......................................................................................
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เจ้าของผลงานขอสงวนสิทธิ์ในการ ห้ามคัดลอก ห้ามดัดแปลง ห้ามทำซ้ำ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดในนิยายไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
................................................................................................
“สวัสดีค่ะผู้กอง ทำอะไรอยู่คะ” เจ๊หวีเมียดาบสมชาย หรือยอดหญิงสิงห์สอดส่อง ผู้อยากรู้เรื่องของมนุษย์ทุกคนในโรงพักแห่งนี้ร้องทักทาย
“กำลังจะขับเครื่องบินอยู่มั้งฮะ” ปราบศึกประชด เพราะอีกฝ่ายก็น่าจะเห็น ว่าเขาเปิดประตูรถอยู่ ชายหนุ่มเพิ่งออกเวรจึงแวะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน เมื่อได้พักสองวัน
“คิกๆ ผู้กองนี่มีอารมณ์ขันดีนะคะ” ใบหน้ากลมที่ตัดผมสั้นแล้วดัดจนหยิกหัวเราะชอบใจ “ทั้งรูปหล่อทั้งอารมณ์ดี แหม ครบสูตร จนเจ๊อยากยกลูกสาวให้...”
นั่นไง งาน ‘หยอด’ แบบหวังผลมาแล้ว...ปราบศึกถึงสะดุ้ง และนึกภาวนาถึงอะไรก็ตาม ให้ช่วยดลบันดาลให้ลูกสาวหนึ่งเดียวของดาบสมชายมีแฟน และรีบแต่งงานโดยไว
“...นี่เจ๊พูดจริงนะคะ”
ฟังแล้วได้สะดุ้งคำรบสอง
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับเจ๊ คือผมมีแฟนแล้วครับ” ชายหนุ่มรีบบอกปัด
“ก็ไม่แน่นะนะคะผู้กองขา” นางพูดแปลก
“เจ๊หมายความว่าไง”
“เออ...ผู้กองคะ พักนี้แฟนผู้กองไปไหนเสียแล้วล่ะคะ ทำไมไม่ค่อยเห็นมาเหมือนเมื่อก่อนเลย แต่เอ...หรือว่ามาแต่เจ๊ไม่เห็น แต่ไม่หรอกน่า เจ๊ว่าเจ๊ไม่เห็นนานแล้วนะคะ”
นอกจากไม่ตอบคำถามแล้วยังล้วงเรื่องส่วนตัวของเขาอีก ปราบศึกเปิดประตูรถอ้าไว้เสียเลยเพื่อแสดงเป็นนัยๆ ว่าเขาอยากยุติบทสนทนา และจะไปแล้ว...
แต่เจ๊หวีหรือจะแคร์!
“หรือว่าเลิกกันแล้วคะผู้กอง”
“เจ๊หวี!” ชายหนุ่มปราม
“แหม แหะๆ ก็เจ๊อยากรู้นี่คะ แหะๆ” เจ๊หวีหัวเราะเก้อๆ กลบเกลื่อน เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของเจ้านายสามีตัวเอง
“แต่ผมไม่อยากเล่าครับ เข้าใจตรงกันนะครับ”
“ทะเลาะกันหรือคะ”
นางยังอยากรู้...ปราบศึกปวดกะโหลกเสียจริง
“เปล่า” เขาตอบสั้นๆ
“พูดจริงหรือคะผู้กอง” เจ๊หวีน้ำเสียงคาดคั้น
“เจ๊หวีครับ” ปราบศึกเริ่มทนไม่ได้ “นี่เจ๊จะมาซักผมให้มันได้อะไรขึ้นมามิทราบ ผมไม่ใช่ผู้ต้องหานะครับ และตัวผมก็ไม่ใช่ดาบสมชายสามีเจ๊ ที่เจ๊จะมาซักฟอกได้ ส่วนที่สำคัญคือตอนนี้...ผมรีบ”
พลันเจ๊หวีมีสีหน้าผิดหวัง เหมือนคนกำลังจะเตรียมเฮ ดีใจกับอะไรสักอย่าง แล้วเรื่องจู่ๆก็กลับผิดคาด เธอพูดลอยๆ ว่า
“ว้า! แย่จริง ถ้างั้นข่าวลือนั่นก็ไม่จริงสิ”
“ข่าวลืออะไรเจ๊” ปราบศึกสะดุดหูทันใด
คราวนี้เจ๊หวีตาใสวิ้งๆ ขึ้นมาทันที พูดด้วยเสียงสอดส่องว่า
“เจ๊ว่าแล้ว ว่าผู้กองจะต้องยังไม่รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไรหรือ”
“นี่ไงผู้กอง... ถ้าอยากรู้ ผู้กองต้องอ่านเองค่ะ” เจ๊หวียัดเยียดหนังสือพิมพ์ใส่มือ ปราบศึกงง หากเจ๊หวีฉวยวินาทีทองขายสินค้าด้วยการพูดต่อว่า
“ลูกสาวเจ๊ก็น่ารัก และนิสัยดีนะคะผู้กอง ยัยเอของเจ๊ทำงานเก๊งเก่ง มีกิจการเป็นของตัวเอง ขายดี๊เท...”
