จากการที่เคยฝันว่าเอ๊ะ.... ชาตินี้จะต้องไปเที่ยวยุโรปดูสักครั้ง ศึกษาไปมาก็มาพบกับประเทศจอร์เจียไม่ต้องขอวีซ่า แถมค่าครองชีพก็ถูกพอๆกับบ้านเราเลย แต่พอมาดูอีกที ไม่ค่อยมีกระทู้รีวิวในพันทิป ก็ยิ่งชักน่าสนใจขึ้นอีก  สงสัยยังไม่ค่อยมีใครได้ไป เลยพลันต้องใช้บริการของ Tripadvisor กับ Lonelyplanet เป็นแหล่งข้อมูลหลักตามระเบียบ  อะไรคือทะเลดำ อะไรคือเทือกเขาคอเคซัส เคยเรียนตอนมปลาย... ยิ่งอยากไปเห็นกะตาจริงๆ

ใครสนใจเก็บเป็นข้อมูล ก็มาเกาะกระทู้กันไปเลย ....  

กระทู้นี้จะมาลงรายละเอียดเกี่ยวกับการเที่ยวประเทศจอร์เจียแบบเต็มๆ ตั้งแต่วันที่ [25 กพ 18 - 05 มีค 18] โดยที่เริ่มตั้งแต่การจองตั๋ว การซื้อประกันภัย รวมถึงการเดินทาง สถานที่ขึ้นรถ สถานที่ท่องเที่ยว บลาๆๆ  อยากเชิญชวนให้เพื่อนๆไปเที่ยวกันเพราะราคาไม่แพง (แพงแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน) แถมความปลอดภัยสูง และเป็นประเทศยังที่ไม่ค่อยช้ำเพราะนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร สำหรับตอนนี้จะเกริ่น สิ่งที่ต้องร้อง WOA!! สำหรับประเทศนี้ก่อนสัก 14 อย่างนะครับ
1.คนไทยเข้าประเทศจอร์เจียได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ 365 วัน  
2.ผ่านตม.ได้โดยไม่ต้อง เขียนใบ ตม. (ผมแอบโดนตม.ถามด้วยซ้ำว่า Heyy!! Don't you have visa ? ) ตอบไปกวนๆว่า Yes, Of course 555
3.ไม่มีบินตรงจากประเทศไทย (ส่วนใหญ่ต่อเครื่องที่ บาห์เรน คาซัคสถาน รัสเซีย)
4.หาซื้อข้าวกินไม่ได้ (แน่นอนก็พี่กินแต่ขนมปังกับชีส)
5.ค่ารถไฟฟ้าค่ารถเมล์เท่ากับ 6.50 บาทไทยตลอดสาย (ในเมืองหลวง Tbilisi) แถมซื้อบัตรเดียวสามารถสแกนได้ 2คน (คนนึงเข้าไปรอ และยื่นบัตรให้คนอยู่ข้างนอกได้)  ตอนออกสถานี ไม่ต้องสแกน เออ!!โครตแปลก 5555
6.ไม่ว่าจะซื้ออะไร พี่แกจะมีใบเสร็จให้หมด (เหมือนรัฐบาลควบคุมภาษีหรือรายได้ประชาชนประมานนั้น ทุกที่จะมีเครื่องเล็กๆคล้ายๆเครื่องรูดบัตรเครดิต) กดตี้ดด แล้วใบเสร็จก็ออกมาให้เรา   
7.ประเทศนี้ไม่ขับมอเตอร์ไซค์ (เห็นอยู่คันเดียวตลอดทริป)  แถมรถยนต์บีบแตรรถใส่กันเป็นเรื่องปกติ (ถ้าเป็นประเทศไทยคงวางมวย)
8.ไม่มี 7eleven นะจ๊ะ  
9.ให้ความสำคัญกับทางม้าลายมาก ต่อให้รถเขามาแรงขนาดไหน เขาก็จะเบรคให้เราไป ถ้าเราไปปรากฏตัวบนทางม้าลาย
10.ไม่มีสถานทูตไทยในประเทศจอร์เจียร์ (เก็บ Passport ดีๆ เพราะถ้ามีปัญหาใกล้สุดก็คงต้องไปตุรกี หรือ รัสเซีย)  
11.ใช้เงิน Lari (ไม่มีแลกที่ไทยนะจ๊ะ) 1 Lari เท่ากับ 12.60 บาท โดยประมาณ ต้องพกเงิน USD ,Euro , หรือ เงินรัสเซียไปแลก
12.เรทแลกเงินที่สนามบินดีสุด (บ้าไปแล้ว) แทนที่ข้างนอกสนามบินจะเรทดีกว่า  
13.น้ำลูกแพร ขวดเขียว อร่อยมากมาย
14.ห้องน้ำทุกที่ เรียก W/C หมด (เหมือนจีนเลยแฮะ)
15.นอกจากรถเมล์ ที่นี่ใช้ขนส่งรถตู้ MINIVAN แต่ใหญ่กว่าบ้านเรา แต่เขาเรียกว่า marshrutka (อ่านว่ามาคุสท์ต้า)

