ສະບາຍດີທຸກຄົນ ทริปนี้มีสมาฃิกร่วมเดินทางด้วยกันทั้งหมด 8 คนค่ะ เนื่องจากไปกันหลายคนเจ้าของกระทู้ดูแลไม่ไหวค่ะ เลยหาซื้อแพ็คเกจ เพื่อความสะดวกสบายของทุกคน แพ็คเกจที่ซื้อจะเป็นแพ็คเกจ ลาวใต้ 2 วัน 1 คืน คนละ 4,400 บาท  (รวม ไกด์, รถตู้ ViP, โรงแรม 4 ดาว, อาหาร 4 มื้อ, ค่าผ่านด่าน ตม., ค่าทางด่วนแต่เป็นทางปกติ, ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ) จองผ่านบริษัท สำริดทัวร์ อยากจะบอกว่าบริการดีมากกกกกกกก ใครมีแพลนไปลาวใต้ที่ต้องการซื้อทัวร์ แนะนำบริษัทสำริดทัวร์เลยค่ะ 

เริ่มต้นการเดินทาง 22 ก.ย. 67 สนามบินดอนเมือง - สนามบินอุบลราชธานี (Air Asia) ดอนเมือง 07.05 น.- อุบลราชธานี 08.15 น.                          

(ค่าตั๋วไปกลับไม่โหลดกระเป๋า คนละ 913 บาท) ถึงสนามบินรถตู้มารอรับเพื่อเดินทางไปปากเซค่ะ พี่คนขับรถตู้ชื่อพี่สำริด พี่สำริดขับรถดีมาก          และพี่สำริดเป็นคนใจดีสุดๆ ค่ะ 

เนื่องจากถึงอุบลฯ แต่เช้า สมาชิกทุกคนหิวมากจึงให้พี่สำริดแวะร้านอาหารใกล้สนามบินค่ะ กินเสร็จก็เดินทางกันต่อเพื่อไปดำเนินการผ่านด่าน ตม. กันค่ะ ระยะทางจากสนามบินอุบลฯ ไป ด่านช่องเม็ก ประมาณ 90 กิโล ขึ้นรถได้พากันหลับเลยค่ะ  ถึงด่านช่องเม็กก็ไปดำเนินการปั๊มพาสปอร์ตฝั่งไทยค่ะ ปั๊มเสร็จก็เดินลอดอุโมงค์ไปด่าน ตม. ลาวค่ะ ก่อนไปด่าน ตม. ลาว เราจะเจอน้องไกด์ยืนรอรับพวกเราตรงทางออกอุโมงค์ค่ะ น้องไกด์ชื่อ น้องวิ เป็นคนลาวที่สวย น่ารัก คุยเก่ง บริการดีด้วยค่ะ ไกด์น้องวิจะเอาพาสปอร์ตเราไปปั๊มที่ด่าน ตม. ลาว ให้ค่ะ พวกเราไม่ต้องทำไรเลย เข้าห้องน้ำรอบนรถอย่างเดียวค่ะ

หลังจากผ่านด่าน ตม. ลาว ไกด์น้องวิจะพาเราไปกินข้าวมื้อเที่ยง (มื้อที่ 1) ที่ร้านเบียร์ลาว อยากจะบอกว่าอาหารอร่อยทุกมื้อ และอาหารเยอะมาก       โต๊ะละ 4 คน กินกันแทบไม่หมดเลยค่ะ

หลังจากกินเสร็จ เราก็ไปกันต่อที่ "ปราสาทหินวัดพู" ทางขึ้นปราสาทไปกลับประมาณ 3 โลค่ะ ค่าเข้าไม่รุ้เท่าไหร่ค่ะ ไกด์น้องวิเป็นคนจัดการให้ค่ะ ค่าเข้ารวมมากับแพ็คเกจหมดแล้วค่ะ ตอนเราไปถึงฝนตกปรอยๆ เดี๋ยวตกเดี๋ยวหยุด ค่ะ ไกด์น้องวิมีเสื้อกันฝนมาให้พวกเราด้วย จริงๆ พวกเราก็เตรียมไปนะคะ  อยากจะบอกว่าทางขึ้นปราสาทชันมากเดินขึ้นเดินลงต้องระมัดระวังให้ดีเลยค่ะ 

