ชลัน
เจ็ดโมงครึ่งนักสืบหนุ่มในคราบคุณครูหาวหวอด ๆ ออกมาจากห้องพัก เมื่อคืนกว่าเขาจะหลับลงก็เกือบเช้า ได้นอนจริง ๆ สามชั่วโมงจึงทำให้เช้านี้รู้สึกอิดโรยและตื่นสายดูไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรและนั่นก็ไม่รอดพ้นสายตาของสาวใช้อย่างนก
"พี่คุณตื่นสายจังค่ะ นอนดึกเหรอคะ" นกเดินมาดักหน้าขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะเดินไปยังบ้านของเอมอรและอภิสิทธิ์
ชายหนุ่มหยุดกึกเมื่อโดนร่างสมส่วนยืนขวาง "ใช่ครับ พี่คุณมัวแต่ทำแผนการสอนของน้องพ็อตเตอร์จนดึกน่ะ ได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง เลยทำให้เช้านี้พี่คุณไม่สดใสเท่าไหร่" นักสืบหนุ่มในคราบคุณครูตอบ พร้อมหาวโชว์สาวใช้คนสวยไปหนึ่งที "สายแล้วพี่ขอตัวนะ เดี๋ยวเข้าสอนน้องพ็อตเตอร์ไม่ทันเวลาพี่คุณโดนหักเงินแน่ คุณอภิสิทธิ์ยิ่งเขี้ยวอยู่"
"ค่ะ ๆ พี่คุณรีบไปเถอะค่ะ" สาวใช้วัยละอ่อนไม่ยืดเยื้อเวลาอีกต่อไป เพราะเห็นว่าสายแล้วจริง ๆ
นักสืบหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาในห้องเรียนก็พบกับเอมอรและน้องพ็อตเตอร์นั่งรอบนโซฟาแล้ว ผู้เป็นแม่ยิ้มให้กับเขา วันนี้แทนคุณรู้สึกว่าเอมอรยิ้มอย่างมีความสุขและสบายใจกว่าเมื่อวานแม้ตอนนี้อภิสิทธิ์ผู้เป็นสามีจะยังไม่กลับเข้าบ้านก็ตาม พิจารณาจากการแต่งตัวของสาวเจ้าก็ดูเหมือนว่ากำลังจะออกไปข้างนอกยังไงยังงั้น 'อีกแล้วหรือ' นี่คือคำถามในใจของชายหนุ่ม ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เขาไม่เคยเห็นว่าเอมอรจะอยู่ติดบ้านกับลูกชายสักวัน
"สวัสดีครับคุณเอมอร น้องพ็อตเตอร์พี่คุณมาแล้ว" คุณครูกำมะลอกล่าวทักทายทั้งสองคนอย่างสุภาพ
"เตะฟุตบอล" ทันทีที่เห็นหน้าแทนคุณเด็กชายก็พูดคำนี้ออกมา
ผู้เป็นแม่และนักสืบในคราบคุณครูยิ้มกว้าง เอมอรยกมือลูบศีรษะลูกชายเบา ๆ "คุณครูเก่งมากเลยค่ะ ปกติน้องพ็อตเตอร์ไม่ฟังใครหรอก ไม่พอใจก็กรี๊ด ฉันล่ะเหนื่อยใจมาก ๆ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนสอนน้องพ็อตเตอร์ได้ ฉันรู้ว่ามีโรงเรียนสอนเด็กพิเศษโดยเฉพาะ แต่เพราะว่าลูกชายเป็นแบบนี้ไม่เอาใครเลย พ่อเขาก็เลยห่วงว่าลูกจะอยู่ไม่ได้ก็เลยไม่ยอมให้พาไปโรงเรียนค่ะ ต้องจ้างครูมาสอนที่บ้านแทน" เอมอรพูดทั้งรอยยิ้ม เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับการเรียนรู้ของลูกชาย
'อ่อ อย่างนี้นี่เอง' นักสืบหนุ่มนึกแต่เขาก็ไม่เห็นด้วย เอมอรกับอภิสิทธิ์ควรจะพาลูกชายไปโรงเรียน ถึงจะเข้ากับคนอื่นยากแค่ไหนทางโรงเรียนและคุณครูเขาก็มีวิธีสอนและจัดการที่ดีอยู่แล้ว ดีกว่าจ้างครูมาสอนที่บ้าน ทำให้เด็กไม่มีเพื่อนและสังคมยิ่งทำให้เข้ากับสังคมยากยิ่งเข้าไปอีก
เด็กพิเศษเข้าสังคมยากอยู่แล้วยิ่งควรจะต้องฝึกให้เขาเข้าสังคม ต่อไปเขาจะได้ใช้ชีวิตได้สบาย ๆในยามที่ไม่มีพ่อแม่ในวันข้างหน้า
"ครับคุณเอมอร แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำ ผมว่าควรจะพาน้องพ็อตเตอร์ไปโรงเรียนดีกว่าครับ" ชายหนุ่มเสนอความคิดเห็น
"ไม่ไปโรงเรียน" เด็กชายพูดแทรกทั้งสองคนขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่าโรงเรียน สายตาจ้องเขม่นมายังนักสืบหนุ่ม