Plan หลักๆๆ คร่าวๆ
Day0 : ต่อเครื่องบาห์เรน
Day1 : Tbilisi - Gori -Zugdidi (นอนรถไฟนอน)
Day2 : Mestia - Khatsvali Ski Resort (นอน Mestia)
Day3 : Mestia - Tetnuldi Skiresort - Ushguli (นอน Mestia)
Day4 : Mestia - Batumi  (นอน Batumi)
Day5 : Batumi - (นั่งรถไฟกลับ Tbilisii) เก็บตก Tbilisi - (นอน Tbilisi)
Day6 - Tbilisi - Kazbegi (Stepantsminda) (นอน Kazbegi)  
Day7 : Kazbeki - Tbilisi (นอน Tbilisi)
Day0 : Tbilisi - Bangkok

สายการบิน จองผ่าน Cheapticket.co.th ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร

ประกันก็ติ้กผ่านเวป Cheapticketเลย ไม่รู้ว่าดีไหม เพราะเราก็ไม่ได้ประสบปัญหาอะไรเลยที่จะต้องเคลมประกัน (ราคาที่เห็นคือ2คน)

สายการบินนี้ได้ทานข้าว 2 กับ snack 1 มื้อนะครับ มื้อแรกsnackเป็นคุกกี้อร่อยดี


มื้อที่สองมีให้เลือกระหว่างแกะกับไก่ ผมเลือกไก่ครับ

มื้อที่สามก่อนเครื่องจะ Landed ก็มีอีกมื้อแต่ไม่มีให้เลือก แต่อร่อยดีครับอันนี้

ส่วนที่นั่งเป็นแบบ 2 4 2 ครับ ลำใหญ่พอควรมีจอทีวีให้เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง แก้เบื่อ


นั่งกันจนอิ่ม 7 ชม ครึ่ง ยาวๆจนถึงบาห์เรน (เวลาที่บาห์เรนช้ากว่าไทย 4 ชม.) เหมือนได้เวลามาเพิ่ม 4 ชม รอต่อเครื่องยาวๆไปครับ 10 ชั่วโมงครึ่ง ก็ต้องหาอะไรรองท้องกัน ใน Gate แทบไม่มีร้านไหนที่น่าไว้ใจรสชาดเท่ากับ Mcdonald สนนราคาไป 21 USD (สามารถใช้เงิน USD ซื้อได้เลยนะครับ)
ที่เห็นในใบเสร็จเป็นเงิน BAHRAIN DOLLAR นะครับ แต่จริงๆผมจ่ายเป็น USD
TIP: 1 BAHRAIN เท่ากับ 80 บาทไทย

