คงปฏิเสธไม่ได้แล้วนะครับว่าตอนนี้หุ้น DELTA คือหุ้นที่ร้อนแรงและใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นไทย โดยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 11% และ 16% ของมูลค่าดัชนี SET และ SET50 ตามลำดับ มากกว่าบริษัทอันดับ 2 และ 3 อย่าง PTT, AOT รวมกัน ทั้งที่ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน (ต้นปี 2020) DELTA ยังมีมูลค่าเพียง 6 หมื่นล้านและยังไม่ติด SET50 เลยด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่เราได้เห็นบริษัทขนาดกลางสามารถแซงหน้าบริษัทมหาชนชั้นแนวหน้า และสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับนักลงทุนที่มีหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ต แต่ในความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะหุ้น DELTA เป็นหุ้นที่อัตรา FreeFloat ต่ำ จึงทำให้มีจำนวนหุ้นอยู่ในมือรายย่อยน้อย ดังนั้น นอกจากทุกท่านจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากการขึ้นของมันแล้ว ยังส่งผลให้เกิด
"ภาพลวงตาที่ DELTA สร้างขึ้น" และวันนี้เราจะมาทำให้ทุกคนเห็นภาพความจริงทั้งหมดกับกรณีที่ตลาดมี VS ไม่มี DELTA ว่าแท้จริงแล้ว SET&SET50 ควรอยู่ที่เท่าไหร่ ? รวมถึงผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ DELTA สร้างไว้ในบทความนี้
รูปแสดง Impact ของดัชนี SET และ SET50 จากหุ้น TOP15 ของตลาด (Update 6 พ.ย.67)
DELTA คือ ผู้นำ(ทำ)ดัชนีอย่างแท้จริง
นี่เป็นรูปที่เราจัดทำและ Update ในทุกเดือน เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่าตอนนี้มีหุ้นตัวไหนที่มี Impact ต่อตลาดมากที่สุด โดยจากข้อมูลด้านขวาจะเห็นในทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงของราคา DELTA 1% จะส่งผลต่อการขึ้น/ลงของดัชนี SET 1.54 จุด และ SET50 1.42 จุด ในขณะที่ตัวอื่น ๆ ส่งผลไม่ถึง 1 จุดเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น เพียงแค่การเคลื่อนไหว 6-7% ของหุ้นตัวนี้เพียงตัวเดียวก็ Impact ต่อตลาดหุ้นในระดับ +/- 10 จุดแล้ว และจากข้อมูลเพิ่มเติม (ตารางล่าง) จะเห็นว่า
" DELTA ใช้ทำดัชนีได้ง่ายกว่าตัวอื่นอย่างชัดเจน" โดยใช้เงินเพียงแค่ 690 ล้านก็สามารถลาก DELTA เพื่อให้ดัชนี SET ขึ้น-ลง 1 จุดได้ ในขณะที่ตัวอื่น ๆ อย่างตัวรองลงมา คือ PTT ที่ต้องใช้เงินมากกว่า 2-3 เท่าตัว ประมาณ 1,500 ล้านเพื่อทำให้ดัชนีเกิดการเคลื่อนไหว 1 จุด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ DELTA จะถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นหุ้นที่มีอะไรแอบแฝง เช่น การตั้งใจลากขึ้น-ลง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์อื่น ๆ อย่างในตลาด TFEX เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อธิบายตารางล่าง ช่อง 1+2 คือ ค่าสัมบูรณ์ของ%การเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยราคาและมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในรอบ 2 เดือนล่าสุด (ต.ค. 67- พ.ย.67) ดังนั้น เมื่อจับหารกันแล้วจะได้ช่อง3 ที่แสดงเม็ดเงินที่ใช้ต่อการลากหุ้นขึ้น/ลง 1% สุดท้ายนำน้ำหนัก Impact ของแต่ละตัวเข้าไปเทียบ (ช่อง 4) ก็จะได้คำตอบช่อง 5 ที่เป็นการใช้เงินมูลค่าเท่าใดในการลากหุ้นแต่ละตัวเพื่อทำให้ดัชนีเคลื่อนไหว 1 จุด
