"ไม่รู้อะไรดลใจ ให้ผมซื้อตั๋วเครื่องบินที่ไม่ใช่ราคาโปร
ไปคุนหมิงง่ายขนาดนั้น ถ้ามันไม่ใช่ Dream Destinations ผมคงไม่กล้า"
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปครับ แนะนำตัวกันอีกครั้ง ผมชื่อเอี๊ยะ นะครับ สำหรับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยอ่านรีวิวของผมมาก่อน จริงๆมันก็มีไม่เยอะหรอกครับ ออกจะเป็นกระทู้กากๆ ด้วยซ้ำ555 แต่ก็ตั้งใจทำมันทุกครั้งแหละ
เมื่อปลายปีที่แล้วผมเอาจมูกไปสัมผัสอากาศสถานที่ในฝัน #1 มาแล้วก็คือ ภูเขาไฟโบรโม่-คาวาอีเจี้ยน ลองอ่านดูได้>>>
http://ppantip.com/topic/34777217 หลังจากกลับจากทริปนั้นมา ผมก็เลยหาช่วงเหมาะๆไปเก็บฝัน #2 ของผมทันที ได้วันเหมาะๆแล้ว วันแรงงานปี 2559 ผมจะลาพักร้อน เอาเท้ามาสัมผัสความฝันของผม>> "แชงกรีล่า ยูนนาน " //อ้าว ทำไมมันไม่เหมือนชื่อกระทู้เลยล่ะ ใช่ครับ "มันเป็นทริปแชง...ที่ไปไม่ถึงแชงกรีล่า" เริ่มเลยนะ (แอบพิมพ์ตอนทำงานเวิ่นมากไม่ดี)
หนีไปในยูนนาน 30 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2559
"จีน..ใครเค้าไปคนเดียวกันวะ" ก่อนที่ผมจะซื้อตั๋วเครื่องบินก็ถามเพื่อนๆอยู่นิดหน่อยว่าใครพร้อมจะไปกับผมบ้าง 555 แต่ก็ไม่มี ซื้อไปแล้วก็ยังถามอยู่ (พยายามหาคนที่ไปแล้วไม่บ่นแน่นอน เพราะครั้งนี้ Backpack 100%) ก็ไม่มีใครไป "เอาวะ ไปคนเดียวก็ได้ หลงไม่กลัว กลัวไม่ได้ไป" คืนวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. ก่อนนอนผมก็เช็คสัมภาระทุกอย่าง โดยเฉพาะช็อคโกแลตบาร์ ซีเรียลบาร์ ที่ซื้อมาอย่างเยอะ เพื่อประทังชีพ 7 วัน (เผื่อแ-กอะไรไม่ได้ก็กินไอ้นี่เอา) เช้ามืดของวันเสาร์ที่ 30 ก็รีบขึ้นแท็กซี่มาดอนเมือง เดาว่าคน
ต้องทะลักดอนเมืองแน่ๆ เพราะวันหยุดยาวววววว--- เที่ยวบินไฟล์ท FD 582 ออกเวลา 7.50 น. กำลังจะพาผมไปประเทศที่ท่าอากาศยานคุนหมิงฉางสุ่ย เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
นครคุนหมิง : นครแห่งใบไม้ผลิ วันที่ 1 ของทริป (30 เม.ย. 2559)
เมื่อก้าวลงที่คุนหมิงปรับเวลาให้เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง อากาศที่คุนหมิงประมาณ 20 องศา (ในขณะที่ไทย 40) รู้สึกเป็นบุญ เป็นคุณมาก ถึงคุนหมิงแแล้วยังไงต่อล่ะ และแล้ว "คนไทยไม่ทิ้งกัน" ผ่านการตรวจ ตม.จีนก็หันซ้ายหันขวา เจอคนไทยมาจากไฟล์ทเดียวกันแหละฮะ ก็เลยได้เพื่อนคนไทยเป็นพี่ผู้ชาย 2 คน คนแรกชื่อพี่หรั่ง เป็นสัตวแพทย์ขี้เที่ยว คนที่ 2 เป็นวิศวกร หนีลูกมาเที่ยว ชื่อพี่กั๊ก เราเลยตกลงกันว่า เราจะวันนี้ที่คุนหมิง เราจะไปด้วยกัน อ่านรีวิวมา เค้าบอกว่าให้หา Shuttle Bus สาย 2 ไปที่ "คุนหมิงจ้าน" (สถานีรถไฟ) เราก็เดินๆๆๆไปที่ประตูที่ 4 ของสนามบิน และซื้อตั๋วรถสาย 2 ราคาคนละ 25 หยวน
