"เฮ้ย นั่นรุ้งกินน้ำ" ป๊อกเด็กชายผอมเก้งก้างชี้มือไปที่ท้องฟ้าเหนือยอดดงไผ่ริมบึง "กูรู้แล้ว เข้าห้ามชี้รู้เปล่า นิ้วจะกุดเอาพ่อกูเคยบอก" โป้งเด็กชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ย "นี่ปีหน้าเอ็งจะไปเรียนในเมืองแล้ว ที่โน่นจะมีรุ้งไหมวะป๊อก" เด็กตัวสูงมองท้องฟ้าสลับกับคันเป็ดไม้ไผ่ที่ปลายหย่อนอยู่ในบึง "กูก็ไม่รู้ อาจมีแต่จะมองเห็นหรือเปล่า" ป๊อกพูดเสียงเบาลง "เหมือนปลาในน้ำใช่ไหม จนกว่ามันจะติดเบ็ด" โป้งพูดด้วยน้ำเสียงดังพลางตบบ่าเพื่อนรัก ป๊อกรับรู้ถึงกำลังใจจากน้ำเสียงและสัมผัสจากอีกฝ่าย “อันนี้ พ่อเอ็งก็บอกใช่ไหม” โป้งทำหน้าเด๋อแล้วยิ้มกว้าง เด็กชายวัยสิบสองขวบมองหน้ากันแล้วหัวเราะประสานเสียง ละอองฝนยังหล่นพราย พวกเขาคุยเรื่องราวและวีรกรรมที่มีร่วมกันมาหลายปี ทั้งไปแข่งว่าว แข่งฟุตบอล ช่วยงานบุญที่วัดที่ป๊อกอาศัยอยู่ ก่อนที่ป๊อกจะสอบชิงโควตาได้ทุนกินอยู่ฟรีเรียน ม.1 ที่โรงเรียนประจำจังหวัด เสียงร้อยลำไผ่เบียดส่งเสียงเพลงธรรมชาติไม่ขาดหาย พลันปลาก็ติดเบ็ดดิ้นสะบัดน้ำกระจาย เด็กตัวเตี้ยกว่าตวัดคันเบ็ดอย่างชำนาญ ก่อนจะปล่อยปลาเคราะห์ร้ายตกลงบนพื้นหญ้าแห้ง ๆ โป้งปลดเบ็ดแล้วจับปลานิลตัวโตยัดใส่ข้อง “เราต่างเป็นรุ้งนะรู้ไหม เพียงแต่อยู่คนละฝั่ง การศึกษาอาจพากูไปอีกทาง แต่เอ็งถึงไม่ได้เรียนต่อก็ใช่ว่าจะไปไกลกว่ากูไม่ได้” ป๊อกบอกเพื่อน “ คนนะมันตกกับดับแบบปลาฮุบเหยื่อที่ล่อตาล่อใจได้ทั้งนั้นแหละ” โป้งอ่าปากค้าง พลันคิดในใจ “โห ไอ้เพื่อนรัก ขนาดเอ็งไม่มีพ่อนะ”
CR ภาพจาก
http://ppantip.com/topic/32198712/page2
เรื่องสั้นย่อหน้าเดียว : สองฝั่งรุ้ง
CR ภาพจาก http://ppantip.com/topic/32198712/page2