รู้หรือไม่ ? ถ้าไม่มี DELTA ตอนนี้ดัชนีจะอยู่ที่ 12xx จุดเท่านั้น
แม้ตอนนี้นักลงทุนหลายท่านจะมีความมั่นใจตลาดหุ้นไทยจะปิดบวกได้ในปีนี้ (SET ปิดปีก่อนที่ 1385 จุด ปัจจุบัน 1450 จุด) แต่พอลองมองดุพอร์ตตัวเองกลับพบว่าไม่เป็นไปตามการเคลื่อนไหวของดัชนี หนำซ้ำยังติดลบอีกด้วย แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เราจะมาแสดงคำตอบให้ทุกท่านเห็นความจริงกับกรณีที่ไม่มี DELTA
กราฟ SET และ SET50 เปรียบเทียบกรณีที่มี DELTA แต่ไม่มี DELTA
จากรูปหากกำหนดวันที่ 2/1/20 (5 ปีก่อน)เป็นวันฐาน โดยในตอนนั้น DELTA ยังมีมูลค่าเพียง 6 หมื่นล้าน และเมื่อตัดออกจะทำให้ดัชนี SET หายไปเพียง 6 จุด (จาก 1595 เป็น 1589) เรียกได้ว่าแทบจะไม่กระทบต่อดัชนีแต่อย่างใด แต่หลังจากผ่านมา 5 ปี DELTA ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านบาท และคิดเป็นถึง 165 จุด ! ดังนั้น เมื่อลองตัดก้อนมูลค่า DELTA นี้ออกไป ดัชนี SET ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1452 จุด จะเหลือเพียงแค่ 1287 จุดเท่านั้น และหากใช้ตรรกะเดียกกันนี้คิดกับ SET50 (โดยไม่สนใจช่วงเวลาเข้า-ออกของหุ้นตัวอื่น ๆ และ DELTA) จะส่งให้ต่อดัชนี 150 จุด และจะเล่นกันอยู่ที่หลัก 700 เท่านั้น ไม่ใช่ 900 อย่างในปัจจุบัน สรุปแล้วจะเห็นว่า DELTA กำลังแบกดัชนีไว้ถึง 160 จุด หรือคิดเป็น 12% นั้นแปลว่า
หากใครไม่มีได้มีหุ้นตัวนี้ติดพอร์ตไว้ จะมี Performance ที่ติดลบในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมารวมถึงมีโอกาสติดลบในปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
การมี DELTA ช่วยให้ตลาดผันผวน ?
แน่นอนว่าคงมีบางคนที่ให้มุมมองเชิงบวกกับ DELTA เพราะอย่างน้อยการมีหุ้นตัวนี้ก็สามารถช่วยให้ตลาดผันผวนขึ้นอย่างที่เราเห็นในแต่ละวันที่ DELTA พาตลาดกระชากขึ้น-ลง แต่นั้นเป็นเพียงแค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะจากตัวเลขส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของ %การเปลี่ยนแปลงราคาที่เราเก็บมาจากกรณีที่ทั้งมี DELTA และไม่มี DELTA ตลอด 5 ปีที่ผ่านมากลับพบค่าที่ใกล้เคียงกัน จนแทบจะเท่ากันเลย รวมถึงยังมีอีกตัวเลขที่ทำให้เรามั่นใจว่า "คนทำราคาตั้งใจใช้ DELTA เพื่อพยุงตลาดมากกว่าสร้างความผันผวน"
ตารางแสดงค่า Correlation %ผลตอบแทนรายวันของหุ้น TOP10 ของปี 2024
จากตารางค่า Correlation พบว่า DELTA แทบจะเป็นหุ้นตัวเดียวเลย ที่มีค่าความสัมพันธ์ของทิศทางการเคลื่อนไหว (Correlation) แตกต่างจากตัวอื่น โดยถึงขั้นติดลบ หรือตรงข้ามกับหุ้นอย่าง PTT, PTTEP และมีค่าเฉลี่ยในการเคลื่อนไหวเทียบกับตัวอื่นน้อยที่สุดและใกล้เคียง 0 ดังนั้น จึงทำให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า เมื่อใดก็ตามที่หุ้นตัวอื่นขึ้น DELTA จะไม่ขึ้นตาม รวมถีงเมื่อทุกตัวลง DELTA ก็จะมีแนวโน้มไม่ลงตาม และค่อนข้างเป็นเอกเทศ จึงทำให้หุ้นตัวนี้สนับสนุนความผันผวนในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวไม่ได้ช่วยให้ตลาดผันผวนขึ้นแต่อย่างใด
รูปแสดงมูลค่าที่แท้จริงของ DELTA ตามมุมมองนักวิเคราะห์
แล้ว DELTA ควรมีมูลค่าพื้นฐานที่เท่าใด ?