"ครับไม่ไปโรงเรียนครับ น้องพ็อตเตอร์ไม่ต้องไปโรงเรียน พี่คุณไม่ใช่ครู พี่คุณเป็นนักฟุตบอล" แทนคุณรีบอธิบาย เด็กชายคลายสีหน้าเคร่งขรึมลงและเริ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้า อีกทั้งพยักหน้าหงึก ๆ ทำให้ครูจำเป็นและคนเป็นแม่ยิ้มออกอีกครั้ง
"วันนี้ฉันฝากน้องพ็อตเตอร์ไว้กับคุณครูอีกวันนะคะ พอดีว่าฉันจะไปธุระค่ะ" เอมอรบอกเจตจำนงค์ของตน
"ครับ ไม่ต้องห่วงครับคุณเอมอร" ชายหนุ่มตอบด้วยความอ่อนใจ นี่หรือคนเป็นแม่ คนเป็นพ่อก็ไม่ค่อยสนใจคนเป็นแม่ก็ไม่ใส่ใจ แทนคุณสงสารเด็กชายยิ่งนัก ปรายตามองเด็กชายวัยแปดขวบด้วยความสงสารเงียบ ๆ
เมื่อคนเป็นครูรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะร่างเพรียวระหงก็ลุกขึ้นจากโซฟาหยิบกระเป๋าและหมุนตัวเดินออกจากบ้านไป แทนคุณมองตามร่างนั้น แม้เอมอรจะเข้าสู่วัยเลขสี่ต้น ๆ แต่หล่อนยังคงดูสวยและแซ่บ ไม่แปลกใจเลยที่คนเจ้าชู้อย่างอภิสิทธิ์จะหลงใหลทั้งที่มีคนที่รักอยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มแปลกใจตรงนี้มากกว่าว่า ทั้งที่เอมอรสวยและแซ่บขนาดนี้ทำไมต้องมาดักดานเป็นของตายอยู่กับคนที่ไม่รักตนเองอย่างอภิสิทธิ์
โปรแกรมการเรียนในช่วงเช้าที่แดดยังไม่จ้าอากาศยังไม่ร้อนคุณครูจำเป็นจะพานักเรียนมาออกกำลังกายโดยการเตะฟุตบอล ซึ่งเป็นการเรียนตามใจผู้เรียนโดยตรง และดูจะเป็นที่พอใจของน้องพ็อตเตอร์มาก เพราะหลังจากเตะฟุตบอลเสร็จ เด็กชายก็จะตั้งใจเรียนวิชาอื่น ๆ เป็นอย่างดี
ขณะที่นักสืบในคราบครูหนุ่มกำลังสอนลูกศิษย์เตะฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้าเล็ก ๆ หน้าบ้าน เขาก็เห็นเลอดาวพาประมุขของบ้านออกมารับอากาศข้างนอกเช่นเคย ทว่าสิ่งที่เขาสักเกตได้ก็คือ ตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานพร้อมกัน พยาบาลสาวมักจะพาคุณแพรทองออกมาเดินเล่นยังบริเวณฝั่งซ้ายโซนบ้านของอภิสิทธิ์เสมอ ทั้งที่คุณแพรทองพักอาศัยอยู่ที่โซนฝั่งขวาซึ่งเป็นของลูกชายคนโต
ฝั่งนั้นมีที่โล่งโปร่งมีมุมสูดบรรยากาศรับลมเย็นสบายมากกว่าฝั่งนี้ ถึงจะรกไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับอยู่บ้างเพราะขาดคนสวนดูแล แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายหรือมีสัตว์มีพิษเข้ามา มันมีบางอย่างบอกกับเขาว่าพยาบาลสาวคนนี้มีอะไรให้ต้องค้นหา แต่เขายังนึกไม่ออกว่าเลอดาวมีอะไรให้ต้องค้นหา นอกจากแววตาที่หวานพิมพ์ใจปนเศร้าและรอยยิ้มที่น่ามองของหล่อน ก็จะมีเรื่องอะไรให้ค้นหาอีก
จิตใต้สำนึกของการเป็นนักสืบมันบอกว่าเลอดาวไม่ใช่พยาบาลธรรมดาทั่วไป หล่อนต้องมีความลับอะไรบางอย่างในการมาที่นี่อย่างเขาเป็นแน่ แต่จะเป็นเรื่องอะไร นับว่าเป็นเรื่องที่แทนคุณต้องรู้ให้ได้เช่นกัน
เลอดาวพาคุณแพรทองนั่งรถเข็นมาหยุดตรงบริเวณใกล้ ๆ ที่แทนคุณกับน้องพ็อตเตอร์ทำกิจกรรม ดูทั้งสองคนเล่นฟุตบอลด้วยกัน ครูหนุ่มหันมายิ้มและเอ่ยทักทายทั้งสองคน
"สวัสดีครับคุณท่าน" ครูกำมะลอเอ่ยทักทายเจ้าของบ้านพร้อมผงกศีรษะให้อย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มและทักทายพยาบาลสาว "สวัสดีครับน้องดาว" หล่อนไม่ตอบเขาเพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้น
