที่ 4 เอ้าอีเห้!!! จะเปลี่ยนอะไรนักหนาวิ่งสิครับรออะไร ตอนนี้บรรยากาศประหนึ่งว่าผมกำลังวิ่งอยู่ในหนังเรื่องเมซรันเนอร์ (The Maze Runner) ยังไงอย่างงั้น ผมรีบวิ่งไปชาชาลาที่ 4 นั่งรอยื่นรอกลัวจะตกรถไฟเพราะรถไฟอินเดียถ้าตกแล้วบางทีอาจเกิดความ
....อย่างขบวน พาราณสี ไป คยา จะมีแค่อาทิตย์ละขบวน ถ้าตกหละเอ้ย!!! บรรลัยจักแน่ๆ วิ่งไปวิ่งมา ขณะนี้เวลาผ่านไป 30 นาที รถไฟก็ยังไม่มา ผมรีบวิ่งกลับไปดูที่หน้าจอตรางเวลารถไฟปรากฎว่ามันเปลี่ยนไป ชาชาลาที่ 7 !!! โอ้ศิวะ!!! วิ่งสิครับรออะไร วิ่งๆๆวิ่งจนตอนนี้ถ้าให้ผมลงวิ่งแข่งโอลิมปิกผมว่าผมคงวิ่งชนะ ยูเซน โบลต์ ไปแล้วหละครับ โอ้ยศิวะ ผมแทบจะร้องไห้ผมเจอรถไฟขบวนที่ A70411 ที่จะพาผมไปคยาแล้ว ถึงจะมาช้าแต่มาแน่ๆรถไฟอินเดีย เลตไป 2 ชั่วโมง ตอนนี้ถ้าให้ประมาณเวลาผมจะถึงที่คยาประมาณเที่ยงคืน โอ้วิศะ!!!
ปล.ทุกสถานีของรถไฟอินเดียจะมีประกาศการเปลี่ยนแปลงของรถไฟทุกขบวนตลอดเวลาผ่านลำโพงที่เสียงแหบๆ ประกาศเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะเธอแต่ประเด็นคือกูฟังไม่รู้เรื่อง!!! ต.เต่า ร.เรือ ระรัวกันทีเดียว งั้นถ้าให้ชัวร์เหนื่อยหน่อยวิ่งไปดูที่จอดตรางเวลาเถอะครับ^^ เตือนด้วยความหวังดี
ปล.สิ่งที่ทรามานที่สุดตอนนี้คือห้ามนอนไม่งั้นเดี๋ยวจะเลยสถานี อีกอย่างถ้าจะนอนผมก็ต้องสลับกันนอนกับเจไม่งั้นของหายชัวร์!
สถานีรถไฟเมืองพาราณสี (Varanasi JN)
รถไฟสายเขียว(Sleeper Class)
ในที่สุด...ก็ได้ขึ้นมานั่งบนรถไฟตู้ Sleeper Class แล้วเห่ยยยย สบายใจเว้ย รถไฟค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากชานชลาที่เจ็ดอย่างช้าๆ รถไฟเคลื่อนออกไปพร้อมกับกลิ่นที่ไม่เป็นมิตรกับจมูกผมสักเท่าไหร่ บรรยากาศบนรถไฟวุ่นวายเมื่อกลุ่มคนในเครื่องแบบ(สีส้ม)แห่กันเข้ามาอาศัยอยู่ในตู้เดียวกันกับผม พอพวกมันหาที่นั่งได้เสร็จสับ มหรสบก็เริ่มขึ้น...ร้องเพลงกันมันส์สนุกสนานกันเลยทีเดียว ฟังเพลงไปสักพักเริ่มได้กลิ่นเหมือนจะบุหรี่แต่ก็ไม่ใช่ จำได้ว่าเคยได้กลิ่นแบบนี้ครั้งล่าสุดตอน อึในห้องน้ำโรงเรียนมัธยม แล้วเด็กมันมาแอบดูดกัญชาอยู่ในห้องน้ำ ชัดเจนครับคนในเครื่องแบบสีส้มกำลังดูดกัญชากันอยู่ สงสัยอารมณ์ศิลปินไม่มาต้องจัดสะหน่อย สูบส่งต่อวนกันทั้งวงผ่านไปไม่นานมันเริ่มลอย ร้องเพลงกันติดลม....ร่วมถึงตัวผมด้วยที่ตอนนี้กำลังจะล่องลอยไปกับกลิ่นควันที่ลอยมากระแทกจมูก มึนเลยกรู.....รถไฟสายเขียว