พอเรามาถึงสถานีรถไฟ สิ่งที่เราทำต่อก็คือ "แลกตั๋วรถไฟ" ผมลืมบอกไปว่าก่อนจะมาประมาณ 2 อาทิตย์ ผมซื้อตั๋วรถไฟจากไทยมาแล้วผ่านเว็บ
https://www.travelchinaguide.com/china-trains/ เพื่อให้ชัวร์ว่า เราจะมีรถไฟไป (คุนหมิง-ลี่เจียง) กลับ (ต้าหลี่-คุนหมิง) แลกตั๋วรถไฟเสร็จก็หาทางไปเที่ยวในเมืองกันต่อ
นักท่องเที่ยว 99% จะไม่รู้ว่าที่นี่คือสถานีรถไฟ จนกว่าจะเห็นรูปปั้น กระทิงสีทองนี้
พวกเรา 3 คน จะไปเที่ยวในเมืองคุนหมิง เพราะรถไฟออกจากคุนหมิงไปลี่เจียงเวลา 20.50 น. เรามีเวลาอีกพอสมควรที่จะเที่ยวในเมืองคุนหมิงเอาล่ะ และแล้วสถานที่ที่เราได้ไปสัมผัสที่แรกก็คือ
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ผสมผสานทั้งวัดไทย พม่า และธิเบต วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาถึง 3 นิกาย สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุยาวนานประมาณ 1,200 กว่าปี
ออกจากวัดหยวนทง เลี้ยวขวาเดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเจอสวนสาธารณะชุยหู (Green Lake) สวนสาธารณะที่นี่มีป้ายบอกทางภาษาไทยนด้วยนะ สงสัยคนไทยจะมาเยอะแหละ ผมชอบสวนสาธารณะที่นี่ เห็นคนจีนให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมกับครอบครัวมาก มักจะมาเดินเล่นกับครอบครัว ปั่นเรือ ออกกำลังกาย ทานอาหารกันที่นี่ ด้วยความที่วันนี้เป็นวันเสาร์ด้วยแหละคนเลยคึกคักเป็นพิเศษ
ต่อกันด้วยสถานที่ีที่เป็นแลนด์มาร์คของคุนหมิงก็คือประตูม้า-ประตูไก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยครับ และเป็นสถานที่เที่ยวสุดท้ายในคุนหมิง ก่อนที่พวกเราจะหาไรทานและกลับไปที่สถานีรถไฟ เพื่อเช็คอินและขึ้นรถไฟ
มาถึงเวลาตอนเย็นของการท่องไปในยูนนานในวันแรกแล้ว ขอตอบโจทย์ "ทริปแชงที่ไม่ถึงแชง" มันเป็นเรื่องราวที่ต้องตัดสินใจ และเลือกเส้นทาการท่องเที่ยว เรา 3 คน ต่างคนต่างมาเจอกันและร่วมทริปวันแรกด้วยกัน พี่กั๊กซื้อตั๋วไปต้าหลี่ และไปลี่เจียงต่อ ส่วนผมและพี่หรั่ง ซื้อตั๋วไปที่ลี่เจียง ส่วนวันท้ายๆค่อยกลับมาที่ต้าหลี่ มันจะมีเวลาที่พวกเรา 3 คน จะเจอกันที่ลี่เจียง ผมกับพี่หรั่งดูท่าจะมีแผนคล้ายๆกัน และลงตัวที่ว่า "ผมจะไปโตรกเสือกระโจนแทนไปแชงกรีล่า" แต่เอาจริงๆผมก็พอจะหาข้อมูลโตรกเสือกระโจนมาค่อนข้างเยอะ ไหนๆก็ไหนๆ ไปก็ไป<<<นี่ล่ะครับทริปแชงที่ไม่ถึงแชง แต่รับประกันความสวยงามและความตื่นเต้น
คุนหมิงจ้าน-ลี่เจียง รถไฟนอนคือรถไฟนอน คืนแรกบนรถไฟ