"ไหว้พระเถอะคุณครู ว่าแต่คุณครูสอนหลานฉันไปถึงไหนแล้วล่ะ" คุณแพรทองถาม
"ตอนเช้า ๆ แดดยังไม่แรงแบบนี้น้องพ็อตเตอร์ชอบให้พาออกมาเตะฟุตบอลครับ ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ผมใช้การตามใจก่อนเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการเรียนอย่างอื่น ส่วนการเรียนก็รู้สึกว่าน้องพ็อตเตอร์มีสมาธิมากขึ้นนะครับ วาดรูปและนับเลขได้"
"โห... นับเลขได้ด้วยเหรอคนเก่งของย่า" คุณแพรทองชมหลานชาย นัยน์ตาเป็นประกายแห่งความชื่นชมอย่างท่วมท้น ถึงหลานชายจะเป็นเด็กพิเศษแต่เป็นหลานคนแรกของบ้าน หล่อนจึงค่อนข้างที่จะรักและเอ็นดูมากกว่าหลานชายอีกคน ยิ่งหลานคนโตเกิดมาเป็นอย่างนี้ยิ่งสงสารและห่วงใยสองเท่า เด็กชายไม่สนใจแขกที่มาดู ยังคงเล่นฟุตบอลอยู่คนเดียวอย่างนั้น
"ครับคุณท่าน น้องพ็อตเตอร์ฉลาดและหัวไวมากครับ" แทนคุณไม่พูดเพียงเท่านั้น ให้ลูกศิษย์โชว์การนับเลขให้ดูเสียเลย "น้องพ็อตเตอร์ครับเรามาเล่นนับเลขกันนะครับ"
"ไม่ จะเตะฟุตบอล" เด็กชายตอบ
ครูจำเป็นยิ้มอย่างไม่ยี่หระ "ก็เตะฟุตบอลนั่นแหละครับ แต่เราจะเตะแบบนับเลขไปด้วย"
"เล่นยังไง" เด็กชายถาม
"พี่คุณจะเดาะฟุตบอลและนับเลขไปด้วย ส่วนน้องพ็อตเตอร์ต้องช่วยพี่คุณนับด้วยว่าได้กี่ที น้องพ็อตเตอร์นับเลขเป็นมั้ย" นักสืบในคราบคุณครูถาม
"เป็น" เด็กชายตอบ แทนคุณหันไปยิ้มให้คุณแพรทองและพยาบาลประจำตัว
"ดี งั้นมาช่วยกันนับนะ" แทนคุณเดาะฟุตบอลไปเรื่อย ๆ หางตาแอบมองพยาบาลสาวที่ยืนอยู่หลังรถเข็นของคุณแพรทองกำลังยิ้มระรื่นมองเขาเดาะฟุตบอล ส่วนลูกศิษย์คนพิเศษก็กำลังตั้งใจนับจำนวนครั้งที่เขาเดาะฟุตบอลเสียงดัง
พอเดาะครบยี่สิบครั้งจึงหยุด ลูกศิษย์คนพิเศษก็หยุดนับตามไปด้วย จากนั้นก็ได้ยินเสียงปรบมือดังมาจากผู้เป็นย่าและพยาบาลสาว นอกจากลูกศิษย์จะดีใจที่ได้รับคำชื่นชมแล้วครูจำเป็นอย่างเขาก็แอบดีใจไปด้วยที่เห็นแววตาชื่นชมของหญิงสาว
"พี่คุณเก่งจังเลยค่ะ สามารถนำวิชาพละและคณิตศาสตร์มารวมเป็นวิชาเดียวกันได้ สุดยอดไปเลย" เลอดาวชมและยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้กับชายหนุ่ม
"คุณครูเก่ง หลานย่าก็เก่ง อย่างนี้มันต้องมีรางวัลแล้วสินะ รางวัลสำหรับคนเก่งของย่า" คุณแพรทองยิ้มระรื่นและชมหลานชาย ทว่าเด็กชายกลับไม่สนใจคนเป็นย่าเลยสักนิดกลับให้ความสนใจร่างบางที่ยืนอยู่หลังรถเข็นแทน
แทนคุณมองตามสายตาของลูกศิษย์ 'เจ้าเด็กนี่ร้ายไม่เบา ท่าจะได้นิสัยเจ้าชู้ของพ่อมาเต็ม ๆ' เขานึกอย่างเอ็นดูในท่าทางของเด็กชายที่มีต่อเลอดาว
"สวย" เด็กชายพูดและมองไปยังผู้หญิงสวมชุดสีขาวใสสะอาด
"อ่อ ใช่ครับ พยาบาลประจำตัวคุณย่าสวยมาก" คุณแพรทองต่างก็เออออไปกับหลานชายด้วย
'คนสวย' หน้าแดงแจ๋ จนคนที่แอบมองอยู่แล้วยิ้มกว้างกับความหน้าแดงของหล่อน รู้สึกว่าคนตรงหน้านอกจากจะมีอะไรให้น่าค้นหาแล้วยังน่าเอ็นดูจากความน่ารักที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติที่ไม่ผ่านจริตปรุงแต่งจนเกินไปอย่างนก เขาไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งมองใจของตนเองก็ยิ่งใกล้ละลายเข้าไปทุกที แทนคุณมองคนยืนอยู่หลังรถเข็นเพลิน เผลอยิ้มให้ทั้งปาก ตา และใจ