ไปต่อ "วัดพูสะเหลา" ทางขึ้นวัดบันได 400 ขั้น แต่พวกเราไม่เดินขึ้นค่ะ ขาอ่อนตั้งแต่เดินขึ้นเดินลงปราสาทแล้วค่ะ เอารถไปจอดด้านบนสะดวกสบาย ไหว้พระชมวิวถ่ายรูปกันเพลินเลยค่ะ วิวด้านบนสวยมาก เห็นวิวแม่น้ำโขง สะพานมิตรภาพลาวญี่ปุ่น และวิวฝั่งปากเซค่ะ

หลังจากชมวิวกันเสร็จ เราก็จะไปที่พักกันค่ะ ที่พักของพวกเราเป็นโรงแรม 4 ดาว ชื่อโรงแรมเอราวัณ ริเวอร์ไซด์ ปากเซ ที่พักก็ถือว่าโอเค แอร์เย็นมาก ห้องน้ำกว้าง อุปกรณ์ครบค่ะ (ไม่มีไดร์เป่าผมนะคะ) 

เช็คอินอาบน้ำ ไปทานอาหารมื้อเย็นค่ะ ชื่อ "ร้านครัวบ้านสวน" (มื้อที่ 2) ร้านอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมค่ะ ใครมาเองแนะนำที่นี่เป็นตัวเลือกนะคะ มื้อนี้มีการแสดงเต้นบาร์โสลฟ และร้องคาราโอเกะกันเต็มที่ค่ะ อาหารไม่ต้องพูดถึงอร่อยทุกอย่าง และยังมีเบียร์ลาวให้ดื่มด้วยค่ะ เต็ม 10 ไม่หักเลยค่ะ

หลังจากสังสรรค์กันเสร็จก็กลับโรงแรมพักผ่อนค่ะ

วันที่ 23 ก.ย. 67 ตื่นเช้าลงไปอาหารที่โรงแรมค่ะ (มื้อที่ 3) อาหารเช้าที่โรงแรมจะเป็นบุฟเฟ่เหมือนโรงแรมทั่วไป จะมีเฝอเพิ่มมาด้วย ไม่มีใครถ่ายรูปไว้เลยค่ะหลังจากทานอาหารเสร็จก็เช็คเอ้าท์ออกเดินทางไปปากซอง ไปเล่นซิปไลน์ที่ตาดฟาน และไปน้ำตกตาดเยืองกันค่ะ จากที่พักไปตาดฟาน 38 กิโล นั่งแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ ถึงตาดฟานเช่นเคย ไกด์น้องวิก็จัดการค่าเข้าให้พวกเราค่ะ หลังจากเข้าไปข้างในเราก็ไปซื้อตั๋วเล่นซิปไลน์+ถ่ายคลิป ราคา 1,550 บาทขอบอกสตาฟที่นี่น่าตาดีทุกคนค่ะ หลังจากซื้อตั๋วเสร็จเราก็มาใส่อุปกรณ์เซฟตี้ แล้วก็ไปซ้อม หลังจากซ้อมเสร็จก็จะไปลุยของจริงค่ะ สมาชิกเรามา 8 เล่น 7 ไม่เล่น 1 คนค่ะ เด็กๆ ไม่มีใครกลัวเลย เล่นก่อนเลย ส่วนผู้ใหญ่อย่างเรายืนขาสั่นกันเลยค่ะ แต่พอได้เล่นแล้วมันสนุกมาก ความกลัวหายหมด เห็นแต่ความสวยผ่านหมอก มองจากที่สุงได้เห็นมุมกว้างมันเกินบรรยายค่ะ

เราไปต่อ "น้ำตกตาดเยือง" เล่นเสร็จก็หิวแล้วค่ะ ไกด์น้องวิก็พาไปกินข้าวที่น้ำตกตาดเยืองเลยค่ะ อาหารมื้อนี้แน่นมาก (มื้อสุดท้าย) อร่อยทุกอย่างค่ะ

