หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Sloth Sukiyaki
กระทู้รีวิว
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารปิ้งย่าง
ร้านอาหาร
อาหารญี่ปุ่น
อาหาร
ในช่วงเวลาเย็นๆเกือบทุ่ม ถนนศรีนครินทร์ค่อนข้างมีรถปริมาณมาก ทำให้เราตัดสินใจที่จะหามื้อเย็นทานกันก่อนที่จะกลับไปที่พักที่รัชดา ด้วยความรู้สึกอยากทานบุฟเฟ่ต์สักร้าน เลยเลือกที่จะไปหาร้านทานกันที่ JAS Urban บนถนนศรีนครินทร์ หลังจากหาที่จอดรถเป็นที่เรียบร้อย ก็ไปทำการสำรวจเลือกหาร้านอาหารที่จะทานกันในวันนี้
ร้าน Gin Zaab ชาบู ก็เคยทานแล้วหลายครั้ง ไหนๆก็ไม่ค่อยหิวมากเท่าไร และอยู่ในช่วงควบคุมอาหาร เลยปรึกษากันว่า เราลองทานร้านใหม่ๆล่ะกัน ไว้เป็นทางเลือกในอนาคตด้วย เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็เจอร้านที่น่าสนใจอยู่ 2 ร้าน คือ ร้าน Gojira yakiniku ร้านปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ ด้วยพวกเราไม่ทานเนื้อกันอยู่แล้ว ทำให้ราคาต่อท่านอยู่ที่ 398 บาท (Net แล้ว ไม่มีต้องเพิ่มค่าอะไรอีก) มีเนื้อหมูหลายอย่างให้เลือกทาน และมีกุ้งแม่น้ำ มี ซุป มีของหวานด้วย พร้อมเครื่องดื่ม กับอีกร้านคือ Sloth Sukiyaki ราคาต่อท่านที่ 390 บาท (Net แล้วไม่มีต้องเพิ่มค่าอะไรอีกเช่นกัน) สำหรับชุดธรรมดา ก็จะมีหมู 3 อย่าง สันคอ สันนอก และเบคอน จากนั้นก็บรรดาผัก และมีเครื่องดื่มพร้อม แต่ไม่มีขนมหวานในชุดธรรมดานะครับ
หลังจากตัดสินใจกันด้วยการ เป่า ยิ้ง ฉุบ ผลที่ออกก็คือ ทานกันที่ร้าน Sloth Sukiyaki ที่หน้าร้านจะมีป้ายสำหรับผู้ที่ใช้มือถือค่าย Dtac นะครับ สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ 5% สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม โดยไม่สามารถใช้กับการทาน Premium Set นะครับ เมื่อเดินเข้าไปภายในร้านแล้ว แจ้งจำนวนลูกค้ากับทางน้องพนักงาน เราก็เลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัยนะครับ โต๊ะสำหรับทานอาหาร ค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย มีหมอนอิงให้รองด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการคีบทานอาหาร ไม่ต้องเมื่อย นั่งตัวตรงเอื้อมมือคีบตักอาหารครับ
หลังจากนั่งเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานจะถามว่า เราจะทานแบบไหน เมื่อเลือก Set ราคาที่ต้องการแล้ว จากนั้นจะเป็นการเลือกว่า จะทานแบบ ชาบู หรือ สุกี้ยากี้ ด้วยความเคยชิน เราจึงเลือกแบบเป็นชาบู โดยสามารถเลือกน้ำซุปทานได้ 2 แบบนะครับ เราก็เลือกเป็นแบบซุปคอมบุ (ใส) กับ ซุปปลาโอ (ดำ)