"ขอบคุณครับน้องพ็อตเตอร์ที่ชมว่าพี่ดาวสวย" พยาบาลสาวตอบแก้เขิน ถูกเด็กชมว่าเขินแล้ว แต่พอปะทะเข้ากับนัยน์ตาคมและรอยยิ้มละมุนของครูหนุ่มยิ่งทำให้หล่อนเขินตัวลอย จึงรีบพูดขอบคุณเด็กชายเพื่อกลบเกลื่อนไป
"คุณย่าพาพี่คนสวยมาหาน้องพ็อตเตอร์ทุกวันเลยดีไหม" คุณแพรทองเอ่ยอย่างเอาใจหลานชาย นอกจากหลานชายจะตอบตกลง คนที่แอบตอบตกลงในใจและดีใจเห็นจะเป็นผู้ใหญ่ทั้งสองคนมากกว่า
แทนคุณกับเลอดาวแอบดีใจที่ประมุขของบ้านกล่าวอย่างนั้น อีกคนดีใจที่จะได้มองคนที่แอบชอบทุกวัน ส่วนอีกคนดีใจที่จะได้มาเก็บข้อมูลของบ้านวรโชติโภคินฝั่งซ้ายอย่างสบายใจ
"แดดเริ่มแรงแล้ว ผมขออนุญาตพาน้องพ็อตเตอร์เข้าบ้านนะครับ" นักสืบในคราบคุณครูเอ่ยขออนุญาตผู้เป็นย่าของเด็กชายก่อนจะหันมาพูดกับเจ้าตัว "น้องพ็อตเตอร์ครับ วันนี้เราเล่นฟุตบอลกันพอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกันอีก เราเข้าไปอ่านหนังสือในห้องกันดีกว่าเนอะ"
"ครับ" เด็กชายยอมตอบตกลงโดยง่ายพร้อมผงกศีรษะให้
"คุณท่านจะไปดูผมกับน้องพ็อตเตอร์เรียนก็ได้นะครับ" แทนคุณเปิดทางพร้อมแอบปรายตามองพยาบาลสาว ทำให้คนถูกมองยิ้มเขินและก้มหน้าหลบสายตานั้นเล็กน้อย
"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากรบกวนสมาธิคุณครูกับหลาน วันหลังแล้วกันนะฉันจะมาดู วันนี้อยากขึ้นไปพักแล้ว ดาวพาฉันกลับห้องเถอะ" เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าหล่อนรู้ว่าครูหนุ่มคนนี้คิดเช่นไรกับพยาบาลส่วนตัวของตน บ่อยครั้งที่เห็นสายตาของครูหนุ่มมองมายังเลอดาว หากสองคนคิดจะรักกันหล่อนไม่ห้าม แต่เลอดาวถือเป็นคนของตนจึงอยากจะทำให้การเข้าหาของครูหนุ่มมันยากขึ้นสักนิด
"ค่ะคุณท่าน" เลอดาวรับคำทันที "น้องพ็อตเตอร์ครับ พี่ดาวขอตัวพาคุณย่ากลับก่อนนะครับ วันหลังพี่ดาวจะพาคุณย่ามาดูน้องพ็อตเตอร์เตะฟุตบอลอีกนะ" ปากพูดกับเด็กชายแต่สายตาและรอยยิ้มกลับส่งให้อีกคน
"บ๊ายบายคนสวย" น้องพ็อตเตอร์ตอบ ทำเอาครูหนุ่มอึ้งอ้าปากค้างทำตาโตและหึงไปในตัว 'เด็กคนนี้ถ้าปกติอย่างเด็กทั่วไปล่ะก็ โตขึ้นมาคงร้ายไม่เบา ท่าทางจะเชื้อไม่ทิ้งแถว' แทนคุณค้อนในใจ
'คนสวย' มีอาการหน้าแดงแจ๋อีกรอบ หากเด็กชายชมในตอนที่อยู่กับคุณย่าเพียงลำพังหล่อนจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่นี่อยู่กับครูหนุ่มจะไม่ให้หล่อนเขินอย่างไรไหว
"ครับน้องพ็อตเตอร์ แล้วเจอกันอีกนะครับ" พอพูดจบเลอดาวจึงเข็นรถเข็นที่มีคุณแพรทองนั่งอยู่หมุนตัวหันหลังกลับก่อนจะเดินจากทั้งสองคนไป
ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้การจับตามองของนก หล่อนแอบมองทั้งคู่ยืนส่งยิ้มให้กันด้วยความร้อนรนในใจ ท่าทางพยาบาลสาวคนนี้จะเป็นศัตรูหัวใจของหล่อนเสียแล้ว ถึงหล่อนจะเป็นเพียงสาวใช้การศึกษาไม่สูงส่ง ใช่ว่าหล่อนจะไม่มีดีอะไรเลย ที่แน่ ๆ ก็ความสวยล่ะ เพราะมองอย่างไรหล่อนก็สวยกว่าใบหน้าจืดชืดไร้เครื่องสำอางแต่งเติมของเลอดาวแล้วกัน ไม่มีทาง! คุณครูแทนคุณต้องเป็นผู้ชายของหล่อนไม่ใช่ของพยาบาลเชยเฉิ่มคนนั้น