หลังจากทานอาหารมื้อสุดท้ายเสร็จก็เดินลงไปดูน้ำตกกันค่ะ ทางเดินลงเดินสบายค่ะ ระยะทางไม่แน่ใจน่าจะขึ้นลงไม่เกิน 800 เมตรค่ะ วันที่เราไปฝนตก น้ำจะเป็นสีชาละอองน้ำฟุ้งไปทั่วค่ะ ถ้าไม่ใช่หน้าฝนคงจะสวยน่าดูเลยค่ะ

หลังจากสัมผัสกับน้ำตกตาดเยืองแล้วก็กลับปากเซค่ะ ไกด์น้องวิพาเราเดินตลาดดาวเรืองค่ะ ตลาดดาวเรืองขายสินค้าเหมือนบ้านเรา แตกต่างแค่อาหาร พวกเราส่วนมากจะช็อปผ้าซิ่นกันค่ะ ลายสวย เป้นเอกลักษณ์ของประเทศลาวค่ะ พอช็อปเราก็เดินทางกลับอุบลฯ ถึงช่องเม็ก ไกด์น้องวิก็ดำเนินการให้เราทุกอย่าง ช้อปสินค้าดิวตี้ฟรีรอ แนะนำกาแฟ Dao อร่อยกลมกล่อมค่ะ ซื้อกลับมาหลายแพ็คเลย  พวกเราจะแยกกับไกด์น้องวิที่ด่าน ตม. ลาว อำลาขอบคุณน้องวิ มีโอกาสใช้บริการน้องวิอีกแน่นอนค่ะ

หลังจากข้ามด่านช่องเม็กมาแล้ว ก็เดินทางกลับอุบลไปที่พักที่พวกเราจองไว้ค่ะ ระหว่างทางกลับ พี่สำริดพาแวะไหว้พระที่วัดเรืองแสง ชื่อเต็มจำไม่ได้ค่ะ

ไหว้พระก็เดินทางกลับที่พัก เราจองเป็น Hostel คนละ 193 บาท พอถึงตัวเมืองอุบลก็เจอฝนตกหนักมาก ถึงที่พักฝนก็ไม่หยุด พวกเราเช็คอินอาบน้ำนอนหลับเป็นตายเลยค่ะ

วันที่ 24 ก.ย. 67 ตื่นนอนออกไปอาหารเช้ากินแถวที่พักค่ะ หลังจากกินเสร็จก็กลับมาเก็บของเช็คเอาท์ 10 โมง และพี่สำริดมารับเหมือนเดิมค่ะ ปกติวันนี้พวกเราไม่ได้จองรถ กะว่าจะหารถแถวที่พักไปสนามบินเองค่ะ แต่พี่สำริดใจดีมากอาสามารับที่โรงแรมพาไปส่งสนามบิน พี่สำริดไม่คิดเงินพวกเราสักบาท พวกเราทุกคนเกรงใจพี่สำริดมากๆ ค่ะ กะว่าถึงสนามบินพวกเราจะให้เงินค่าน้ำมัน แต่พอถึงสนามบินพี่สำริดก็ไม่รับเงินเหมือนเดิม ขอบคุณมิตรภาพดีๆ นะคะ

ระหว่างเดินทางไปสนามบินพี่สำริดพาแวะไหว้พระสมเด็จอินแปงด้วยนะคะ ดูสิพี่สำริดใจดีแค่ไหน มีโอกาสพวกเราจะใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ

ขากลับพวกเรากลับรอบ  12.35 น. ถึง ดอนเมือง 13.45 น. และก็แยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ 

ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับไม่โหลดกระเป๋า คนละ 913 บาท

ค่าแพ็คเกจลาวใต้ 2 วัน 1 คืน คนละ 4,400 บาท

ค่าเล่นซิปไลน์ คนละ 1,550 บาท

ค่าซิมการ์ด คนละ 150 บาท

ค่ากิน+ค่าของฝาก (แต่ละคนไม่เท่ากัน) เจ้าของกระทู้ใช้ไป 815 บาท

ค่าเดินทางไปกลับสนามบินดอนเมือง 425 บาท

ค่าโรงแรมอุบลฯ 193 บาท

***จากที่ได้สัมผัสลาวใต้ครั้งแรกรู้สึกหลงรักลาวใต้มากๆ ธรรมชาติที่บ้านเค้าอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศดีสุดๆ มีโอกาสกลับไปอีกแน่นอนค่ะ***