ปลายสัปดาห์ที่ 9 แล้วครับ พร้อมกับขึ้นเดือนใหม่ มีนาคม 2561
เราผ่านกันมาแล้วสองเดือน และกรรมการเห็นสมควร เพิ่มเติม กฏกติกาเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับ ทั้งผู้แต่ง และผู้ทาย ดังต่อไปนี้
(1) สำหรับ ผู้แต่ง ทั้งฝั่งกวี และฝั่งเรื่องสั้น
การให้คะแนน กรรมการ ขอปรับเปลี่ยน จากเดิม ถอยหลังทีละ 1 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 เปลี่ยนเป็น คะแนนเต็ม 30 คะแนน และถอยหลังครั้งละ 2 คะแนน เช่น มีคนทายท่านถูก 3 คน คะแนนจะถอยเป็น 20-18-16-14 เป็นต้น ถ้าไม่มีใครทายท่านถูกเลย ก็รับ 30 คะแนนเต็ม
***
เพื่อกดดันให้ผู้เขียน/ผู้แต่ง สรรหากลยุทธปลอมตัวให้มากขึ้น!
(2) สำหรับ ผู้ทาย ไม่ว่าจะทายฝั่งกวี หรือเรื่องสั้น
ถ้ามีคนทายถูก ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป รับคนละ 10 คะแนน เท่ากันหมด
แต่...ถ้ามีคนทายถูก เพียงสองคน รับคนละ 15 คะแนน
และ ถ้ามีคนทายถูก เพียงคนเดียว คนนั้น รับ 30 คะแนน
***พิเศษ สำหรับ คนที่มีแต้มน้อย ทายผิดเยอะ***
ต่อไปนี้ หากใครทายผิด ครบ 5 ครั้ง ในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง (ไม่ข้ามฝั่ง) กรรมการจะแจกคะแนนเพิ่มให้ 10 คะแนน
***MORE SPECIAL***เมื่อกรรมการเห็นว่า ถึงวันก่อนวันเฉลยแล้ว ยังไม่มีใครทายถูกกันเลย
กรรมการจะให้ "ตัวช่วย" ซึ่ง อาจจะเป็น ข้อความบางอย่าง,ภาพปริศนา หรือเพลง แล้วแต่กรรมการจะคิดได้
และจะส่งตัวช่วยนั้นลงมา ก่อนจะถึงวันสุดท้าย (คือไม่เกินเที่ยงคืนของวันก่อนวันสุดท้ายนั่นเอง เช่นจะเฉลยพรุ่งนี้ ก่อนเที่ยงคืนของวันนี้ ทุกคนจะได้เห็นตัวช่วย)
เอาละครับ มาอ่านเรื่องสั้น เรื่องแรก ของเดือนมีนาคมกันเลย...
เรื่องนี้ชื่อว่า "เสี้ยวชีวิต" ดูจากชื่อเรื่องแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ซาบซึ้งตรึงใจ...
จะ IMPRESSIVE ขนาดไหน มาอ่านกัน และควานหาตัวผู้เขียนดูที ว่า เขา หรือเธอ นี้ คือใคร...
วันนั้น...