สืบลับฉบับเลิฟ (4)
ชลัน
เจ็ดโมงครึ่งนักสืบหนุ่มในคราบคุณครูหาวหวอด ๆ ออกมาจากห้องพัก เมื่อคืนกว่าเขาจะหลับลงก็เกือบเช้า ได้นอนจริง ๆ สามชั่วโมงจึงทำให้เช้านี้รู้สึกอิดโรยและตื่นสายดูไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรและนั่นก็ไม่รอดพ้นสายตาของสาวใช้อย่างนก
"พี่คุณตื่นสายจังค่ะ นอนดึกเหรอคะ" นกเดินมาดักหน้าขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะเดินไปยังบ้านของเอมอรและอภิสิทธิ์
ชายหนุ่มหยุดกึกเมื่อโดนร่างสมส่วนยืนขวาง "ใช่ครับ พี่คุณมัวแต่ทำแผนการสอนของน้องพ็อตเตอร์จนดึกน่ะ ได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง เลยทำให้เช้านี้พี่คุณไม่สดใสเท่าไหร่" นักสืบหนุ่มในคราบคุณครูตอบ พร้อมหาวโชว์สาวใช้คนสวยไปหนึ่งที "สายแล้วพี่ขอตัวนะ เดี๋ยวเข้าสอนน้องพ็อตเตอร์ไม่ทันเวลาพี่คุณโดนหักเงินแน่ คุณอภิสิทธิ์ยิ่งเขี้ยวอยู่"
"ค่ะ ๆ พี่คุณรีบไปเถอะค่ะ" สาวใช้วัยละอ่อนไม่ยืดเยื้อเวลาอีกต่อไป เพราะเห็นว่าสายแล้วจริง ๆ
นักสืบหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาในห้องเรียนก็พบกับเอมอรและน้องพ็อตเตอร์นั่งรอบนโซฟาแล้ว ผู้เป็นแม่ยิ้มให้กับเขา วันนี้แทนคุณรู้สึกว่าเอมอรยิ้มอย่างมีความสุขและสบายใจกว่าเมื่อวานแม้ตอนนี้อภิสิทธิ์ผู้เป็นสามีจะยังไม่กลับเข้าบ้านก็ตาม พิจารณาจากการแต่งตัวของสาวเจ้าก็ดูเหมือนว่ากำลังจะออกไปข้างนอกยังไงยังงั้น 'อีกแล้วหรือ' นี่คือคำถามในใจของชายหนุ่ม ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เขาไม่เคยเห็นว่าเอมอรจะอยู่ติดบ้านกับลูกชายสักวัน
"สวัสดีครับคุณเอมอร น้องพ็อตเตอร์พี่คุณมาแล้ว" คุณครูกำมะลอกล่าวทักทายทั้งสองคนอย่างสุภาพ
"เตะฟุตบอล" ทันทีที่เห็นหน้าแทนคุณเด็กชายก็พูดคำนี้ออกมา
ผู้เป็นแม่และนักสืบในคราบคุณครูยิ้มกว้าง เอมอรยกมือลูบศีรษะลูกชายเบา ๆ "คุณครูเก่งมากเลยค่ะ ปกติน้องพ็อตเตอร์ไม่ฟังใครหรอก ไม่พอใจก็กรี๊ด ฉันล่ะเหนื่อยใจมาก ๆ ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนสอนน้องพ็อตเตอร์ได้ ฉันรู้ว่ามีโรงเรียนสอนเด็กพิเศษโดยเฉพาะ แต่เพราะว่าลูกชายเป็นแบบนี้ไม่เอาใครเลย พ่อเขาก็เลยห่วงว่าลูกจะอยู่ไม่ได้ก็เลยไม่ยอมให้พาไปโรงเรียนค่ะ ต้องจ้างครูมาสอนที่บ้านแทน" เอมอรพูดทั้งรอยยิ้ม เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับการเรียนรู้ของลูกชาย
'อ่อ อย่างนี้นี่เอง' นักสืบหนุ่มนึกแต่เขาก็ไม่เห็นด้วย เอมอรกับอภิสิทธิ์ควรจะพาลูกชายไปโรงเรียน ถึงจะเข้ากับคนอื่นยากแค่ไหนทางโรงเรียนและคุณครูเขาก็มีวิธีสอนและจัดการที่ดีอยู่แล้ว ดีกว่าจ้างครูมาสอนที่บ้าน ทำให้เด็กไม่มีเพื่อนและสังคมยิ่งทำให้เข้ากับสังคมยากยิ่งเข้าไปอีก
เด็กพิเศษเข้าสังคมยากอยู่แล้วยิ่งควรจะต้องฝึกให้เขาเข้าสังคม ต่อไปเขาจะได้ใช้ชีวิตได้สบาย ๆในยามที่ไม่มีพ่อแม่ในวันข้างหน้า
"ครับคุณเอมอร แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำ ผมว่าควรจะพาน้องพ็อตเตอร์ไปโรงเรียนดีกว่าครับ" ชายหนุ่มเสนอความคิดเห็น
"ไม่ไปโรงเรียน" เด็กชายพูดแทรกทั้งสองคนขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่าโรงเรียน สายตาจ้องเขม่นมายังนักสืบหนุ่ม