รถไฟสายเขียว(ผมกำลังจะบินช่วยดึงผมลงมาหน่อย)
แค่ได้กลิ่นก็สามารถไปล่องอวากาศได้...กลิ่นมันแรงมากครับตอนนี้เหมือนผมกำลังนั่งอยู่ในตู้รถไฟลมควันกัญชายังไงอย่างงั้น ถ้าเปลี่ยนจากตู้รถไฟเป็นตู้อบแล้วเปลี่ยนคนเป็นไส้กรอกคงจะอร่อย(เหาะ)หน้าดู ไม่นานนักคนตรวจตั๋วก็เดินมา ผมแอบดีใจคิดว่าคนตรวจตั๋วต้องมาไล่พวกที่นั่งสูบกัญชาอยู่แน่ๆแต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนครับ คนตรวจตั๋วนั่งลงที่กลางวง แล้วพี่แกก็ค่อยๆสูบๆดูดๆดมๆจนตอนนี้ดูจากสีหน้าของพี่คนตรวจตั๋วคงล่องคอยไปถึงดาวนาเม็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงตัวผมด้วยที่ต้องนี้ลอยละล่องถึงดวงจันทร์แล้ว อีกสักพักก็คงได้พบกับโงกุนที่ดาวนาเม็กแล้ว เพลีย แต่ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งสูดมันเข้าไป
(สายเขียวในเครื่องแบบสีส้ม นั่งอยู่อีกช่องนึงเห็นมั่ยครับ)
ซื้อตั๋วแล้วนั่งได้ Sleeper Class
การนั่งรถไฟชั้น Sleep class จะต้องเจอคนมากหน้าหลายตาหลายชนชั้นเพราะว่าจะไม่มีการตรวจอย่างเข้มงวดแบบชั้น 3A ทำให้คนที่ขึ้นมาบนขบวนรถไฟค่อยข้างมั่วอยู่พอตัว(มั่วขนาดไหนถามใจเธอดู นั่งดูกัญชาได้อะ) เวลาผ่านไปเรื่อย เจ(เจคือผู้ร่วมเดินทางของผมเราเพิ่งรู้จักกันบนดาร์จีลิ่งเดี๋ยวผมจะเล่าของเจให้อ่านแต่ตอนนี้เอาเรื่องอีป้าคนนี้ก่อน) ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เจลุกไปไม่นานก็มีป้าคนนึงเดินมาแล้วนั่งลงตรงที่เจมับ!!! อย่างไม่สนใจที่จะเช็คก่อนว่ามีคนนั่งหรือไม่ผมบอกป้า แล้วบทสนทนาก็เริ่มขึ้น ระหว่างผมกับป้าแขกก็เริ่มขึ้น
ผม Hey you this is my friend seat not for you!!!
ป้าแขก ........(เงียบ...ไม่มองหน้าผม...ไม่สนใจ...กูไม่ใช่ลมนะป้า)....
ผม HEY!!! ....ป้าแขกไม่สนใจ มองวิวนอกรถไฟไม่สนใจความวีนของผมประหนึ่งว่าหูหนวก....-_-
(แล้วเจก็เดินกลับมา)
เจ เซนใครวะ
ผม ญาติกูมั่งถามแปลก!!! ใครก็ไม่รู้พูดด้วยก็ไม่ตอบ แม่ม
เจ ไม่เป็นไรกูนั่งตรงนี้ก็ได้ เขาอาจเป็นเจ้าของที่...