ระหว่างรอหม้อและอาหารที่นำมาเสริฟ์ เราก็มาทำการสำรวจของบนโต๊ะกันครับ บนโต๊ะก็มีทิชชู่กล่อง มีพริก กระเทียม ชุดอุปกรณ์การทานอาหาร พวกจาน ชาม ตะเกียบ ช้อน กระดาษรองข้างใต้ จะมีการแนะนำวิธีในการทานสุกี้ยากี้ครับ ว่าควรวางเรียงเนื้อสัตว์ กับผักยังไง วิธีการเลือกใช้ไฟ และการทำสุกี้ยากี้หมู
ผ่านไปประมาณ 3-4 นาที เครื่องดื่มก็นำมาเสริฟ์ครับ เนื่องด้วยที่นี่ใช้เป็นแก้วพลาสติก และทางร้านแจ้งไว้บนประกาศหน้าร้านครับ ว่าเราสามารถนำแก้วเครื่องดื่มกลับออกไปทานที่บ้านได้เลยนะครับ น้ำในเมนูก็จะมีให้เลือกระหว่าง น้ำอัดลม ชาลิปตัน และชาเขียวครับ สำหรับน้ำเปล่า อันนี้คิดค่าบริการนะครับ จากนั้นก็จะเป็นหม้อน้ำซุป น้ำจิ้ม และไข่ไก่เริ่มทะยอยมาครับ
จากนั้นไม่นาน รายการของสดที่สั่ง ก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์ครับ
ทันทีที่ของสดนำออกมาวางบนโต๊ะ อย่างแรกที่เราเริ่มสงสัยก็คือ ผัก 3 อย่าง ดูยังไงมันก็คือ ผัก 2 อย่าง จริงๆควรจะเป็นกิมจิ แทนผักเขียวๆสักช่องนึงไหม จึงถามน้องพนักงานว่า กิมจิหมดเหรอ น้องพนักงานบอกว่ามีค่ะ เราก็เลยบอกว่า งั้นทำไมผัก 3 อย่างของเราหน้าตาไม่เหมือนในเมนูเลย มีผักเขียวๆ เบิ้ลมา 2 ช่อง น้องพนักงานจึงนำกิมจิมาให้เราใหม่ 1 ถ้วย
ต่อมาครับ ปัญหาใหญ่ของทานการเนื้อหมูระดับ 8 นั่นก็คือ หมูสันคอ เรามองส่องยังไง มันก็คือ หมูสันนอกหรือเปล่า ถามน้องพนักงานอีกรอบ น้องพนักงานก็ยืนยันบอกว่า หมูสันคอค่ะ เอาวะ ร้านอาหารบอกว่า สันคอ ก็เลยลองจุ่มลงในหม้อชาบู ทานดู ความรู้สึกชืดๆ ระดับนี้ หมูสันนอกนี่นา ที่ผ่านมาก็กินหมูสันคอมาเยอะนะ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน รอบนี้ขอถามระดับเหมือนจะเป็นหัวหน้าพนักงานครับ (แยกจากชุดเครื่องแต่งกายที่แตกต่างจากพนักงานคนอื่น)
ทางน้องหัวหน้ารับเรื่องแล้วก็เดินหายเข้าไปทางครัวที่จัดเตรียมอาหาร พร้อมเดินกลับมาแจ้งว่า ถูกต้องแล้วค่ะ นี่คือหมูสันคอ แต่พอดี สันคอก้อนที่กำลังหั่นให้ลูกค้าเป็นก้อนที่ไม่มีมันเลยค่ะ เป็นเนื้อล้วนๆ ก็เลยได้เป็นแบบนี้ออกมา ถ้ามองเทียบกับรูปแล้ว ก็คนละเรื่องครับ หน้าตาก็เหมือนรูปหมูสันนอก รสชาติก็เหมือนหมูสันนอก แต่ในเมื่อทางร้านยืนยันอีก เราก็คงต้องทานตามนั้นล่ะครับ แล้วน้องหัวหน้าคนเดิม ก็เดินกลับมาใหม่พร้อมหมู 2 จาน
สิ่งที่น้องหัวหน้าพนักงานติดมือกลับมาคือ หมูสันคอคุโรบูตะ น้องแจ้งว่า อันนี้เป็นของ Set ที่ราคาแพงกว่าที่ทางลูกค้าเลือกทานนะคะ แต่ทางร้านนำออกมาให้ทาน จะด้วยเหตุผลประการใด อันนี้เราก็ขอขอบคุณน้องนะครับ ให้ความรู้สึกว่า เราได้กินหมูสันคอกันสักที หลังจากทานไปสักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่าชาบูไม่ค่อยตอบโจทย์เราสักเท่าไร เพราะทานได้แต่เบคอนกันล่ะทีนี้ เอ่ยปากสั่งหมูสันคอ ก็จะได้เป็นหมูสันคอที่ไม่มีมันเลย หน้าตาคล้ายหมูสันนอก จะสั่งสันคอหมูคุโรบูตะ ก็เกรงใจทางร้าน เพราะต้องเอาในราคาที่แพงกว่ามาให้
จึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวในการทานล่ะกัน ในเมื่อร้านอาหารก็ชื่อ sukiyaki หลังจากสอบถามทางพนักงาน ถึงราคาถ้าเราทำการเปลี่ยนหม้อ น้องพนักงานแจ้งว่า ค่าบริการเปลี่ยนน้ำซุป / หม้อ ราคา 50 บาท เป็นราคาที่ไม่แพงนะครับ สำหรับการเปลี่ยน และเราก็ได้หม้อสุกี้ยากี้มาใหม่แทน ราดด้วยน้ำมันพืช
เมื่อกะทะสุกี้ยากี้เราพร้อมในการทานแล้วก็เริ่มสั่งอาหารมากันอีกรอบ โดยทานตามวิธีที่แนะนำในกระดาษที่วางรองจาน อยู่บนโต๊ะ จุ่มเนื้อหมูลงไปผัดด้านละไม่เกิน 5 วินาที ทำทั้งหมดภายใน 15 วินาที ทานตอนที่ยังมีเนื้อสีชมพูจางๆ จากนั้นนำเนื้อหมูมาจุ่มลงในไข่ไก่สด แล้วรับประทานทันที ความรู้สึกที่ได้รับ อืม...อร่อยแฮะ ถ้าน้ำซุปเริ่มจางลง ทางร้านก็มีกาน้ำซุปสุกี้ยากี้ให้เติม ถ้าน้ำเข้มข้นเกิน ออกเค็มไป ก็เติมน้ำเปล่าลงไปครับ ทานวนไปเรื่อย ขอเติมหัวหอมใหญ่กันได้เรื่อยๆนะครับ จนกว่าจะหมดเวลา 2 ชั่วโมงในการทานอาหารครับ
ขอสรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวนะครับ สำหรับชาบูรสชาติธรรมดามาก ในราคา 390 บาท เรามีเนื้อสัตว์เพียงแค่ หมูสันคอ (ที่หน้าตาและรสชาติหมูสันนอก) หมูสันนอก เบคอน หมู/กุ้งเด้ง จากนั้นรายการอื่นๆ คือผักครับ เบคอนรสชาติทานได้ หั่นมาหนาบ้าง บางบ้าง แล้วแต่อารมณ์คนหั่นมั้งครับ บางจานที่เจอนี่หนาขนาดเกือบครึ่งเซนกันเลยทีเดียว กะหล่ำปลีฝอยจานแรกที่ได้จะเห็นว่า ผักนี่เหี่ยวมาเลยครับ อาจจะหั่นไว้นาน ไม่ค่อยมีคนสั่งหรือเปล่า เส้นบุกที่สั่งได้มาเป็นบุกรูปปลาหมึกครับ ถามน้องพนักงาน คำตอบที่ได้ก็คือ นี่ล่ะค่ะ เส้นบุก บุกเหมือนกัน ผลก็คือทางเราขอคืนจานนี้ครับ เพราะอยากทานเป็นเส้น ไม่ได้อยากทานเป็นรูปปลาหมึก สรุปไม่ประทับใจเมนูชาบูเลยครับ ที่อร่อยที่สุดในชาบู คงเป็นไข่ไก่สดครับ สดดี
ขอต่อที่ ผัก 3 อย่าง ติดใจจริงๆ คือ ผักออกมาเหี่ยวแห้งมาก และที่สำคัญคือเราได้ 2 อย่าง ไมไ่ด้ 3 อย่าง ทั้งๆที่กิมจิก็มี รสชาติกิมจิ แอบเครียดเล็กน้อยครับ สำหรับยำสาหร่าย รสชาติพอทานได้ และเมื่อหลังจากเรามาทานเมนูตามชื่อร้าน สุกี้ยากี้ อันนี้ดีขึ้นครับ รสชาติน้ำซุปอร่อยดี ทานแบบขลุกขลิก เอาเบคอนมาจุ่มผัด ทานกับไข่ไก่แล้ว ฟิน อร่อยมาก แต่เมนูนี้ทานปริมาณมากขึ้น จะเริ่มรู้สึกเค็มในคอขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดานะครับ เพราะฉะนั้นควรทานน้ำเยอะๆตามไปทีหลังด้วย ไม่อย่างนั้น ตื่นเช้ามา จะรู้สึกว่าคอแห้งผาก