“ผมไปแล้วเจ๊” ชายหนุ่มเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย ไม่ฟังต่อ ตอนปิดประตูรถ ยังแว่วเสียงเจ๊หวีพูดว่าถ้าหากเขาอยากฝากใจแลกเบอร์โทร...
เจ๊หวีก็ยินดีเปิดทางให้!
ปราบศึกออกรถและทิ้งหนังสือพิมพ์ไว้เบาะข้างคนขับ คนอย่างเจ๊หวีชอบนินทาเป็นอาชีพ แกคงพูดเรื่อยเปื่อยจับแพะชนแกะตามประสา หากตอนรถติดไฟแดงเขาลองหยิบหนังสือพิมพ์คลี่ดู เขาไม่เห็นอะไรนอกจากข่าวซุบซิบดารา แต่แล้วสายตาของปราบศึกสะดุดเข้ากับข่าวกรอบเล็กๆ ที่มีรอยปากกาเมจิกวงเอาไว้ ในข่าวเขียนโปรยว่า
“ฆ่าคนโสดรัวๆ เซ็กซี่สตาร์ป้ายแดง ดีดี้ ภารดี มีภาพหลุดควงผู้กำกับชื่อดังไปสวีตไกลถึงแดนปลาดิบ” ปราบศึกเหงื่อซึมเต็มฝ่ามือ “งานนี้ไม่รู้ว่าแคสหนังเรื่องใหม่หรือว่าอะไร แต่ที่แน่ๆ ปลาดิบกลายเป็นปลาฉ่ำน้ำตาลไปแล้วด้วยความหวานของทั้งคู่ แถมในไอจีก็ชี้เป้า ว่าเช็กอินที่เดียวกันชัวร์ๆ หลักฐานแน่นหนาขนาดนี้คงปฏิเสธไม่ออกแล้ว”
ชายหนุ่มโยนหนังสือพิมพ์ทิ้ง บอกตัวเองว่ามันก็แค่ข่าวเท่านั้นเอง ข่าวที่ใครจะเขียนอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ภารดีได้เล่นหนังและนั่นก็คงเป็นหนึ่งฉากในการแสดง ตอนนี้หล่อนยุ่งมากจนสองคนห่างเหิน
ภารดีเป็นคนขี้กังวล ปราบศึกเกรงเธอไม่สบายใจ ชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาคนรักตัวเองทันที
“ค่ะปราบ” หญิงสาวรับสาย
ปราบศึกบอกอย่างร้อนใจว่า
“ผมเห็นข่าวดีดี้แล้วนะ รู้มั้ยว่าผม...”
“อ๋อ เรื่องนั้นเองน่ะหรือ” ภารดีแทรกเพื่อชิงอธิบายเสียก่อน “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทั้งหมดคืองานค่ะ มันเป็นแผนกระตุ้นสื่อเพื่อโปรโมทหนังเท่านั้นเอง ปราบอย่าคิดมากสิคะ ข่าวก็คือข่าว อย่าไปใส่ใจเลย ดาราดังอย่างดีดี้ถ้าไม่เป็นข่าวคนก็ลืมเท่านั้นสิคะ”
“ดีดี้คือว่าผม...”
“ตอนนี้ดีดี้ยุ๊งยุ่งคุยนานไม่ได้ เอาไว้เดี๋ยวพอว่างแล้วดีดี้จะโทรกลับนะคะ” หญิงสาวพูดเร็วและวางสายไปเลย ส่วนปราบศึกห่วงแฟนตัวเองจนไม่สะกิดใจ ว่าคำพูดของฝ่ายหญิงเหินห่างประหลาด...
ไม่มีคำว่า ‘ที่รัก’ หลุดออกมาจากปากเหมือนเคย!