(ผมลืมบอกที่นั่งผมกับเจไม่ได้อยู่แถวเดียวกัน ผมเห็นตรงที่นั่งผมยังไม่มีคนนั่งเลยชวนเจมานั่งด้วยกัน)
เวลาผ่านไปประมาณหลายชั่วโมงคนตรวจตั๋วหายเมากัญชา พี่แกก็ลุกขึ้นมาทำงานต่อ เดินตรวจตั๋วอย่างเคร่งคัด ตรวจมาเรื่อยจนมาถึงป้าแขกที่นั่งอยู่ข้างๆผม ป้าก็ล้วงตั๋วจากชุดชั้นในของป้า ตั๋วสภาพแบบว่า เอิ่มเก่าจนเปื่อย ไม่ทราบว่าป้าซื้อตั๋วตั้งแต่ พ.ศ. ไหนทำไมมันถึงได้เก่าเปื่อยอะไรเบอร์นั้น
คนตรวจตั๋วบอกว่า " นี่มันตั๋วเก่าหนิใช้ไม่ได้แล้วถึงสถานีหน้าแล้วลงไปเลย" (ผมไม่ได้ฟังภาษาฮินดีรู้เรื่องนะครับใช้ความรู้สึกฟังเอา) แล้วคนตรวจตั๋วก็เดินไป ป้าแขกทำหน้าไม่สบอารมณ์ ดูวิวข้างทางต่อ พอถึงสถานีหน้าป้าแขกก็ลุกแล้วเดินลงจากขบวนรถไป เจก็ย้ายกลับมานั่งข้างๆผมต่อ....ยังไม่จบครับ...พอถึงสถานีถัดไป อีป้า!!!!มาได้ไงลงไปแล้วไม่ใช่หรอ ครับป้าแขกกลับมาที่เดิมแล้วเหมือนจะมานั่งที่เดิมแต่เจนั่งอยู่ป้าเลยไปนั่ง อีกแถวนึง แล้วตรงที่ป้าย้ายไปนั่ง คือที่ของลุงแขกที่เพิ่งเดินลงไปซื้อของกิน พอลุงแขกเดินกลับมาสงครามการถกเถียงก็เริ่มขึ้น
ลุงแขก ป้าลุกที่นี่ผม
ป้าแขก (นิ่งเงิยบ)....(ป้าแขกไม่แม้แต่จะชายตาไปมองลุงที่กำลังจะวีน)
ลุงแขก นี่..ที่..นั่ง...ของ..ผม!!!!
ป้าแขก ชายตาขึ้นมามองลุงแขกแล้วบอกว่านี่ที่นั่งของฉัน
ลุงแขก ขอดูตั๋ว
ป้าแขก ยื่นตั๋วใบเดิมให้ดู
ลุงแขก บอกตั๋วนี้มันเก่ามากมันใช้ไม่ได้เเล้วลุกไปเลยไป!!!!
ป้าแขก ลุกออกไปแล้วไม่วนกลับมาอีกเลย....
...จบ...
ป้าแขกแกคงย้ายไม่นั่งต่อตู้อื่นแหละครับ
[CR] ประสบการณ์นั่งรถไฟอินเดีย SLEEPER CLASS ของดีที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอินเดีย
นมัสเต (สวัสดีในภาษาฮินดี) เพื่อนๆพี่ๆน้าๆลุงๆทุกๆคนนะครับ ผมชื่อ "เซน" นี่เป็นการเขียน รีวิวการเดินทางของผมครั้งที่ 2 บนพันทิพยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมเป็นคนที่ชื่นชอบการเดินทางมากๆ การเดินทางมันทำให้ผมไปเจอสถานที่แปลกๆ คนใหม่ๆ วัฒธรรมใหม่ๆ
ต่อจากตอนที่แล้ว ผมเที่ยวในเมืองพาราณสี ใครยังไม่ได้อ่านเเนะนำให้ไปอ่านนะเดี๋ยวจะไม่อิน 5555 https://ppantip.com/topic/37553784/comment5
ละในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปยังเมืองต่อไปนั้นก็คือ(เสียงพี่โอ๊ต ปราโมทย์ ในรายการจันทร์ช๊อคโลก)นั้นก็คือ!!!....เมืองพุทธคยา เมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐพิหาร รัฐที่ถือว่าจนในอินเดีย เมืองแห่งศาสนาพุทธ เมืองที่มีต้นศรีมหาโพธิ์ (ต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะเทอนึกออกมะ?) เมืองคยาอยู่ห่างจากเมืองพาราณสีประมาณ 242 กิโลเมตร จากเมืองพารณสีผมเลือกนั่งรถไฟใช้เวลาโดยประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆตามเวลาบนตั๋ว ถ้าทุกคนพร้อมที่จะอ่านเรื่องราวการเดินทางของผมแล้วหละก็ บริหารสายตาใหม่มั่น หาเบาะนุ่มมารองก้น ถ้าพร้อมแล้วก็ เลื่อนหน้าจอของท่านลงไปอ่านโลดดดดด
ขอขัดนิดเดียวเท่านั้นครับ ฮาฮาฮา
ผมที่เพจ Facbook ด้วยนะ ชื่อว่า "นัด-ตะ-พัด Journey With ZEN" https://www.facebook.com/ZenNathaphat/ หากกดติดตามกันแล้วก็ออกเดินทางกันเลยยย...ย
ชั้นนี้ยังไม่ใช้ที่ถูกที่สุดนะครับ แค่ Sleep Class เป็นตู้นอนไม่ที่มีแอร์ ที่ Backpacker ส่วนใหญ่เลือกใช้เพราะ ราคาถูกมากๆเมื่อเอาไปเทียบกับตู้ที่มีเเอร์ราคาต่างกันมากกว่าเท่าตัว และที่สำคัญคือถ้าอยากสัมผัสกับความธรรมชาติ กลิ่นอายข้างทาง กลิ่นผู้คนที่สับสนวุ่นวาย ความ Real อินเดีย อย่างไม่ทรหดจนเกินไปต้องตู้ Sleeper Class นี่แหละครับตอบโจทย์ที่สุด ถ้าหากอยากสัมผัสความวุ่นวายมากกว่านี้แนะนำไปต็ Second Class เลยครับโคตรพ่อโคตรแม่วุ่นวาย ทั้งคนมีตั๋วและไม่มีตั๋วแย่งกันนั่งเต็มไปหมด เป็นตู้โดยสารที่ไม่มีทางเดินเพราะทุกคนจะกรูขึ้นไปแล้วนั่งนอนทุกที่ๆมีที่ว่าง (ดังภาพ 1.1 ด้านล้าง)
ภาพ 1.1 ( ขอบคุณภาพจาก https://www.flickr.com/photos/asienman/23048522626... )
ประสบการณ์ครังเเรงของผมเริ่มต้นที่ พาราณสี....รถ auto คันน้อยๆที่จองไว้กับทางโฮสเทลมาจอดรอรับตามเวลาเปะ บ่าย 2 ผมออกเดินทางจาก StopHostel ไปยังสถานีรถไฟ พาราณสี (Varanasi JN) โดย มีราคามาตรฐานคือคนละ 50 รูปี รถไฟที่จะพาผมไปสู่เมือง Gaya ออกเวลา บ่าย 4 โมง และจะถึงสถานีคยาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งเวลาตามตั๋ว ตอนนี้เวลาบ่าย 2 บรรยากาศเมืองพาราณสีโคตรวุ่นวายทั้งฝุ่นควัน เสียงแตรที่ดังลั่นสนั่นแสบแก้วหู สภาพถนนประหนึ่งว่ากำลังวิ่งอยู่บนดวงจันทร์
สถานีรถไฟพาราณสี (Varanasi JN) เป็นสถานีที่ใหญที่สุดของเมืองคนเยอะมากๆเยอะจนหายใจแทบไม่ออกตอนนี้อีกครึ่งชั่วโมงก็สี่โมงแล้วผมรีบวิ่งฝ่าฝูงชนไปดูตรางเวลารถไฟนั้นไง!!!! มันเล่นกูอีกแล้วรถไฟเลือนเวลาออกไปอีกหนึ่งชั่วโมงจาก 4 โมงเป็น 5 โมง พี่จอยเคยเล่าให้ผมฟังว่าพี่แกเคยเจอรถไฟดีเลย์ไปหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเต็มๆ รถไฟอินเดียจะมีการประกาศเรื่อยๆว่ารถไฟดีเลย์หนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงผ่านไปรถไฟยังไม่มา