“ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก” ตะลุยจีน 21 วัน ผ่านกัมพูชา เวียดนาม สุดทางที่กำแพงเมืองจีน ขากลับล่องเรือผ่านลาว นั่งรถไฟเป็นส่วนใหญ่ ไม่นั่งเครื่องบินเลย
ตอนที่ 12 เฉิงตู จีน
สวัสดีทุกๆคน
รถไฟความเร็วสูง มาถึงสถานีรถไฟเฉิงตูตะวันออก 21.30 น.
ลุงต้องจัดการทุกอย่าง เพราะป้าคออักเสบ จมูกบวมแดง พูดไม่ได้ เจ็บคอ อาการหนัก ตารางเวลารถไฟที่เรามี ระบุว่า ซื้อตั๋วที่เฉิงตู แต่เราลงรถที่เฉิงตูตะวันออก เราเป็นคู่สุดท้ายที่ลงบันไดเลื่อนจากชานชาลาสู่สถานี ห้องขายตั๋วปิดแล้ว จนท.ล็อคกุญแจบันไดเลื่อนแล้ว
เฉิงตู(Chengdu) มีพื้นที่ 12,132 ตร.กม.ใหญ่เป็น 8 เท่าของกทม. ประชากร 11 ล้านคน เกือบ 2 เท่าของกทม. รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 88,606 บาท มากกว่ากทม.เล็กน้อย เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของเสฉวน
เป็นเมืองหลวงของเสฉวนน้องนศ.ที่ช่วยพาเราไปขึ้นรถเมล์ที่ฉงชิ่งวันก่อน ก็เรียนที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู
เดินลงไปใต้สถานีรถไฟดิน ลุงไปถามจนท.ชาย ที่ขายตั๋ว คุยกันตั้งนาน จนท.หญิงที่มาช่วยอธิบาย ก็ไม่รู้เรื่อง เราต้องการไปพักค้างคืนใกล้ๆ สถานีรถไฟเฉิงตู เพื่อต่อรถไฟไปคุนหมิง ตอนเช้าจะได้ซื้อตั๋ว แล้วเที่ยวเฉิงตู 1 วัน ไปคุนหมิงตอนเย็น ป้าใช้วิธีเขียนถาม ว่าเราจะไปสถานีรถไฟเฉิงตูได้อย่างไร จนท. ก็ตอบไม่ได้ ได้แต่ชี้มือไปทางทิศเหนือ
ในที่สุดเราก็เสี่ยง ซื้อตั๋วรถใต้ดินไปสถานีรถไฟใต้ดินเฉิงตูเหนือ (เพราะสถานีรถไฟใต้ดินเฉิงตูไม่มี) พอเดินขึ้นมา ป้ายชื่อสถานีมีแต่คำว่า Chengdu ไม่มี North ฟลุ้คจริงๆ มาถูกที่แล้ว จึงไปหาโรงแรมใกล้สถานีนอน ลุงพยายามถามหลายคน ก็ไม่ได้เรื่อง จึงลองเดินเข้าซอยไปหลังสถานี ทุกโรงแรมเต็มหมด เขาชี้ไปตรงสุดตึก พอเดินไปก็ใช่จริงๆ คืนละ 50 หยวน (ถูกผิดปกติ)
เป็นตึกแถว กั้นห้องให้เช่านอนชั้นล่าง ใช้กระดาษอัดกั้นห้องแค่ท่วมหัว ใช้ตะปูตอกบ้าง ใช้ลวดและเชือกมัดบ้าง ข้างฝาใช้กระดาษบรู๊ฟติดกาวแปะไว้ ประตูไม้ก็เอียงกะเท่เร่ องยกแล้วดึงขึ้นมา เอาแท่งเหล็กเสียบแทนกลอน มีทีวี มีรองเท้าแตะ สายไฟระโยงระยาง พัดลมเพดานตัวใหญ่ตัวเดียว ใช้ร่วมกันทั้งในห้องนอกห้อง หน้าห้องเรามีเตียงให้เช่านอน น่าจะถูกกว่านอนในห้อง ในห้องเรานอน 2 คนเบียดกัน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ที่นอน ปลอกหมอน เหมือนไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดมานานมาก เราต้องใช้ผ้าของเราคลุมบนหมอนที่มีใบเดียว และห่มผ้าแพรของเรา ก่อนเอาของเขาคลุมข้างบน เพราะอากาศหนาวมาก