"ครับไม่ไปโรงเรียนครับ น้องพ็อตเตอร์ไม่ต้องไปโรงเรียน พี่คุณไม่ใช่ครู พี่คุณเป็นนักฟุตบอล" แทนคุณรีบอธิบาย เด็กชายคลายสีหน้าเคร่งขรึมลงและเริ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้า อีกทั้งพยักหน้าหงึก ๆ ทำให้ครูจำเป็นและคนเป็นแม่ยิ้มออกอีกครั้ง
"วันนี้ฉันฝากน้องพ็อตเตอร์ไว้กับคุณครูอีกวันนะคะ พอดีว่าฉันจะไปธุระค่ะ" เอมอรบอกเจตจำนงค์ของตน
"ครับ ไม่ต้องห่วงครับคุณเอมอร" ชายหนุ่มตอบด้วยความอ่อนใจ นี่หรือคนเป็นแม่ คนเป็นพ่อก็ไม่ค่อยสนใจคนเป็นแม่ก็ไม่ใส่ใจ แทนคุณสงสารเด็กชายยิ่งนัก ปรายตามองเด็กชายวัยแปดขวบด้วยความสงสารเงียบ ๆ
เมื่อคนเป็นครูรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะร่างเพรียวระหงก็ลุกขึ้นจากโซฟาหยิบกระเป๋าและหมุนตัวเดินออกจากบ้านไป แทนคุณมองตามร่างนั้น แม้เอมอรจะเข้าสู่วัยเลขสี่ต้น ๆ แต่หล่อนยังคงดูสวยและแซ่บ ไม่แปลกใจเลยที่คนเจ้าชู้อย่างอภิสิทธิ์จะหลงใหลทั้งที่มีคนที่รักอยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มแปลกใจตรงนี้มากกว่าว่า ทั้งที่เอมอรสวยและแซ่บขนาดนี้ทำไมต้องมาดักดานเป็นของตายอยู่กับคนที่ไม่รักตนเองอย่างอภิสิทธิ์
โปรแกรมการเรียนในช่วงเช้าที่แดดยังไม่จ้าอากาศยังไม่ร้อนคุณครูจำเป็นจะพานักเรียนมาออกกำลังกายโดยการเตะฟุตบอล ซึ่งเป็นการเรียนตามใจผู้เรียนโดยตรง และดูจะเป็นที่พอใจของน้องพ็อตเตอร์มาก เพราะหลังจากเตะฟุตบอลเสร็จ เด็กชายก็จะตั้งใจเรียนวิชาอื่น ๆ เป็นอย่างดี
ขณะที่นักสืบในคราบครูหนุ่มกำลังสอนลูกศิษย์เตะฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้าเล็ก ๆ หน้าบ้าน เขาก็เห็นเลอดาวพาประมุขของบ้านออกมารับอากาศข้างนอกเช่นเคย ทว่าสิ่งที่เขาสักเกตได้ก็คือ ตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานพร้อมกัน พยาบาลสาวมักจะพาคุณแพรทองออกมาเดินเล่นยังบริเวณฝั่งซ้ายโซนบ้านของอภิสิทธิ์เสมอ ทั้งที่คุณแพรทองพักอาศัยอยู่ที่โซนฝั่งขวาซึ่งเป็นของลูกชายคนโต
ฝั่งนั้นมีที่โล่งโปร่งมีมุมสูดบรรยากาศรับลมเย็นสบายมากกว่าฝั่งนี้ ถึงจะรกไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับอยู่บ้างเพราะขาดคนสวนดูแล แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายหรือมีสัตว์มีพิษเข้ามา มันมีบางอย่างบอกกับเขาว่าพยาบาลสาวคนนี้มีอะไรให้ต้องค้นหา แต่เขายังนึกไม่ออกว่าเลอดาวมีอะไรให้ต้องค้นหา นอกจากแววตาที่หวานพิมพ์ใจปนเศร้าและรอยยิ้มที่น่ามองของหล่อน ก็จะมีเรื่องอะไรให้ค้นหาอีก
จิตใต้สำนึกของการเป็นนักสืบมันบอกว่าเลอดาวไม่ใช่พยาบาลธรรมดาทั่วไป หล่อนต้องมีความลับอะไรบางอย่างในการมาที่นี่อย่างเขาเป็นแน่ แต่จะเป็นเรื่องอะไร นับว่าเป็นเรื่องที่แทนคุณต้องรู้ให้ได้เช่นกัน
เลอดาวพาคุณแพรทองนั่งรถเข็นมาหยุดตรงบริเวณใกล้ ๆ ที่แทนคุณกับน้องพ็อตเตอร์ทำกิจกรรม ดูทั้งสองคนเล่นฟุตบอลด้วยกัน ครูหนุ่มหันมายิ้มและเอ่ยทักทายทั้งสองคน
"สวัสดีครับคุณท่าน" ครูกำมะลอเอ่ยทักทายเจ้าของบ้านพร้อมผงกศีรษะให้อย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มและทักทายพยาบาลสาว "สวัสดีครับน้องดาว" หล่อนไม่ตอบเขาเพียงแต่ยิ้มให้เท่านั้น