TIP: สนามบินบาห์เรนจะมีทางให้เข้า 3 ทางนะครับหลังจากลงเครื่อง
คือ TRANSIT , TRANFER , ARRIVAL ผมเลิอกช่อง TRANSIT นะครับ เพราะไม่ได้ออกไปตม.ประเทศเขา วิ่งเข้า GATE เลย ไม่แน่ใจว่า TRANFER กับ TRANSIT ต่างกันแบบไหนครับ ขอผู้รู้ชี้แนะด้วยครับผม

สนามบินบาห์เรน (ในGate จะมีที่ชารจแบทให้ด้วยนะครับ สะดวกมากมาย แถมWIFI ฟรีครับผม)
แต่จะมาหวังนอนเก้าอี้ยาวๆ แบบสุวรรณภูมิไม่มีนะครับ เขาเอาที่วางแขนกั้นหมดเลย
(สภาพจากรูปที่รู้ว่าเวลาไทย เที่ยงคืน แต่บาห์เรนพึ่ง 2ทุ่ม จะต้องรออีกนานเท่าไหร่เนี่ย ฮ่าๆๆๆ

และแล้วเวลาของเราก็มาถึง Yeah!!!   
เอาบอร์ดดิ้งพาสของเราไปเข้า GATE ได้เลย ไม่ต้องไปลงทะเบียนอะไรทั้งนั้น แต่ควรเช็ค GATE นิดนึงเพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดครับผม
ที่นั่งเป็น 3-3 แต่เจ๋งตรงที่มีทีวีด้วย !!! บันเทิงล่ะงานนี้

ถึง TBILISI ในเวลา ตี 5.50am (เวลาจอร์เจีย) อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก ตม.ไม่ต้องเขียนครับ แค่มองตาก็รู้ใจ เจ้าหน้าที่ Stamp ตราเข้าประเทศให้อย่างง่ายดาย

พอมาถึงด้านนอกเป็น ARRIVAL HALL ก็จะมี ร้านแลกเงิน ที่ซื้อ SIM โทรศัพท์
ผมแนะนำเป็น เครือข่าย BEELINE นะครับ เปรียบเทียบราคาถูกกว่าคู่แข่ง ผมซื้อในราคา 20 LARI (ได้อินเตอเน็ตมา 8GB เผื่อค่าโทรฉุกเฉินไว้ 3 LARI ซึ่งก็ได้ใช้จริงๆ ) ซึ่งเน็ตแรงเร็วดีครับ เจ้าหน้าที่ทุกที่จะพูดห้วนๆหน่อยอย่าไปถือสานะครับ ผมสังเกตุเป็นทั้งประเทศ แต่จริงๆไม่มีไรครับ      



ออกจากประตูสนามบินของ ARRIVAL HALL ไปเลี้ยวขวาเดินไป1นาทีจะเจอป้ายรถเมล์ ให้ขึ้นรถสาย   37 นะครับ (จะมีเข้าเมืองอยู่คันเดียวจากสนามบิน) ค่ารถ 0.5 LARI  ไม่มีตังทอนไม่ต้องห่วงครับ เขามีเจ้าหน้าที่บนรถบริการให้สำหรับนักท่องเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 1ชม เข้าไปในตัวเมือง TBILISI สิ้นสุดที่สถานี STATION SQUARE ครับ (สถานีรถไฟ RAILWAY หลัก)



พี่เสื้อเขียวคือเจ้าหน้าที่ในรถครับ Speak English ได้

จุดหมายผมตามที่แพลนไว้คือไปสถานีรถไฟ STATION SQUARE.
จองรถไฟนอนไว้ 21.30pm  TBILISI - ZUGDIDI ดังนั้นเรามีเวลาเที่ยวทั้งวัน แต่เอ๊ะ!! กระเป๋าเราหนักจะทำไงดี ?
แต่น แต้น!!! เอาไปฝากไว้ที่สถานีรถไฟนั่นเอง
TIP : ใบละ 5 LARI ฝากไว้ได้ 24ชม ครับ .  
TIP : รถเมล์สาย 37 จะเข้าไปจอดด้านในเป็นป้ายสุดท้ายนะครับไม่ต้องกังวลกลัวจะลงไม่ถูก
TIP : เข้าไปในตัวอาคารห้างนะครับ ขึ้นไปชั้น 3 เพื่อไปสถานีรถไฟนะครับ (อ่านไม่ผิดครับชั้น 3 จริงๆ) เพื่อขึ้นไปฝากกระเป๋าครับ