ห้องน้ำดูโบราณมาก ส้วมนั่งยองแบบเอียงๆ ขันพลาสติกมีด้ามจับ คงไม่เคยผ่านการทำความสะอาดมานานมาก เป็นภาวะจำยอมที่ต้องนอนที่นี่
พอลุงบอกว่าป้าป่วย เจ็บคอ พูดไม่ได้ ซิ้มก็กุลีกุจอเอาน้ำร้อนในกระติก เทใส่กะละมังพลาสติกให้ แล้วก็เอาหม้อก้นดำ ซึ่งคาดว่าใช้ตั้งบนเตาฟืนไปใส่น้ำในห้องน้ำ ทั้งบ้านมีก๊อกเดียวไปต้มน้ำให้ใหม่ เราใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว เพราะอากาศตอนดึกหนาวมาก ลุงหลับด้วยความอ่อนเพลีย แต่ป้าน้ำมูกไหล ไอทั้งคืน ยาที่เตรียมมาก็หมดไปแล้ว กระดาษเช็ดน้ำมูกก็หมด
เช้าตรู่ ป้ายังนอนซมพิษไข้หวัด ลุงตื่นไปซื้อตั๋วรถไฟ พบตลาดเช้าหลังสถานี จึงย้อนกลับมาบอกป้า ก่อนออกไปนั่งรถใต้ดิน เก็บภาพที่จัตุรัส 100 ปี ศูนย์รวมความเจริญของเฉิงตู ถนนทุกสายพุ่งมาที่นี่ และไปชมทะเลสาบ Shengxian เก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลสาบ กับภาพรถตุ๊กๆริมทะเลสาบ ยามเช้ามีผู้คนไปออกกำลังกายกันหนาตา จึงเป็นทั้งแหล่งน้ำและที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนสาธารณะในจีนมักเก็บค่าผ่านประตู แต่ที่นี่ฟรี
ที่พักอยู่หลังสถานี และราคาถูก จึงมีคนเดินทางแวะเวียนไปใช้บริการไม่ขาด ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งๆที่มีลักษณะแบบนั้น แต่เมื่อคนต้องการพักชั่วคราว ราคาถูก ก็พอแก้ขัดได้
สายแล้ว ป้าลุกขึ้น ไปหาซื้อยาและอาหาร ใกล้ที่พักนอกจากมีตลาดเช้า ที่มีผลไม้และผักสดแล้ว ยังมีร้านค้าโชห่วย ร้านขายยา และร้านอาหารประเภทซาละเปา น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋ หมี่เกี๊ยว ติดกันหลายร้าน มีอยู่ร้านหนึ่งคนขายทั้งชายและหญิงออกไปเรียกลูกค้าหน้าร้าน ด้วยความกระตือรือร้นจึงได้ลูกค้ามากกว่าร้านอื่น ผู้หญิงเป็นคนปรุงและเสิร์ฟท่าทางมีความสุขกับการขาย เธอโต้ตอบกับลูกค้าอย่างอารมณ์ดี คนขายหญิงเกือบทุกร้านแต่งกายแบบเดียวกัน ใส่กระโปรงสั้นใส่ถุงน่องและรองเท้าส้นตึก ราคาอาหารพอประมาณเกี๊ยวชามปานกลางราคา 10 หยวน