เรา 3 คน มาถึงสถานีรถไฟคุนหมิง เพื่อรอเวลาเดินทาง ***ดอกจันทน์ 10 ตัว*** อยู่เมืองจีนที่สำคัญที่สุดคือพาสสปอร์ตจะติดต่ออะไรที่เกี่ยวข้องกับการซื้อตั๋ว ซื้อบัตร ต้องใช้พาสสปอร์ตด้วยทุกครั้ง และระบบการตรวจกระเป๋าของจีนค่อนข้างรัดกุม มีเครื่องสะแกนกระเป๋าหลายขั้นตอนมาก**
ผมกับพี่หรั่งไปลี่เจียง ส่วนพี่กั๊กไปต้าหลี่ แล้วก็จะไปเจอกันที่ลี่เจียงในวันที่ 4 พ.ค. สถานีรถไฟคุนหมิงยิ่งใหญ่กว่าสนามบินไทยบางแห่งซะอีก ชานชาลาและโถงรองรับผู้โดยสารได้เป็นหมื่นคน ทุกอย่างถูกจัดระเบียบการขึ้นขบวนรถไว้อย่างดี ไม่มีมั่ว ไม่มีผิด ผู้โดยสารที่มีบัตรเท่านั้นที่จะผ่านมาที่เกตของชานชาลาได้ สมกับเป็นประเทศที่ประชากรเยอะซะจริงๆครับ ถ้าไม่จัดระเบียบแบบนี้แย่แน่ๆนอน
ก่อนที่จะไปขึ่นรถไฟซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดไปด้วย ซื้อไว้เพื่อความอุ่นใจ 555 สถานีรถไฟคุนหมิงมีปลั๊กสำหรับชาร์ตโทรศัพท์ กล้อง ด้วยนะครับ บริการฟรีๆ
ถึงเวลาเดินทางครับ รถไฟขบวนที่ K9606 จะพาผมไปถึงลี่เจียง เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 6.05 น.
ว่าไปผมมีรูมเมทด้วยนะ ผมคนไทย 2 คน และอีก 4 คน จีนทั้งหมด สปีคอิงลิชกันพอเข้าใจ คุยกันไปเรื่อยๆและออกตัวกับเค้าตรงๆแฝงไปด้วยความขำว่า "ถ้าวันนี้ผมกรนก็อย่าโกรธกันนะ" 555 ภายในรถไฟจีนก็โอเคนะครับ ผมนอนชั้นล่างสุด (เหมือนในรูป) ตอนนั้นเกรงใจรูมเมทมาก เพราะถุงเท้าที่ผมใส่มาทั้งวันมันแผลงฤทธิ์แล้ว รถไฟจีนมีปลั๊กให้เสียบด้วยดีจังส่วน พี่หรั่งคนไทย นอนอยู่บนชั้นบนสุด
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ รถไฟชั้น Hard Sleeper 1 ห้องจะมี 6 เตียง ฝั่งละ 3 เตียง ผมนอนข้างล่างนั่งได้ แต่ใครที่นอนชั้น Middle หรือ Upper ไม่สามารถนั่งได้ครับ หัวชวนเพดานแน่นอน
"รถนอนก็คือรถนอน" ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พี่หรั่งบอกผมว่า "ใครกลัวที่แคบไม่ควรนอนข้างบน" เพราะมันอึดอัดมาก ส่วนผมนอนชั้นล่างก็สบายตัว พี่หรั่งเสียสละให้ผมนอนข้างล่าง โดยให้เหตุผลว่า "ผมอ้วนเดี๋ยวจะนอนไม่ถนัด"
เหตุผลดี๊ดีแต่ก็โอเคครับ >>>นี่แหละความสะใจของแบคแพคเกอร์ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
การท่องเที่ยววันแรกจบลงเมื่อหัวถึงหมอนบนรถไฟจีน
////วันนี้เกิดอะไรขึ้น อยู่จีน คนจีนจะพูดจีนกับเรา 100% แม้เราจะถามไปด้วยภาษาอะไรก็ตาม สิ่งที่เราทำได้คือ ยิ้มและ เชี่ย เชี่ย. และจะบอกว่าคนจีนที่คุนหมิงน่ารักและช่วยเหลือดีมากก พรุ่งนี้ถึงลี่เจียงก็ค่อยว่ากันต่อ หนี ห่าวลี่เจียง
[CR] 7 Days journey to Yunnan หนีไปในยูนนาน...แชงกรีล่าที่ไปไม่ถึง