สังเกตุหน้าห้องที่ฝากกระเป๋าจะเป็นแบบนี้ครับ

ลุงคนนี้คือเจ้าหน้าที่ครับ นั่งผิงไฟสูบบุหรี่อย่างสบายใจครับ (สงสัยแกได้สัมปทานอยู่คนเดียว)

พอเห็นคนอื่นฝากด้วยก็พลันโล่งใจ

ใบรับกระเป๋าครับ (แมนน่วลโครต ฮ่าๆๆ)

เสร็จแล้วก็มาเช็คตั๋วรถไฟกับเจ้าหน้าที่ดูครับว่า ตั๋วเราที่จ่ายผ่านเนตมาใช้ได้รึไม่ ?
สามารถจองได้ง่ายๆด้วย เวปไซด์นี้ครับ https://tkt.ge/en/Railway ล็อกอินผ่านเฟสบุ้คได้เลย ง่ายกว่าจองในบ้านเราอีก ตัดผ่านบัตรเครดิตสบาย มีเงื่อนไขที่ว่า ต้องจองก่อนวันเดินทาง 40 วันลงไปครับ (ไม่งงนะครับ)
TIP : เราสามารถใช้เอกสารที่ PRINT มาเป็นตั๋วรถไฟได้เลย เป็น E-Ticket ไปเลย สนนราคา 31 LARI ต่อ1คน รวมค่าบริการแล้ว 387 บาทคร่าวๆบ้าไปแล้ว นี่ตั๋วชั้น 1 นะเนี่ย เห้ย !!!    

ผมก็ได้ที ถามตั๋วขากลับอีก1ตั๋วเลย คือ BATUMI - TBILISI ในอีก 3วันข้างหน้า เจ้าหน้าที่เขาก็บอกใช้ได้จ้าาา สนนราคาคนละ 21 LARI ต่อ 1 คน เท่ากับ 262 บาท (ระดับความหรูผมเลือกชั้นกลาง ไม่ต่ำสุด และสูงสุด เห็นนั่งไม่นานเลยไม่ซีเรียส)

หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยเราก็มุ่งหน้าไปที่ สถานีขนส่งมวลชนรถ Marshrutka หรือเปรียบคือหมอชิตบ้านเรานั่นเอง โดยรถไฟฟ้าใต้ดิน 2 สถานี


แต่บ้านเขาคือรถไปทุกสารทิศจะมารวมที่นี่แทบทุกพื้นที่ ที่นี่จะมีรถ 2 ประเภทนะครับ เป็นแบบเหมา กับ หวานเย็นออกตามเวลาและราคาจะถูกกว่า
TIP:ที่นี่ก็เหมือนขนส่งแทบทุกประเทศ จะมีแต่คนมารุมถามว่าไปไหน ทั้งแท็กซี่ก็จะแฝงตัวมาด้วย ให้เราพูดสถานที่ที่เราจะไป ต่อด้วย Marshrutka เขาก็จะพาเราไปทันที ไม่มีโมเม ไม่หลอกลวงไปขึ้นรถเหมาแน่นอน แต่เขาก็จะเชียร์นะว่าเหมาดีกว่า สะดวกกว่านะ อะไรทำนองนี้

วันนี้แพลนผมจะไปที่ GORI ครับ อยากจะไปสัมผัสบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน สักหน่อย


สนนค่ารถ 3 LARI ต่อคน

จริงๆแล้วที่ GORI มี ไฮไลทที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันคือที่ Uplistsikhe ครับ ต้องเหมารถออกไปอีกประมานครึ่งชม. แต่ผมถามภรรยาแล้วภรรยาบอกไม่อยากไปก็ตามมนั้น ฮ่าๆ