ว่าด้วยเรื่อง โรคซึมเศร้า สุดฮิต ในหมู่วัยรุ่น ทำอะไรอยากให้มีสติกันเยอะๆนะคะ

สวัสดีค่ะ เราเองเราคนเดิม เราทราบนะ ว่าถ้าตั้งกระทู้แบบนี้อาจจะพลีชีพ โดนด่าโดนประนาม อะไรก็ตาม เราหวังเพียงว่า อยากจะบอกความรู้สึก เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ว่าเรารู้สึกเป็นห่วงกับสิ่งที่มันกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ จะหาว่าเรา เสือn ก็ได้เลยนะ ใช่เรา เสือn


ออกตัวก่อนนะ เราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า เอ้ะ หรืออาจจะเป็น เอ้ะ หรือไม่เป็น ไม่รู้สิ เราไม่เคยคิดไปหาหมอในเรื่องนี้ ตราบใดที่เรายังจัดการกับความรู้สึกต่างๆของตัวเองได้  และเราก็ไม่ได้จะศึกษาเกี่ยวกับโรคนี้มากมายอะไรนัก เรารู้เท่าที่ทุกคนรู้ พอเข้าใจใน Process ของโรคนี้อยู่บ้าง จากการอ่านกระทู้ หรือ รับชมรับฟังตามรายการต่างๆ ก็คือรู้พอคล่าวๆ ผิวเผิน พอสังเขป ส่วนนึงเพราะดาราออกมายอมรับว่าเป็นโรคนี้กันมากขึ้น และอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายๆและเหตุการณ์ที่เป็นข่าวกันมากขึ้น เลยทำให้ตอนนี้ โรคนี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

สิ่งที่ทำให้เราเริ่มคิด ก็คือ มีอยู่วันหนึ่ง เราก็ไล่เล่นหน้า home ของ facebook ไปเรื่อยๆ ก็ตามปกติ ดันไปสะดุดตากับ status ของน้องนักศึกษาปี1 คนนึง ตั้ง ว่า "เฮ้อ เราเป็นโรคซึมเศร้างั้นเหรอ " แล้วเพื่อนๆของน้องคนนี้ ก็มาเม้นกันสนุกสนาน ประมาณว่า "ธรรมดาอ่ะเมิง โรคปั๋วไม่สนใจอ่ะเมิง โรคประชดปั๋ว เดี๋ยวปั๋วสนใจเมิงก็หายเป็น"
และก็ประโยคทำนองนี้อีกมากมาย ไหนจะเป็นการแชร์ข้อความต่างๆ ของวัยรุ่นสมัยนี้ แชร์บทความที่บางทีก็ไม่รู้ว่ามันจริง หรือเท็จ มากน้อยแค่ไหน ทำแบบทดสอบต่างๆนานาเพื่อเพียงแค่พิสูจน์ ว่าตนเองนั้น เป็นโรคซึมเศร้าอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งเราว่ามันไม่เวิร์คเลยค่ะ สำหรับเรา คนรอบข้างเราหลายคนที่เป็นโรคนี้ เข้าไปพบหมอปรึกษาหมออย่างใกล้ชิด เพราะอยากหายจากอาการนี้ และมันพยายามมาก เพื่อที่จะใช้ชีวิตแบบปกติสุข ในหลายๆครั้งก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การเป็นโรคซึมเศร้ามันน่ากลัวมากแค่ไหน ถ้าเราควบคุมมันไม่ได้ ดาราทั้งไทยและต่างประเทศ หลายท่าน ก็ได้ตัดสินใจจบชีวิตตนเองเพียงเพราะทนต่อสู้กับภาวะนี้ไม่ไหวแล้ว มันเป็นโรคที่น่ากลัวมากนะคะ และตัวเราเองก็ไม่เคยคิดอยากจะเป็น