จำได้ว่า พวกเราพี่น้องสองครอบครัว ผู้ใหญ่ หญิง 5 ชาย 4 และเด็กชาย 3 ขวบอีกหนึ่งคน ได้ขึ้นรถเดินทางจากกรุงเทพไปเที่ยวงานวัดบ้านแหลม แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
เมื่อไปถึงก่อนเที่ยงสักเล็กน้อย ก็พากันเดินดูงานโดยรอบ ร้านขายของกินมากมาย พวกยิงเป้า กระเช้าสวรรค์ยังไม่ได้หมุนเลยสักรอบ เนื่องด้วยอากาศร้อนจนรู้สึกเสื้อเปียกกันบ้างแล้ว ชายคนตัวสูงใหญ่สุดมีศักดิ์เป็นเขยในกลุ่มจึงใช้สายตาส่วนที่สูงกว่าคนอื่นๆมองหาร้านเพื่อเข้าไปนั่งดื่มน้ำดับร้อน
ร้านก๋วยเตี๋ยวขนาดกลางมีตู้โชว์ที่วางอาหารเต็มตู้น่ากิน ทั้งหมดเดินตามพี่อ้วนที่มีภรรยาจูงเด็กชายคนเดียวของกลุ่มเข้าไปนั่งที่โต๊ะ และพร้อมสั่งน้ำก่อนอาหารทันที
"แจ๊คจะทานอะไร ลูก" ผู้เป็นแม่ถาม
"อะไรอร่อยครับ" ลูกกลับย้อนถาม
"เอาปลาครับ"
"ลูก ก๋วยเตี๋ยวเขาไม่ใส่ปลาหรอก"
"ถ้าให้เขาใส่ให้แจ็คได้มั้ยครับ" คนที่ได้ยินก็ต้องยิ้ม
" ปลาเป็นลูกชิ้นนะลูก"
"ครับ มันคงไม่มีก้างแล้วนะครับ" แม่ยิ้มแล้วมองไปที่ทุกคนที่ขำในความช่างพูดของลูกตน
เมื่อดื่มน้ำจากแก้วพลาสติกกันทุกคนแล้ว ก๋วยเตี๋ยวของเด็กก็มาก่อน ตามด้วยของแม่และพ่อที่นั่งข้างๆ
แจ็คเหลือบตาไปสำรวจชามของแม่และพ่อว่ามีสิ่งที่ให้มาไม่เหมือนกับในชามของตนเอง จึงพูดขี้นมาว่า
"แม่ครับ ทำไมของแจ็คไม่มีตับและชิ้นนั้นครับ มีแต่ลูกชิ้นสีขาว"
"นั่นมันไส้หมูนะลูก ไม่อร่อยหรอก สำหรับผู้ใหญ่นะ รีบทานเถอะลูก"
ทุกคนทานก๋วยเตี๋ยวและบะหมี่จนอิ่มจึงได้ออกจากร้านไป การเดินดูโน่นนี่มีเด็กชายแจ็คจูงมือโดยน้าคนโน้นทีคนนี้ที เมื่อเด็กชายสนใจขนมที่เป่าเป็นรูปสัตว์จากหาบนั่งขาย การทำขนมสายไหมฟูฟ่องก่อนคนขายใช้ไม้ยาวตวัดพันขึ้นมา พวกผู้ใหญ่เดินดูแผงสินค้าและสอบถามราคาก็มักจะเป็นฝ่ายหญิงเสียมากกว่า ส่วนผู้ชายก็ไปยืนลูบคลำมีดอรัญญิกที่มีรูปร่างและปลอกมีดสวยแปลกตา ต่างคนก็ต่างสนใจในสิ่งของตรงหน้า และได้ข้าวของติดมือมากันคนละอย่างสองอย่างถือเป็นความเพลิดเพลินหลังอาหาร
ลมเย็นพัดมาให้คลายร้อนอบอ้าวบ้าง
เมื่อพี่อ้วนหยุดยืนเล็งว่าจะเดินไปด้านไหนต่อ มองไปไม่เห็นเด็ก หมุนตัวรอบๆก็ไม่เห็น
"แจ็คล่ะ" ถามเสียงดังจนทุกคนตื่นและตกใจตามมา
แจ็คหาย!
วงแตกในทันที ต่างก็รีบแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ผู้เป็นแม่ตระหนกกว่าคนอื่น รีบกวาดสายตาเล็งไปทั่วเท่าที่จะพอมองเห็นว่าลูกควรจะออกเดินไปในทิศทางใด ส่วนพี่อ้วนได้ถลันไปอีกทางหนึ่งแล้ว เขาเดินดุ่มไปในที่คนอยู่เป็นกลุ่มก้อน หวังว่าลูกตนเองอาจพลัดมาเข้ากลุ่ม แต่เขาก็ถอยออกมาในทันทีที่ไม่เห็นลูก ยืนกวาดสายตาไปอีกในระยะร้อยเมตรนี่ก็ไม่เห็นลูกชาย
โน่น เด็กขนาดเท่าแจ็คยืนอยู่นั่น แต่เสื้อผ้าไม่ใช่นี่นะ จึงเปลี่ยนเป้าหมายถอยมาใกล้จุดเดิมและกวาดสายตามองหาเด็กอย่างไม่ให้คลาดสายตาทุกจุด
ผู้เป็นแม่เดินไปทั่วพร้อมเรียกชื่อ แจ็ค แจ็ค อย่างไม่สนใจใครมองหล่อนเดินหน้าถอดสีไปใกล้รถที่มีแบ็คแคปที่เหมือนจะออกเดินทาง ชะโงกเข้าไปมองและถามหาว่า เห็นเด็กผู้ชายสามขวบบ้างมั้ย ใส่เสื้อลายการ์ตูน กางเกงสีขาวขาสั้น เมื่อไม่มีใครเห็น หล่อนก็รีบผละจากไป และนึกได้ก็นั่งยองๆบนบานเจ้าพ่อวัดแหลม ขอให้ลูกอย่าหายเลย ขอให้ลูกช้างได้พบลูกด้วยเถิดจะแก้บน...
