Yen Press
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.b2c.hachettebookgroup.com/titles/none/the-case-study-of-vanitas-chapter-24/9780316446167/?yen
Kobo
https://www.kobo.com/th/en/ebook/the-case-study-of-vanitas-chapter-24
- พวกวานิทัสนั่งเกวียนเข้าสู่มณฑลเฌโวด็อง ปัจจุบันคือ จังหวัดโลแซร์ (Lozère) แถบเขามาร์เฌอรีด์ (Margeride)
อยู่ทางตอนกลางบริเวณภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส
- ได้ออกจากกรุงปารีสมาเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติ โนเอะก็คิดถึงบ้านในอัลทัสของตัวเองที่แคว้นอาเวอรวญ (Averoigne) ขึ้นมา
แต่ทางวานิทัสกลับแพ้ความหนาวอย่างรุนแรง ได้แต่นั่งตัวสั่นงั่กๆ อยู่บนเกวียน
- การเดินทางคราวนี้มีดันเต้กับโยฮันตามมาด้วย ดันเต้ออกตัวว่าพวกแดมเพียร์ (ลูกครึ่งแวมไพร์-มนุษย์)
อย่างเขาไม่สนความเป็นความตายของแวมไพร์หรือมนุษย์หรอก ที่มายุ่งด้วยก็เพื่อเงินเท่านั้น
แต่วานิทัสก็ตั้งข้อสังเกตกับโนเอะว่าพวกเขาน่าจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ไม่งั้นคงไม่ลงทุนมาเสี่ยงอันตรายถึงที่นี่หรอก
- ถึงเมืองต้นเหตุ พวกวานิทัสพยายามถามรายละเอียดเกี่ยวกับป่าที่พบศพของผู้เคราะห์ร้ายจากชาวบ้าน
แต่ไม่มีใครให้ความร่วมมือด้วยเลย จนกระทั่งมีเด็กเข้ามาถามว่า “คุณเองก็มาฆ่าเจ้าสัตว์ร้ายเหมือนกันเหรอ?”
ทำให้พวกเขารู้ว่า เชสเซอร์ (นักล่า/นายพราน) ของศาสนจักรได้มาถึงก่อนแล้ว
เด็กอีกคนเตือนพวกเขาด้วยสีหน้าไม่สบายใจว่าอย่าไปแถวนั้นจะดีกว่า "ในป่าสีเงินนั่นมีแม่มดชั่วร้ายอาศัยอยู่"
- โดนทักแบบนั้น ก็ยิ่งต้องไปดูให้เห็นกับตา พวกวานิทัสเดินเข้าไปสำรวจในป่า บรรยากาศค่อนข้างรกครึ้ม
ดันเต้ที่ปากดีแต่ความจริงขี้ป๊อด เลยออกอาการประสาทขึ้นมาหน่อยๆ กลัวว่าจะไปเจอหมี ไม่ก็พวกหมาป่าขึ้นมา
ขณะที่โนเอะอารมณ์ดีสุดๆ เพราะบรรยากาศเหมือนแถวบ้านของตัวเอง
แต่ระหว่างที่เดินๆ อยู่ หัวก็ไปชนเข้ากับกิ่งไม้จนหมวกที่ใส่อยู่หลุดกลิ้งออกไปนอกทางเดิน
- วานิทัสหันไปคุยกับดันเต้และโยฮันได้แป๊ปเดียว เจ้าเด๋อก็ก่อเรื่องทันที
^
อยากแนะนำให้ซื้อสายจูงเด็กจังเลย..
- โนเอะเก็บหมวกได้ แต่พอหันกลับมาดูข้างหลังก็พบว่าทุกคนหายไปแล้ว เหลือแค่ตัวเขากับมูร์
(โนเอะ:
“นี่มัน..หรือว่า..นี่คืออาถรรพ์ป่าแม่มดเหรอ!!?”) (...โนเอะโว้ย)
- พร้อมกันนั้น ทุกคนเริ่มรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างผิดแผกไป แต่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร
“ทำไมถึงเรียกที่นั่นว่าป่าสีเงินล่ะ?”
“....ก็เพราะมันเป็นอย่างที่เรียกนั่นแหล่ะ”
นั่นคือคำตอบของเด็กในเมืองที่พวกเขาคุยด้วย
จู่ๆ หิมะก็ร่วงโปรยปรายลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทั้งที่ยังไม่ถึงฤดูหนาว
- หลังจากตกใจกันแบบพอหอมปากหอมคอ วานิทัส ดันเต้ กับโยฮัน
ก็เห็นคณะเดินทางที่แต่งตัวแปลกๆ กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ พวกเขาเลยหมอบซุ่มดูอยู่ห่างๆ
พอฟังที่คุยกันก็พอจับใจความได้ว่า มีคนท่าทางน่าสงสัยอยู่กับศาสนจักร แต่คนที่เป็นหัวหน้าบอกว่าไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น
ตอนนี้พวกเขาต้องรีบตามหาสัตว์ร้ายให้เจอแล้วส่งซากสตัฟฟ์ของมันกลับไปหาพระองค์ที่พระราชวังแวร์ซาย
(ดันเต้: เดี๋ยวนะ พระราชาอะไร?)
(การปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1789-1799 ยุคก่อนหน้าพวกวานิทัสจะเกิด
ดังนั้นในเรื่องปัจจุบัน ฝรั่งเศสจึงไม่ได้ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แล้ว)
วานิทัสบอกว่า คนพวกนี้คือหน่วยทหารม้า (Dragoon) ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นหน่วยที่ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 15
ให้จัดการกับคดีสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง... กลายเป็นว่าพวกเขาหลุดเข้ามาในอดีตเหรอ!?
- ยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อ วานิทัสก็ตัวแข็งทื่อเพราะได้ยินเสียงลมหายใจรดข้างหู
ดวงตาขนาดยักษ์สามดวงเปิดขึ้นมองชายหนุ่มพร้อมกับส่งเสียงคำราม
- ด้านโนเอะ(กับมูร์)ก็วิ่งเปะปะพร้อมกับร้องหาทุกคน
ระหว่างที่วิ่งๆ อยู่ โนเอะก็เห็นคนวิ่งสวนมาด้วยอาการตื่นตระหนกสุดขีด ชายคนนั้นตะโกนร้องขอให้โนเอะช่วย
ทว่าสิ่งที่ไล่ล่าเขาอยู่ตามมาทัน แล้วกระโจนใส่ชายที่กำลังหนีจนล้มคว่ำลง
และผู้ล่าก็คือ...
- แอสโทลโฟไม่พูดพล่ามทำเพลง เอาหอกแทงใส่อีกฝ่ายทันที แต่โนเอะไวกว่าเลยกระโดดหลบทัน
พาลาดินหนุ่มควงหอกมาเก็บไว้ด้านหลังแล้วโค้งให้เล็กน้อยด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ
แล้วจึงทักว่า
“เราเจอกันอีกแล้วสินะ? มองสิเออร์”
โนเอะสังเกตว่าศพของชายที่พึ่งถูกฆ่าไม่กลายเป็นขี้เถ้า นั่นหมายความว่าคนๆ นี้เป็นมนุษย์
ทำไมเชสเซอร์ถึงได้ฆ่ามนุษย์ล่ะ!?
- ด้านพวกวานิทัสที่เจอเข้ากับสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องในระยะเผาขนก็พากันวิ่งหนี
แต่กลับถูกฝูงหมาป่าลูกสมุนล้อมโจมตี
เจ้าสัตว์ร้ายที่รูปกายเป็นหมาป่าขนาดยักษ์มีดวงตาสีแดงข้างละสามดวงคำรามอย่างเดือดดาล
มันทำการไล่สังหารพวกทหารโดยที่ลูกปืนไม่ได้ระคายผิวของมันเลย ดันเต้เห็นทหารคนหนึ่งถูกม้าล้มทับจนลุกหนีไม่ได้
เลยจะเข้าไปช่วย แต่โยฮันดึงแขนห้ามเอาไว้ เขาจึงต้องปล่อยให้ชายคนนั้นโดนพวกหมาป่ารุมฉีกเป็นชิ้นๆ
- วานิทัสพยายามนึกชื่อนามแห่งลางร้าย (Malnomen) ของแวมไพร์ที่เกี่ยวกับการย้อนอดีต
หรืออะไรก็ตามที่สามารถสร้างสถานการณ์ประหลาดแบบนี้ขึ้นมาได้
แต่เพราะต้องรับมือกับพวกหมาป่าไปด้วยเลยพลาดท่าล้มหงายลงบนพื้นหิมะ
ทว่า!
มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเอาไว้ทันเวลาพอดี
โน—(เอะ!)
ไม่ใช่จ้า
คนงามแห่งอัลทัส
แวมไพร์สาวแสนดี
ณาน แม่มดเปลวเพลิงนรก at your service!!!
----จบตอน---
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ตัวละครหญิงที่พึ่งพาได้นี่มันเยี่ยมจริงๆ เตะสูงอัดคางหมาป่าแบบไม่กลัวลิงโผล่เลย
/ภาพตัดมาที่วานิทัส บุรุษผู้ปรับสถานะตัวเองให้เป็นนางเอกได้ในสามวินาที สู้เขานะนาย!