แม้หุ้น DELTA จะมีความร้อนแรงมาตลอด แต่ผู้เชี่ยวชาญแต่ละโบรกก็ยังคงมองว่าราคาที่เหมาะสมเฉลี่ยควรอยู่เพียง 110 บาทเท่านั้น โดยโบรกที่ให้มากสุด คือ 128 บาท และน้อยสุด คือ 70 บาท ดังนั้น การที่ราคามีการขึ้นเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานนี้อาจเป็นอีกสิ่งที่ทำให้ DELTA ไม่สามารถลบข้อครหาจากการใช้เพื่อผลประโยชน์อื่น ๆ ได้
สรุปแล้วการที่เราเห็นตลาดหุ้นกลับขึ้นมาใกล้เคียงในระดับเดิมกับเมื่อช่วง 5 ปีก่อน คือแถว ๆ 1400 - 1500 จุด มีภาพลวงตาจาก DELTA คอยแบกอยู่ถึงประมาณ 160 จุด รวมถึงความผันผวนที่เกิดขึ้น เป็นเพียงความผันผวนในระดับภายในวันที่ DELTA มีการกระชากขึ้น-ลงเท่านั้น (ทำให้มีโอกาสเล่นรอบสั้น รวมถึงใช้กลยุทธ์สวนทิศทางได้ง่ายขึ้น) แต่โดยภาพแบบข้ามวัน DELTA ไม่ได้ก่อให้ SET ผันผวนขึ้นเมื่อเทียบกับกรณีไม่มี DELTA แต่อย่างใด (Trenf Follow แบบถือข้ามวันไม่ได้รับประโยชน์) และถ้าทุกท่านต้องการอยากเห็น Performance ตลาดที่ปราศจาก DELTA เพื่อก็สามารถติดตามเราได้นะครับ เรามีการโพสให้ทุกผ่าน "รายงานซื้อขายหุ้นประจำวัน" (ตามรูปด้านล่าง) รวมถึงเราจะนำข้อมูล Data Analysis มาวิเคราะห์กลยุทธ์การเล่น TFEX ให้ทุกท่านมีอาวุธในการเล่นที่ดียิ่งขึ้น ยังไงฝากติดตามด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Credit :
https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางหุ้น,TFEX
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ
มาดู Performance ที่แท้จริง❗ของตลาดหุ้นไทยกรณีไม่มี DELTA กันครับ
คงปฏิเสธไม่ได้แล้วนะครับว่าตอนนี้หุ้น DELTA คือหุ้นที่ร้อนแรงและใหญ่ที่สุดของตลาดหุ้นไทย โดยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 11% และ 16% ของมูลค่าดัชนี SET และ SET50 ตามลำดับ มากกว่าบริษัทอันดับ 2 และ 3 อย่าง PTT, AOT รวมกัน ทั้งที่ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน (ต้นปี 2020) DELTA ยังมีมูลค่าเพียง 6 หมื่นล้านและยังไม่ติด SET50 เลยด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่เราได้เห็นบริษัทขนาดกลางสามารถแซงหน้าบริษัทมหาชนชั้นแนวหน้า และสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับนักลงทุนที่มีหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ต แต่ในความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะหุ้น DELTA เป็นหุ้นที่อัตรา FreeFloat ต่ำ จึงทำให้มีจำนวนหุ้นอยู่ในมือรายย่อยน้อย ดังนั้น นอกจากทุกท่านจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรจากการขึ้นของมันแล้ว ยังส่งผลให้เกิด "ภาพลวงตาที่ DELTA สร้างขึ้น" และวันนี้เราจะมาทำให้ทุกคนเห็นภาพความจริงทั้งหมดกับกรณีที่ตลาดมี VS ไม่มี DELTA ว่าแท้จริงแล้ว SET&SET50 ควรอยู่ที่เท่าไหร่ ? รวมถึงผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ DELTA สร้างไว้ในบทความนี้
รูปแสดง Impact ของดัชนี SET และ SET50 จากหุ้น TOP15 ของตลาด (Update 6 พ.ย.67)