ลุกขึ้นได้ก็รีบเดินหันหน้าหันหลังมองจ้องไปยังด้านที่มีเรือจอดอยู่ ท่าเรือเล็กๆนั้นมีคนอยู่ประปราย หล่อนไม่ได้ตะโกนเรียกลูกในความว่างเปล่า แต่นึกว่าตั้งหลักคอยที่ท่าเรือนี่ก็ดี ในเมื่อคนอื่นก็เดินหากันอยู่ทั่วๆแล้ว ในใจก็นึกพร่ำเจ้าประคูณซ้ำซากมิรู้กี่สิบหน
หล่อนเดินไปให้ใกล้ท่าน้ำยิ่งขึ้นเมื่อหันกลับมา ก็ใจหายวาบ นั่นๆ ผู้ชายคนนั้นอุ้มแจ็คอยู่นี่ หล่อนวิ่งไปร้องไห้ไปเรียกลูกไปสุดเสียง
"แจ็ค..แจ็ค.." แจ็คหันมามอง ดิ้นพรวดจนชายคนนั้นต้องคว้าไว้
"จะเอาลูกฉันไปไหน แจ็ค โอ๋..ลูก.."
หล่อนแทบกระชากลูกมาโดยไว นั่งลงกอดลูกร้องไห้ มือก็ลูบไล้ปลอบขวัญลูกที่ร้องไห้ไปกับแม่คืนมา...
สักพักเมื่อสติคืนมา หล่อนจึงสงบลงได้ถามผู้ชายคนที่ยืนมองแม่ลูกร่ำไห้นั้นว่า
"เจอเด็กได้ยังไง"
" ผมเห็นเขาเดินคนเดียว ไม่มีใครเดินตาม จึงถาม ก็ไม่ตอบ เลยอุ้มไว้"
" แล้วนี่จะไปไหนต่อ"
" ผมก็จะกลับบ้าน"
" เอาเด็กนี่ไปด้วยน่ะเหรอ"
" แล้วจะให้ผมทำยังไง"
" ก็ต้องไปประกาศหาพ่อแม่เด็กสิ"
หล่อนใจหายวาบ โธ่ ลูกเกือบคลาดกันแล้วละนี่ คิดพลางกอดลูกน้ำตารินหยดอีกรอบ
" แจ็ค แจ็ค.." พี่อ้วนผู้พ่อตามมาพร้อมพวกอีกสามคน ต่างรีบวิ่งมาใกล้ด้วยความตื่นเต้นระคนโล่งอกที่มันเต้นไม่เป็นระส่ำในครึ่งค่อนชั่วโมงผ่านมานี้
ผู้ชายวัยกลางคนที่อุ้มแจ็คใจคอไม่ดีเมื่อเห็นกลุ่มคนมาแสดงความเป็นเจ้าของเด็ก เขารีบมายกมือไหว้พี่อ้วนตัวใหญ่กว่าคนทั่วไปและบุคลิกนายทหารอาชีพด้วย
"ผมไม่ได้ขโมยเด็กนะครับ เด็กเดินมาคนเดียวจริงๆ ถามก็ไม่ตอบว่าชื่ออะไร ทำท่าจะร้องไห้ท่าเดียว ก็เลยอุ้มเดินสักพัก รอแฟนซื้อของก่อนลงเรือกลับบ้าน"
ทุกคนยืนฟังลำดับความหวาดเสียว ถ้ามาช้าอีกหน่อยเดียวแจ็คคงไปกับเขาแล้ว ยิ่งหมดโอกาสจะเจอตัว โอ.. บุญพระคุ้มครองแท้ๆเชียว..
