สวัสดีขอรับทุกท่าน

วันนี้เป็นอีกวันที่แมวดำถือโอกาสออกอาละวาดตามร้านอาหารอีกแล้วครับท่าน

โดยครั้งนี้เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสในห้างดังใจกลางกรุงเทพของเรานี้เอง

ชื่อร้าน : Paul

ที่ตั้ง : ชั้น 1 สยามพารากอน

ประเภท : อาหารฝรั่งเศสและเบเกอรี่

หลังจากที่ทำงานเสร็จในช่วงเช้าก็มีเวลาว่าง แมวดำมองนาฬิกา... เวลาเหลือ... มีเรือจะเหลือ!!! จัดการเข้าเกียร์ออกรถทันที!!!!

มาถึงสถานที่ (สยามพารากอน) ตอนบ่ายนิดๆ ก็รีบตรงไปยังร้านทันที





พอมาถึงนี้คือสภาพของร้านที่ได้เห็น จะเห็นว่าหน้าร้านเป็นตู้กระจกไว้โชว์ไลน์ขนม โดยมีเมนูตั้งไว้หน้าร้านสามารถดูเพื่อเช็ครายการอาหารและขนมได้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกขอรับ (แต่สำหรับเราไม่ต้องดูเพราะตัดสินใจมาแล้ว ฮึๆๆ...) ส่วนภายในร้านเป็นแบบคาเฟ่สไตล์คลาสสิกออกยุโรปเล็กน้อย โต๊ะเก้าอี้จัดได้ดีไม่อึดอัดคับแคบแต่อย่างใด

"สามที่ครับ" แมวรีบบอกพนักงานที่หันมาสบตาเป็นคนแรกทันที

"ทางนี้เลยครับ" น้องพนักงานตอบรับทันควันอย่างสุภาพเรียบร้อย

พอคณะของแมวดำเดินมานั่งโต๊ะเรียบร้อย เงยหน้าขึ้นมาพนักงานคนเดิมก็หยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะพร้อมรอยยิ้ม พร้อมยื่นเมนูอาหารและเครื่องดื่มลงบนโต๊ะในบัดดล


ไอ้เราก็ไม่เกรงใจ รีบเปิดเมนูดูทันที อืม... อาหารหลากหลายใช้ได้ ส่วนใหญ่เป็นสไตล์แซนวิช มีอาหารทานเล่นเล็กน้อย ส่วนจายหลักก็มีทั้งหมู เห็ด เป็ด ไก่ ช้าง ม้า วัว ควาย แกะ ฯลฯ (... ไอ้ช้าง ม้า กับควายนี้ก็ออกจะเกินไปหน่อย พอดีตอนพิมพ์กำลังอิน แหะๆ...) หลังจากเลือกได้ซักพักก็สั่งอาหารไป


พอสั่งอาหารเสร็จขนมปังฟรีก็มาเสิร์ฟ เป็นขนมปังฝรั่งเศสแบบแท่งยาวๆ เอามาสไลด์เสิร์ฟ (ความจริงเขาเอามาให้ 4 ชิ้น แต่ตอนถ่ายทานไปแล้ว 2) ขนมปังอุ่นๆ กรอบนอกนุ่มในมาพร้อมกับเนยที่อุณหภูมิห้อง อร่อยอยากบอกใคร (อ๋อ จากการสอบถามพนักงานทำให้ทราบว่าขนมปังเป็นทางร้านทำขึ้นมาเอง และจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปไม่ซ้ำกันแล้วแต่ทางร้านจะจัดให้ ก็แน่ล่ะ ร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรี่อยู่แล้ว)

หลังจากชิมขนมปังฟรีเสร็จอาหารก็ยังไม่มา แมวเลยถือโอกาสเดินออกมาดูไลน์ขนมและเบเกอรี่หน้าร้านฆ่าเวลา








ขอบอกว่าขนมร้านนี้น่ากินมากกกก มีทั้งทาร์ตหลากหลายหน้า ครัวซองต์มากชนิด ขนมเค้กมากหน้าหลายตา มาการองชิ้นโตๆเต็มหน้าร้าน โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นเทศกาลวาเลนไทน์เลยมีขนมพิเศษเป็นเอแคร์สารพัดชนิด ไว้ไหวจะจดจำชื่อเลยของใช้รูปภาพบรรยายแทนน่ะ ขอรับ

พอกลับมาถึงที่โต๊ะเครื่องดื่มก็มาถึงพอดี


โดยรายการแรกเป็นของโปรดแมวดำนั้นคือ Single Espresso นั้นเอง แก้วนี้ถือว่าผ่าน กลิ่นอโรม่าหอมๆ โชยมากระทบจมูก พอจิบเข้าไปคำความขมปนเปรี้ยวกำลังดีก็ถาโถมเข้าปะทะลิ้นทันที ทั้งกลิ่นและรสสัมผัสผสานเข้ากันอย่างลงตัวกลายเป็นกาแฟดีๆ แก้วหนึ่งทันที


ส่วนอันนี้เป็น ลาเต้ร้อนของคุณแม่ ไม่ได้ลองชิมแต่คุณแม่บอกว่าดีงาม ใส่นมกำลังดีไม่เสียรสชาติกาแฟ