ป้าซื้อยาโดยการเขียนชื่อยา เพราะคาดว่าเภสัชกรน่าจะจบจาก ม.เฉิงตู พอรู้ภาษาอังกฤษบ้าง และเป็นไปตามคาดได้ยาAmoxilin 500 mg. ทำให้วันนี้ลุกขึ้นมารายงานได้
ที่ตาอักเสบเพามาอีกอย่าง คงติดเชื้อจากที่พัก เพราะที่นอน หมอน ผ้าปู ผ้าห่มไม่สะอาด ภาชนะตักน้ำก็ไม่สะอาด พอไปถึงสถานีรถไฟ จึงใช้น้ำอุ่นล้างตาและล้างเรื่อยๆ ขณะนี้ใกล้ปกติแล้ว
ตอนกลับเข้าไปที่พัก จำไม่ได้ว่าช่องไหน เพราะเห็นเขากำลังชั่งของลักษณะเหมือนหม่ำหรือกุนเชียงแห้งๆ คนเอาไปขายท่าทางเป็นชาวบ้านดูเหมือนจะถูกกดราคา มองเข้าไปข้างในเห็นโต๊ะกับกระดาษอัดเก่าๆ พอมองต่อไปเห็นเตียง ตัวที่คิดว่าเป็นหน้าห้องนอน จึงจำได้ ป้าเข้าไปกำลังรอเข้าห้องน้ำอยู่ พอห้องน้ำเปิด มีผู้ชายแต่งกายเหมือนคนขับรถสูบบุหรี่ควันฉุยพูดเสียงดัง เดิมาข้างหลัง แล้วปาดหน้าเข้าห้องน้ำไปก่อน ป้าไม่รู้จะทำอย่างไร ข้าศึกก็จ่ออยู่ตรงประตูแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปพร้อมกระเป๋าเดินทาง ห้องและเตียงเต็มหมดแล้ว
เวลา 9.30 น. ซิ้มลากมือป้าไปในห้อง บอกให้เก็บของออก แขกคนใหม่จะเข้าพักแล้ว
ป้านัดกับลุงไว้ รอลุงกลับมา แล้วกะว่าจะออก 11.00 น. ซิ้มเร่งให้เก็บของเดี๋ยวนี้
โอย....ข้าศึกก็จ่ออยู่ตรงประตู ของก็ต้องเก็บ ในที่สุดวิ่งเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าไม่ทัน ต้องสังเวยด้วยกกน.ไป 1 ตัว ยังไม่ทันจะจัดการเสร็จ ก็มีคนตบประตูห้องน้ำ ต้องรีบใส่กางเกงขาสั้น รีบเข้าไปเก็บของทั้ง 2 เป้ แล้วสะพายเป้ 2 ใบ เอากางเกงขายาวพาดบ่า ออกไปใส่นอกห้อง แขกผู้ชาย 2 คน ที่นอนอยู่หน้าห้อง คนหนึ่งยังไม่หลับ ช่างมัน! เขาเห็นเราแค่ครั้งเดียว ป้าก็ใส่กางเกงขายาว รูดซิปต่อหน้าเขานั่นแหละ แล้วก็หอบหิ้วเป้ 2 ใบ ออกไปหน้าโรงแรม ลุงกลับมาถึงพอดี ถามว่าทำไมรีบออก ป้าพูดไม่ได้ ทำท่าบอกลุงว่าเขาไล่แล้ว ....ลุงตั้งใจว่า กลับมาอาบน้ำก่อนเดินทาง ก็เลยไม่ได้อาบ
ที่สถานีรถไฟ ได้เจอห้องน้ำอีกแบบหนึ่ง เขาทำรางสแตนเลสกว้าง 1 ฟุต ลึกสุดแขน เป็นส้วมปล่อยน้ำชะ จากสุดปลายของที่หนึ่งผ่านทุกห้อง ไปลงที่สุดปลายอีกด้านหนึ่ง ที่บอกว่าสุดแขนเพราะทำขวดยาดมตกลงไป ต้องรีบโดดเอาคืนก่อนจะมีการชะน้ำ..... รีบล้างไว้ใช้ต่อ มีแต่เรื่องสกปรกจริงๆ เฮ้อ!.....