"เมื่อกี้ยกมือไหว้บนหลวงพ่อไว้แล้วจึงได้เจอ"แม่แจ็คพูดเสียงยังสั่นอยู่เลย
พ่อก็อุ้มแจ็คอย่างยึดไว้ให้แน่อกแน่ใจ
"เอาละ ทีหลังเจอเด็กต้องไปแจ้งวัดให้โฆษกประกาศเด็กหายนะ ไม่เช่นนั้นถือว่าขโมยเด็ก.."
"คงไม่มีอีกแล้วครับ ผมไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้" ชายต่างจังหวัดตอบได้แค่นี้
"นับถือหลวงพ่อหรือเปล่า ถ้านับถือก็ควรทำดี นี่ขนาดอยู่ในวัดแท้ๆ"
น้องเขยอีกคนเห็นว่าพี่อ้วนกำลังจะเปลี่ยนความดีใจเป็นโกรธ จึงเข้ามาจับตัวแจ็คที่พี่อ้วนอุ้มอยู่ พูดว่า
"แจ็คก็อยู่นี่แล้ว หลวงพ่อช่วยแล้ว ไปเถอะ ไปไหว้หลวงพ่อแล้วกลับบ้านกัน"
แม่แจ็คลุกขึ้นจากการนั่งอย่างอ่อนแรง จับแข้งขา ดูหัวหูลูกแบบสำรวจและพาตัวเองมาเข้ากลุ่มสาวๆที่เพิ่งเดินมาสมทบ จับมือไม้ถามกันให้แซ่ดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แม่แจ็คก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ เสียงถามจึงเงียบไปเมื่อพี่อ้วนอุ้มแจ็คเดินมาและตรงไปที่พระอุโบสถเพื่อบอกกล่าวอำลาและรู้สึกถึงบุญญาธิการขององค์ท่าน ที่ทำให้ได้พบลูก นึกแล้วผู้เป็นแม่ก็ยังน้ำตาคลอในอกหวิววับไม่หาย เมื่อกราบพระเสร็จก็มองหาเจ้าหน้าที่ สอบถามถึงการถวายของแก้บนว่าควรจะมีอะไรบ้าง เมื่อได้รับคำบอกแล้วก็ถามต่อว่ามีใครรับจัดการทำให้ได้บ้าง เจ้าหน้าที่คนนั้นจึงเรียกหญิงอีกคนหนึ่งมา เมื่อได้คุยกันแล้วก็ให้ลงชื่อ ที่อยู่ และคำแก้บน พร้อมกับชำระจำนวนเงินค่าสิ่งของ
แม่ได้พูดหลังจากนั้นว่าให้เขาทำให้ครบ ส่วนเราจะไปทำที่บ้านอีกรอบหนึ่ง แค่นี้ก็ไม่รู้จะเท่าความรู้สึกที่มีตอนนี้ไหม พูดพลางมองลูกชายอย่างไม่เชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาหยกๆ
ทั้งหมดเดินกลับมาขี้นรถด้วยใจระทึกไม่หาย งานวัดบ้านแหลมจะทรงอยู่ในหัวใจไปอีกนานเท่านาน
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. Lady Star 919
7. Luckard
8. Na(นะ)
9. peiNing
10. psycho_factory
11. Soul Master
12. Susisiri
13. Tantava
14. TOSHARE
15. turtle_cheesecake
16. WANG JIE
17. เกสรผกา
18. คีตมินทร์
19. จอมยุทธนักสืบ
20. ชายขอบคันนายาว
21. นลินมณี
22. น้องลิงน้อย
23. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
24. รัชต์สารินท์
25. สวนดอก
26. อิสิ
***
รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 4 มีนาคม 2561 ***
สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ จนครบเดือน จะสรุปผลคะแนน
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะได้สิทธิ์ร่วมรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปีครับผม
🌙⭐️🌟 THE WEEKLY GLOVES ปลายวีคที่ 9 เรื่องสั้น#17 "เสี้ยวชีวิต" โดย ถุงมือ "จรจารึก" ครับ 🌟⭐️🌙
ปลายสัปดาห์ที่ 9 แล้วครับ พร้อมกับขึ้นเดือนใหม่ มีนาคม 2561
เราผ่านกันมาแล้วสองเดือน และกรรมการเห็นสมควร เพิ่มเติม กฏกติกาเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับ ทั้งผู้แต่ง และผู้ทาย ดังต่อไปนี้
(1) สำหรับ ผู้แต่ง ทั้งฝั่งกวี และฝั่งเรื่องสั้น
การให้คะแนน กรรมการ ขอปรับเปลี่ยน จากเดิม ถอยหลังทีละ 1 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 เปลี่ยนเป็น คะแนนเต็ม 30 คะแนน และถอยหลังครั้งละ 2 คะแนน เช่น มีคนทายท่านถูก 3 คน คะแนนจะถอยเป็น 20-18-16-14 เป็นต้น ถ้าไม่มีใครทายท่านถูกเลย ก็รับ 30 คะแนนเต็ม
