สวัสดีค่า ขอแนะนำตัวกันก่อนเลย ชื่อฟรานนะคะ เป็นนักศึกษาปี1 คณะศิลปะ(Arts-plastiques) เรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส
ทุกๆปีรุ่นพี่สมาคมนักเรียนก็จะจัดทริปทัศนะศึกษาประจำปี โดยที่ปีนี้หวยออกที่เมือง ฟลอเรนซ์!!
ไม่ไปไม่ได้ค่ะ เพราะวิชาศิลปะยุค early modern period นี่ เรเนซองค์ล้วนๆเลยค่ะ อะไรๆก็ฟลอเรนซ์

ปล.รูปในกระทู้นี้จะมีทั้งรูปจากในกล้องถ่ายรูปและมือถือคละกันไปนะคะ คุณภาพก็เลยคละกันไปด้วย
รูปไม่มีเวลาแต่งเลยค่ะ (คอมฟรานมีปัญหาเลยยืมคอมแม่มาเขียนกระทู้)










นัดกันที่สถานีรถไฟ gare de Tourcoing เพื่อขึ้นรถบัสค่ะ ฟรานอยู่เมือง Lille ค่ะ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส
ใช้เวลาเดินทางเกือบ18ชม. เส้นทางการเดินทางคือ ขึ้นไปทางเบลเยี่ยม อ้อมกลับมาลักเซมเบิร์ก ผ่านสวิสเซอร์แลนด์
คือขับอ้อมฝรั่งเศสน่ะค่ะ ตอนแรกก็งงเลย แต่เพื่อนก็อธิบายว่า ทางด่วนฝรั่งเศสต้องจ่ายตังค์ แพงด้วย เลยอ้อมแทน


สู้ตายค่ะ


ทุกสามถึงสี่ชม.ก็จะได้ลงไปพักค่ะ ก็จะมีพักเข้าห้องน้ำไม่เกิน20นาที หรือพักกินข้าวไม่เกิน40นาทีค่ะ
บทรถบัสมีห้องน้ำแต่คนขับบอกว่าทางที่ดีลงไปใช้ตามสถานีพักรถจะดีกว่า

คนขับรถมีสองคน พลัดกันขับทุกสี่ชม. แล้วก็จะมีห้องนอนเล็กๆให้คนขับอีกคนไปนอนพักสายตาได้ค่ะ

ถึงฟลอเรนซ์เกือบสิบโมงเช้า(ออกจากลิลบ่ายสามโมงครึ่งของเมื่อวาน) รถบัสจอดหน้าโรงแรมแล้วปล่อยให้ลงทันที
ประตูโรงแรมแทบจะติดถนนใหญ่ เลยต้องเร่งรีบเอากระเป๋าออกจากรถ เพราะจะได้ไปกีดขวางการจราจรของเมืองนะฮะ
โรงแรมชื่อว่า Plus Florence Hostel เดินไม่เกินสิบห้านาทีก็ถึงใจกลางเมือง

เวลาไปถึงยังเช้าอยู่ เลยเชคอินเข้าที่พักไม่ได้ ทางโรงแรมเปิดห้องพักให้หนึ่งห้องเพื่อเก็บกระเป๋าของคนทั้งทริป รวม48คน
เมื่อเอากระเป๋าไปเก็บไว้เรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินหาอะไรกินกันค่ะ ฟรานถามกลุ่มเพื่อนกลุ่มที่ค่อนข้างสนิทที่สุด แต่คนในกลุ่มดันทนความหิวไม่ไหวเลยจะฝากท้องกับร้านสะดวกซื้อใกล้โรงแรม ฟรานเลยหันไปถามพี่ลูอิคแทน


พี่ลูอิค เป็นพี่ที่อาวุโสที่สุดในทริปแล้ว พี่เขาก็ดันรู้จักฟรานคนเดียวซะด้วย ความเป็นมาก็คือ
ฟรานได้รู้จักพี่คนนี้เพราะเจอกันที่อีเว้นท์วาดรูปทุกสองอาทิตย์ ก็เลยได้คุยกันว่าเรียนที่ไหนทำอะไรอยู่บ้าง
ฟรานก็บอกว่าเรียนศิลปะที่ลิลสาม ส่วนพี่เขาเรียนคณะเดียวกันแต่เรียนโทปีสองแล้ว
ในทริปนี้ส่วนใหญ่ ก็ปีหนึ่งกับปีสองค่ะ มีพี่ปีสามติดมาด้วยไม่กี่คน