เครื่องดื่ม น้ำชาเขียวที่นี่รสชาติค่อนข้างจางนะครับ ทำให้หลังจากแก้วแรกแล้ว เราเปลี่ยนเป็นชาลิปตันแทน ถึงแม้รสชาติจะออกหวานนิดนึง แต่ก็ดีกว่าชาเขียวครับ ตบท้ายด้วยสไปรท์แก้เลี่ยนจากรสชาติเค็มของสุกี้ยากี้
ถ้าหมูสันคอ เป็นสันคอที่รสชาติไม่ใช่หมูสันนอก มีของหวานให้ทานในเมนูบุฟเฟ่ต์เพื่อตัดรสความเค็มของน้ำสุกี้ยากี้ มีโอกาสคงจะกลับมาทานที่ร้านนี้อีกครั้งครับ ถ้าท่านเป็นคนชอบทานผักมากกว่าเนื้อสัตว์ ร้านนี้คงจะตอบโจทย์ได้ครับ เพราะเมนูผักมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ นับได้หลายรายการ สำหรับราคาเซ็ท 390 บาทครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านการรีวิวของเรานะครับ
สามารถติดตามอ่านร้านอื่นๆได้ใน
http://jaaechoun.blogspot.com
http://www.facebook.com/J2ctravel/
ชื่อสินค้า:
SLOTH SUKIYAKI สุกี้ยากี้ ชาบู
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
[รีวิว] Mo-Mo Paradise สาขา Central Westgate: เนื้อพรีเมียม 599+ พร้อมเคล็ดลับกินยังไงให้ฟินสุด ๆ!
https://www.youtube.com/watch?v=ekKo79W2jKwสวัสดีเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคนครับ วันนี้ผมขอมารีวิวบุฟเฟต์ที่ผมเชื่อว่าสายเนื้อและชาบู-สุกี้ยากี้ต้องชอบแน่นอน นั่นก็คือ Mo-Mo Paradise สาขา Central Westgate
SarinPoom
สุกี้น้ำ 🍲🐷 เมนูวันหยุด เมนูทำกินเองง่ายๆได้ที่บ้าน 🏫❤️
สวัสดีค่ะ วันหยุดก็มาทำอะไรง่ายๆ สุกี้น้ำ 🍲🐷 เมนูวันหยุด เมนูทำกินเองง่ายๆได้ที่บ้าน 🏫❤️ กันค่ะ ส่วนประกอบ - หมูสันคอและสามชั้นสไลด์ - ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ปลา ปูอัด - ไข่ไก่ 1 ฟอง - วุ้นเส้นญี่ปุ่น
สาวโรงงานชั้นสิบแปด
BufFeast Review : "ฮ้อน" บุฟเฟ่ต์หม้อต้มและอาหารอิสาน ติดถนนใหญ่ @ถ.บรมราชชนนี
เปิดปีใหม่มาพร้อมลมเย็นโชยๆ ผมเลยอยากอาหารแนวต้มตุ๋นร้อนๆดู ก็เลยเลือกร้าน ฮ้อน ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์หม้อต้มบวกกับอาหารอิสาน อันโปรดปรานของใครหลายๆคน อีกทั้งยังเป็นแนวที่แปลกใหม่สำ
TheHeatBufFeast
สุกี้ตี๋ใหญ่ บางปู :: อาหารสด สะอาด บริการดี นั่งยาวไป 2 ชั่วโมง
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆคนเลยนะค่ะ หลังจากที่ห่างหายจากการรีวิวในพันทิปไปนานกว่า 1 ปี วันนี้ จขกท. กลับมาแล้วค่ะ จะมารีวิวร้านบุฟเฟ่ต์สุกี้ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันค่ะ พร้อมแล้วไปกันเล่ยยยย.... ร้า