*** เพื่อกดดันให้ผู้เขียน/ผู้แต่ง สรรหากลยุทธปลอมตัวให้มากขึ้น!
(2) สำหรับ ผู้ทาย ไม่ว่าจะทายฝั่งกวี หรือเรื่องสั้น
ถ้ามีคนทายถูก ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป รับคนละ 10 คะแนน เท่ากันหมด
แต่...ถ้ามีคนทายถูก เพียงสองคน รับคนละ 15 คะแนน
และ ถ้ามีคนทายถูก เพียงคนเดียว คนนั้น รับ 30 คะแนน
***พิเศษ สำหรับ คนที่มีแต้มน้อย ทายผิดเยอะ***
ต่อไปนี้ หากใครทายผิด ครบ 5 ครั้ง ในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง (ไม่ข้ามฝั่ง) กรรมการจะแจกคะแนนเพิ่มให้ 10 คะแนน
***MORE SPECIAL***เมื่อกรรมการเห็นว่า ถึงวันก่อนวันเฉลยแล้ว ยังไม่มีใครทายถูกกันเลย กรรมการจะให้ "ตัวช่วย" ซึ่ง อาจจะเป็น ข้อความบางอย่าง,ภาพปริศนา หรือเพลง แล้วแต่กรรมการจะคิดได้ และจะส่งตัวช่วยนั้นลงมา ก่อนจะถึงวันสุดท้าย (คือไม่เกินเที่ยงคืนของวันก่อนวันสุดท้ายนั่นเอง เช่นจะเฉลยพรุ่งนี้ ก่อนเที่ยงคืนของวันนี้ ทุกคนจะได้เห็นตัวช่วย)
เอาละครับ มาอ่านเรื่องสั้น เรื่องแรก ของเดือนมีนาคมกันเลย...
เรื่องนี้ชื่อว่า "เสี้ยวชีวิต" ดูจากชื่อเรื่องแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ซาบซึ้งตรึงใจ...
จะ IMPRESSIVE ขนาดไหน มาอ่านกัน และควานหาตัวผู้เขียนดูที ว่า เขา หรือเธอ นี้ คือใคร...
วันนั้น...
