รีวิวขับรถเองใน Osaka
🚗🇯🇵🏯
จากที่ 2 จิต 2 ใจมานานว่าจะขับดีไม่ขับดี สรุปก็เลือกหนทางใช้เงินแก้ปัญหา ด้วยคิดว่าเรามีลูกเล็กขับรถน่าจะสะดวกกว่า เลยขอมาสรุป key take away จากการขับรถให้ตัวเอง + เผื่อใครอยากใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการขับรถ
ข้อดี:
😀 เดินน้อยลง (ไม๊นะ?) จริงๆ เหมือน save พลังงานจากการเดินขึ้นลงรถไฟ/สถานีรถไฟ แต่พอพลังงานเหลือก็ไปเดิน shopping เยอะขึ้นอยู่ดี 😅 แต่รวมๆ ก็เหนื่อยน้อยลงแหละ เพราะกลับโรงแรมแล้วไม่สลบ
😀 ที่จอดรถหาง่ายมาก ทุกซอกทุกซอยไม่ว่าจะแคบจะเล็กแค่ไหน แต่นางก็สามารถเอาป้าย เครื่องจ่ายเงิน ขีดสีตีเส้น ติดกล้อง set up เป็น paid parking area ได้หมด
😀 ถนนหนทาง สัญญาณไฟเป็นระเบียบ ไม่มึนไม่งง ไม่ต้องเดาเองว่าเลนไหนทำอะไรได้บ้าง (แต่บางทีแยกใหญ่เวลาต้องมาจ่อไฟแดงก่อนเลี้ยวเป็นคันแรก ไม่มีใครให้ขับตามก็หวิวๆ เหมือนกัน)
😀 ลูกกินข้าว (เวลากินมื้อหลักไม่อิ่ม) ขนมเรื่อยเปื่อยในรถได้
😀 มีที่เก็บของเวลา shopping
ข้อเสีย:
😨 ค่าจอดรถแพง เฉลี่ย 200 บ./ชม. เกือบทุกห้าง และแม้แต่โรงแรมที่เราพักก็ไม่มีแสตมป์บัตรจอดรถให้ใดๆ ไม่ว่าจะ shop เยอะแค่ไหน (แต่จะมี rate max ให้ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 บ.) ปกติจอดเซ็นทรัล 20 บ./4 ชม. ก็จะเป็นจะตายละ 😅
😨 เปิด google map กด avoid toll ก่อนเลยไม่งั้นนางจับขึ้นทางด่วนตลอดเวลา (แถมชอบพาขึ้น 2 อันโดยไม่จำเป็น) ทางด่วนรอบนึงก็ราวๆ 500 บ. เลยจ้า (รถแต่ละ size ค่าทางด่วนไม่เท่ากันด้วย)
😨 ป้ายใน google map กับป้ายจริงบนถนนบางทีก็ไม่สัมพันธ์กัน โดยเฉพาะเวลาอยู่บนทางด่วน เลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยนได้เหมือนกัน
😨 ที่จอดมีเยอะก็จริง แต่ถ้าเป็นสถานที่ popular แบบ USJ หรือ Nara Park ที่จอดหลักก็จะเต็มอยู่ดี กลายเป็นต้องไปจอดไกลขึ้น แล้วก็เดินเยอะอยู่ดี อย่าง USJ นี่กลายเป็นเดินไกลกว่าไปจากสถานีรถไฟอีก T T
สุดท้ายนี้ลองทำตารางเปรียบเทียบระหว่างขับรถเอง vs นั่งรถไฟ 3 คน (ลองให้ google map คำนวณ) พบว่าขับรถเอง cost สูงกว่านั่งรถไฟประมาณ 5-7 เท่านะคร้าบ
ประเทศนางก็คงคิดมาดีแล้วแหละ ว่า public transport กรุดีขนาดนี้ ถ้ายังจะขับรถก็จ่ายมาซะดีๆ
รวมๆ ก็ตัดสินใจเรื่องความคุ้มค่ายากมาก เพราะประเทศเค้าคิดมูลค่ามาดีแล้วจริงๆ
จริงๆ ไปญี่ปุ่นนั่งรถไฟก็ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นดี แต่ถ้ามีเด็กมีผู้สูงอายุขับรถก็เป็นช้อยที่ดีครับ 👍