ไปคุนหมิงง่ายขนาดนั้น ถ้ามันไม่ใช่ Dream Destinations ผมคงไม่กล้า"
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปครับ แนะนำตัวกันอีกครั้ง ผมชื่อเอี๊ยะ นะครับ สำหรับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยอ่านรีวิวของผมมาก่อน จริงๆมันก็มีไม่เยอะหรอกครับ ออกจะเป็นกระทู้กากๆ ด้วยซ้ำ555 แต่ก็ตั้งใจทำมันทุกครั้งแหละ
เมื่อปลายปีที่แล้วผมเอาจมูกไปสัมผัสอากาศสถานที่ในฝัน #1 มาแล้วก็คือ ภูเขาไฟโบรโม่-คาวาอีเจี้ยน ลองอ่านดูได้>>> http://ppantip.com/topic/34777217 หลังจากกลับจากทริปนั้นมา ผมก็เลยหาช่วงเหมาะๆไปเก็บฝัน #2 ของผมทันที ได้วันเหมาะๆแล้ว วันแรงงานปี 2559 ผมจะลาพักร้อน เอาเท้ามาสัมผัสความฝันของผม>> "แชงกรีล่า ยูนนาน " //อ้าว ทำไมมันไม่เหมือนชื่อกระทู้เลยล่ะ ใช่ครับ "มันเป็นทริปแชง...ที่ไปไม่ถึงแชงกรีล่า" เริ่มเลยนะ (แอบพิมพ์ตอนทำงานเวิ่นมากไม่ดี) หนีไปในยูนนาน 30 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2559
บันทึกของคนขี้เที่ยว : https://www.facebook.com/khonkheetiew
"จีน..ใครเค้าไปคนเดียวกันวะ" ก่อนที่ผมจะซื้อตั๋วเครื่องบินก็ถามเพื่อนๆอยู่นิดหน่อยว่าใครพร้อมจะไปกับผมบ้าง 555 แต่ก็ไม่มี ซื้อไปแล้วก็ยังถามอยู่ (พยายามหาคนที่ไปแล้วไม่บ่นแน่นอน เพราะครั้งนี้ Backpack 100%) ก็ไม่มีใครไป "เอาวะ ไปคนเดียวก็ได้ หลงไม่กลัว กลัวไม่ได้ไป" คืนวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. ก่อนนอนผมก็เช็คสัมภาระทุกอย่าง โดยเฉพาะช็อคโกแลตบาร์ ซีเรียลบาร์ ที่ซื้อมาอย่างเยอะ เพื่อประทังชีพ 7 วัน (เผื่อแ-กอะไรไม่ได้ก็กินไอ้นี่เอา) เช้ามืดของวันเสาร์ที่ 30 ก็รีบขึ้นแท็กซี่มาดอนเมือง เดาว่าคนต้องทะลักดอนเมืองแน่ๆ เพราะวันหยุดยาวววววว--- เที่ยวบินไฟล์ท FD 582 ออกเวลา 7.50 น. กำลังจะพาผมไปประเทศที่ท่าอากาศยานคุนหมิงฉางสุ่ย เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
นครคุนหมิง : นครแห่งใบไม้ผลิ วันที่ 1 ของทริป (30 เม.ย. 2559)
เมื่อก้าวลงที่คุนหมิงปรับเวลาให้เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง อากาศที่คุนหมิงประมาณ 20 องศา (ในขณะที่ไทย 40) รู้สึกเป็นบุญ เป็นคุณมาก ถึงคุนหมิงแแล้วยังไงต่อล่ะ และแล้ว "คนไทยไม่ทิ้งกัน" ผ่านการตรวจ ตม.จีนก็หันซ้ายหันขวา เจอคนไทยมาจากไฟล์ทเดียวกันแหละฮะ ก็เลยได้เพื่อนคนไทยเป็นพี่ผู้ชาย 2 คน คนแรกชื่อพี่หรั่ง เป็นสัตวแพทย์ขี้เที่ยว คนที่ 2 เป็นวิศวกร หนีลูกมาเที่ยว ชื่อพี่กั๊ก เราเลยตกลงกันว่า เราจะวันนี้ที่คุนหมิง เราจะไปด้วยกัน อ่านรีวิวมา เค้าบอกว่าให้หา Shuttle Bus สาย 2 ไปที่ "คุนหมิงจ้าน" (สถานีรถไฟ) เราก็เดินๆๆๆไปที่ประตูที่ 4 ของสนามบิน และซื้อตั๋วรถสาย 2 ราคาคนละ 25 หยวน