จำได้ว่า พวกเราพี่น้องสองครอบครัว ผู้ใหญ่ หญิง 5 ชาย 4 และเด็กชาย 3 ขวบอีกหนึ่งคน ได้ขึ้นรถเดินทางจากกรุงเทพไปเที่ยวงานวัดบ้านแหลม แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
เมื่อไปถึงก่อนเที่ยงสักเล็กน้อย ก็พากันเดินดูงานโดยรอบ ร้านขายของกินมากมาย พวกยิงเป้า กระเช้าสวรรค์ยังไม่ได้หมุนเลยสักรอบ เนื่องด้วยอากาศร้อนจนรู้สึกเสื้อเปียกกันบ้างแล้ว ชายคนตัวสูงใหญ่สุดมีศักดิ์เป็นเขยในกลุ่มจึงใช้สายตาส่วนที่สูงกว่าคนอื่นๆมองหาร้านเพื่อเข้าไปนั่งดื่มน้ำดับร้อน
ร้านก๋วยเตี๋ยวขนาดกลางมีตู้โชว์ที่วางอาหารเต็มตู้น่ากิน ทั้งหมดเดินตามพี่อ้วนที่มีภรรยาจูงเด็กชายคนเดียวของกลุ่มเข้าไปนั่งที่โต๊ะ และพร้อมสั่งน้ำก่อนอาหารทันที
"แจ๊คจะทานอะไร ลูก" ผู้เป็นแม่ถาม
"อะไรอร่อยครับ" ลูกกลับย้อนถาม
"เอาปลาครับ"
"ลูก ก๋วยเตี๋ยวเขาไม่ใส่ปลาหรอก"
"ถ้าให้เขาใส่ให้แจ็คได้มั้ยครับ" คนที่ได้ยินก็ต้องยิ้ม
" ปลาเป็นลูกชิ้นนะลูก"
"ครับ มันคงไม่มีก้างแล้วนะครับ" แม่ยิ้มแล้วมองไปที่ทุกคนที่ขำในความช่างพูดของลูกตน
เมื่อดื่มน้ำจากแก้วพลาสติกกันทุกคนแล้ว ก๋วยเตี๋ยวของเด็กก็มาก่อน ตามด้วยของแม่และพ่อที่นั่งข้างๆ
แจ็คเหลือบตาไปสำรวจชามของแม่และพ่อว่ามีสิ่งที่ให้มาไม่เหมือนกับในชามของตนเอง จึงพูดขี้นมาว่า
"แม่ครับ ทำไมของแจ็คไม่มีตับและชิ้นนั้นครับ มีแต่ลูกชิ้นสีขาว"
"นั่นมันไส้หมูนะลูก ไม่อร่อยหรอก สำหรับผู้ใหญ่นะ รีบทานเถอะลูก"
ทุกคนทานก๋วยเตี๋ยวและบะหมี่จนอิ่มจึงได้ออกจากร้านไป การเดินดูโน่นนี่มีเด็กชายแจ็คจูงมือโดยน้าคนโน้นทีคนนี้ที เมื่อเด็กชายสนใจขนมที่เป่าเป็นรูปสัตว์จากหาบนั่งขาย การทำขนมสายไหมฟูฟ่องก่อนคนขายใช้ไม้ยาวตวัดพันขึ้นมา พวกผู้ใหญ่เดินดูแผงสินค้าและสอบถามราคาก็มักจะเป็นฝ่ายหญิงเสียมากกว่า ส่วนผู้ชายก็ไปยืนลูบคลำมีดอรัญญิกที่มีรูปร่างและปลอกมีดสวยแปลกตา ต่างคนก็ต่างสนใจในสิ่งของตรงหน้า และได้ข้าวของติดมือมากันคนละอย่างสองอย่างถือเป็นความเพลิดเพลินหลังอาหาร
ลมเย็นพัดมาให้คลายร้อนอบอ้าวบ้าง
เมื่อพี่อ้วนหยุดยืนเล็งว่าจะเดินไปด้านไหนต่อ มองไปไม่เห็นเด็ก หมุนตัวรอบๆก็ไม่เห็น
"แจ็คล่ะ" ถามเสียงดังจนทุกคนตื่นและตกใจตามมา
แจ็คหาย!