ก็ประกาศอีกว่าดีเลย์อีหนึ่งชั่งโมงนะนายจ๋า ประกาศแบบนี้เรื่อยๆจนรถไฟมา เป็นการหลอกล่อให้เรารอไปเรื่อยๆ หน้าหงุดหงิดจริงๆ สาเหตุที่ดีเลย์ส่วนใหญ่จะมาจากหมองลงปกคลุมบางฝนตกหนักบ้าง ทำให้ทัศนวิสัยทางการมองเห็นน้อยลง มีคนเคยประท้วงให้การรถไฟอินเดียคืนค่าโดยสาร แต่รถไฟอินเดียก็ตอบกลับมาว่าการรถไฟผิดอะไรไปเรียกร้องกับหมอกกับฝนนู้นที่ทำให้รถไฟมาช้า เอ้าอย่างงี้ก็ได้ด้วยเว้ย อินเดียจริงๆ
กลับมาสู้การรอรถไฟดีเลย์หนึ่งชั่วโมงของผมดีกว่า ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงหน้าจอที่วีขนาดใหญ่ที่โชว์ตรางรถไฟที่รายล้อมไปด้วยแขกตัวน้อยตัวใหญ่ยื่นนั่งนอน เกลื่อนกลาดเต็มสถานี สงสัยจะรอมาหลายชั่วโมง
อีก 15 นาทีจะ 5 โมงแล้ว เวลาที่ตรางเวลาก็ไม่เปลี่ยนผมรีบไปที่ชานลาหมายเลข 9 พอไปถึงปุ๊บ ....ไหน...ไหนรถไฟไม่เห็มมีเลยรถไฟเลย รอสักพักมีรถไฟมามั่นใจว่ามันต้องใช่แน่ๆ ผมรีบกระโดดขึ้นรถไฟที่มาหยุดอยู่ตรงนี้แล้วผมก็ได้ผมว่าความแน่นอนคือความไม่แน่นอน รถไฟขบวนนี่ไม่ใช่ขบวนรถที่จะไปคยา เจ้าหน้าที่ขอดูตั๋ว ปรกฏว่า รถขบวนของผมเปลี่ยนไปชานลาที่ 4 เอ้าอีเห้!!! จะเปลี่ยนอะไรนักหนาวิ่งสิครับรออะไร ตอนนี้บรรยากาศประหนึ่งว่าผมกำลังวิ่งอยู่ในหนังเรื่องเมซรันเนอร์ (The Maze Runner) ยังไงอย่างงั้น ผมรีบวิ่งไปชาชาลาที่ 4 นั่งรอยื่นรอกลัวจะตกรถไฟเพราะรถไฟอินเดียถ้าตกแล้วบางทีอาจเกิดความ....อย่างขบวน พาราณสี ไป คยา จะมีแค่อาทิตย์ละขบวน ถ้าตกหละเอ้ย!!! บรรลัยจักแน่ๆ วิ่งไปวิ่งมา ขณะนี้เวลาผ่านไป 30 นาที รถไฟก็ยังไม่มา ผมรีบวิ่งกลับไปดูที่หน้าจอตรางเวลารถไฟปรากฎว่ามันเปลี่ยนไป ชาชาลาที่ 7 !!! โอ้ศิวะ!!! วิ่งสิครับรออะไร วิ่งๆๆวิ่งจนตอนนี้ถ้าให้ผมลงวิ่งแข่งโอลิมปิกผมว่าผมคงวิ่งชนะ ยูเซน โบลต์ ไปแล้วหละครับ โอ้ยศิวะ ผมแทบจะร้องไห้ผมเจอรถไฟขบวนที่ A70411 ที่จะพาผมไปคยาแล้ว ถึงจะมาช้าแต่มาแน่ๆรถไฟอินเดีย เลตไป 2 ชั่วโมง ตอนนี้ถ้าให้ประมาณเวลาผมจะถึงที่คยาประมาณเที่ยงคืน โอ้วิศะ!!!
ปล.ทุกสถานีของรถไฟอินเดียจะมีประกาศการเปลี่ยนแปลงของรถไฟทุกขบวนตลอดเวลาผ่านลำโพงที่เสียงแหบๆ ประกาศเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะเธอแต่ประเด็นคือกูฟังไม่รู้เรื่อง!!! ต.เต่า ร.เรือ ระรัวกันทีเดียว งั้นถ้าให้ชัวร์เหนื่อยหน่อยวิ่งไปดูที่จอดตรางเวลาเถอะครับ^^ เตือนด้วยความหวังดี
ปล.สิ่งที่ทรามานที่สุดตอนนี้คือห้ามนอนไม่งั้นเดี๋ยวจะเลยสถานี อีกอย่างถ้าจะนอนผมก็ต้องสลับกันนอนกับเจไม่งั้นของหายชัวร์!