สิ่งที่เราอยากจะสื่อก็คือ การใช้ชีวิตของน้องเด็กๆใน gen หลังจากนี้มันจะน่ากลัวมากแค่ไหน ที่กลายเป็นเทรนด์ กลายเป็นว่า คนมองโรคนี้ว่าใครใครก็เป็น
ผุ้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจ ก็อาจจะมองว่า เป็นโรคของการเรียกร้องความสนใจ หรือใส่ใจ ทุกคนจะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ใครใครก็เป็นได้ เพียงแค่เกิดภาวะเศร้า เหงา หรือไม่มีความสุข ก็จะเหมารวมกันไปว่าเป็นโรคซึมเศร้ากันซะหมด โดยผลที่มันจะส่งถึงก็คือ คนที่เขาเป็นโรคนี้จริงๆ กลายเป็นว่าสังคมตัดสินเขาว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจ กลายเป็นว่า เขากลายเป็นคนผิดที่ต้องเผชิญการโรคนี้ มันน่ากลัวนะคะ ผลกระทบมากมายที่จะตามมา เราไม่อยากจะคิด ถ้าคนมองว่าการเป็นโรคซึมเศร้าเป็นเรื่องปกติใครใครก็เป็นได้ และสิ่งที่ตามมาก็คือ คนก้จะปล่อยป่ะละเลยและมองว่ามันไม่หนักหนาร้ายแรง แปปๆก็หาย คนนั้นก็เป็นคนนี้ก็เป็น  พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราสมัยนี้ มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ เปลี่ยนไปจนรู้สึกว่ามันน่ากลัวมาก ถ้าเกิดใครไม่มีสติ ก็จะเกิดเหตุร้ายได้ทันที โดยไม่ทันตั้งตัว

ก็น่าแปลก เพียงแค่อ่านผ่านๆ กับประโยคเดียว และคอมเม้นนิดเดียว ทำให้เรามานั่งคิดได้เป็นตุเป็นตะขนาดนี้ แต่ใครจะมาบอกว่าเรา เสือn  ชีวิตใครชีวิตมัน อย่าไปตัดสินเขา หรือไม่ต้องคิดแทนคนอื่น นี่เราก็ไม่ได้คิดแทนคนอื่นนะคะ เพียงแค่เรารู้สึกว่า การที่คนเราเป็นโรคโรคนึง การต่อสู้กับโรคเพื่อให้อาการหายขาดหรือดีขึ้น มันเป็นเรื่องที่คนที่ต้องเผชิญ อยากได้รับกำลังใจและการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ใช่ใครใครอยากเป็นโรคนี้ก็ย่อมเป็นได้ เพียงแค่มีอาการเศร้าหรือท้อแท้ในบางครั้ง

ขอฝากอีกนิดละกันค่ะ การจัดการกับความรู้สึกตัวเองมันไม่ยากค่ะ เพียงแต่ยุคสมัยนี้สังคมเปลี่ยนให้คนเรามีความพยายามน้อยลง จึงทำให้เกิดการผิดหวังและ upset ได้มากขึ้น จนกลายเป็นว่า ชีวิตมันยากขึ้น แต่เปล่าเลย เราเองต่างหากที่ไม่มีสติในการใช้ชีวิต และพอไม่รู้ว่าจะโทษอะไร จึงหาอะไรบางอย่างมารองรับกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ จึงเอา คำว่าโรคซึมเศร้า มาเปลี่ยนความหมาย และทำให้คิดกันไปเองว่า มันคือโรคเรียกร้องความสนใจนั่นเองค่ะ

หรือเรื่องทั้งหมดเราอาจจะคิดมากไปเอง เข้าใจผิดไปเองก็ได้ค่ะ ว่าตอนนี้สังคมมันน่ากลัว มันอาจจะเป็นการ panic ของเราเองคนเดียวก็ได้ค่ะ
อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขนะคะ ขอบคุณใครก็ตามที่เข้ามาอ่านนะคะ

ปล เราต้องขออภัย ถ้าเกิดพิมพ์อะไรผิด หรือรับรู้และเข้าใจอะไรผิดค่ะ ถ้าผิดตรงไหนบอกเราให้แก้ไขได้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่