สวัสดีครับทุกท่าน

กระทู้สนทนา
อมยิ้ม17
เริ่มต้นที่ PTT
ด้วยความรู้และเทคโนโลยีในปัจจุบัน
แนวทางการลงทุนของนักลงทุนจึงเปลี่ยนไป
การใช้เครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ ทำได้รวดเร็ว
เช่นเดียวกับ การคิดมูลค่า

เมื่อผลประกอบการของ PTT ถูกประกาศ

บวกกับข่าวดีที่เข้ามา

ราคาปิดในวันอังคาร ที่ประมาณ 490 บาท
ทำให้นักลงทุนสนใจเข้าลงทุนเป็นจำนวนมาก
เมื่อราคาถูกไล่ขึ้นไปเปิดที่ 508 บาท ในวันต่อมา
นักลงทุนที่มีประสบการณ์
จึงเข้าซื้อเป็นส่วนใหญ่
ในขณะที่ นักลงทุนรายย่อย กลับกังวลที่จะเข้าซื้อ ณ จุดนี้
เจ้าเริงร่า
อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
จำนวนนักลงทุนที่ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น
ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
กับราคาปิดที่ 522 บาท
วันแรกจบลงอย่างสวยงาม
เป็นชัยชนะสำหรับนักลงทุนทุกท่าน
เม่าบัลเล่ต์
ข่าวการชนะศึกจึงแพร่ออกไปทุกหย่อมหญ้า
ดึงดูดผู้กล้าจากทั่วสารทิศให้เข้ามาร่วมศึก
กระทิงเริงร่าอัศวินขี่ม้าขาวนางพญาเม่าเจ้าคิกคัก
ราคาเปิดวันที่สองที่ 524 บาท
และวิ่งขึ้นไปยืนเกิน 540 บาทได้
ทุกอย่างดูสวยงาม

และแล้ว…เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!!!
เม่าแพนด้า
นักลงทุนจำนวนหนึ่งเริ่ม เทขายหุ้นตัวอื่นออกมา
เพื่อเอาเงินเข้าไปซื้อหุ้น PTT
… ก็หุ้นมันตัวใหญ่ เงินไม่พอนี่นา …
โรงเตี๊ยม ไร่นา สำนักคุ้มภัย โรงฝึกยุทธ์ สำนักตรวจการ
บางท่านเอาป้ายสำนักไปขายก็มี
เอาว่าทุกกลุ่ม เพราะหุ้นลงไปเกิน 1100 ตัว
ซึ่งรวมทั้ง บริษัทที่มีพื้นฐานและผลประกอบการดี
ก็โดนขายไปด้วยเช่นกัน
นักลงทุนที่มีประสบการณ์
จึงกรีฑาทัพ
เจ้าคิกคัก
เข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาถูกเหล่านั้น
และปล่อยหุ้น PTT ไว้กลางทาง
ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ที่ว่า

“พ่ายศึก แต่ชนะสงคราม”
เจ้าหอบเงิน


ช่วงคำถามจากทางบ้าน :
เป็นเรื่องจริงแค่ไหนที่ Dow ขึ้น แล้ว SET จะขึ้นตาม?
ลูกเต่าน้อย
ก่อนตอบคำถามนี้
มาคิดกันก่อนว่า ดัชนีในตลาดหุ้นนั้น ขึ้น หรือ ลง เพราะอะไร?
หุ้นขึ้น เพราะ ราคาหุ้นแพงขึ้น
หรือก็คือ มีเงินเข้ามาในตลาดมากขึ้นนั่นเอง

แล้วเงินเหล่านี้มาจากไหน?
เงินในตลาดมาจากนักลงทุน โดยแบ่งได้เป็น
นักลงทุนรายย่อย สถาบัน โบรกเกอร์ และนักลงทุนต่างชาติ
เม่าชอปปิ้งเจ้าคิกคักลูกเต่าน้อยเจ้าหอบเงิน
ซึ่งในทางกลับกัน หุ้นจะลง
ก็เพราะนักลงทุน เทขายหุ้นลดราคาลงมา หุ้นก็จะลง
ยิ่งนักลงทุนขายขาดทุนมากเท่าไหร่ หุ้นก็จะลงแรงเท่านั้น
เม่าบาดเจ็บเม่าในกองไฟ
…เงินเข้าเป็นบวก เงินออกเป็นลบ
เหมือนงบกระแสเงินสดเลยแฮะ…
เม่าเนิร์ด
โดยเมื่อดูจากยอด NVDR สุทธิตั้งแต่ปี 1995 ถึง ปัจจุบัน 2018
ต่างชาติมีเงินอยู่ในตลาดหุ้นไทย ณ ปัจจุบันรวม 47,237.70 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาช่วงก่อนเกิดวิกฤต Sub Prime
ลูกเต่าน้อย
เงินลงทุนจากต่างชาติในตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 356,738.91 ล้านบาท

แต่เมื่อเราพิจารณาแค่ 5 ปีย้อนหลัง
จะพบว่า ตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2018
เงินต่างชาติในตลาดหุ้นไทยลดลงไป -338,368 ล้านบาท ลดลงมา 9 เท่า
เม่านอนไม่หลับ เม่าตาสว่าง

… หมดแล้วดิ ประเทศไทย จบ…
5 ปี ต่างชาติทิ้งหุ้นไทยไป 3แสน 4 หมื่นล้าน
แถมยังขายออกเรื่อยๆ
เม่าตกใจ


แต่เดี๋ยวก่อน!!
แล้วหุ้นที่ขึ้นมานี้ เงินใคร แล้วเงินมันมาจากไหน?
มาดูดุลการค้าของประเทศไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมากันบ้าง
อัศวินขี่ม้าขาว
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเกินดุลถึง 507,601.30 ล้านบาท
… ใช่ครับ ห้าแสนล้าน!!! …
กระทิงเริงร่าอัศวินขี่ม้าขาว
การลงทุนภาครัฐและ เอกชนที่ต่ำในช่วงที่ผ่านมา
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ยอดการส่งออกที่ดีขึ้น
พอจะถอดสมการกันได้แล้วใช่ไหมครับว่า
เงินมันไปไหน
และ ตลาดหุ้นที่ขึ้นๆมา เงินที่เข้าตลาดหุ้น มาจากไหนกัน
เจ้าคิกคักเจ้าเริงร่า

ถ้างั้นแล้ว Dow มีผลกับ SET แค่ไหน?
มาดู Market Cap ของ SET ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากัน
เม่าอ่าน

ปัจจุบัน มูลค่าตลาดของ SET อยู่ที่ 18.331 ล้านๆ บาท
มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ต่างชาติขายหุ้นออกไปเรื่อยๆ
โดยเงินลงทุนจากต่างชาติในตลาดตอนนี้ก็น่าจะมีผลกับ SET ประมาณ 0.257%
เม่าหนาว
ดังนั้น คำพูดที่ว่า Dow ขึ้น SET ขึ้น
อาจจะไม่ตรงมากนักในปัจจุบัน
เพราะอิทธิพลของเงินทุนต่างชาติที่มีต่อตลาดหุ้นไทยลดลงอย่างมาก
… ถ้าเป็นเมื่อ 5 ปีก่อน คำพูดนี้ พอใช้ได้อยู่ …


อัศวินเดินทาง
ไม่ซื้อ… ไม่ขาดทุน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่