บันทึกรักฟลามิงโก้
Hidden Gems ในสนามกอล์ฟชื่อดังย่านเลียบด่วน ที่ไม่อยากให้เป็นแค่ร้านลับแล้ว
ALL DAY by Phothalai Bangkok ร้านลับ hidden gems ในสนามกอล์ฟชื่อดัง ย่านเลียบด่วน ที่ไม่อยากให้เป็นแค่ร้านลับแล้ว ขอแชร์ต่อบอกต่อเลยละกัน เพราะร้านนี้มีของดีจริง ทั้งอาหารอร่อ
มิกิชวนกิน
รีวิวสุกี้ตำหรับญี่ปุ่นแท้ๆจากร้าน sloth sukiyaki
เพื่อนๆเคยทานสุกี้กันใช่มั้ยครับ จริงๆแล้วสุกี้เนี่ย มันมีวิธีกินที่ต่างจากที่เราทานกันทั่วไปอยุ่ทุกวันนี้ คือจะเริ่มจากตั้งกะทะด้วยไฟที่พอเหมาะ แล้วเอาเนื้อสัตว์ที่ต้องการจะกินลงไปผัดกับเนยจนเปลี่ยนส
เชฟปรือ
:::: สุกี้ฮ่องกง ร้าน Ning Kee เล่งกี่ ฮอทพอต ::::
:::: ชาบู สุกี้ฮ่องกง :::: ร้าน Ning Kee เล่งกี่ ฮอทพอต ตั้งอยู่ที่ Esplanade รัชดา ชั้น 2 ไปทานวันจันทร์ แบบ Premium Buffet 498.- ( ไม่ทานติ่มซำ ) ได้รับส่วนลด 20% ไปเวลาประมาณ 19.00 น. คนเยอะพอสมคว
สมาชิกหมายเลข 1048638
MK Live ห้างEmquartier
กระแสรักสุขภาพทานคลีนกำลังมาแรง ร้านอาหารที่เกิดขึ้นใหม่ๆปีนี้จึงอิงกระแสรักสุขภาพกับเค้าด้วยเช่นกัน ร้านMK liveก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ พิกัดร้านmk live อยู่ที่ห้างEmquartier โซน Helix ชั้น 6 ค่ะ หากมา
คุณค่าที่พุงคู่ควร
ผัดสะเดาหมู 🌶️🧄🌶️🌿ของอร่อย สายขม 🤤😋😁😅✌
ผัดสะเดาหมู 🌶️🧄🌶️🌿ของอร่อย สายขม 🤤😋😁😅✌ ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อน ว่า กท. นี้ จะเน้น คนที่ทานของขมได้นะครับ เพราะทานสะเดา ก็จะติดข
กานต์(วีระพัฒน์)
BufFeast Review : บุกร้าน "God of Grill" กับโปรบุฟเฟ่ต์สเต๊กในเมืองสุดหายาก @ซอยมโนรม ถ.พระรามสี่
ในระหว่างเสาะหาร้านไปกินช่วงปีใหม่นี้ ก็เหลือบไปเห็นกับโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ของร้านนึง เป็นร้านสเต็ก นามว่า ก๊อต ออฟ กริลล์ สเต๊ก ตั้งอยู่ในซอยมโนรม เส้นพระราม 4 เลย อันตัวผมก็ไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์สเต๊กมานานม
TheHeatBufFeast
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารปิ้งย่าง
ร้านอาหาร
อาหารญี่ปุ่น
อาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 37
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Sloth Sukiyaki
ร้าน Gin Zaab ชาบู ก็เคยทานแล้วหลายครั้ง ไหนๆก็ไม่ค่อยหิวมากเท่าไร และอยู่ในช่วงควบคุมอาหาร เลยปรึกษากันว่า เราลองทานร้านใหม่ๆล่ะกัน ไว้เป็นทางเลือกในอนาคตด้วย เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็เจอร้านที่น่าสนใจอยู่ 2 ร้าน คือ ร้าน Gojira yakiniku ร้านปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ ด้วยพวกเราไม่ทานเนื้อกันอยู่แล้ว ทำให้ราคาต่อท่านอยู่ที่ 398 บาท (Net แล้ว ไม่มีต้องเพิ่มค่าอะไรอีก) มีเนื้อหมูหลายอย่างให้เลือกทาน และมีกุ้งแม่น้ำ มี ซุป มีของหวานด้วย พร้อมเครื่องดื่ม กับอีกร้านคือ Sloth Sukiyaki ราคาต่อท่านที่ 390 บาท (Net แล้วไม่มีต้องเพิ่มค่าอะไรอีกเช่นกัน) สำหรับชุดธรรมดา ก็จะมีหมู 3 อย่าง สันคอ สันนอก และเบคอน จากนั้นก็บรรดาผัก และมีเครื่องดื่มพร้อม แต่ไม่มีขนมหวานในชุดธรรมดานะครับ
หลังจากตัดสินใจกันด้วยการ เป่า ยิ้ง ฉุบ ผลที่ออกก็คือ ทานกันที่ร้าน Sloth Sukiyaki ที่หน้าร้านจะมีป้ายสำหรับผู้ที่ใช้มือถือค่าย Dtac นะครับ สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ 5% สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม โดยไม่สามารถใช้กับการทาน Premium Set นะครับ เมื่อเดินเข้าไปภายในร้านแล้ว แจ้งจำนวนลูกค้ากับทางน้องพนักงาน เราก็เลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัยนะครับ โต๊ะสำหรับทานอาหาร ค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย มีหมอนอิงให้รองด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการคีบทานอาหาร ไม่ต้องเมื่อย นั่งตัวตรงเอื้อมมือคีบตักอาหารครับ
หลังจากนั่งเป็นที่เรียบร้อย น้องพนักงานจะถามว่า เราจะทานแบบไหน เมื่อเลือก Set ราคาที่ต้องการแล้ว จากนั้นจะเป็นการเลือกว่า จะทานแบบ ชาบู หรือ สุกี้ยากี้ ด้วยความเคยชิน เราจึงเลือกแบบเป็นชาบู โดยสามารถเลือกน้ำซุปทานได้ 2 แบบนะครับ เราก็เลือกเป็นแบบซุปคอมบุ (ใส) กับ ซุปปลาโอ (ดำ)
ระหว่างรอหม้อและอาหารที่นำมาเสริฟ์ เราก็มาทำการสำรวจของบนโต๊ะกันครับ บนโต๊ะก็มีทิชชู่กล่อง มีพริก กระเทียม ชุดอุปกรณ์การทานอาหาร พวกจาน ชาม ตะเกียบ ช้อน กระดาษรองข้างใต้ จะมีการแนะนำวิธีในการทานสุกี้ยากี้ครับ ว่าควรวางเรียงเนื้อสัตว์ กับผักยังไง วิธีการเลือกใช้ไฟ และการทำสุกี้ยากี้หมู
ผ่านไปประมาณ 3-4 นาที เครื่องดื่มก็นำมาเสริฟ์ครับ เนื่องด้วยที่นี่ใช้เป็นแก้วพลาสติก และทางร้านแจ้งไว้บนประกาศหน้าร้านครับ ว่าเราสามารถนำแก้วเครื่องดื่มกลับออกไปทานที่บ้านได้เลยนะครับ น้ำในเมนูก็จะมีให้เลือกระหว่าง น้ำอัดลม ชาลิปตัน และชาเขียวครับ สำหรับน้ำเปล่า อันนี้คิดค่าบริการนะครับ จากนั้นก็จะเป็นหม้อน้ำซุป น้ำจิ้ม และไข่ไก่เริ่มทะยอยมาครับ
จากนั้นไม่นาน รายการของสดที่สั่ง ก็เริ่มทะยอยนำออกมาเสริฟ์ครับ
ทันทีที่ของสดนำออกมาวางบนโต๊ะ อย่างแรกที่เราเริ่มสงสัยก็คือ ผัก 3 อย่าง ดูยังไงมันก็คือ ผัก 2 อย่าง จริงๆควรจะเป็นกิมจิ แทนผักเขียวๆสักช่องนึงไหม จึงถามน้องพนักงานว่า กิมจิหมดเหรอ น้องพนักงานบอกว่ามีค่ะ เราก็เลยบอกว่า งั้นทำไมผัก 3 อย่างของเราหน้าตาไม่เหมือนในเมนูเลย มีผักเขียวๆ เบิ้ลมา 2 ช่อง น้องพนักงานจึงนำกิมจิมาให้เราใหม่ 1 ถ้วย
ต่อมาครับ ปัญหาใหญ่ของทานการเนื้อหมูระดับ 8 นั่นก็คือ หมูสันคอ เรามองส่องยังไง มันก็คือ หมูสันนอกหรือเปล่า ถามน้องพนักงานอีกรอบ น้องพนักงานก็ยืนยันบอกว่า หมูสันคอค่ะ เอาวะ ร้านอาหารบอกว่า สันคอ ก็เลยลองจุ่มลงในหม้อชาบู ทานดู ความรู้สึกชืดๆ ระดับนี้ หมูสันนอกนี่นา ที่ผ่านมาก็กินหมูสันคอมาเยอะนะ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน รอบนี้ขอถามระดับเหมือนจะเป็นหัวหน้าพนักงานครับ (แยกจากชุดเครื่องแต่งกายที่แตกต่างจากพนักงานคนอื่น)
ทางน้องหัวหน้ารับเรื่องแล้วก็เดินหายเข้าไปทางครัวที่จัดเตรียมอาหาร พร้อมเดินกลับมาแจ้งว่า ถูกต้องแล้วค่ะ นี่คือหมูสันคอ แต่พอดี สันคอก้อนที่กำลังหั่นให้ลูกค้าเป็นก้อนที่ไม่มีมันเลยค่ะ เป็นเนื้อล้วนๆ ก็เลยได้เป็นแบบนี้ออกมา ถ้ามองเทียบกับรูปแล้ว ก็คนละเรื่องครับ หน้าตาก็เหมือนรูปหมูสันนอก รสชาติก็เหมือนหมูสันนอก แต่ในเมื่อทางร้านยืนยันอีก เราก็คงต้องทานตามนั้นล่ะครับ แล้วน้องหัวหน้าคนเดิม ก็เดินกลับมาใหม่พร้อมหมู 2 จาน
สิ่งที่น้องหัวหน้าพนักงานติดมือกลับมาคือ หมูสันคอคุโรบูตะ น้องแจ้งว่า อันนี้เป็นของ Set ที่ราคาแพงกว่าที่ทางลูกค้าเลือกทานนะคะ แต่ทางร้านนำออกมาให้ทาน จะด้วยเหตุผลประการใด อันนี้เราก็ขอขอบคุณน้องนะครับ ให้ความรู้สึกว่า เราได้กินหมูสันคอกันสักที หลังจากทานไปสักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่าชาบูไม่ค่อยตอบโจทย์เราสักเท่าไร เพราะทานได้แต่เบคอนกันล่ะทีนี้ เอ่ยปากสั่งหมูสันคอ ก็จะได้เป็นหมูสันคอที่ไม่มีมันเลย หน้าตาคล้ายหมูสันนอก จะสั่งสันคอหมูคุโรบูตะ ก็เกรงใจทางร้าน เพราะต้องเอาในราคาที่แพงกว่ามาให้
จึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวในการทานล่ะกัน ในเมื่อร้านอาหารก็ชื่อ sukiyaki หลังจากสอบถามทางพนักงาน ถึงราคาถ้าเราทำการเปลี่ยนหม้อ น้องพนักงานแจ้งว่า ค่าบริการเปลี่ยนน้ำซุป / หม้อ ราคา 50 บาท เป็นราคาที่ไม่แพงนะครับ สำหรับการเปลี่ยน และเราก็ได้หม้อสุกี้ยากี้มาใหม่แทน ราดด้วยน้ำมันพืช
เมื่อกะทะสุกี้ยากี้เราพร้อมในการทานแล้วก็เริ่มสั่งอาหารมากันอีกรอบ โดยทานตามวิธีที่แนะนำในกระดาษที่วางรองจาน อยู่บนโต๊ะ จุ่มเนื้อหมูลงไปผัดด้านละไม่เกิน 5 วินาที ทำทั้งหมดภายใน 15 วินาที ทานตอนที่ยังมีเนื้อสีชมพูจางๆ จากนั้นนำเนื้อหมูมาจุ่มลงในไข่ไก่สด แล้วรับประทานทันที ความรู้สึกที่ได้รับ อืม...อร่อยแฮะ ถ้าน้ำซุปเริ่มจางลง ทางร้านก็มีกาน้ำซุปสุกี้ยากี้ให้เติม ถ้าน้ำเข้มข้นเกิน ออกเค็มไป ก็เติมน้ำเปล่าลงไปครับ ทานวนไปเรื่อย ขอเติมหัวหอมใหญ่กันได้เรื่อยๆนะครับ จนกว่าจะหมดเวลา 2 ชั่วโมงในการทานอาหารครับ
ขอสรุปรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวนะครับ สำหรับชาบูรสชาติธรรมดามาก ในราคา 390 บาท เรามีเนื้อสัตว์เพียงแค่ หมูสันคอ (ที่หน้าตาและรสชาติหมูสันนอก) หมูสันนอก เบคอน หมู/กุ้งเด้ง จากนั้นรายการอื่นๆ คือผักครับ เบคอนรสชาติทานได้ หั่นมาหนาบ้าง บางบ้าง แล้วแต่อารมณ์คนหั่นมั้งครับ บางจานที่เจอนี่หนาขนาดเกือบครึ่งเซนกันเลยทีเดียว กะหล่ำปลีฝอยจานแรกที่ได้จะเห็นว่า ผักนี่เหี่ยวมาเลยครับ อาจจะหั่นไว้นาน ไม่ค่อยมีคนสั่งหรือเปล่า เส้นบุกที่สั่งได้มาเป็นบุกรูปปลาหมึกครับ ถามน้องพนักงาน คำตอบที่ได้ก็คือ นี่ล่ะค่ะ เส้นบุก บุกเหมือนกัน ผลก็คือทางเราขอคืนจานนี้ครับ เพราะอยากทานเป็นเส้น ไม่ได้อยากทานเป็นรูปปลาหมึก สรุปไม่ประทับใจเมนูชาบูเลยครับ ที่อร่อยที่สุดในชาบู คงเป็นไข่ไก่สดครับ สดดี
ขอต่อที่ ผัก 3 อย่าง ติดใจจริงๆ คือ ผักออกมาเหี่ยวแห้งมาก และที่สำคัญคือเราได้ 2 อย่าง ไมไ่ด้ 3 อย่าง ทั้งๆที่กิมจิก็มี รสชาติกิมจิ แอบเครียดเล็กน้อยครับ สำหรับยำสาหร่าย รสชาติพอทานได้ และเมื่อหลังจากเรามาทานเมนูตามชื่อร้าน สุกี้ยากี้ อันนี้ดีขึ้นครับ รสชาติน้ำซุปอร่อยดี ทานแบบขลุกขลิก เอาเบคอนมาจุ่มผัด ทานกับไข่ไก่แล้ว ฟิน อร่อยมาก แต่เมนูนี้ทานปริมาณมากขึ้น จะเริ่มรู้สึกเค็มในคอขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดานะครับ เพราะฉะนั้นควรทานน้ำเยอะๆตามไปทีหลังด้วย ไม่อย่างนั้น ตื่นเช้ามา จะรู้สึกว่าคอแห้งผาก
เครื่องดื่ม น้ำชาเขียวที่นี่รสชาติค่อนข้างจางนะครับ ทำให้หลังจากแก้วแรกแล้ว เราเปลี่ยนเป็นชาลิปตันแทน ถึงแม้รสชาติจะออกหวานนิดนึง แต่ก็ดีกว่าชาเขียวครับ ตบท้ายด้วยสไปรท์แก้เลี่ยนจากรสชาติเค็มของสุกี้ยากี้
ถ้าหมูสันคอ เป็นสันคอที่รสชาติไม่ใช่หมูสันนอก มีของหวานให้ทานในเมนูบุฟเฟ่ต์เพื่อตัดรสความเค็มของน้ำสุกี้ยากี้ มีโอกาสคงจะกลับมาทานที่ร้านนี้อีกครั้งครับ ถ้าท่านเป็นคนชอบทานผักมากกว่าเนื้อสัตว์ ร้านนี้คงจะตอบโจทย์ได้ครับ เพราะเมนูผักมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ นับได้หลายรายการ สำหรับราคาเซ็ท 390 บาทครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านการรีวิวของเรานะครับ
สามารถติดตามอ่านร้านอื่นๆได้ใน
http://jaaechoun.blogspot.com
http://www.facebook.com/J2ctravel/