พรหมลิขิตผิดคิว (9) โดย ธีมา
นิยายเรื่องนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เจ้าของผลงานขอสงวนสิทธิ์ในการ ห้ามคัดลอก ห้ามดัดแปลง ห้ามทำซ้ำ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดในนิยายไปเผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
................................................................................................
“สวัสดีค่ะผู้กอง ทำอะไรอยู่คะ” เจ๊หวีเมียดาบสมชาย หรือยอดหญิงสิงห์สอดส่อง ผู้อยากรู้เรื่องของมนุษย์ทุกคนในโรงพักแห่งนี้ร้องทักทาย
“กำลังจะขับเครื่องบินอยู่มั้งฮะ” ปราบศึกประชด เพราะอีกฝ่ายก็น่าจะเห็น ว่าเขาเปิดประตูรถอยู่ ชายหนุ่มเพิ่งออกเวรจึงแวะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน เมื่อได้พักสองวัน
“คิกๆ ผู้กองนี่มีอารมณ์ขันดีนะคะ” ใบหน้ากลมที่ตัดผมสั้นแล้วดัดจนหยิกหัวเราะชอบใจ “ทั้งรูปหล่อทั้งอารมณ์ดี แหม ครบสูตร จนเจ๊อยากยกลูกสาวให้...”
นั่นไง งาน ‘หยอด’ แบบหวังผลมาแล้ว...ปราบศึกถึงสะดุ้ง และนึกภาวนาถึงอะไรก็ตาม ให้ช่วยดลบันดาลให้ลูกสาวหนึ่งเดียวของดาบสมชายมีแฟน และรีบแต่งงานโดยไว
“...นี่เจ๊พูดจริงนะคะ”
ฟังแล้วได้สะดุ้งคำรบสอง
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับเจ๊ คือผมมีแฟนแล้วครับ” ชายหนุ่มรีบบอกปัด
“ก็ไม่แน่นะนะคะผู้กองขา” นางพูดแปลก
“เจ๊หมายความว่าไง”
“เออ...ผู้กองคะ พักนี้แฟนผู้กองไปไหนเสียแล้วล่ะคะ ทำไมไม่ค่อยเห็นมาเหมือนเมื่อก่อนเลย แต่เอ...หรือว่ามาแต่เจ๊ไม่เห็น แต่ไม่หรอกน่า เจ๊ว่าเจ๊ไม่เห็นนานแล้วนะคะ”
นอกจากไม่ตอบคำถามแล้วยังล้วงเรื่องส่วนตัวของเขาอีก ปราบศึกเปิดประตูรถอ้าไว้เสียเลยเพื่อแสดงเป็นนัยๆ ว่าเขาอยากยุติบทสนทนา และจะไปแล้ว...
แต่เจ๊หวีหรือจะแคร์!
“หรือว่าเลิกกันแล้วคะผู้กอง”
“เจ๊หวี!” ชายหนุ่มปราม
“แหม แหะๆ ก็เจ๊อยากรู้นี่คะ แหะๆ” เจ๊หวีหัวเราะเก้อๆ กลบเกลื่อน เมื่อเห็นท่าทางไม่ค่อยพอใจของเจ้านายสามีตัวเอง
“แต่ผมไม่อยากเล่าครับ เข้าใจตรงกันนะครับ”
“ทะเลาะกันหรือคะ”
นางยังอยากรู้...ปราบศึกปวดกะโหลกเสียจริง
“เปล่า” เขาตอบสั้นๆ
“พูดจริงหรือคะผู้กอง” เจ๊หวีน้ำเสียงคาดคั้น
“เจ๊หวีครับ” ปราบศึกเริ่มทนไม่ได้ “นี่เจ๊จะมาซักผมให้มันได้อะไรขึ้นมามิทราบ ผมไม่ใช่ผู้ต้องหานะครับ และตัวผมก็ไม่ใช่ดาบสมชายสามีเจ๊ ที่เจ๊จะมาซักฟอกได้ ส่วนที่สำคัญคือตอนนี้...ผมรีบ”
พลันเจ๊หวีมีสีหน้าผิดหวัง เหมือนคนกำลังจะเตรียมเฮ ดีใจกับอะไรสักอย่าง แล้วเรื่องจู่ๆก็กลับผิดคาด เธอพูดลอยๆ ว่า
“ว้า! แย่จริง ถ้างั้นข่าวลือนั่นก็ไม่จริงสิ”
“ข่าวลืออะไรเจ๊” ปราบศึกสะดุดหูทันใด
คราวนี้เจ๊หวีตาใสวิ้งๆ ขึ้นมาทันที พูดด้วยเสียงสอดส่องว่า
“เจ๊ว่าแล้ว ว่าผู้กองจะต้องยังไม่รู้เรื่อง”
“เรื่องอะไรหรือ”
“นี่ไงผู้กอง... ถ้าอยากรู้ ผู้กองต้องอ่านเองค่ะ” เจ๊หวียัดเยียดหนังสือพิมพ์ใส่มือ ปราบศึกงง หากเจ๊หวีฉวยวินาทีทองขายสินค้าด้วยการพูดต่อว่า
“ลูกสาวเจ๊ก็น่ารัก และนิสัยดีนะคะผู้กอง ยัยเอของเจ๊ทำงานเก๊งเก่ง มีกิจการเป็นของตัวเอง ขายดี๊เท...”