DELTA คือ ผู้นำ(ทำ)ดัชนีอย่างแท้จริง
นี่เป็นรูปที่เราจัดทำและ Update ในทุกเดือน เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่าตอนนี้มีหุ้นตัวไหนที่มี Impact ต่อตลาดมากที่สุด โดยจากข้อมูลด้านขวาจะเห็นในทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงของราคา DELTA 1% จะส่งผลต่อการขึ้น/ลงของดัชนี SET 1.54 จุด และ SET50 1.42 จุด ในขณะที่ตัวอื่น ๆ ส่งผลไม่ถึง 1 จุดเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น เพียงแค่การเคลื่อนไหว 6-7% ของหุ้นตัวนี้เพียงตัวเดียวก็ Impact ต่อตลาดหุ้นในระดับ +/- 10 จุดแล้ว และจากข้อมูลเพิ่มเติม (ตารางล่าง) จะเห็นว่า " DELTA ใช้ทำดัชนีได้ง่ายกว่าตัวอื่นอย่างชัดเจน" โดยใช้เงินเพียงแค่ 690 ล้านก็สามารถลาก DELTA เพื่อให้ดัชนี SET ขึ้น-ลง 1 จุดได้ ในขณะที่ตัวอื่น ๆ อย่างตัวรองลงมา คือ PTT ที่ต้องใช้เงินมากกว่า 2-3 เท่าตัว ประมาณ 1,500 ล้านเพื่อทำให้ดัชนีเกิดการเคลื่อนไหว 1 จุด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ DELTA จะถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นหุ้นที่มีอะไรแอบแฝง เช่น การตั้งใจลากขึ้น-ลง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์อื่น ๆ อย่างในตลาด TFEX เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รู้หรือไม่ ? ถ้าไม่มี DELTA ตอนนี้ดัชนีจะอยู่ที่ 12xx จุดเท่านั้น
แม้ตอนนี้นักลงทุนหลายท่านจะมีความมั่นใจตลาดหุ้นไทยจะปิดบวกได้ในปีนี้ (SET ปิดปีก่อนที่ 1385 จุด ปัจจุบัน 1450 จุด) แต่พอลองมองดุพอร์ตตัวเองกลับพบว่าไม่เป็นไปตามการเคลื่อนไหวของดัชนี หนำซ้ำยังติดลบอีกด้วย แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เราจะมาแสดงคำตอบให้ทุกท่านเห็นความจริงกับกรณีที่ไม่มี DELTA
กราฟ SET และ SET50 เปรียบเทียบกรณีที่มี DELTA แต่ไม่มี DELTA
จากรูปหากกำหนดวันที่ 2/1/20 (5 ปีก่อน)เป็นวันฐาน โดยในตอนนั้น DELTA ยังมีมูลค่าเพียง 6 หมื่นล้าน และเมื่อตัดออกจะทำให้ดัชนี SET หายไปเพียง 6 จุด (จาก 1595 เป็น 1589) เรียกได้ว่าแทบจะไม่กระทบต่อดัชนีแต่อย่างใด แต่หลังจากผ่านมา 5 ปี DELTA ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านล้านบาท และคิดเป็นถึง 165 จุด ! ดังนั้น เมื่อลองตัดก้อนมูลค่า DELTA นี้ออกไป ดัชนี SET ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1452 จุด จะเหลือเพียงแค่ 1287 จุดเท่านั้น และหากใช้ตรรกะเดียกกันนี้คิดกับ SET50 (โดยไม่สนใจช่วงเวลาเข้า-ออกของหุ้นตัวอื่น ๆ และ DELTA) จะส่งให้ต่อดัชนี 150 จุด และจะเล่นกันอยู่ที่หลัก 700 เท่านั้น ไม่ใช่ 900 อย่างในปัจจุบัน สรุปแล้วจะเห็นว่า DELTA กำลังแบกดัชนีไว้ถึง 160 จุด หรือคิดเป็น 12% นั้นแปลว่า หากใครไม่มีได้มีหุ้นตัวนี้ติดพอร์ตไว้ จะมี Performance ที่ติดลบในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมารวมถึงมีโอกาสติดลบในปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
การมี DELTA ช่วยให้ตลาดผันผวน ?