"ไหว้พระเถอะคุณครู ว่าแต่คุณครูสอนหลานฉันไปถึงไหนแล้วล่ะ" คุณแพรทองถาม
"ตอนเช้า ๆ แดดยังไม่แรงแบบนี้น้องพ็อตเตอร์ชอบให้พาออกมาเตะฟุตบอลครับ ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ผมใช้การตามใจก่อนเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการเรียนอย่างอื่น ส่วนการเรียนก็รู้สึกว่าน้องพ็อตเตอร์มีสมาธิมากขึ้นนะครับ วาดรูปและนับเลขได้"
"โห... นับเลขได้ด้วยเหรอคนเก่งของย่า" คุณแพรทองชมหลานชาย นัยน์ตาเป็นประกายแห่งความชื่นชมอย่างท่วมท้น ถึงหลานชายจะเป็นเด็กพิเศษแต่เป็นหลานคนแรกของบ้าน หล่อนจึงค่อนข้างที่จะรักและเอ็นดูมากกว่าหลานชายอีกคน ยิ่งหลานคนโตเกิดมาเป็นอย่างนี้ยิ่งสงสารและห่วงใยสองเท่า เด็กชายไม่สนใจแขกที่มาดู ยังคงเล่นฟุตบอลอยู่คนเดียวอย่างนั้น
"ครับคุณท่าน น้องพ็อตเตอร์ฉลาดและหัวไวมากครับ" แทนคุณไม่พูดเพียงเท่านั้น ให้ลูกศิษย์โชว์การนับเลขให้ดูเสียเลย "น้องพ็อตเตอร์ครับเรามาเล่นนับเลขกันนะครับ"
"ไม่ จะเตะฟุตบอล" เด็กชายตอบ
ครูจำเป็นยิ้มอย่างไม่ยี่หระ "ก็เตะฟุตบอลนั่นแหละครับ แต่เราจะเตะแบบนับเลขไปด้วย"
"เล่นยังไง" เด็กชายถาม
"พี่คุณจะเดาะฟุตบอลและนับเลขไปด้วย ส่วนน้องพ็อตเตอร์ต้องช่วยพี่คุณนับด้วยว่าได้กี่ที น้องพ็อตเตอร์นับเลขเป็นมั้ย" นักสืบในคราบคุณครูถาม
"เป็น" เด็กชายตอบ แทนคุณหันไปยิ้มให้คุณแพรทองและพยาบาลประจำตัว
"ดี งั้นมาช่วยกันนับนะ" แทนคุณเดาะฟุตบอลไปเรื่อย ๆ หางตาแอบมองพยาบาลสาวที่ยืนอยู่หลังรถเข็นของคุณแพรทองกำลังยิ้มระรื่นมองเขาเดาะฟุตบอล ส่วนลูกศิษย์คนพิเศษก็กำลังตั้งใจนับจำนวนครั้งที่เขาเดาะฟุตบอลเสียงดัง
พอเดาะครบยี่สิบครั้งจึงหยุด ลูกศิษย์คนพิเศษก็หยุดนับตามไปด้วย จากนั้นก็ได้ยินเสียงปรบมือดังมาจากผู้เป็นย่าและพยาบาลสาว นอกจากลูกศิษย์จะดีใจที่ได้รับคำชื่นชมแล้วครูจำเป็นอย่างเขาก็แอบดีใจไปด้วยที่เห็นแววตาชื่นชมของหญิงสาว
"พี่คุณเก่งจังเลยค่ะ สามารถนำวิชาพละและคณิตศาสตร์มารวมเป็นวิชาเดียวกันได้ สุดยอดไปเลย" เลอดาวชมและยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้กับชายหนุ่ม
"คุณครูเก่ง หลานย่าก็เก่ง อย่างนี้มันต้องมีรางวัลแล้วสินะ รางวัลสำหรับคนเก่งของย่า" คุณแพรทองยิ้มระรื่นและชมหลานชาย ทว่าเด็กชายกลับไม่สนใจคนเป็นย่าเลยสักนิดกลับให้ความสนใจร่างบางที่ยืนอยู่หลังรถเข็นแทน
แทนคุณมองตามสายตาของลูกศิษย์ 'เจ้าเด็กนี่ร้ายไม่เบา ท่าจะได้นิสัยเจ้าชู้ของพ่อมาเต็ม ๆ' เขานึกอย่างเอ็นดูในท่าทางของเด็กชายที่มีต่อเลอดาว
"สวย" เด็กชายพูดและมองไปยังผู้หญิงสวมชุดสีขาวใสสะอาด
"อ่อ ใช่ครับ พยาบาลประจำตัวคุณย่าสวยมาก" คุณแพรทองต่างก็เออออไปกับหลานชายด้วย
'คนสวย' หน้าแดงแจ๋ จนคนที่แอบมองอยู่แล้วยิ้มกว้างกับความหน้าแดงของหล่อน รู้สึกว่าคนตรงหน้านอกจากจะมีอะไรให้น่าค้นหาแล้วยังน่าเอ็นดูจากความน่ารักที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติที่ไม่ผ่านจริตปรุงแต่งจนเกินไปอย่างนก เขาไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งมองใจของตนเองก็ยิ่งใกล้ละลายเข้าไปทุกที แทนคุณมองคนยืนอยู่หลังรถเข็นเพลิน เผลอยิ้มให้ทั้งปาก ตา และใจ
