เที่ยวจอร์เจีย ด้วยตัวเอง 6วัน 5คืน งบ 9,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราชื่อบีนะคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา เนื่องจากกักตัวอยู่บ้านว่างๆ
เลยอยากจะแชร์ ประสบการณ์เที่ยว จอร์เจียของเราและครอบครัว เมื่อเดือนกันยา ปีที่แล้ว กัน
เก็บไว้นานมากไม่มีโอกาสได้ แชร์สักที ยิ้ม
รีวิวนี้พยายามใส่ข้อมูลละเอียดเท่าที่ทำได้นะ
เกริ่นกันก่อน ทริปนี้เป็นทริปครอบครัว ผู้ร่วมทริป 5 คน
ตั้งใจพาพ่อกับแม่ไปเที่ยว เพราะฉะนั้นเราจะเน้นครวามสะดวกสบายกันสักหน่อย 
ทริปนี้ 6วัน 5คืน แพลนจะหลวมๆหน่อย บอกแล้วเน้นสบายๆชิลๆเรื่อยๆ
แพลนการเดินทาง สรุปค่าใช้จ่าย จะเอามาแปะให้ท้ายกระทู้นะคะ
เริ่มกระทู้ด้วยคลิป ภาพบรรยากาศ ที่เราถ่ายทำกันเองค่ะ ไปชมความสวยงามกันเลย
( ฝากติดตามจขกทด้วยนะคะ IG: be8e ค่า )
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การเดินทางจากกรุงเทพ เราใช้สายการบินกาตาร์ (กรุงเทพ-โดฮา-ทบิลิซี่)
อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยนะคะ ใครเจอโปรตั๋วถูกตอนไหนก็จองได้เลยค่ะ 
จอเจียร์เที่ยวได้ตลอดปี ช่วงที่เราไปเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ 
พร้อมแล้ว ไปเที่ยวจอร์เจียกันค่ะ

เริ่มต้นด้วย Tbilisi เป็นเมืองหลวงของจอร์เจียร์ค่ะ 
ที่พักแนะนำให้พักฝั่ง old town นะคะ เพราะใกล้ที่ท่องเที่ยวมากๆ 
ความจริงแล้วถ้าใครไม่ขี้เกียจบวกมีเวลา สามารถเดินเท้าได้เกือบหมดเลยค่ะ
แต่แนะนำมากๆ นะคะ ถ้าใครไปเที่ยวเป็นกลุ่ม ที่นู้นใช้ app BOLTค่ะ เป็นเหมือน Grab บ้านเรา
ราคาถูกมาก เดินทางสะดวก จ่ายเงินตัดบัตรผ่านแอพได้เลย ยิ้ม 
ส่วนที่พักที่นี่ ขอบอกถูกมาก และดีมาก หาที่พักตาม agoda และ booking ได้เลยค่ะ มีเยอะมาก

นี่คือที่พักใน Tbilisiค่ะ ชื่อว่า Old City Yard Apartment อยู่ฝั่งold town ด้านหน้าที่พัก มีต้นองุ่นหวานมาก สามารถเก็บกินได้เลยค่ะ มี2ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีครัวพร้อมในตัว privateมาก ไม่ต้องไปแชร์กับใครเหมาะกับการมาพักเป็นกลุ่มค่ะ ราคาต่อคืน1,xxx บริเวณที่พักมีsupermarket สะดวกมากๆค่ะ อ่อลืมบอกไป เจ้าของใจดีมาก ส่งคนไปรับที่สนามบินฟรี พยายามให้ทิป เค้าก็ยืนกรานว่าไม่เอาค่ะ  วิธีการติดต่อเราคุยกันผ่าน what’s app ค่ะ เจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้ แต่คนจอเจียร์ส่วนมากพูดอังกฤษไม่ค่อยได้นะคะ ภาษามือกันไปค่ะ 
 
มาดูที่เที่ยวใน Tbilisi กันบ้าง
ที่เที่ยวที่ต้องมาละพลาดไม่ได้ คือNarikala Fortress 
เราสามารถนั่งCable Car จากที่นี่เราสามารถมองเห็น ทบิลิซี่ แบบพาโนรามาได้ทั้งเมือง 
สวยมากด้านบนมีขาย ซอฟเซิฟ รสองุ่นให้ลองอีกด้วย 

Narikala Fortress 

สถานที่ต่อไป The Bridge of Peace 
สะพานอันนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นสะพานดีไซน์โมเดิร์นเชื่อมฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ แต่ด้วยความที่ดีไซน์แปลกตา จึงกลายเป็นอีกสถานที่ที่ต้องมาเช็คอินโดยปริยาย

