สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ไทยอากาศเย็นเนอะ เห็นหลายๆคนแอบบ่นว่าหนาว ยกตัวอย่างเช่น แม่ของเราเอง ฮ่าฮ่า ตอนนี้เราเรียนอยู่ที่คุนหมิงค่ะเป็นการเรียนภาษาจีน เดือนกรกฎาปีนี้ก็ต้องกลับไทยแล้ว รู้สึกเหมือนวิชาที่เรียนมาไม่ค่อยได้ใช้เพราะวันๆหมกตัวอยู่แต่ในหอ พอดีได้จังหวะปิดเทอมตรุษจีน(ประมาณเดือนครึ่ง)ของที่นี่เลยคิดว่าคงต้องไปลองวิชากันหน่อย คิดได้ตอนนั้นก็วางแผนเลยว่าจะไปปักกิ่ง ก็แหมใครๆก็อยากไป
        เราอยากไปกำแพงเมืองจีนมากๆ กะว่าจะเที่ยวไปเรื่อยๆจากคุนหมิงไปปักกิ่ง จะไม่กลับบ้านตอนปิดเทอม แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น…..นั่นคือค่ามลพิษที่ปักกิ่งสูงมากเป็นประวัติกาล แผนเราเลยล่มไม่เป็นท่า ทุกคนต้องคอตกแบกกระเป๋าแทนที่จะไปเที่ยวกลับต้องบินกลับไทย ช่วงเวลาที่ไทย 1 เดือนเราก็พยายามหาว่าจะไปเที่ยวไหนดีนะ ไปต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่าดีมั้ย อยู่ใกล้คุนหมิง แต่ก็ลังเลเพราะมันใกล้ไป อยากไปที่ไกลๆ มีตัวเลือกเยอะมาก มีทั้งจางเจียเจี้ย เมืองโบราณเฟิ่งหวงที่ฉางซา หรือจะเป็นซีอาน ไปดูสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ คิดแล้วคิดอีกสุดท้ายมีความคิดนึงแวบมา “จิ่วไจ้โกว เป็นไง?” โอ้โห พอคิดได้เท่านั้นแหละรีบโทรบอกเพื่อนที่ยังอยู่คุนหมิงนั่งรถเมย์ไปซื้อตั๋วรถไฟเลยค่ะ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของทริปลองของ เป็นครั้งแรกที่ไปเอง ไปกันสองคนหญิงล้วน แล้วไปไกลด้วย 555 ชักน่าสนุกแล้วสิ มาค่ะมาเริ่มกันเลย.....


    ครั้งนี้เราเดินทางโดยรถไฟและรถบัสค่ะ ไม่มีเครื่องบินเพราะมันแพง ประหยัดเงินที่บ้านด้วย เราไปแบบโนแพลนนะคะ จองล่วงหน้าแต่ตั๋ววันกลับ ที่เหลือไปหาเอาดาบหน้า ก่อนอื่นเผื่อใครสนใจอยากนั่งรถไฟจีน บอกได้เลยว่าต้องลองค่ะ แล้วจะไม่เสียใจ ก่อนอื่นเราต้องซื้อตั๋วก่อนค่ะ บางคนอาจจะซื้อผ่านเอเจนซี่ อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ ถ้าจะซื้อที่สถานีก็ให้หาคำว่า 售票处 ใช้พาสปอร์ตซื้อนะคะ ถ้าให้ดีควรเตรียมชื่อสถานที่ที่จะไป วันและเวลาไปยื่นหน้าเคาน์เตอร์จะสะดวกค่ะ เพราะถ้าอาศัยสกิลการพูดอังกฤษของเรานี่ไม่น่ารอด ไม่ใช่ความผิดเรานะก็คนขายฟังเราไม่ออก เสียใจเบาๆ เอาล่ะค่ะเมื่อเราได้ตั๋วมาจะมีหน้าตาแบบนี้

    อันนี้เป็นตัวอย่างตั๋วนั่งนะคะ พอดีว่าเพื่อนซื้อมาผิด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะตราบใดที่รถไฟยังไม่ออกเดินทาง เราสามารถคืนตั๋วได้ ถ้าคืนก่อนวันเดินทางหลายๆวันก็ไม่โดยหักอะไรเลยค่ะ จะคืนตั๋วก็หาคำว่า 退票处 แค่นี้เองค่ะ