“ผมไปแล้วเจ๊” ชายหนุ่มเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย ไม่ฟังต่อ ตอนปิดประตูรถ ยังแว่วเสียงเจ๊หวีพูดว่าถ้าหากเขาอยากฝากใจแลกเบอร์โทร...
เจ๊หวีก็ยินดีเปิดทางให้!
ปราบศึกออกรถและทิ้งหนังสือพิมพ์ไว้เบาะข้างคนขับ คนอย่างเจ๊หวีชอบนินทาเป็นอาชีพ แกคงพูดเรื่อยเปื่อยจับแพะชนแกะตามประสา หากตอนรถติดไฟแดงเขาลองหยิบหนังสือพิมพ์คลี่ดู เขาไม่เห็นอะไรนอกจากข่าวซุบซิบดารา แต่แล้วสายตาของปราบศึกสะดุดเข้ากับข่าวกรอบเล็กๆ ที่มีรอยปากกาเมจิกวงเอาไว้ ในข่าวเขียนโปรยว่า
“ฆ่าคนโสดรัวๆ เซ็กซี่สตาร์ป้ายแดง ดีดี้ ภารดี มีภาพหลุดควงผู้กำกับชื่อดังไปสวีตไกลถึงแดนปลาดิบ” ปราบศึกเหงื่อซึมเต็มฝ่ามือ “งานนี้ไม่รู้ว่าแคสหนังเรื่องใหม่หรือว่าอะไร แต่ที่แน่ๆ ปลาดิบกลายเป็นปลาฉ่ำน้ำตาลไปแล้วด้วยความหวานของทั้งคู่ แถมในไอจีก็ชี้เป้า ว่าเช็กอินที่เดียวกันชัวร์ๆ หลักฐานแน่นหนาขนาดนี้คงปฏิเสธไม่ออกแล้ว”
ชายหนุ่มโยนหนังสือพิมพ์ทิ้ง บอกตัวเองว่ามันก็แค่ข่าวเท่านั้นเอง ข่าวที่ใครจะเขียนอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ภารดีได้เล่นหนังและนั่นก็คงเป็นหนึ่งฉากในการแสดง ตอนนี้หล่อนยุ่งมากจนสองคนห่างเหิน
ภารดีเป็นคนขี้กังวล ปราบศึกเกรงเธอไม่สบายใจ ชายหนุ่มกดโทรศัพท์หาคนรักตัวเองทันที
“ค่ะปราบ” หญิงสาวรับสาย
ปราบศึกบอกอย่างร้อนใจว่า
“ผมเห็นข่าวดีดี้แล้วนะ รู้มั้ยว่าผม...”
“อ๋อ เรื่องนั้นเองน่ะหรือ” ภารดีแทรกเพื่อชิงอธิบายเสียก่อน “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ทั้งหมดคืองานค่ะ มันเป็นแผนกระตุ้นสื่อเพื่อโปรโมทหนังเท่านั้นเอง ปราบอย่าคิดมากสิคะ ข่าวก็คือข่าว อย่าไปใส่ใจเลย ดาราดังอย่างดีดี้ถ้าไม่เป็นข่าวคนก็ลืมเท่านั้นสิคะ”
“ดีดี้คือว่าผม...”
“ตอนนี้ดีดี้ยุ๊งยุ่งคุยนานไม่ได้ เอาไว้เดี๋ยวพอว่างแล้วดีดี้จะโทรกลับนะคะ” หญิงสาวพูดเร็วและวางสายไปเลย ส่วนปราบศึกห่วงแฟนตัวเองจนไม่สะกิดใจ ว่าคำพูดของฝ่ายหญิงเหินห่างประหลาด...
ไม่มีคำว่า ‘ที่รัก’ หลุดออกมาจากปากเหมือนเคย!