จะทิ้งมันก็ไม่ได้ นึกถึงเมื่อคืน เป็นตัวช่วยให้หายใจออก ตอนที่คัดจมูกอย่างแรงจนต้องหายใจทางปาก
วันนี้ลุงเป็นซื้อตั๋วไปคุนหมิง พนง.สาวสวยคุยไม่รู้เรื่อง ต้องวิ่งไปตามอีกสาวหนึ่งที่พูดภาษาอังกฤษได้กระท่อนกระแท่น มาขายให้ ตั๋วนั่งเต็มหมดแล้ว ได้ตั๋วนอน เตียงชั้นที่ 3 ชั้นล่างมีพื้นที่มากที่สุด นั่งได้ นอนได้ ยืนกับพื้นได้ ชั้นที่ 2 นั่งได้ กับนอนได้ ส่วนชั้นที่ 3 นั่งไม่ได้หัวชนเพดาน นอนได้อย่างเดียว ราคาก็ต่างกันเยอะ ชั้น 3 ถูกที่สุด ได้เดินทางก็นับว่าโชคดีแล้ว เพราะเราซื้อตั๋วตอนเช้า พวกเขาซื้อล่วงหน้ากันหลายวัน
ป้าทั้งจามทั้งไอ ตลอดการเดินทางไปคุนหมิง
เรากำลังรักษาที่นั่งแบบลุกเสียม้ากัน คนที่นอนเตียงชั้น 1 และ 2 ห้องเรา ใช้ที่นั่งไปหมดทั้งหน้าห้องและในห้อง เราต้องนั่งหน้าห้อง ถัดไปที่คนชั้นบนสุดยังไม่ออกมาใช้ ลุกเมื่อไร ก็มีคนอื่นมาใช้ทันที
ทางรถไฟไปคุนหมิงต้องผ่านภูเขาหินเกือบตลอดทาง ลอดอุโมงค์บ่อยมาก ตั้งแต่เดินทางมาหลายเส้นทาง เส้นทางนี้แห้งแล้งที่สุด ตอนนี้เริ่มผ่านหมู่บ้าน มีทุ่งนาที่ปลูกข้าวเจ้า เริ่มเก็บเกี่ยวกันบ้างแล้ว
ตู้ที่เรานอนมีเตียงสำหรับผู้พิการด้วย เขาปล่อยให้อีกด้านว่าง คงเพื่อให้จอดรถเข็นได้ ห้องน้ำอยู่ถัดจากห้องสำหรับผู้พิการมีห้องที่จัดไว้สำหรับล้างหน้าต่างหาก มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง มีตะแกรงเล็กๆ สำหรับวางของตรงกลาง 1 ที่ ต่อด้วยห้องน้ำกว้างขวาง เป็นแบบนั่งราบ จัดเต็มสำหรับผู้พิการ คนอื่นๆพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย บังเอิญขบวนนี้ ไม่มีผู้พิการเขาจึงขายตั๋วให้คนปกติ
รถแล่นผ่านเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในระยะไม่ไกล จึงได้ถ่ายภาพ
ข้างทางรถไฟที่เป็นภูเขาหินทุกที่มีการทำกันถล่มหรือหินร่วงไว้
เขาเพาะเมล็ดพืชผักบนแปลงที่ใช้แผ่นพลาสติกใสกางมุ้งคลุม กันไม่ให้เสียหายจากการถูกน้ำฝน
รถใกล้จะถึงปลายทางแล้ว จนท.เอาตั๋วมาแลกบัตรห้องคืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้เตรียมตัวล่วงหน้า
จนท.มาเก็บขยะ และกวาดพื้น ที่เต็มไปด้วยกระดาษชำระ และเปลือกเมล็ดแตงโม กับเมล็ดทานตะวัน
เราเลียนแบบชาวจีนโดยการซื้อบะหมี่ถังไปกินบนรถไฟ รสกุ้งถังสีน้ำเงิน คนจีนนิยมรสเนื้อถังสีส้มและแดง ซึ่งเผ็ดมาก ไม่น่าเชื่อว่าคนจีนก็กินเผ็ดและเค็ม ความเชื่อเดิมคือคนจีนกินรสจืดคงไม่จริงแล้วมั้ง!
สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อถึงคุนหมิง ระยะทาง 11,890 กม. 181 ชม. ค่าเดินทาง 22,810 บาท ค่าอื่นๆ 17,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 43,810 บาท
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยจีน 21 วัน ไปกัมพูชา เวียดนาม จีน (รถไฟ) ล่องเรือกลับทางลาว ตอนที่ 12 เฉิงตู จีน
ตอนที่ 12 เฉิงตู จีน
สวัสดีทุกๆคน
รถไฟความเร็วสูง มาถึงสถานีรถไฟเฉิงตูตะวันออก 21.30 น.
ลุงต้องจัดการทุกอย่าง เพราะป้าคออักเสบ จมูกบวมแดง พูดไม่ได้ เจ็บคอ อาการหนัก ตารางเวลารถไฟที่เรามี ระบุว่า ซื้อตั๋วที่เฉิงตู แต่เราลงรถที่เฉิงตูตะวันออก เราเป็นคู่สุดท้ายที่ลงบันไดเลื่อนจากชานชาลาสู่สถานี ห้องขายตั๋วปิดแล้ว จนท.ล็อคกุญแจบันไดเลื่อนแล้ว
เฉิงตู(Chengdu) มีพื้นที่ 12,132 ตร.กม.ใหญ่เป็น 8 เท่าของกทม. ประชากร 11 ล้านคน เกือบ 2 เท่าของกทม. รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี 88,606 บาท มากกว่ากทม.เล็กน้อย เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของเสฉวน
เป็นเมืองหลวงของเสฉวนน้องนศ.ที่ช่วยพาเราไปขึ้นรถเมล์ที่ฉงชิ่งวันก่อน ก็เรียนที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู
เดินลงไปใต้สถานีรถไฟดิน ลุงไปถามจนท.ชาย ที่ขายตั๋ว คุยกันตั้งนาน จนท.หญิงที่มาช่วยอธิบาย ก็ไม่รู้เรื่อง เราต้องการไปพักค้างคืนใกล้ๆ สถานีรถไฟเฉิงตู เพื่อต่อรถไฟไปคุนหมิง ตอนเช้าจะได้ซื้อตั๋ว แล้วเที่ยวเฉิงตู 1 วัน ไปคุนหมิงตอนเย็น ป้าใช้วิธีเขียนถาม ว่าเราจะไปสถานีรถไฟเฉิงตูได้อย่างไร จนท. ก็ตอบไม่ได้ ได้แต่ชี้มือไปทางทิศเหนือ
ในที่สุดเราก็เสี่ยง ซื้อตั๋วรถใต้ดินไปสถานีรถไฟใต้ดินเฉิงตูเหนือ (เพราะสถานีรถไฟใต้ดินเฉิงตูไม่มี) พอเดินขึ้นมา ป้ายชื่อสถานีมีแต่คำว่า Chengdu ไม่มี North ฟลุ้คจริงๆ มาถูกที่แล้ว จึงไปหาโรงแรมใกล้สถานีนอน ลุงพยายามถามหลายคน ก็ไม่ได้เรื่อง จึงลองเดินเข้าซอยไปหลังสถานี ทุกโรงแรมเต็มหมด เขาชี้ไปตรงสุดตึก พอเดินไปก็ใช่จริงๆ คืนละ 50 หยวน (ถูกผิดปกติ)