The Bridge of Peace 

อีกที่ที่อยากให้มาคือ Holy Trinity Cathedral of Tbilisi
มหาวิหารนี้ต้องอยู่บนเนินเขา ทำให้เห็นวิวมุมกว้างของเมือง 
สถาปัตยกรรมสวยมากและขลังมากๆ อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัส  

Holy Trinity Cathedral of Tbilisi
นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอื่นๆอีก เช่น Sulphur bath โรงอาบน้ำสาธารณะโบราณที่มีชื่อเสียง แต่บีไม่ขอพูดถึงเพราะ บีไม่ได้ไปด้วยเวลาที่จำกัด

ไปกันต่อที่เมือง Gudauri และ Juta ค่ะ 
การเดินทางออกนอกเมืองของเราทั้งทริป เราเช่ารถจาก tbilisi เป็นรถSUV ค่ะ ไซต์สำหรับ5คน พร้อมพื้นที่เก็บกระเป๋าด้านหลัง พวงมาลัยซ้าย ตอนขับแรกๆอาจจะเกร็งๆหน่อย แต่ขับไปสักพักก็ชินค่ะ
เรื่องของการเช่ารถ เราติดต่อกับเจ้าของที่พักในคืนแรก เค้าแนะนำ ที่เช่ารถ ซึ่งเป็นเพื่อนของเค้า ราคาโอเค เราเลยตกลงให้เค้าเอารถมาส่งที่บ้านพักค่ะ สะดวกดี แต่ในเมืองก็มีร้านเช้ารถหลายร้านให้ลองสอบถาม หรือถ้าจะเอาสะดวกที่สุด เช่าจากสนามบินเลยก็ได้ค่ะ ถ้าไปเป็นกลุ่มหารกัน คุ้มแน่นอนค่ะ

จุดหมายปลายทางของเรา คือหมู่บ้านเล็กๆที่ชื่อว่า Juta ค่ะ
โดยระหว่างทาง เรา แวะ Ananuri Castle Complex

Ananuri Castle Complex
แล้วก็ขับต่อไปเรื่อยๆ เราจะผ่านเมือง Gudauri ซึ่งมีชื่อเสียงมากๆ ในการเล่นสกี เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักสกีเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากเราไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ยังไม่มีหิมะ ก็จะมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ นั่นก็คือ Paragliding หรือ เล่นเครื่องร่อน บอกเลยว่าวิวอลังการมาก อากาศค่อนข้างเย็น ไปชมรูปดีกว่าค่ะ

Memorial of friendship

ระหว่างทางไป Juta วิวข้างทางก็สวยมาก จนต้องถ่ายรูปเรื่อยๆ ได้มีโอกาส เจอฝูงน้องแกะ แล้วก็น้องวัวด้วย ^^

ในที่สุดก็ถึงจูตา สำหรับ จูตาเป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา คร่าวๆน่าจะมีบ้านแค่ประมาณ10หลัง
ส่วนที่พักคืนนี้ เราต้องเดินเท้าประมาณ1-1.30 ชั่วโมงค่ะ ขึ้นเขารัวๆ
รู้สึกผิดต่อพ่อกับแม่มาก เพราะไม่รู้ว่าจะลำบากขนาดนี้  อ่านรีวิวมาว่าเดินครึ่งชั่วโมง ไม่จริงเด้อ เพราะตอนเดินจริงทางค่อนข้างชัน ต้องใช้เวลาค่ะ
แนะนำว่าอย่าพกของไปเยอะนะคะ แล้วก็พกขวดน้ำไว้ดื่มระหว่างทางด้วยค่ะ
ใครจะไปจูตา ต้องเผื่อเวลาสักนิดนะคะ เพราะว่า ตอนเราไป เริ่มเดินขึ้นเขาตอนเย็น ไปถึงคือมืดแล้ว เดินลำบากค่ะ