สถานีรถไฟเมืองพาราณสี (Varanasi JN)
ในที่สุด...ก็ได้ขึ้นมานั่งบนรถไฟตู้ Sleeper Class แล้วเห่ยยยย สบายใจเว้ย รถไฟค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากชานชลาที่เจ็ดอย่างช้าๆ รถไฟเคลื่อนออกไปพร้อมกับกลิ่นที่ไม่เป็นมิตรกับจมูกผมสักเท่าไหร่ บรรยากาศบนรถไฟวุ่นวายเมื่อกลุ่มคนในเครื่องแบบ(สีส้ม)แห่กันเข้ามาอาศัยอยู่ในตู้เดียวกันกับผม พอพวกมันหาที่นั่งได้เสร็จสับ มหรสบก็เริ่มขึ้น...ร้องเพลงกันมันส์สนุกสนานกันเลยทีเดียว ฟังเพลงไปสักพักเริ่มได้กลิ่นเหมือนจะบุหรี่แต่ก็ไม่ใช่ จำได้ว่าเคยได้กลิ่นแบบนี้ครั้งล่าสุดตอน อึในห้องน้ำโรงเรียนมัธยม แล้วเด็กมันมาแอบดูดกัญชาอยู่ในห้องน้ำ ชัดเจนครับคนในเครื่องแบบสีส้มกำลังดูดกัญชากันอยู่ สงสัยอารมณ์ศิลปินไม่มาต้องจัดสะหน่อย สูบส่งต่อวนกันทั้งวงผ่านไปไม่นานมันเริ่มลอย ร้องเพลงกันติดลม....ร่วมถึงตัวผมด้วยที่ตอนนี้กำลังจะล่องลอยไปกับกลิ่นควันที่ลอยมากระแทกจมูก มึนเลยกรู.....รถไฟสายเขียว
แค่ได้กลิ่นก็สามารถไปล่องอวากาศได้...กลิ่นมันแรงมากครับตอนนี้เหมือนผมกำลังนั่งอยู่ในตู้รถไฟลมควันกัญชายังไงอย่างงั้น ถ้าเปลี่ยนจากตู้รถไฟเป็นตู้อบแล้วเปลี่ยนคนเป็นไส้กรอกคงจะอร่อย(เหาะ)หน้าดู ไม่นานนักคนตรวจตั๋วก็เดินมา ผมแอบดีใจคิดว่าคนตรวจตั๋วต้องมาไล่พวกที่นั่งสูบกัญชาอยู่แน่ๆแต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนครับ คนตรวจตั๋วนั่งลงที่กลางวง แล้วพี่แกก็ค่อยๆสูบๆดูดๆดมๆจนตอนนี้ดูจากสีหน้าของพี่คนตรวจตั๋วคงล่องคอยไปถึงดาวนาเม็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงตัวผมด้วยที่ต้องนี้ลอยละล่องถึงดวงจันทร์แล้ว อีกสักพักก็คงได้พบกับโงกุนที่ดาวนาเม็กแล้ว เพลีย แต่ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งสูดมันเข้าไป
(สายเขียวในเครื่องแบบสีส้ม นั่งอยู่อีกช่องนึงเห็นมั่ยครับ)
การนั่งรถไฟชั้น Sleep class จะต้องเจอคนมากหน้าหลายตาหลายชนชั้นเพราะว่าจะไม่มีการตรวจอย่างเข้มงวดแบบชั้น 3A ทำให้คนที่ขึ้นมาบนขบวนรถไฟค่อยข้างมั่วอยู่พอตัว(มั่วขนาดไหนถามใจเธอดู นั่งดูกัญชาได้อะ) เวลาผ่านไปเรื่อย เจ(เจคือผู้ร่วมเดินทางของผมเราเพิ่งรู้จักกันบนดาร์จีลิ่งเดี๋ยวผมจะเล่าของเจให้อ่านแต่ตอนนี้เอาเรื่องอีป้าคนนี้ก่อน) ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เจลุกไปไม่นานก็มีป้าคนนึงเดินมาแล้วนั่งลงตรงที่เจมับ!!! อย่างไม่สนใจที่จะเช็คก่อนว่ามีคนนั่งหรือไม่ผมบอกป้า แล้วบทสนทนาก็เริ่มขึ้น ระหว่างผมกับป้าแขกก็เริ่มขึ้น
ผม Hey you this is my friend seat not for you!!!