แน่นอนว่าคงมีบางคนที่ให้มุมมองเชิงบวกกับ DELTA เพราะอย่างน้อยการมีหุ้นตัวนี้ก็สามารถช่วยให้ตลาดผันผวนขึ้นอย่างที่เราเห็นในแต่ละวันที่ DELTA พาตลาดกระชากขึ้น-ลง แต่นั้นเป็นเพียงแค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะจากตัวเลขส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของ %การเปลี่ยนแปลงราคาที่เราเก็บมาจากกรณีที่ทั้งมี DELTA และไม่มี DELTA ตลอด 5 ปีที่ผ่านมากลับพบค่าที่ใกล้เคียงกัน จนแทบจะเท่ากันเลย รวมถึงยังมีอีกตัวเลขที่ทำให้เรามั่นใจว่า "คนทำราคาตั้งใจใช้ DELTA เพื่อพยุงตลาดมากกว่าสร้างความผันผวน"
ตารางแสดงค่า Correlation %ผลตอบแทนรายวันของหุ้น TOP10 ของปี 2024
จากตารางค่า Correlation พบว่า DELTA แทบจะเป็นหุ้นตัวเดียวเลย ที่มีค่าความสัมพันธ์ของทิศทางการเคลื่อนไหว (Correlation) แตกต่างจากตัวอื่น โดยถึงขั้นติดลบ หรือตรงข้ามกับหุ้นอย่าง PTT, PTTEP และมีค่าเฉลี่ยในการเคลื่อนไหวเทียบกับตัวอื่นน้อยที่สุดและใกล้เคียง 0 ดังนั้น จึงทำให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า เมื่อใดก็ตามที่หุ้นตัวอื่นขึ้น DELTA จะไม่ขึ้นตาม รวมถีงเมื่อทุกตัวลง DELTA ก็จะมีแนวโน้มไม่ลงตาม และค่อนข้างเป็นเอกเทศ จึงทำให้หุ้นตัวนี้สนับสนุนความผันผวนในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวไม่ได้ช่วยให้ตลาดผันผวนขึ้นแต่อย่างใด
รูปแสดงมูลค่าที่แท้จริงของ DELTA ตามมุมมองนักวิเคราะห์
แล้ว DELTA ควรมีมูลค่าพื้นฐานที่เท่าใด ?
แม้หุ้น DELTA จะมีความร้อนแรงมาตลอด แต่ผู้เชี่ยวชาญแต่ละโบรกก็ยังคงมองว่าราคาที่เหมาะสมเฉลี่ยควรอยู่เพียง 110 บาทเท่านั้น โดยโบรกที่ให้มากสุด คือ 128 บาท และน้อยสุด คือ 70 บาท ดังนั้น การที่ราคามีการขึ้นเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานนี้อาจเป็นอีกสิ่งที่ทำให้ DELTA ไม่สามารถลบข้อครหาจากการใช้เพื่อผลประโยชน์อื่น ๆ ได้
สรุปแล้วการที่เราเห็นตลาดหุ้นกลับขึ้นมาใกล้เคียงในระดับเดิมกับเมื่อช่วง 5 ปีก่อน คือแถว ๆ 1400 - 1500 จุด มีภาพลวงตาจาก DELTA คอยแบกอยู่ถึงประมาณ 160 จุด รวมถึงความผันผวนที่เกิดขึ้น เป็นเพียงความผันผวนในระดับภายในวันที่ DELTA มีการกระชากขึ้น-ลงเท่านั้น (ทำให้มีโอกาสเล่นรอบสั้น รวมถึงใช้กลยุทธ์สวนทิศทางได้ง่ายขึ้น) แต่โดยภาพแบบข้ามวัน DELTA ไม่ได้ก่อให้ SET ผันผวนขึ้นเมื่อเทียบกับกรณีไม่มี DELTA แต่อย่างใด (Trenf Follow แบบถือข้ามวันไม่ได้รับประโยชน์) และถ้าทุกท่านต้องการอยากเห็น Performance ตลาดที่ปราศจาก DELTA เพื่อก็สามารถติดตามเราได้นะครับ เรามีการโพสให้ทุกผ่าน "รายงานซื้อขายหุ้นประจำวัน" (ตามรูปด้านล่าง) รวมถึงเราจะนำข้อมูล Data Analysis มาวิเคราะห์กลยุทธ์การเล่น TFEX ให้ทุกท่านมีอาวุธในการเล่นที่ดียิ่งขึ้น ยังไงฝากติดตามด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture
ร่วมพูดคุยทิศทางหุ้น,TFEX
Line OpenChat : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