(แชร์ประสบการณ์)จากเด็กสาวคนหนึ่งที่เคยเป็นโรคซึมเศร้า

กราบสวัสดีพี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกคน นี้เป็นกระทู้ที่สองหากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเคยเป็นเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งกับโรคที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในเด็กอายุ 17 ปี(ตอนนี้ 18 ค่ะ) คือโรคซึมเศร้า
วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ว่าทำอย่างไรถึงสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์อันเลวร้ายมาได้ ก่อนอื่นขอเกรื่นนำก่อนนะคะ

อาการเริ่มแรกของผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าคือ เบื่อ เบื่อไปหมด เบื่อทุกอย่างในโลกใบนี้แม้กระทั่งสื่งที่เคยชอบทำ หากท่านใดมีอาการนี้อย่านิ่งนอนใจนะคะ
เพราะนี้เป็นอาการหลักของโรคนี้
อาการสำคัญอีกประการหนึ่งคือ นอนไม่หลับ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และยังเป็นอาการหลักของจขกท.ที่ยังแก้ไม่หาย
บอกเลยว่าทรมานมาก ถามว่าง่วงมั้ย ง่วงนะ แต่นอนให้ตายยังไงก็นอนไม่หลับ melatonin ก็แล้ว sj.john wort ก็แล้ว โดมิคุมบางทียังเอาไม่อยู่เลย
อาการที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของโรคนี้คือ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เชื่อว่าหลายๆท่านที่เป็นโรคซึมเศร้าคงเคยมีอาการแบบนี้อย่างแน่นอน
อยู่ดีๆก็ไม่อยากหายใจดื้อๆ

และยังมีอาการอีกมากมาย เช่น กินเยอะขึ้นหรือกินน้อยลง ปวดหัว อ่อนเพลีย สมาธิสั้น และอื่นๆ สามารถหาอ่านได่ตามเว็บค่ะ

เราเริ่มรู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้าก็ตอนม.6 ซึ่งเป็นปีที่สำคัญต่อชีวิตในอนาคตอย่างมาก และปัจจัยที่ทำให้เราเป็นโรคนี้เกิดจากสังคมการเรียนค่ะ(มีปัญหาเรื่องเพื่อน) ตอนแรกที่เป็นคือเครียดมากกกก นอนไม่หลับช่วงม.5 คือไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน ช่วงนั้นเลยตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์ทันทีก็ได้ยาคลายเครียดมากินตามระเบียบ แต่ถึงกระนั้นในเมื่อปัญหาที่ต้องเผชิญมันมีทุกวัน เครียดทุกวัน ยาก็เอาไม่อยู่เลยตัดสินใจพักการเรียนในช่วงม.6 พักในที่นี้คือเทอมแรกไม่ไปเรียนเลย เทอมสองไปบ้างไม่ไปบ้าง(เพราะจำเป็นไม่งั้นไม่จบ) จำได้ว่าช่วงนั้นร้องไห้หนักมาก น้ำหนักลดไป 6-7 กิโล ข้าวปลาไม่ทาน นอนเหมือนคนไม่มีสติ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะสามารถเรียนจบม.ปลายมาได้เพราะเราไม่ไปเรียน เกือบต้องซ้ำชั้นไปแล้ว พบจิตแพทย์เป็นว่าเล่น กินยาเกี่ยวกับประสาทมาแล้วแทบทุกตัวเพราะต้องเปลี่ยนยาไปมาตามความเหมาะสม ตอนนี้เราสามารถเรียนจบม.ปลายและสามารถสอบชิงทุนได้ในม.เอกชนแห้งหนึ่งแล้วและหายเป็นโรคซึมเศร้าแล้วแต่ยังกินยาอยู่เพราะต้องประคองอาการไม่ให้กลับมาเป็นอีก บวกกับยังมีอาการนอนไม่หลับ ยังใช้ยานอนหลับอยู่ค่ะ

วันนี้อยากจะมาระบายความในใจ ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งสามารถหายจากอาการซึมเศร้าได้
1. ครอบครัว - สำคัญมากกกก หากใครที่มีญาติหรือคนในครอบครัวเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ ขอเลย ขอให้เข้าใจเค้ามากๆ ผู้ป่วยโรคนี้อารมณ์แปรปรวน
บางวันอารมณ์ดี พอบ่ายๆอยากตายขึ้นมาซะงั้น เราพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าหายเพราะมีครอบครัวที่น่ารัก พาไปหาคุณหมอทุกครั้งที่นัด พาไปพบครูที่โรงเรียนเพื่อขอให้พักการเรียน คือสรุปคือหายเพราะกำลังใจดี
2. พบจิตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง - นี่ก็สำคัญมากอีกเช่นกัน หากใครที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ต้องใจเย็นๆ เรารู้ว่ามันทรมานขนาดไหน กินยาเหมือนกินขนม เปลี่ยนยาไปมาเป็นว่าเล่นเพราะต้องได้ยาที่ถูกกับตัวเราจริงๆ อาการถึงจะดีขึ้น ยาสำคัญมาก เราป่วยเราต้องกินยา ต้องยอมรับตัวเองว่าป่วย ห้ามงดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาคุณหมอก่อนด้วยนะคะ
3. บำบัดด้วยการทำจิตบำบัด - เรามีโอกาสได้ทำจิตบำบัดไม่กี่ครั้งแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ค่อนข้างช่วยได้อยู่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับวิธีของคุณหมอแต่ละคนด้วยค่ะ
4. ปล่อยวาง - เป็นสิ่งที่ยากที่สุดแล้วสำหรับเรา แต่ก็เป็นข้อที่สำคัญมากที่สุดข้อหนึ่ง ตอนสมัยพักการเรียนอยู่ ออกปากเลยว่าเคยโดนคุณครูฟิสิกส์คนหนึ่งกระแหนะกระแหนว่าป่วยอย่างงั้นอย่างงี้ บางทีมันก็ทำให้หมดกำลังใจไปง่ายๆแต่ก็ผ่านมาได้เพราะว่าปล่อยวางนั่นแหละค่ะ

สุดท้ายนี้ขอให้กำลังใจใครก็ตามที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าอยู่ทุกคน เรารู้ว่ามันทรมาน มันไม่ง่ายเลยที่จะหายได้ แต่เราก็หายมาแล้ว ตอนนี้ชีวิตแฮปปี้ดีมีความสุขในทุกๆวันตามประสาวัยรุ่น แม้จะมีเบื่อๆบ้าง ขอให้ใครก็ตามที่กำลังเผชิญกับปัญหาอยู่ให้คิดอย่างมีสติ แก้ปัญหาด้วยสติอย่าใช้อารมณ์ เราเคยใช้อารมณ์จนเกือบจะทำร้ายตัวเอง แต่ก็ยังดีที่ยังมีสติคิดได้ว่าสิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ จงอยู่อย่างเข้มแข็ง ทุกปัญหามีทางออก

เราจะดีใจมากถ้ากระทู้นี้เป็นประโยชน์ต่อใครก็ตามที่กำลังเผชิญกับโรคซึมเศร้า ขอให้รู้ว่าคุณไม่ได้เศร้าอยู่คนเดียว มีอะไรหลังไมค์มาคุยกันได้ค่ะ ยินดีเป็นเพื่อนคุยกับทุกๆคน ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่