เป็นตึกแถว กั้นห้องให้เช่านอนชั้นล่าง ใช้กระดาษอัดกั้นห้องแค่ท่วมหัว ใช้ตะปูตอกบ้าง ใช้ลวดและเชือกมัดบ้าง ข้างฝาใช้กระดาษบรู๊ฟติดกาวแปะไว้ ประตูไม้ก็เอียงกะเท่เร่ องยกแล้วดึงขึ้นมา เอาแท่งเหล็กเสียบแทนกลอน มีทีวี มีรองเท้าแตะ สายไฟระโยงระยาง พัดลมเพดานตัวใหญ่ตัวเดียว ใช้ร่วมกันทั้งในห้องนอกห้อง หน้าห้องเรามีเตียงให้เช่านอน น่าจะถูกกว่านอนในห้อง ในห้องเรานอน 2 คนเบียดกัน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ที่นอน ปลอกหมอน เหมือนไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดมานานมาก เราต้องใช้ผ้าของเราคลุมบนหมอนที่มีใบเดียว และห่มผ้าแพรของเรา ก่อนเอาของเขาคลุมข้างบน เพราะอากาศหนาวมาก
ห้องน้ำดูโบราณมาก ส้วมนั่งยองแบบเอียงๆ ขันพลาสติกมีด้ามจับ คงไม่เคยผ่านการทำความสะอาดมานานมาก เป็นภาวะจำยอมที่ต้องนอนที่นี่
พอลุงบอกว่าป้าป่วย เจ็บคอ พูดไม่ได้ ซิ้มก็กุลีกุจอเอาน้ำร้อนในกระติก เทใส่กะละมังพลาสติกให้ แล้วก็เอาหม้อก้นดำ ซึ่งคาดว่าใช้ตั้งบนเตาฟืนไปใส่น้ำในห้องน้ำ ทั้งบ้านมีก๊อกเดียวไปต้มน้ำให้ใหม่ เราใช้ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว เพราะอากาศตอนดึกหนาวมาก ลุงหลับด้วยความอ่อนเพลีย แต่ป้าน้ำมูกไหล ไอทั้งคืน ยาที่เตรียมมาก็หมดไปแล้ว กระดาษเช็ดน้ำมูกก็หมด
เช้าตรู่ ป้ายังนอนซมพิษไข้หวัด ลุงตื่นไปซื้อตั๋วรถไฟ พบตลาดเช้าหลังสถานี จึงย้อนกลับมาบอกป้า ก่อนออกไปนั่งรถใต้ดิน เก็บภาพที่จัตุรัส 100 ปี ศูนย์รวมความเจริญของเฉิงตู ถนนทุกสายพุ่งมาที่นี่ และไปชมทะเลสาบ Shengxian เก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลสาบ กับภาพรถตุ๊กๆริมทะเลสาบ ยามเช้ามีผู้คนไปออกกำลังกายกันหนาตา จึงเป็นทั้งแหล่งน้ำและที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนสาธารณะในจีนมักเก็บค่าผ่านประตู แต่ที่นี่ฟรี
ที่พักอยู่หลังสถานี และราคาถูก จึงมีคนเดินทางแวะเวียนไปใช้บริการไม่ขาด ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งๆที่มีลักษณะแบบนั้น แต่เมื่อคนต้องการพักชั่วคราว ราคาถูก ก็พอแก้ขัดได้
สายแล้ว ป้าลุกขึ้น ไปหาซื้อยาและอาหาร ใกล้ที่พักนอกจากมีตลาดเช้า ที่มีผลไม้และผักสดแล้ว ยังมีร้านค้าโชห่วย ร้านขายยา และร้านอาหารประเภทซาละเปา น้ำเต้าหู้ ปาท่งโก๋ หมี่เกี๊ยว ติดกันหลายร้าน มีอยู่ร้านหนึ่งคนขายทั้งชายและหญิงออกไปเรียกลูกค้าหน้าร้าน ด้วยความกระตือรือร้นจึงได้ลูกค้ามากกว่าร้านอื่น ผู้หญิงเป็นคนปรุงและเสิร์ฟท่าทางมีความสุขกับการขาย เธอโต้ตอบกับลูกค้าอย่างอารมณ์ดี คนขายหญิงเกือบทุกร้านแต่งกายแบบเดียวกัน ใส่กระโปรงสั้นใส่ถุงน่องและรองเท้าส้นตึก ราคาอาหารพอประมาณเกี๊ยวชามปานกลางราคา 10 หยวน
ป้าซื้อยาโดยการเขียนชื่อยา เพราะคาดว่าเภสัชกรน่าจะจบจาก ม.เฉิงตู พอรู้ภาษาอังกฤษบ้าง และเป็นไปตามคาดได้ยาAmoxilin 500 mg. ทำให้วันนี้ลุกขึ้นมารายงานได้
ที่ตาอักเสบเพามาอีกอย่าง คงติดเชื้อจากที่พัก เพราะที่นอน หมอน ผ้าปู ผ้าห่มไม่สะอาด ภาชนะตักน้ำก็ไม่สะอาด พอไปถึงสถานีรถไฟ จึงใช้น้ำอุ่นล้างตาและล้างเรื่อยๆ ขณะนี้ใกล้ปกติแล้ว
ตอนกลับเข้าไปที่พัก จำไม่ได้ว่าช่องไหน เพราะเห็นเขากำลังชั่งของลักษณะเหมือนหม่ำหรือกุนเชียงแห้งๆ คนเอาไปขายท่าทางเป็นชาวบ้านดูเหมือนจะถูกกดราคา มองเข้าไปข้างในเห็นโต๊ะกับกระดาษอัดเก่าๆ พอมองต่อไปเห็นเตียง ตัวที่คิดว่าเป็นหน้าห้องนอน จึงจำได้ ป้าเข้าไปกำลังรอเข้าห้องน้ำอยู่ พอห้องน้ำเปิด มีผู้ชายแต่งกายเหมือนคนขับรถสูบบุหรี่ควันฉุยพูดเสียงดัง เดิมาข้างหลัง แล้วปาดหน้าเข้าห้องน้ำไปก่อน ป้าไม่รู้จะทำอย่างไร ข้าศึกก็จ่ออยู่ตรงประตูแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปพร้อมกระเป๋าเดินทาง ห้องและเตียงเต็มหมดแล้ว
เวลา 9.30 น. ซิ้มลากมือป้าไปในห้อง บอกให้เก็บของออก แขกคนใหม่จะเข้าพักแล้ว
ป้านัดกับลุงไว้ รอลุงกลับมา แล้วกะว่าจะออก 11.00 น. ซิ้มเร่งให้เก็บของเดี๋ยวนี้
โอย....ข้าศึกก็จ่ออยู่ตรงประตู ของก็ต้องเก็บ ในที่สุดวิ่งเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าไม่ทัน ต้องสังเวยด้วยกกน.ไป 1 ตัว ยังไม่ทันจะจัดการเสร็จ ก็มีคนตบประตูห้องน้ำ ต้องรีบใส่กางเกงขาสั้น รีบเข้าไปเก็บของทั้ง 2 เป้ แล้วสะพายเป้ 2 ใบ เอากางเกงขายาวพาดบ่า ออกไปใส่นอกห้อง แขกผู้ชาย 2 คน ที่นอนอยู่หน้าห้อง คนหนึ่งยังไม่หลับ ช่างมัน! เขาเห็นเราแค่ครั้งเดียว ป้าก็ใส่กางเกงขายาว รูดซิปต่อหน้าเขานั่นแหละ แล้วก็หอบหิ้วเป้ 2 ใบ ออกไปหน้าโรงแรม ลุงกลับมาถึงพอดี ถามว่าทำไมรีบออก ป้าพูดไม่ได้ ทำท่าบอกลุงว่าเขาไล่แล้ว ....ลุงตั้งใจว่า กลับมาอาบน้ำก่อนเดินทาง ก็เลยไม่ได้อาบ
ที่สถานีรถไฟ ได้เจอห้องน้ำอีกแบบหนึ่ง เขาทำรางสแตนเลสกว้าง 1 ฟุต ลึกสุดแขน เป็นส้วมปล่อยน้ำชะ จากสุดปลายของที่หนึ่งผ่านทุกห้อง ไปลงที่สุดปลายอีกด้านหนึ่ง ที่บอกว่าสุดแขนเพราะทำขวดยาดมตกลงไป ต้องรีบโดดเอาคืนก่อนจะมีการชะน้ำ..... รีบล้างไว้ใช้ต่อ มีแต่เรื่องสกปรกจริงๆ เฮ้อ!.....