พอเรามาถึงสถานีรถไฟ สิ่งที่เราทำต่อก็คือ "แลกตั๋วรถไฟ" ผมลืมบอกไปว่าก่อนจะมาประมาณ 2 อาทิตย์ ผมซื้อตั๋วรถไฟจากไทยมาแล้วผ่านเว็บ https://www.travelchinaguide.com/china-trains/ เพื่อให้ชัวร์ว่า เราจะมีรถไฟไป (คุนหมิง-ลี่เจียง) กลับ (ต้าหลี่-คุนหมิง) แลกตั๋วรถไฟเสร็จก็หาทางไปเที่ยวในเมืองกันต่อ
นักท่องเที่ยว 99% จะไม่รู้ว่าที่นี่คือสถานีรถไฟ จนกว่าจะเห็นรูปปั้น กระทิงสีทองนี้
พวกเรา 3 คน จะไปเที่ยวในเมืองคุนหมิง เพราะรถไฟออกจากคุนหมิงไปลี่เจียงเวลา 20.50 น. เรามีเวลาอีกพอสมควรที่จะเที่ยวในเมืองคุนหมิงเอาล่ะ และแล้วสถานที่ที่เราได้ไปสัมผัสที่แรกก็คือ
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ผสมผสานทั้งวัดไทย พม่า และธิเบต วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาถึง 3 นิกาย สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุยาวนานประมาณ 1,200 กว่าปี
ออกจากวัดหยวนทง เลี้ยวขวาเดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเจอสวนสาธารณะชุยหู (Green Lake) สวนสาธารณะที่นี่มีป้ายบอกทางภาษาไทยนด้วยนะ สงสัยคนไทยจะมาเยอะแหละ ผมชอบสวนสาธารณะที่นี่ เห็นคนจีนให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมกับครอบครัวมาก มักจะมาเดินเล่นกับครอบครัว ปั่นเรือ ออกกำลังกาย ทานอาหารกันที่นี่ ด้วยความที่วันนี้เป็นวันเสาร์ด้วยแหละคนเลยคึกคักเป็นพิเศษ
ต่อกันด้วยสถานที่ีที่เป็นแลนด์มาร์คของคุนหมิงก็คือประตูม้า-ประตูไก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยครับ และเป็นสถานที่เที่ยวสุดท้ายในคุนหมิง ก่อนที่พวกเราจะหาไรทานและกลับไปที่สถานีรถไฟ เพื่อเช็คอินและขึ้นรถไฟ
มาถึงเวลาตอนเย็นของการท่องไปในยูนนานในวันแรกแล้ว ขอตอบโจทย์ "ทริปแชงที่ไม่ถึงแชง" มันเป็นเรื่องราวที่ต้องตัดสินใจ และเลือกเส้นทาการท่องเที่ยว เรา 3 คน ต่างคนต่างมาเจอกันและร่วมทริปวันแรกด้วยกัน พี่กั๊กซื้อตั๋วไปต้าหลี่ และไปลี่เจียงต่อ ส่วนผมและพี่หรั่ง ซื้อตั๋วไปที่ลี่เจียง ส่วนวันท้ายๆค่อยกลับมาที่ต้าหลี่ มันจะมีเวลาที่พวกเรา 3 คน จะเจอกันที่ลี่เจียง ผมกับพี่หรั่งดูท่าจะมีแผนคล้ายๆกัน และลงตัวที่ว่า "ผมจะไปโตรกเสือกระโจนแทนไปแชงกรีล่า" แต่เอาจริงๆผมก็พอจะหาข้อมูลโตรกเสือกระโจนมาค่อนข้างเยอะ ไหนๆก็ไหนๆ ไปก็ไป<<<นี่ล่ะครับทริปแชงที่ไม่ถึงแชง แต่รับประกันความสวยงามและความตื่นเต้น
คุนหมิงจ้าน-ลี่เจียง รถไฟนอนคือรถไฟนอน คืนแรกบนรถไฟ