ฟรานกับพี่ลูอิคก็เปิดกูเกิ้ลแมพ หาร้านกินมื้อเที่ยงเลยค่ะ เลยมาเจอกับร้านนี้
Nutino dal 1955 เห็นว่าดาวรีวิวสูงดี เลยจัดไปค่า
ก่อนจะเดินถึงร้านก็เจอกับเพื่อนที่มาทริปเดียวกัน ก็เลยถามว่า จะไปกินข้าวที่ไหนกัน
สรุปได้ว่ากำลังหาร้านกินข้าวอยู่พอดี สุดท้ายทุกคนก็ตามฟรานกับพี่ลูอิคมากินร้านเดียวกัน


เซลฟี่หน้าร้านซักหน่อย


ลาร่านั่งข้างซ้ายของฟรานกำลังงงกับเมนูภาษาอิตาเลียน แล้วก็งงต่อกับคำแปลภาษาอังกฤษ ฮ่าๆๆ


สั่งอาหารไปเรียบร้อย พนักงานเสริฟก็เอาขนมปังมาให้กินกันหิวไปพลางๆ พนักงานที่นี่หลายคนพูดภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษได้ค่ะ
สุดยอดไปเลย


ฟรานจัดสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า เมนูโปรด ร้านอาหารที่นี่ทุกร้านจะมีคำแปลภาษาอังกฤษค่ะ
แล้วคำแปลของสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าจะไม่ใช้ทับศัพท์ แต่จะแปลเป็น สปาเก็ตตี้ซอสไข่และเบค่อน
เพราะหน้าตาของต้นตำรับจะไม่ใช่พาสต้าครีมซอสเบค่อนที่เราคุ้นเคย เพราะเขาไม่ใส่ครีมกันค่ะ
รสชาติเข้มข้น หอมมากๆ เบค่อนก็กรอบๆเค็มๆ

คนตรงข้ามฟรานสั่งพิซซ่าค่ะ ฟรานได้ชิมเยอะอยู่เพราะมันเยอะมากเพื่อนกินไม่หมด
อร่อยมากๆเหมือนกัน ตอนพนักงานเสิฟมาเก็บโต๊ะ ก็เล่าประวัติความเป็นมาด้วยว่า
ร้านนี้เป็นร้านแรกที่เริ่มทำพิซซ่าร้านแรกในฟลอเรนซ์ ใครมีโอกาศต้องไปโดนกันนะคะ



เพดานในร้านอาหารค่ะ


กินคาวแล้วก็ต้องกินหวานตาม ของหวานจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจาก ทีรามิสุ !!
มันจะมีความครีมสูงมาก หอมนู้มมมมไปกับชีสมาสคาโปน สุดๆ ไม่หวานแสบคอ
ติดอยู่อย่างเดียว สำลัก ผงโกโก้ไปตามๆกัน แต่ก็ขำๆดีค่ะ เฮฮากันปายยย



หลังจากอิ่มหนำสำราญกันไปถ้วนหน้า ทางร้านก็เอาLimoncelloมาเสริฟให้ล้างปากกันค่ะ หอมหวานกลิ่มมะนาวม๊ากมาก แหะๆ
(ที่ยุโรป สิบแปดก็ดื่มได้แล้วนาจาาาา)

มื้อนี้ฟรานหมดไป 15 ยูโรเท่าน้านเอง อิอิ

ติดตามอ่านกันต่อได้นะคะ นี่แค่มื้อแรกเองเท่านั้น ยังมีอีกยาววว
ทริปนี้3วัน แต่คุ้มยิ่งก็คุ้มอีกค่ะ จ่ายค่าเดินทางรวมค่าที่พักและพิพิธภันฑ์อีกสามที่ เพียงแค่ 120 ยูโรเองค่ะ

ถ้าฟรานเขียนอะไรตกหล่นทักได้เลยนะคะ ยินดีแก้ไขค่ะ

* ถ้าใครสนใจ ฟรานมีสตอรี่ในอินสตราแกรมนะคะ ตามได้ที่ ebfran
เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์นะคะ ฟรานมีไฮไลท์ชื่อว่า Florence อยู่ กดไปดูกันได้เล้ยยย

* page facebook: Ma vie en France ฟรานเอง
ลิ้งค์ย่อเพจค่ะ https://goo.gl/qYGUdU