บรรยากาศระหว่างทางค่ะ ครึ่งทางแล้ว ยังไม่เห็นแววที่พัก
มาถึงที่พักก็ จิมเบียร์จอร์เจียเย็นๆ ให้หายเหนื่อยค่ะ
สำหรับที่พักที่จูตา มี2คือ ค่ะ คือ fifth season กับ Zeta แนะนำว่าไปทั้งที พัก fifth seasonนะคะ เดินไกลกว่ามาก แต่วิวคุ้มกว่าค่ะ สำหรับที่พักห้องที่เราพักสำหรับ5คน มีเตียง2ชั้น 2เตียง เตียงเดี่ยว1เตียง ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมค่ะ ไม่มีไวไฟและสัณญาณโทรศัพท์นะคะ อยู่กับธรรมชาติกันไป ระหว่างทางจะเจอน้องแกะ น้องม้า น้องลา เต็มไปหมด ส่วนใหญ่คนที่มาพักที่นี่จะมีจุดหมายเพื่อ trekking ต่อไปยังJuta lakeค่ะ แต่ว่าเราไม่มีเวลาบวกร่างกายไม่พร้อมและสภาพอากาศไม่เป็นใจในตอนนั้น เลยไม่ได้ไปต่อค่ะ เพราะต้องเดินทางต่อค่อยข้างไกล สวยแค่ไหนดูรูปเอา

ที่พักของเราค่ะ ชื่อว่า Fifth Season
บรรยากาศ ในช่วงสายๆ ระหว่างลงเขากันบ้างค่ะ
ขออภัย รูปจขกท เยอะมาก ไม่ค่อยมีวิวมาฝากเพื่อนๆเลย แหะแหะ

ออกเดินทางต่อค่ะ ระยะทางจาก Juta ไป Kazbegi ใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
Kazbegi เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่ใครต่อใครตั้งใจมาเมื่อมาถึงจอเจียร์
เมืองที่ล้อมไปด้วยเทือกเขาคอเคซัส ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยไปหมด

ที่พักของวันนี้ เป็นที่พัก Highlight ของทริปจ้า ยังไม่ค่อยเห็นคนไทยรีวิวกันสักเท่าไหร่
เลยอยากจะรีวิวนะคะ ราคาค่อยข้างแพง ถ้าเทียบกับที่พักทั่วไป แต่วิวก็สวยสุดในเมืองเช่นกัน เป็นที่พักที่เค้าบอกว่าดีที่สุดในเมือง
ชื่อโรงแรมคือ Room Hotels – Kazbegi ราคา 1x,xxx / คืน 
ห้องพักวิวเขาเต็มเร็วมากนะคะ ต้องจองล่วงหน้าสักหน่อย
เชิญดูรูปจ้าาาาาาา

บริเวณ Lobby ตกแต่งสไตล์ห้องสมุด 
ห้องพัก
ห้องอาหาร
มีทั้ง indoor และ outdoor 
ปล.ที่พักสวยๆวิวดีดีในเมืองเยอะมากน้า สามารถพักที่อื่น แล้วมาทานข้าวที่ room hotels ก็ได้ ประหยัดไปเยอะ

สระว่ายน้ำ
ชอบที่สุดคือสระว่ายน้ำในร่ม ที่คุมอุณหภูมิ 28องศาตลอดปี ดีงามมากกก ไพรเวทมาก

สำหรับสถานที่ที่ต้องไปใน Kazbegi คือ Gergeti Trinity Church
เป็นอีก1จุดที่พลาดไม่ได้ พอไปถึงคือแบบ คุ้มแล้ว ที่สุดในทริปแล้ว
Gergeti Trinity Church จุดชมวิวที่สวยที่สุดในทริป 

วันต่อไป ไปต่อกันที่ เมือง Gori ค่ะ 
ขับรถยาวๆ ประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อไปเมือง Gori ค่ะ กอรี่เป็นเมืองการศึกษาของจอร์เจีย ซึ่งหนุ่มสาว หน้าตาดี เยอะมาก 
ที่สังเกตเห็นอีกอย่างคือ ที่จอร์เจีย มีสุนัขจรจัดเยอะมาก ซึ่งแทบทุกตัวจะมีแท็กที่หู และเฟรนลี่มากๆค่ะ น่ารักทุกตัว <3
ส่วนที่เที่ยวในกอรี่ มีไม่มากค่ะ ที่เด่นๆ ก็แค่ Gori Fortress  เหมาะมากสำหรับ ดูพระอาทิตย์ตกและวิวเมือง

Gori Fortress

ส่วนนี่บรรยากาศด้านบนค่ะ
ส่วนที่พักคืนนี้ นอนที่ Hotel Continental ราคาคืนละประมาณ 1,000 บาท ถูกมากๆ แต่ เป็นโรงแรมธรรมดาค่ะ ไม่รีวิวละกันนะคะ

ขอเล่าสถานที่เที่ยวและเมืองต่อไปต่อในคอมเม้นด้านล่างนะคะ
จะได้ไม่ต้องขึ้นกระทู้ใหม่ ยิ้ม
อย่าลืมให้กำลังจขกท ด้วยการแชร์แล้วก็คอมเม้นนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่