    และนี่คือหน้าตาของตั๋วรถไฟที่เราจะให้เดินทางค่ะ ต้องอธิบายก่อนว่าการเดินทางโดยรถไฟความเร็วธรรมดามี 4 แบบค่ะ
1.硬座 คือ Hard Seat เป็นที่นั่งๆ รวมกับคนอื่น  2.硬卧 คือ Hard Sleeper เตียงไม่ได้แข็งนะคะ เพียงแต่ความเป็นส่วนตัวน้อยลง เพราะจะมี 3 ชั้น
3.软卧 คือ Soft Sleeper คุณภาพเตียงเหมือน Hard Sleeper แต่จะมีแค่ 2 ชั้น 4.无座 คือ Standing ตั๋วยืนค่ะ ถูกสุดและโหดสุด ไม่แนะนำ

*โดยครั้งนี้เราเลือกแบบที่ 2 ค่ะ ไม่แพงมากและไม่ลำบากจนเกินไป ซึ่งไอ้เตียง 3 ชั้นเนี่ยเราก็ต้องเสี่ยงดวงเอาว่าจะได้ชั้นไหน ขาไปดีหน่อยได้ชั้นล่าง
แต่ขากลับได้ชั้นกลาง บอกเลยว่าแคบสุดๆ 555

    วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 เราบินจากไทยกลับไปคุนหมิงค่ะ เอาของไปเก็บที่หอก่อน จากนั้นเช้าวันที่ 20 เราก็ออกจากหอตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ปรากฎว่าอาจารย์ดูแลหอยังไม่ตื่น หอยังล็อค โถ่ๆ ฤกษ์ดีตั้งแต่ยังไม่ก้าวออกจากบ้าน เราสองคนก็เลยโทรมันทุกเบอร์ที่ติดไว้ในห้องอาจารย์ คิดว่าต้องติดสักเบอร์แหละนะ สุดท้ายก็ได้ออกจากหอแบบทุลักทุเล แต่....ยังค่ะ อุปสรรคยังไม่หมดเพราะตอนแรกเรากะจะนั่งเท็กซี่ไปที่สถานีรถไฟเลย เพราะถ้านั่งรถเมย์มันไกล แถมยังต้องเดินเกือบกิโลเพื่อไปให้ถึงสถานี โบกรถเท็กซี่อยู่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะจอดรับ สงสัยกลัวเราปล้น เราเลยจำใจขึ้นรถเมย์ และเดินไปสถานีรถไฟ

    มาถึงสถานีรถไฟคุนหมิงก็ถ่ายรูปกับกระทิงซะหน่อย ถ้าเพื่อนอยากนั่งรถไฟจีนบอกได้เลยว่าสบายมากๆค่ะ ยิ่งถ้าเมืองไหนมีรถไฟความเร็วสูงนี่ยิ่งสบายใหญ่ มีไปเกือบทั่วจีน แต่เสียดายค่ะเพราะที่คุนหมิงมีแต่ความเร็วธรรมดา นั่งก็แล้ว นอนก็แล้ว กินก็แล้ว ยังไม่ถึงซะที
    ภายในสถานีจะมีการตรวจตั๋ว ต่อมาสแกนกระเป๋าค่ะ พอสแกนเสร็จก็ตัวใครตัวมัน เขาจะมีห้องรอรถให้เราไปรอ ในแต่ละห้องก็จะบอกไว้ว่าห้องนี้สำหรับรถเที่ยวไหน ไม่ยากเลยค่ะ

    เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงก่อนรถออกก็จะให้ไปขึ้นรถได้ค่ะ ตอนนี้พวกเราสองคนยังดี๊ด๊ากันอยู่ เพราะไม่เคยขึ้นรถไฟจีน ยังยิ้มกันได้ โดยหารู้ไม่ว่าความลำบากนั้นได้ก่อตัวขึ้นเล็กๆแล้ว


*** เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อนะคะ