วงแตกในทันที ต่างก็รีบแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ผู้เป็นแม่ตระหนกกว่าคนอื่น รีบกวาดสายตาเล็งไปทั่วเท่าที่จะพอมองเห็นว่าลูกควรจะออกเดินไปในทิศทางใด ส่วนพี่อ้วนได้ถลันไปอีกทางหนึ่งแล้ว เขาเดินดุ่มไปในที่คนอยู่เป็นกลุ่มก้อน หวังว่าลูกตนเองอาจพลัดมาเข้ากลุ่ม แต่เขาก็ถอยออกมาในทันทีที่ไม่เห็นลูก ยืนกวาดสายตาไปอีกในระยะร้อยเมตรนี่ก็ไม่เห็นลูกชาย
โน่น เด็กขนาดเท่าแจ็คยืนอยู่นั่น แต่เสื้อผ้าไม่ใช่นี่นะ จึงเปลี่ยนเป้าหมายถอยมาใกล้จุดเดิมและกวาดสายตามองหาเด็กอย่างไม่ให้คลาดสายตาทุกจุด
ผู้เป็นแม่เดินไปทั่วพร้อมเรียกชื่อ แจ็ค แจ็ค อย่างไม่สนใจใครมองหล่อนเดินหน้าถอดสีไปใกล้รถที่มีแบ็คแคปที่เหมือนจะออกเดินทาง ชะโงกเข้าไปมองและถามหาว่า เห็นเด็กผู้ชายสามขวบบ้างมั้ย ใส่เสื้อลายการ์ตูน กางเกงสีขาวขาสั้น เมื่อไม่มีใครเห็น หล่อนก็รีบผละจากไป และนึกได้ก็นั่งยองๆบนบานเจ้าพ่อวัดแหลม ขอให้ลูกอย่าหายเลย ขอให้ลูกช้างได้พบลูกด้วยเถิดจะแก้บน...
ลุกขึ้นได้ก็รีบเดินหันหน้าหันหลังมองจ้องไปยังด้านที่มีเรือจอดอยู่ ท่าเรือเล็กๆนั้นมีคนอยู่ประปราย หล่อนไม่ได้ตะโกนเรียกลูกในความว่างเปล่า แต่นึกว่าตั้งหลักคอยที่ท่าเรือนี่ก็ดี ในเมื่อคนอื่นก็เดินหากันอยู่ทั่วๆแล้ว ในใจก็นึกพร่ำเจ้าประคูณซ้ำซากมิรู้กี่สิบหน
หล่อนเดินไปให้ใกล้ท่าน้ำยิ่งขึ้นเมื่อหันกลับมา ก็ใจหายวาบ นั่นๆ ผู้ชายคนนั้นอุ้มแจ็คอยู่นี่ หล่อนวิ่งไปร้องไห้ไปเรียกลูกไปสุดเสียง
"แจ็ค..แจ็ค.." แจ็คหันมามอง ดิ้นพรวดจนชายคนนั้นต้องคว้าไว้
"จะเอาลูกฉันไปไหน แจ็ค โอ๋..ลูก.."
หล่อนแทบกระชากลูกมาโดยไว นั่งลงกอดลูกร้องไห้ มือก็ลูบไล้ปลอบขวัญลูกที่ร้องไห้ไปกับแม่คืนมา...
สักพักเมื่อสติคืนมา หล่อนจึงสงบลงได้ถามผู้ชายคนที่ยืนมองแม่ลูกร่ำไห้นั้นว่า
"เจอเด็กได้ยังไง"
" ผมเห็นเขาเดินคนเดียว ไม่มีใครเดินตาม จึงถาม ก็ไม่ตอบ เลยอุ้มไว้"
" แล้วนี่จะไปไหนต่อ"
" ผมก็จะกลับบ้าน"
" เอาเด็กนี่ไปด้วยน่ะเหรอ"
" แล้วจะให้ผมทำยังไง"
" ก็ต้องไปประกาศหาพ่อแม่เด็กสิ"
หล่อนใจหายวาบ โธ่ ลูกเกือบคลาดกันแล้วละนี่ คิดพลางกอดลูกน้ำตารินหยดอีกรอบ
" แจ็ค แจ็ค.." พี่อ้วนผู้พ่อตามมาพร้อมพวกอีกสามคน ต่างรีบวิ่งมาใกล้ด้วยความตื่นเต้นระคนโล่งอกที่มันเต้นไม่เป็นระส่ำในครึ่งค่อนชั่วโมงผ่านมานี้
ผู้ชายวัยกลางคนที่อุ้มแจ็คใจคอไม่ดีเมื่อเห็นกลุ่มคนมาแสดงความเป็นเจ้าของเด็ก เขารีบมายกมือไหว้พี่อ้วนตัวใหญ่กว่าคนทั่วไปและบุคลิกนายทหารอาชีพด้วย
"ผมไม่ได้ขโมยเด็กนะครับ เด็กเดินมาคนเดียวจริงๆ ถามก็ไม่ตอบว่าชื่ออะไร ทำท่าจะร้องไห้ท่าเดียว ก็เลยอุ้มเดินสักพัก รอแฟนซื้อของก่อนลงเรือกลับบ้าน"
ทุกคนยืนฟังลำดับความหวาดเสียว ถ้ามาช้าอีกหน่อยเดียวแจ็คคงไปกับเขาแล้ว ยิ่งหมดโอกาสจะเจอตัว โอ.. บุญพระคุ้มครองแท้ๆเชียว..