ป้าแขก ........(เงียบ...ไม่มองหน้าผม...ไม่สนใจ...กูไม่ใช่ลมนะป้า)....
ผม HEY!!! ....ป้าแขกไม่สนใจ มองวิวนอกรถไฟไม่สนใจความวีนของผมประหนึ่งว่าหูหนวก....-_-
(แล้วเจก็เดินกลับมา)
เจ เซนใครวะ
ผม ญาติกูมั่งถามแปลก!!! ใครก็ไม่รู้พูดด้วยก็ไม่ตอบ แม่ม
เจ ไม่เป็นไรกูนั่งตรงนี้ก็ได้ เขาอาจเป็นเจ้าของที่...
(ผมลืมบอกที่นั่งผมกับเจไม่ได้อยู่แถวเดียวกัน ผมเห็นตรงที่นั่งผมยังไม่มีคนนั่งเลยชวนเจมานั่งด้วยกัน)
เวลาผ่านไปประมาณหลายชั่วโมงคนตรวจตั๋วหายเมากัญชา พี่แกก็ลุกขึ้นมาทำงานต่อ เดินตรวจตั๋วอย่างเคร่งคัด ตรวจมาเรื่อยจนมาถึงป้าแขกที่นั่งอยู่ข้างๆผม ป้าก็ล้วงตั๋วจากชุดชั้นในของป้า ตั๋วสภาพแบบว่า เอิ่มเก่าจนเปื่อย ไม่ทราบว่าป้าซื้อตั๋วตั้งแต่ พ.ศ. ไหนทำไมมันถึงได้เก่าเปื่อยอะไรเบอร์นั้น
คนตรวจตั๋วบอกว่า " นี่มันตั๋วเก่าหนิใช้ไม่ได้แล้วถึงสถานีหน้าแล้วลงไปเลย" (ผมไม่ได้ฟังภาษาฮินดีรู้เรื่องนะครับใช้ความรู้สึกฟังเอา) แล้วคนตรวจตั๋วก็เดินไป ป้าแขกทำหน้าไม่สบอารมณ์ ดูวิวข้างทางต่อ พอถึงสถานีหน้าป้าแขกก็ลุกแล้วเดินลงจากขบวนรถไป เจก็ย้ายกลับมานั่งข้างๆผมต่อ....ยังไม่จบครับ...พอถึงสถานีถัดไป อีป้า!!!!มาได้ไงลงไปแล้วไม่ใช่หรอ ครับป้าแขกกลับมาที่เดิมแล้วเหมือนจะมานั่งที่เดิมแต่เจนั่งอยู่ป้าเลยไปนั่ง อีกแถวนึง แล้วตรงที่ป้าย้ายไปนั่ง คือที่ของลุงแขกที่เพิ่งเดินลงไปซื้อของกิน พอลุงแขกเดินกลับมาสงครามการถกเถียงก็เริ่มขึ้น
ลุงแขก ป้าลุกที่นี่ผม
ป้าแขก (นิ่งเงิยบ)....(ป้าแขกไม่แม้แต่จะชายตาไปมองลุงที่กำลังจะวีน)
ลุงแขก นี่..ที่..นั่ง...ของ..ผม!!!!
ป้าแขก ชายตาขึ้นมามองลุงแขกแล้วบอกว่านี่ที่นั่งของฉัน
ลุงแขก ขอดูตั๋ว
ป้าแขก ยื่นตั๋วใบเดิมให้ดู
ลุงแขก บอกตั๋วนี้มันเก่ามากมันใช้ไม่ได้เเล้วลุกไปเลยไป!!!!
ป้าแขก ลุกออกไปแล้วไม่วนกลับมาอีกเลย....
...จบ...
ป้าแขกแกคงย้ายไม่นั่งต่อตู้อื่นแหละครับ