…ความรัก คืออะไร…
…โดยทั่วไปมักแทนความรักด้วยสัญลักษณ์รูป หัวใจ เพราะอะไร? ไม่รู้สินะ แต่ฉันเดาเอาเองว่า อาจเป็นเพราะ ความรัก หรือ ความรู้สึกรัก มันเกิดขึ้นนอกอำนาจจิตใจ มันควบคุมไม่ได้ เช่นเดียวกันกับ กล้ามเนื้อหัวใจ ตามหลัก Anatomy กล้ามเนื้อหัวใจ เป็นกล้ามเนื้อลายชนิดหนึ่งที่ทำงานนอกเหนืออำนาจจิตใจ นั่นคือ ไม่ได้ถูกสั่งการโดยสมองส่วนหน้าที่มีลักษณะหยักลึก ที่เรียกว่า ซีรีบลัม แต่ถูกสั่งการจาก สมองส่วนที่เรียกว่า เมล…??(อะไรสักอย่างจำไม่ได้) กับ ไขสันหลัง ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุให้หลายๆคนบอกว่า ความรักต้องใช้ใจอย่าใช้สมอง เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันเองเป็นคนหนึ่งที่ได้ยินประโยคนี้บ่อยมาก ฉันมักถูกกล่าวหาว่าใช้สมองประมวลความรักมากกว่าใจ เชอะ!! ซีรีบลัมของฉันคงไม่ได้มีรอยหยักมากเหลือเฟือเผื่อให้ประมวลเรื่องอื่นๆขนาดนั้นหรอก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันคงไม่ถูกหลอกให้เจ็บปวดเพราะ รัก จากคนบางคนหรอกนะ
…แต่ก็นั่นแหละฉันไม่เคยโกรธโทษความรัก เพราะสำหรับฉัน รัก เป็นสื่อกลางระหว่างคสองคน หากจะโทษโกรธก็คงต้องเป็นที่คนสองคนนั้นมากกว่า แต่ก็นั่นแหระนะ คนไม่รักกัน มันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะต้องมาหาเหตุผลรื้อค้นต้นสายเพื่อถือโทษโกรธกัน
…ความรักของฉันในครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นการทุ่มเท เปลี่ยนแปลง อดทน อดกลั้น พยายาม เรียนรู้ ต่อสู้ ชิงดี เพื่อให้ได้มาซึ่งการครอบครอง แต่สุดท้าย ทุกอย่างที่ทำมา ฉันก็ไม่เคยได้ครอบครองความรักนั้นสักที เมื่อไม่สามารถครอบครอง สิ่งที่ตามมาคือ ความเจ็บปวด เสียใจ ผิดหวัง ฉันเฝ้าตีอกชกหัวตัวเอง ร้องไห้ฟูมฟายเฝ้าถามละล่ำละลักว่าทำไมไม่เคยรักฉันเลย ทำไมไม่เห็นค่าฉันเลย ฉันทำเช่นนั้นเพราะฉันรู้สึกเจ็บปวด รู้สึกสูญเสีญ แต่สำหรับอีกคนภาพของฉันตอนนั้นที่เค้ามองเห็นคือ อีบ้าไร้สติ จึงไม่แปลกที่เค้าจะเลือกเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
…ความรักของฉันในครั้งหนึ่ง มันคือความหวาดกลัว หวาดระแวง กลัวความเจ็บปวดจะซ้ำตรงที่เดิม จึงเป็นเหตุให้ฉันหาปฏิกิริยาตอบสนองกลับโดยอัตโนมัติ เพื่อปกป้องตัวเองหลังกำแพงสูงหนา สุดท้ายก็กลายเป็นเพียง อีบ้าไร้สติ เช่นเดิม อ้อ!!ได้ฉายา อีบ้าไร้หัวใจ แถมมาด้วย
…ฉันไม่ได้เข็ดกับความรักนะ แต่ฉันเข็ดกับความคาดหวังของตัวฉันเองมากกว่า ฉันเลือกที่จะดำเนินชีวิตอยู่หลังกำแพงด้วยการบอกตัวเองว่า ดีแล้ว จะได้ไม่เจ็บปวด และเลือกมีความสุขกับ ความรักของฉัน ความรักในแบบของฉัน นั่นคือการได้รัก การได้คิดถึง การได้ยิ้มกับภาพเก่าๆเรื่องราวเก่าๆระหว่างเราสองคน แน่นอน ซีลีบลัมของฉันสั่งให้เลือกจดจำเฉพาะสิ่งที่เรียกว่าความสุขเท่านั้น และฉันก็มีความสุขกับมันจริงๆ ฉันรู้สึกขอบคุณเสมอที่โชคชะตาพาให้เรารู้จักกัน ขอบคุณที่เค้าคนนั้นให้โอกาสฉันได้แสดงความรักต่อเค้าในหลายๆรูปแบบ ขอบคุณเค้าคนนั้นที่ทำให้ฉันภูมิใจกับความรักของฉัน รัก ที่ไม่ต้องการครอบครอง รัก ที่มีความสุขเมื่อพบว่าเค้ามีความสุข รัก ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ ฉันก็ยังคงพูดได้เต็มปากว่า รัก และ นั่นคือคนรักของฉัน นั่นคือความรักในแบบของฉัน อย่างน้อย ชั่วชีวิตเกิดมาครั้งเดียว ฉันก็ได้ใช้หัวใจรักใครคนหนึ่งอย่างแท้จริง …รักและคิดถึงคุณเสมอ…
…11 กุมภาพันธ์ ไม่ใช่วันแห่งความรัก…
…แต่เพราะทุกวันฉันรักคุณเสมอ… ฮิ้วววววววววว!!!!