เรา 3 คน มาถึงสถานีรถไฟคุนหมิง เพื่อรอเวลาเดินทาง ***ดอกจันทน์ 10 ตัว*** อยู่เมืองจีนที่สำคัญที่สุดคือพาสสปอร์ตจะติดต่ออะไรที่เกี่ยวข้องกับการซื้อตั๋ว ซื้อบัตร ต้องใช้พาสสปอร์ตด้วยทุกครั้ง และระบบการตรวจกระเป๋าของจีนค่อนข้างรัดกุม มีเครื่องสะแกนกระเป๋าหลายขั้นตอนมาก**
ผมกับพี่หรั่งไปลี่เจียง ส่วนพี่กั๊กไปต้าหลี่ แล้วก็จะไปเจอกันที่ลี่เจียงในวันที่ 4 พ.ค. สถานีรถไฟคุนหมิงยิ่งใหญ่กว่าสนามบินไทยบางแห่งซะอีก ชานชาลาและโถงรองรับผู้โดยสารได้เป็นหมื่นคน ทุกอย่างถูกจัดระเบียบการขึ้นขบวนรถไว้อย่างดี ไม่มีมั่ว ไม่มีผิด ผู้โดยสารที่มีบัตรเท่านั้นที่จะผ่านมาที่เกตของชานชาลาได้ สมกับเป็นประเทศที่ประชากรเยอะซะจริงๆครับ ถ้าไม่จัดระเบียบแบบนี้แย่แน่ๆนอน
ก่อนที่จะไปขึ่นรถไฟซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดไปด้วย ซื้อไว้เพื่อความอุ่นใจ 555 สถานีรถไฟคุนหมิงมีปลั๊กสำหรับชาร์ตโทรศัพท์ กล้อง ด้วยนะครับ บริการฟรีๆ
ถึงเวลาเดินทางครับ รถไฟขบวนที่ K9606 จะพาผมไปถึงลี่เจียง เช้าวันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 6.05 น.
ว่าไปผมมีรูมเมทด้วยนะ ผมคนไทย 2 คน และอีก 4 คน จีนทั้งหมด สปีคอิงลิชกันพอเข้าใจ คุยกันไปเรื่อยๆและออกตัวกับเค้าตรงๆแฝงไปด้วยความขำว่า "ถ้าวันนี้ผมกรนก็อย่าโกรธกันนะ" 555 ภายในรถไฟจีนก็โอเคนะครับ ผมนอนชั้นล่างสุด (เหมือนในรูป) ตอนนั้นเกรงใจรูมเมทมาก เพราะถุงเท้าที่ผมใส่มาทั้งวันมันแผลงฤทธิ์แล้ว รถไฟจีนมีปลั๊กให้เสียบด้วยดีจังส่วน พี่หรั่งคนไทย นอนอยู่บนชั้นบนสุด
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ รถไฟชั้น Hard Sleeper 1 ห้องจะมี 6 เตียง ฝั่งละ 3 เตียง ผมนอนข้างล่างนั่งได้ แต่ใครที่นอนชั้น Middle หรือ Upper ไม่สามารถนั่งได้ครับ หัวชวนเพดานแน่นอน "รถนอนก็คือรถนอน" ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พี่หรั่งบอกผมว่า "ใครกลัวที่แคบไม่ควรนอนข้างบน" เพราะมันอึดอัดมาก ส่วนผมนอนชั้นล่างก็สบายตัว พี่หรั่งเสียสละให้ผมนอนข้างล่าง โดยให้เหตุผลว่า "ผมอ้วนเดี๋ยวจะนอนไม่ถนัด" เหตุผลดี๊ดีแต่ก็โอเคครับ >>>นี่แหละความสะใจของแบคแพคเกอร์ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
การท่องเที่ยววันแรกจบลงเมื่อหัวถึงหมอนบนรถไฟจีน
////วันนี้เกิดอะไรขึ้น อยู่จีน คนจีนจะพูดจีนกับเรา 100% แม้เราจะถามไปด้วยภาษาอะไรก็ตาม สิ่งที่เราทำได้คือ ยิ้มและ เชี่ย เชี่ย. และจะบอกว่าคนจีนที่คุนหมิงน่ารักและช่วยเหลือดีมากก พรุ่งนี้ถึงลี่เจียงก็ค่อยว่ากันต่อ หนี ห่าวลี่เจียง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น