หลังจากลิ้มลองเครื่องดื่มกันไปไม่นาน อาหารจานแรกก็มาถึง นั้นคือ คีนัวสลัดนั้นเอง ตัวสลัดประกอบด้วยคีนัวที่คลุกเคล้ากับน้ำสลัดมาแล้วอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบไว้ด้วยกุ้งต้มสุกและอโวคาโดผ่าเสี้ยว ด้านบนก็วางร็อกเก็ตสลัดไว้อีกชั้นหนึ่ง ก่อนจะปิดทับขนมปังหน้าซอสมะเขือเทศ จานนี้รสชาติออกจืดๆ เปรี้ยวๆ เล็กน้อย สำหรับคนที่ชอบดูแลสุขภาพน่าจะถูกใจ แมวแนะนำว่าต้องกันคีนัวพร้อมกับกุ้งและอโวคาโดจึงจะดึงรสชาติออกมาให้อร่อยถึงขีดสุด ทั้งความสดของกุ้ง ความหอมมันของอโวคาโด และความกรุบกรอบของคีนัว น่าจะทำให้ผู้ที่รับประทานสามารถเพลิดเพลินกับอาหารจานนี้ได้ไม่น้อย (จานนี้ถือว่าถูกจริตกับแมวดำที่ชอบคีนัวอยู่แล้วไม่น้อย)


จานที่สองนี้คุณแม่ชอบมาก นั้นคือ หอยแมลงผู้อบซอสไวน์ขาว ต้องบอกว่าจานนี้นายแน่มาก สุดยอดทั้งรูป รส กลิ่น สัมผัส หอยแมลงผู้สดสะอาดอบผัดกับซอสไวน์ขาวได้อย่างลงตัว ตัวซอสเองหอมหวานพร้อมทั้งมีกลิ่นมันเนยเด่นชัด กินได้ไม่รู้เบื่อ ปริมาณที่ให้มาก็ถือว่าเยอะพอจะทานประมาณสองถึงสามท่านได้เลย เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังกระเทียมสองชิ้นใหญ่ๆ


จานที่สามเป็นอาหารทานเล่น เป็นขนมปังที่ท๊อปปิ้งด้วยเห็ดแชมปิยองที่ปิดทับไว้ด้วยเชดด้าชีสร้อนละลายปิดหน้า เสิร์ฟมาห้าชิ้นในจานพร้อมสลัดผักเล็กน้อย และเป็นอีกจานที่แมวดำถือว่าดีงามมากๆ รสชาติของส่วนผสมทั้งสามอย่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี ชิ้นหนึ่งสามารถตัดแยกรับประทานได้สองถึงสามคำกำลังดี รสชาติออกเค็มมันส์กำลังดีเคี้ยวเพลินเลยทีเดียว


ส่วนจานที่สี่ ซึ่งเป็นจานหลักปิดท้าย (คุณแม่เป็นคนสั่ง) คือ ซี่โครงแกะย่าง เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งหันเสี้ยวอบ ถั่วแขกและมะเขือเทศ ราดด้วยน้ำซอส จานนี้แมวคิดว่าเฉยๆ ขอรับ โอเคเนื้อแกะทำออกมาได้ดีไม่เหม็นสาปและไม่เหนียวนักกำลังเคี้ยวมัน แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร อีกทั้งเราสั่งมาแบบ mediam แต่กลับได้แบบ well done มาแทน ถามว่าผ่านไหมก็ผ่านน่ะ แต่ไม่ถึงกับตื่นตาตื่นใจหรือประทับใจมากนัก

สำหรับค่าใช้จ่ายในครั้งนี้คือประมาณ 2,500++ (ไม่ได้ถ่ายบิลไว้เลยจำตัวเลขตรงๆ ไม่ได้)

สรุป

สภาพบรรยากาศภายในร้าน : ถือว่าเป็นร้านที่สามารถมานั่งชิลๆ จิบชากาแฟ ทานขนม หรือทานอาหารมื้อหนักเลยก็ได้ การจัดโต๊ะนั่งก็ถือว่าทำได้ลงตัวไม่กว้าหรือแคบจนเกินไป

การบริการ : พนักงานของที่นี้ถือว่าผ่านการฝึกและมี service mind ที่ดีมาก เรียกมาสั่งหรือขออะไรก็ไม่มีอิดออดหรือชักสีหน้าแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีความรู้เกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่มที่บริการเป็นอย่างดี การบริการก็รวดเร็วและถูกต้องไม่ต้องสั่งซ้ำแม้แต่ครั้งเดียว

อาหารและเครื่องดื่ม : นอกจากจานแกะแล้ว แมวดำถือว่าเป็นร้านอาหารที่หากมาที่พารากอน แมวดำสามารถเลือกเป็นร้านตัวเลือกในอันดับต้นๆ ได้เลยทีเดียว อาหารมีคุณภาพ ทั้งวัตถุดิบที่สดใหม่ ปรุงออกมามีรสชาติดี (โดยเฉพาะหอยแมลงภู่ที่มีให้เลือกถึงสามแบบ คราวหน้าแมวต้องลองอีกสองแบบให้ได้) และการนำเสนอที่น่ากิน ส่วนเครื่องดื่มแมวดำให้คะแนนไปทางด้านชากาแฟที่ดีมาก (รายการอื่นยังไม่ได้ลอง) โดยรวมถือว่าดีเลิศประเสริฐศรี

ราคา : ราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ได้รับถือว่าก็สมน้ำสมเนื้อดี (ค่อนไปทานแพงเล็กน้อย) โดยอาหารจะเริ่มต้นที่ 250++ ส่วนขนมเบเกอรี่จะเริ่มต้นที่ 100++ (ขึ้นอยู่กับว่าสั่งรายการไหน)

หาว่าครั้งหน้าไปที่พารากอนจะต้องไปซ้ำอีกหลายครั้งแน่นอน!!!

การรีวิวร้าน Paul จึงจบลงเพียงเท่านี้ หากท่านใดมีคำติชมหรือคิดเห็นอย่างไรก็แชร์กันมาได้เต็มที่เลยขอรับ

ขอบคุณครับ