"เมื่อกี้ยกมือไหว้บนหลวงพ่อไว้แล้วจึงได้เจอ"แม่แจ็คพูดเสียงยังสั่นอยู่เลย
พ่อก็อุ้มแจ็คอย่างยึดไว้ให้แน่อกแน่ใจ
"เอาละ ทีหลังเจอเด็กต้องไปแจ้งวัดให้โฆษกประกาศเด็กหายนะ ไม่เช่นนั้นถือว่าขโมยเด็ก.."
"คงไม่มีอีกแล้วครับ ผมไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้" ชายต่างจังหวัดตอบได้แค่นี้
"นับถือหลวงพ่อหรือเปล่า ถ้านับถือก็ควรทำดี นี่ขนาดอยู่ในวัดแท้ๆ"
น้องเขยอีกคนเห็นว่าพี่อ้วนกำลังจะเปลี่ยนความดีใจเป็นโกรธ จึงเข้ามาจับตัวแจ็คที่พี่อ้วนอุ้มอยู่ พูดว่า
"แจ็คก็อยู่นี่แล้ว หลวงพ่อช่วยแล้ว ไปเถอะ ไปไหว้หลวงพ่อแล้วกลับบ้านกัน"
แม่แจ็คลุกขึ้นจากการนั่งอย่างอ่อนแรง จับแข้งขา ดูหัวหูลูกแบบสำรวจและพาตัวเองมาเข้ากลุ่มสาวๆที่เพิ่งเดินมาสมทบ จับมือไม้ถามกันให้แซ่ดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แม่แจ็คก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ เสียงถามจึงเงียบไปเมื่อพี่อ้วนอุ้มแจ็คเดินมาและตรงไปที่พระอุโบสถเพื่อบอกกล่าวอำลาและรู้สึกถึงบุญญาธิการขององค์ท่าน ที่ทำให้ได้พบลูก นึกแล้วผู้เป็นแม่ก็ยังน้ำตาคลอในอกหวิววับไม่หาย เมื่อกราบพระเสร็จก็มองหาเจ้าหน้าที่ สอบถามถึงการถวายของแก้บนว่าควรจะมีอะไรบ้าง เมื่อได้รับคำบอกแล้วก็ถามต่อว่ามีใครรับจัดการทำให้ได้บ้าง เจ้าหน้าที่คนนั้นจึงเรียกหญิงอีกคนหนึ่งมา เมื่อได้คุยกันแล้วก็ให้ลงชื่อ ที่อยู่ และคำแก้บน พร้อมกับชำระจำนวนเงินค่าสิ่งของ
แม่ได้พูดหลังจากนั้นว่าให้เขาทำให้ครบ ส่วนเราจะไปทำที่บ้านอีกรอบหนึ่ง แค่นี้ก็ไม่รู้จะเท่าความรู้สึกที่มีตอนนี้ไหม พูดพลางมองลูกชายอย่างไม่เชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาหยกๆ
ทั้งหมดเดินกลับมาขี้นรถด้วยใจระทึกไม่หาย งานวัดบ้านแหลมจะทรงอยู่ในหัวใจไปอีกนานเท่านาน
ถุงมือ "จรจารึก"
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. Lady Star 919
7. Luckard
8. Na(นะ)
9. peiNing
10. psycho_factory
11. Soul Master
12. Susisiri
13. Tantava
14. TOSHARE
15. turtle_cheesecake
16. WANG JIE
17. เกสรผกา
18. คีตมินทร์
19. จอมยุทธนักสืบ
20. ชายขอบคันนายาว
21. นลินมณี
22. น้องลิงน้อย
23. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
24. รัชต์สารินท์
25. สวนดอก
26. อิสิ
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 4 มีนาคม 2561 ***
สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ จนครบเดือน จะสรุปผลคะแนน
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะได้สิทธิ์ร่วมรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปีครับผม