มียักษ์ปรารถนาดีนำคาถามาถวายพระพุทธเจ้า
เพื่อช่วยคุ้มครองพระเณรและอุบาสอุบาสิกา
อ้างว่ายักษ์ที่นับถือพุทธก็มี
แต่ที่ไม่นับถือก็มี
จึงควรมอบคาถานี้ให้ไว้ป้องกัน
แล้วกล่าวคาถา
..บางตอนบรรยายถึงยักษ์ ซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวบางพวก ผมเห็นว่าน่าสนใจจึงนำมา
ดังนี้
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค
[๙. อาฎานาฎิยสูตร]
ภาณวารที่ ๑
.... [๒๘๑] อุตตรกุรุทวีปเป็นรมณียสถาน
มีภูเขาหลวงชื่อสิเนรุ แลดูงดงาม ตั้งอยู่ทางทิศใด
พวกมนุษย์ซึ่งเกิดในอุตตรกุรุทวีปนั้น
ไม่ยึดถือสิ่งใดว่าเป็นของตน ไม่ถือครอง
มนุษย์เหล่านั้น ไม่ต้องหว่านพืช
ไม่ต้องนำไถออกไถ
หมู่มนุษย์บริโภคข้าวสาลี
อันผลิผลในที่ที่ไม่ต้องไถ
พวกเขาหุงข้าวสาลีอันไม่มีรำ ไม่มีแกลบ
บริสุทธิ์ มีกลิ่นหอม มีเมล็ดเป็นข้าวสาร
บนเตาอันปราศจากควันและถ่าน๑-
แล้วบริโภคโภชนะจากที่นั้น
พวกเขาใช้แม่โคแทนม้ากีบเดี่ยว
แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้สัตว์เลี้ยงแทนม้ากีบเดี่ยว แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้หญิงเป็นพาหนะ๒- แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้ชายเป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้เด็กหญิงเป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้เด็กชายเป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
พระสนมทั้งหลายของท้าวมหาราชนั้น
ก็ขึ้นสู่ยานเหล่านั้น ตามห้อมล้อมไปทุกทิศ
ยานช้าง ยานม้า ยานทิพย์ ปราสาท และวอ
บังเกิดแก่ท้าวมหาราชผู้มียศ
ท้าวเธอทรงมีเมืองหลายเมืองที่สร้างในอากาศ
คือ เมืองอาฏานาฏา เมืองกุสินาฏา
เมืองปรกุสินาฏา เมืองนาฏปริยา เมืองปรกุสิฏนาฏา
------------------
@เชิงอรรถ :
@๑ เตาอันปราศจากควันและถ่าน ในที่นี้หมายถึงเตาที่ใช้หินซึ่งมีความร้อนในตัวเอง ๓ ก้อนวางเป็นสามเส้า
@แล้วนำหม้อข้าวที่บรรจุข้าวสารวางไว้บนก้อนเส้านั้น แล้วข้าวก็จะสุกด้วยความร้อนที่เกิดจากก้อนเส้านั้น
@(ที.ปา.อ. ๒๘๑/๑๕๗)
@๒ ใช้หญิงเป็นพาหนะในที่นี้หมายถึงจับผู้หญิงท้องมาเทียมยานให้ลากไปเหมือนม้ากีบเดี่ยว
@(ที.ปา.อ. ๒๘๑/๑๕๗)
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๑๑ หน้า : ๒๒๖}.....
ตย.
- มีเตาไม่ใข้ไฟ
- จับมนุษย์มาใช้งาน
- มีเมืองลอยได้
ในคาถาทั้งหมดยังมีเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆอีก
ลองพิจารณาดูครับ
http://www.84000.org/tipitaka/_mcu/m_siri.php?B=11&siri=9
เตาไร้ควัน มนุษย์ต่างดาวในพระพุทธศาสนา
เพื่อช่วยคุ้มครองพระเณรและอุบาสอุบาสิกา
อ้างว่ายักษ์ที่นับถือพุทธก็มี
แต่ที่ไม่นับถือก็มี
จึงควรมอบคาถานี้ให้ไว้ป้องกัน
แล้วกล่าวคาถา
..บางตอนบรรยายถึงยักษ์ ซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวบางพวก ผมเห็นว่าน่าสนใจจึงนำมา
ดังนี้
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค
[๙. อาฎานาฎิยสูตร]
ภาณวารที่ ๑
.... [๒๘๑] อุตตรกุรุทวีปเป็นรมณียสถาน
มีภูเขาหลวงชื่อสิเนรุ แลดูงดงาม ตั้งอยู่ทางทิศใด
พวกมนุษย์ซึ่งเกิดในอุตตรกุรุทวีปนั้น
ไม่ยึดถือสิ่งใดว่าเป็นของตน ไม่ถือครอง
มนุษย์เหล่านั้น ไม่ต้องหว่านพืช
ไม่ต้องนำไถออกไถ
หมู่มนุษย์บริโภคข้าวสาลี
อันผลิผลในที่ที่ไม่ต้องไถ
พวกเขาหุงข้าวสาลีอันไม่มีรำ ไม่มีแกลบ
บริสุทธิ์ มีกลิ่นหอม มีเมล็ดเป็นข้าวสาร
บนเตาอันปราศจากควันและถ่าน๑-
แล้วบริโภคโภชนะจากที่นั้น
พวกเขาใช้แม่โคแทนม้ากีบเดี่ยว
แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้สัตว์เลี้ยงแทนม้ากีบเดี่ยว แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้หญิงเป็นพาหนะ๒- แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้ชายเป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้เด็กหญิงเป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
ใช้เด็กชายเป็นพาหนะ แล้วเที่ยวไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่
พระสนมทั้งหลายของท้าวมหาราชนั้น
ก็ขึ้นสู่ยานเหล่านั้น ตามห้อมล้อมไปทุกทิศ
ยานช้าง ยานม้า ยานทิพย์ ปราสาท และวอ
บังเกิดแก่ท้าวมหาราชผู้มียศ
ท้าวเธอทรงมีเมืองหลายเมืองที่สร้างในอากาศ
คือ เมืองอาฏานาฏา เมืองกุสินาฏา
เมืองปรกุสินาฏา เมืองนาฏปริยา เมืองปรกุสิฏนาฏา
------------------
@เชิงอรรถ :
@๑ เตาอันปราศจากควันและถ่าน ในที่นี้หมายถึงเตาที่ใช้หินซึ่งมีความร้อนในตัวเอง ๓ ก้อนวางเป็นสามเส้า
@แล้วนำหม้อข้าวที่บรรจุข้าวสารวางไว้บนก้อนเส้านั้น แล้วข้าวก็จะสุกด้วยความร้อนที่เกิดจากก้อนเส้านั้น
@(ที.ปา.อ. ๒๘๑/๑๕๗)
@๒ ใช้หญิงเป็นพาหนะในที่นี้หมายถึงจับผู้หญิงท้องมาเทียมยานให้ลากไปเหมือนม้ากีบเดี่ยว
@(ที.ปา.อ. ๒๘๑/๑๕๗)
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๑๑ หน้า : ๒๒๖}.....
ตย.
- มีเตาไม่ใข้ไฟ
- จับมนุษย์มาใช้งาน
- มีเมืองลอยได้
ในคาถาทั้งหมดยังมีเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆอีก
ลองพิจารณาดูครับ
http://www.84000.org/tipitaka/_mcu/m_siri.php?B=11&siri=9