จะทิ้งมันก็ไม่ได้ นึกถึงเมื่อคืน เป็นตัวช่วยให้หายใจออก ตอนที่คัดจมูกอย่างแรงจนต้องหายใจทางปาก
วันนี้ลุงเป็นซื้อตั๋วไปคุนหมิง พนง.สาวสวยคุยไม่รู้เรื่อง ต้องวิ่งไปตามอีกสาวหนึ่งที่พูดภาษาอังกฤษได้กระท่อนกระแท่น มาขายให้ ตั๋วนั่งเต็มหมดแล้ว ได้ตั๋วนอน เตียงชั้นที่ 3 ชั้นล่างมีพื้นที่มากที่สุด นั่งได้ นอนได้ ยืนกับพื้นได้ ชั้นที่ 2 นั่งได้ กับนอนได้ ส่วนชั้นที่ 3 นั่งไม่ได้หัวชนเพดาน นอนได้อย่างเดียว ราคาก็ต่างกันเยอะ ชั้น 3 ถูกที่สุด ได้เดินทางก็นับว่าโชคดีแล้ว เพราะเราซื้อตั๋วตอนเช้า พวกเขาซื้อล่วงหน้ากันหลายวัน
ป้าทั้งจามทั้งไอ ตลอดการเดินทางไปคุนหมิง
เรากำลังรักษาที่นั่งแบบลุกเสียม้ากัน คนที่นอนเตียงชั้น 1 และ 2 ห้องเรา ใช้ที่นั่งไปหมดทั้งหน้าห้องและในห้อง เราต้องนั่งหน้าห้อง ถัดไปที่คนชั้นบนสุดยังไม่ออกมาใช้ ลุกเมื่อไร ก็มีคนอื่นมาใช้ทันที
ทางรถไฟไปคุนหมิงต้องผ่านภูเขาหินเกือบตลอดทาง ลอดอุโมงค์บ่อยมาก ตั้งแต่เดินทางมาหลายเส้นทาง เส้นทางนี้แห้งแล้งที่สุด ตอนนี้เริ่มผ่านหมู่บ้าน มีทุ่งนาที่ปลูกข้าวเจ้า เริ่มเก็บเกี่ยวกันบ้างแล้ว
ตู้ที่เรานอนมีเตียงสำหรับผู้พิการด้วย เขาปล่อยให้อีกด้านว่าง คงเพื่อให้จอดรถเข็นได้ ห้องน้ำอยู่ถัดจากห้องสำหรับผู้พิการมีห้องที่จัดไว้สำหรับล้างหน้าต่างหาก มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง มีตะแกรงเล็กๆ สำหรับวางของตรงกลาง 1 ที่ ต่อด้วยห้องน้ำกว้างขวาง เป็นแบบนั่งราบ จัดเต็มสำหรับผู้พิการ คนอื่นๆพลอยได้อานิสงส์ไปด้วย บังเอิญขบวนนี้ ไม่มีผู้พิการเขาจึงขายตั๋วให้คนปกติ
รถแล่นผ่านเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในระยะไม่ไกล จึงได้ถ่ายภาพ
ข้างทางรถไฟที่เป็นภูเขาหินทุกที่มีการทำกันถล่มหรือหินร่วงไว้
เขาเพาะเมล็ดพืชผักบนแปลงที่ใช้แผ่นพลาสติกใสกางมุ้งคลุม กันไม่ให้เสียหายจากการถูกน้ำฝน
รถใกล้จะถึงปลายทางแล้ว จนท.เอาตั๋วมาแลกบัตรห้องคืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้เตรียมตัวล่วงหน้า
จนท.มาเก็บขยะ และกวาดพื้น ที่เต็มไปด้วยกระดาษชำระ และเปลือกเมล็ดแตงโม กับเมล็ดทานตะวัน
เราเลียนแบบชาวจีนโดยการซื้อบะหมี่ถังไปกินบนรถไฟ รสกุ้งถังสีน้ำเงิน คนจีนนิยมรสเนื้อถังสีส้มและแดง ซึ่งเผ็ดมาก ไม่น่าเชื่อว่าคนจีนก็กินเผ็ดและเค็ม ความเชื่อเดิมคือคนจีนกินรสจืดคงไม่จริงแล้วมั้ง!
สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อถึงคุนหมิง ระยะทาง 11,890 กม. 181 ชม. ค่าเดินทาง 22,810 บาท ค่าอื่นๆ 17,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 43,810 บาท
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น