Before Valentine
…โดยทั่วไปมักแทนความรักด้วยสัญลักษณ์รูป หัวใจ เพราะอะไร? ไม่รู้สินะ แต่ฉันเดาเอาเองว่า อาจเป็นเพราะ ความรัก หรือ ความรู้สึกรัก มันเกิดขึ้นนอกอำนาจจิตใจ มันควบคุมไม่ได้ เช่นเดียวกันกับ กล้ามเนื้อหัวใจ ตามหลัก Anatomy กล้ามเนื้อหัวใจ เป็นกล้ามเนื้อลายชนิดหนึ่งที่ทำงานนอกเหนืออำนาจจิตใจ นั่นคือ ไม่ได้ถูกสั่งการโดยสมองส่วนหน้าที่มีลักษณะหยักลึก ที่เรียกว่า ซีรีบลัม แต่ถูกสั่งการจาก สมองส่วนที่เรียกว่า เมล…??(อะไรสักอย่างจำไม่ได้) กับ ไขสันหลัง ซึ่งก็น่าจะเป็นเหตุให้หลายๆคนบอกว่า ความรักต้องใช้ใจอย่าใช้สมอง เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันเองเป็นคนหนึ่งที่ได้ยินประโยคนี้บ่อยมาก ฉันมักถูกกล่าวหาว่าใช้สมองประมวลความรักมากกว่าใจ เชอะ!! ซีรีบลัมของฉันคงไม่ได้มีรอยหยักมากเหลือเฟือเผื่อให้ประมวลเรื่องอื่นๆขนาดนั้นหรอก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันคงไม่ถูกหลอกให้เจ็บปวดเพราะ รัก จากคนบางคนหรอกนะ
…แต่ก็นั่นแหละฉันไม่เคยโกรธโทษความรัก เพราะสำหรับฉัน รัก เป็นสื่อกลางระหว่างคสองคน หากจะโทษโกรธก็คงต้องเป็นที่คนสองคนนั้นมากกว่า แต่ก็นั่นแหระนะ คนไม่รักกัน มันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะต้องมาหาเหตุผลรื้อค้นต้นสายเพื่อถือโทษโกรธกัน
…ความรักของฉันในครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นการทุ่มเท เปลี่ยนแปลง อดทน อดกลั้น พยายาม เรียนรู้ ต่อสู้ ชิงดี เพื่อให้ได้มาซึ่งการครอบครอง แต่สุดท้าย ทุกอย่างที่ทำมา ฉันก็ไม่เคยได้ครอบครองความรักนั้นสักที เมื่อไม่สามารถครอบครอง สิ่งที่ตามมาคือ ความเจ็บปวด เสียใจ ผิดหวัง ฉันเฝ้าตีอกชกหัวตัวเอง ร้องไห้ฟูมฟายเฝ้าถามละล่ำละลักว่าทำไมไม่เคยรักฉันเลย ทำไมไม่เห็นค่าฉันเลย ฉันทำเช่นนั้นเพราะฉันรู้สึกเจ็บปวด รู้สึกสูญเสีญ แต่สำหรับอีกคนภาพของฉันตอนนั้นที่เค้ามองเห็นคือ อีบ้าไร้สติ จึงไม่แปลกที่เค้าจะเลือกเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
…ความรักของฉันในครั้งหนึ่ง มันคือความหวาดกลัว หวาดระแวง กลัวความเจ็บปวดจะซ้ำตรงที่เดิม จึงเป็นเหตุให้ฉันหาปฏิกิริยาตอบสนองกลับโดยอัตโนมัติ เพื่อปกป้องตัวเองหลังกำแพงสูงหนา สุดท้ายก็กลายเป็นเพียง อีบ้าไร้สติ เช่นเดิม อ้อ!!ได้ฉายา อีบ้าไร้หัวใจ แถมมาด้วย
…ฉันไม่ได้เข็ดกับความรักนะ แต่ฉันเข็ดกับความคาดหวังของตัวฉันเองมากกว่า ฉันเลือกที่จะดำเนินชีวิตอยู่หลังกำแพงด้วยการบอกตัวเองว่า ดีแล้ว จะได้ไม่เจ็บปวด และเลือกมีความสุขกับ ความรักของฉัน ความรักในแบบของฉัน นั่นคือการได้รัก การได้คิดถึง การได้ยิ้มกับภาพเก่าๆเรื่องราวเก่าๆระหว่างเราสองคน แน่นอน ซีลีบลัมของฉันสั่งให้เลือกจดจำเฉพาะสิ่งที่เรียกว่าความสุขเท่านั้น และฉันก็มีความสุขกับมันจริงๆ ฉันรู้สึกขอบคุณเสมอที่โชคชะตาพาให้เรารู้จักกัน ขอบคุณที่เค้าคนนั้นให้โอกาสฉันได้แสดงความรักต่อเค้าในหลายๆรูปแบบ ขอบคุณเค้าคนนั้นที่ทำให้ฉันภูมิใจกับความรักของฉัน รัก ที่ไม่ต้องการครอบครอง รัก ที่มีความสุขเมื่อพบว่าเค้ามีความสุข รัก ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ ฉันก็ยังคงพูดได้เต็มปากว่า รัก และ นั่นคือคนรักของฉัน นั่นคือความรักในแบบของฉัน อย่างน้อย ชั่วชีวิตเกิดมาครั้งเดียว ฉันก็ได้ใช้หัวใจรักใครคนหนึ่งอย่างแท้จริง …รักและคิดถึงคุณเสมอ…
…11 กุมภาพันธ์ ไม่ใช่วันแห่งความรัก…
…แต่เพราะทุกวันฉันรักคุณเสมอ… ฮิ้วววววววววว!!!!