"ขอบคุณครับน้องพ็อตเตอร์ที่ชมว่าพี่ดาวสวย" พยาบาลสาวตอบแก้เขิน ถูกเด็กชมว่าเขินแล้ว แต่พอปะทะเข้ากับนัยน์ตาคมและรอยยิ้มละมุนของครูหนุ่มยิ่งทำให้หล่อนเขินตัวลอย จึงรีบพูดขอบคุณเด็กชายเพื่อกลบเกลื่อนไป
"คุณย่าพาพี่คนสวยมาหาน้องพ็อตเตอร์ทุกวันเลยดีไหม" คุณแพรทองเอ่ยอย่างเอาใจหลานชาย นอกจากหลานชายจะตอบตกลง คนที่แอบตอบตกลงในใจและดีใจเห็นจะเป็นผู้ใหญ่ทั้งสองคนมากกว่า
แทนคุณกับเลอดาวแอบดีใจที่ประมุขของบ้านกล่าวอย่างนั้น อีกคนดีใจที่จะได้มองคนที่แอบชอบทุกวัน ส่วนอีกคนดีใจที่จะได้มาเก็บข้อมูลของบ้านวรโชติโภคินฝั่งซ้ายอย่างสบายใจ
"แดดเริ่มแรงแล้ว ผมขออนุญาตพาน้องพ็อตเตอร์เข้าบ้านนะครับ" นักสืบในคราบคุณครูเอ่ยขออนุญาตผู้เป็นย่าของเด็กชายก่อนจะหันมาพูดกับเจ้าตัว "น้องพ็อตเตอร์ครับ วันนี้เราเล่นฟุตบอลกันพอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกันอีก เราเข้าไปอ่านหนังสือในห้องกันดีกว่าเนอะ"
"ครับ" เด็กชายยอมตอบตกลงโดยง่ายพร้อมผงกศีรษะให้
"คุณท่านจะไปดูผมกับน้องพ็อตเตอร์เรียนก็ได้นะครับ" แทนคุณเปิดทางพร้อมแอบปรายตามองพยาบาลสาว ทำให้คนถูกมองยิ้มเขินและก้มหน้าหลบสายตานั้นเล็กน้อย
"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากรบกวนสมาธิคุณครูกับหลาน วันหลังแล้วกันนะฉันจะมาดู วันนี้อยากขึ้นไปพักแล้ว ดาวพาฉันกลับห้องเถอะ" เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าหล่อนรู้ว่าครูหนุ่มคนนี้คิดเช่นไรกับพยาบาลส่วนตัวของตน บ่อยครั้งที่เห็นสายตาของครูหนุ่มมองมายังเลอดาว หากสองคนคิดจะรักกันหล่อนไม่ห้าม แต่เลอดาวถือเป็นคนของตนจึงอยากจะทำให้การเข้าหาของครูหนุ่มมันยากขึ้นสักนิด
"ค่ะคุณท่าน" เลอดาวรับคำทันที "น้องพ็อตเตอร์ครับ พี่ดาวขอตัวพาคุณย่ากลับก่อนนะครับ วันหลังพี่ดาวจะพาคุณย่ามาดูน้องพ็อตเตอร์เตะฟุตบอลอีกนะ" ปากพูดกับเด็กชายแต่สายตาและรอยยิ้มกลับส่งให้อีกคน
"บ๊ายบายคนสวย" น้องพ็อตเตอร์ตอบ ทำเอาครูหนุ่มอึ้งอ้าปากค้างทำตาโตและหึงไปในตัว 'เด็กคนนี้ถ้าปกติอย่างเด็กทั่วไปล่ะก็ โตขึ้นมาคงร้ายไม่เบา ท่าทางจะเชื้อไม่ทิ้งแถว' แทนคุณค้อนในใจ
'คนสวย' มีอาการหน้าแดงแจ๋อีกรอบ หากเด็กชายชมในตอนที่อยู่กับคุณย่าเพียงลำพังหล่อนจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่นี่อยู่กับครูหนุ่มจะไม่ให้หล่อนเขินอย่างไรไหว
"ครับน้องพ็อตเตอร์ แล้วเจอกันอีกนะครับ" พอพูดจบเลอดาวจึงเข็นรถเข็นที่มีคุณแพรทองนั่งอยู่หมุนตัวหันหลังกลับก่อนจะเดินจากทั้งสองคนไป
ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้การจับตามองของนก หล่อนแอบมองทั้งคู่ยืนส่งยิ้มให้กันด้วยความร้อนรนในใจ ท่าทางพยาบาลสาวคนนี้จะเป็นศัตรูหัวใจของหล่อนเสียแล้ว ถึงหล่อนจะเป็นเพียงสาวใช้การศึกษาไม่สูงส่ง ใช่ว่าหล่อนจะไม่มีดีอะไรเลย ที่แน่ ๆ ก็ความสวยล่ะ เพราะมองอย่างไรหล่อนก็สวยกว่าใบหน้าจืดชืดไร้เครื่องสำอางแต่งเติมของเลอดาวแล้วกัน ไม่มีทาง! คุณครูแทนคุณต้องเป็นผู้ชายของหล่อนไม่ใช่ของพยาบาลเชยเฉิ่มคนนั้น