- โนเอะ ดันเจอคนบ้าเลือดสุดๆ คิดว่าคราวนี้คงเจรจาสันติภาพกันไม่รู้เรื่องแน่
ภาวนาให้โรลองด์กับโอลิวิเย่ร์ตามมาไวๆ ก่อนที่จะโดนเจื๋อน
- fc โดมิ อดทนรอไปก่อนนะ เจ๊โดนเด็กล่อลวงแล้วก็หายไปเลย
- บทนี้เซตติ้งเป็น หิมะ+ป่า ทำให้แฟนบอร์ดนอกหลายๆ คนนึกถึงตอนของออสวาลด์ใน PH
แต่เราจะลืมๆ เรื่องนั้นไปซะ
[Spoil] Vanitas no Carte ความทรงจำที่ 24 ทัวร์ชนบท ณ ผืนป่าสีเงิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- พวกวานิทัสนั่งเกวียนเข้าสู่มณฑลเฌโวด็อง ปัจจุบันคือ จังหวัดโลแซร์ (Lozère) แถบเขามาร์เฌอรีด์ (Margeride)
อยู่ทางตอนกลางบริเวณภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส
- ได้ออกจากกรุงปารีสมาเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติ โนเอะก็คิดถึงบ้านในอัลทัสของตัวเองที่แคว้นอาเวอรวญ (Averoigne) ขึ้นมา
แต่ทางวานิทัสกลับแพ้ความหนาวอย่างรุนแรง ได้แต่นั่งตัวสั่นงั่กๆ อยู่บนเกวียน
- การเดินทางคราวนี้มีดันเต้กับโยฮันตามมาด้วย ดันเต้ออกตัวว่าพวกแดมเพียร์ (ลูกครึ่งแวมไพร์-มนุษย์)
อย่างเขาไม่สนความเป็นความตายของแวมไพร์หรือมนุษย์หรอก ที่มายุ่งด้วยก็เพื่อเงินเท่านั้น
แต่วานิทัสก็ตั้งข้อสังเกตกับโนเอะว่าพวกเขาน่าจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ไม่งั้นคงไม่ลงทุนมาเสี่ยงอันตรายถึงที่นี่หรอก
- ถึงเมืองต้นเหตุ พวกวานิทัสพยายามถามรายละเอียดเกี่ยวกับป่าที่พบศพของผู้เคราะห์ร้ายจากชาวบ้าน
แต่ไม่มีใครให้ความร่วมมือด้วยเลย จนกระทั่งมีเด็กเข้ามาถามว่า “คุณเองก็มาฆ่าเจ้าสัตว์ร้ายเหมือนกันเหรอ?”
ทำให้พวกเขารู้ว่า เชสเซอร์ (นักล่า/นายพราน) ของศาสนจักรได้มาถึงก่อนแล้ว
เด็กอีกคนเตือนพวกเขาด้วยสีหน้าไม่สบายใจว่าอย่าไปแถวนั้นจะดีกว่า "ในป่าสีเงินนั่นมีแม่มดชั่วร้ายอาศัยอยู่"
- โดนทักแบบนั้น ก็ยิ่งต้องไปดูให้เห็นกับตา พวกวานิทัสเดินเข้าไปสำรวจในป่า บรรยากาศค่อนข้างรกครึ้ม
ดันเต้ที่ปากดีแต่ความจริงขี้ป๊อด เลยออกอาการประสาทขึ้นมาหน่อยๆ กลัวว่าจะไปเจอหมี ไม่ก็พวกหมาป่าขึ้นมา
ขณะที่โนเอะอารมณ์ดีสุดๆ เพราะบรรยากาศเหมือนแถวบ้านของตัวเอง
แต่ระหว่างที่เดินๆ อยู่ หัวก็ไปชนเข้ากับกิ่งไม้จนหมวกที่ใส่อยู่หลุดกลิ้งออกไปนอกทางเดิน
- วานิทัสหันไปคุยกับดันเต้และโยฮันได้แป๊ปเดียว เจ้าเด๋อก็ก่อเรื่องทันที
^ อยากแนะนำให้ซื้อสายจูงเด็กจังเลย..
- โนเอะเก็บหมวกได้ แต่พอหันกลับมาดูข้างหลังก็พบว่าทุกคนหายไปแล้ว เหลือแค่ตัวเขากับมูร์
(โนเอะ: “นี่มัน..หรือว่า..นี่คืออาถรรพ์ป่าแม่มดเหรอ!!?”) (...โนเอะโว้ย)
- พร้อมกันนั้น ทุกคนเริ่มรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างผิดแผกไป แต่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร
“ทำไมถึงเรียกที่นั่นว่าป่าสีเงินล่ะ?”
“....ก็เพราะมันเป็นอย่างที่เรียกนั่นแหล่ะ”
นั่นคือคำตอบของเด็กในเมืองที่พวกเขาคุยด้วย
จู่ๆ หิมะก็ร่วงโปรยปรายลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทั้งที่ยังไม่ถึงฤดูหนาว
- หลังจากตกใจกันแบบพอหอมปากหอมคอ วานิทัส ดันเต้ กับโยฮัน
ก็เห็นคณะเดินทางที่แต่งตัวแปลกๆ กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ พวกเขาเลยหมอบซุ่มดูอยู่ห่างๆ
พอฟังที่คุยกันก็พอจับใจความได้ว่า มีคนท่าทางน่าสงสัยอยู่กับศาสนจักร แต่คนที่เป็นหัวหน้าบอกว่าไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น
ตอนนี้พวกเขาต้องรีบตามหาสัตว์ร้ายให้เจอแล้วส่งซากสตัฟฟ์ของมันกลับไปหาพระองค์ที่พระราชวังแวร์ซาย
(ดันเต้: เดี๋ยวนะ พระราชาอะไร?)
(การปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1789-1799 ยุคก่อนหน้าพวกวานิทัสจะเกิด
ดังนั้นในเรื่องปัจจุบัน ฝรั่งเศสจึงไม่ได้ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แล้ว)
วานิทัสบอกว่า คนพวกนี้คือหน่วยทหารม้า (Dragoon) ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นหน่วยที่ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 15
ให้จัดการกับคดีสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง... กลายเป็นว่าพวกเขาหลุดเข้ามาในอดีตเหรอ!?
- ยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อ วานิทัสก็ตัวแข็งทื่อเพราะได้ยินเสียงลมหายใจรดข้างหู
ดวงตาขนาดยักษ์สามดวงเปิดขึ้นมองชายหนุ่มพร้อมกับส่งเสียงคำราม
- ด้านโนเอะ(กับมูร์)ก็วิ่งเปะปะพร้อมกับร้องหาทุกคน
ระหว่างที่วิ่งๆ อยู่ โนเอะก็เห็นคนวิ่งสวนมาด้วยอาการตื่นตระหนกสุดขีด ชายคนนั้นตะโกนร้องขอให้โนเอะช่วย
ทว่าสิ่งที่ไล่ล่าเขาอยู่ตามมาทัน แล้วกระโจนใส่ชายที่กำลังหนีจนล้มคว่ำลง
และผู้ล่าก็คือ...
- แอสโทลโฟไม่พูดพล่ามทำเพลง เอาหอกแทงใส่อีกฝ่ายทันที แต่โนเอะไวกว่าเลยกระโดดหลบทัน
พาลาดินหนุ่มควงหอกมาเก็บไว้ด้านหลังแล้วโค้งให้เล็กน้อยด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ
แล้วจึงทักว่า “เราเจอกันอีกแล้วสินะ? มองสิเออร์”
โนเอะสังเกตว่าศพของชายที่พึ่งถูกฆ่าไม่กลายเป็นขี้เถ้า นั่นหมายความว่าคนๆ นี้เป็นมนุษย์
ทำไมเชสเซอร์ถึงได้ฆ่ามนุษย์ล่ะ!?
- ด้านพวกวานิทัสที่เจอเข้ากับสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องในระยะเผาขนก็พากันวิ่งหนี
แต่กลับถูกฝูงหมาป่าลูกสมุนล้อมโจมตี
เจ้าสัตว์ร้ายที่รูปกายเป็นหมาป่าขนาดยักษ์มีดวงตาสีแดงข้างละสามดวงคำรามอย่างเดือดดาล
มันทำการไล่สังหารพวกทหารโดยที่ลูกปืนไม่ได้ระคายผิวของมันเลย ดันเต้เห็นทหารคนหนึ่งถูกม้าล้มทับจนลุกหนีไม่ได้
เลยจะเข้าไปช่วย แต่โยฮันดึงแขนห้ามเอาไว้ เขาจึงต้องปล่อยให้ชายคนนั้นโดนพวกหมาป่ารุมฉีกเป็นชิ้นๆ
- วานิทัสพยายามนึกชื่อนามแห่งลางร้าย (Malnomen) ของแวมไพร์ที่เกี่ยวกับการย้อนอดีต
หรืออะไรก็ตามที่สามารถสร้างสถานการณ์ประหลาดแบบนี้ขึ้นมาได้
แต่เพราะต้องรับมือกับพวกหมาป่าไปด้วยเลยพลาดท่าล้มหงายลงบนพื้นหิมะ
ทว่า!
มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเอาไว้ทันเวลาพอดี
โน—(เอะ!)
ไม่ใช่จ้า
คนงามแห่งอัลทัส
แวมไพร์สาวแสนดี
ณาน แม่มดเปลวเพลิงนรก at your service!!!
----จบตอน---
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้