ดารินทร์ ดาริน ตอนที่ 5

Chapter 4  ปัจฉิมนิเทศ 1.3 คนแรก

      ไม่มีเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์
      .
      .
      .

      ไม่มีคนเดินเข้ามาขัดจังหวะ
      .
      .
      .
      ไม่มีเเม้เเต่เสียงของใครเดินผ่านไปผ่านมา
      ฉันคิดว่าตอนนี้ยัยแก้วตาต้องโทรหาหรือตามหาพวกเราเเน่ แต่กลับไม่มีเเม้เเต่เสียงคนที่เดินผ่านไปมา
      อ่อ ลืมไป ฉันวางโทรศัพท์ไว้ที่ใต้โต๊ะ - -*  
      
      ตอนนี้คนตรงหน้ากำลังบอกชอบฉัน ทั้งๆที่เราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน ถึงจะเเค่สามปี เเต่เรื่องราวช่วงระยะเวลาต่างๆที่ผ่านมาสำหรับฉันเเล้วนับดาวถือว่าสนิทพอๆกับแก้วตาเลยแหละ  หรืออาจจะมากกว่า

     “นับแกพูดอะไรเนี่ย”
  
       ฉันหัวเราะแห้งๆ อย่างไม่กล้าที่จะสบตาหรือมองหน้าคนตรงหน้า  เเต่มันก็เลี่ยงไม่ได้จริงๆ

      “ฉันพูดจริง รินทร์”

      “บ้าละแก เราเพื่อนกันนะ เเกเลิกพูดเล่นได้ละ ป่านนี้เพื่อนคนอื่นๆ ไปทำกิจกรรมในหอประชุมกันหมดละ ไปกันเถอะ”

        พอพูดจบฉันก็คว้าข้อมือของนับดาว และพาเดินลัดเลาะออกไปจากสวน แต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงไหนนับดาวก็หยุดเดิน พร้อมกับเรียกชื่อฉัน
      
       “รินทร์...”  
      
        “ว่า”

         ฉันตอบกลับเเต่ยังหันหลังให้กับนับดาว เพื่อนสนิท โดยที่มือฉันยังจับอยู่ที่ข้อมือของนับดาวไม่ปล่อย  
          เงียบ...
          
          ตึกๆ ตึกๆ
          
          เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวฉันเอง

          คำพูดและทุกการกระทำของนับดาวตอนนี้ มันเเทบจะทำให้หัวใจฉันหลุดออกมา  

          “หันกลับมาหน่อยได้ไหม”

            .....

           “นะ รินทร์ ฉันไม่อยากให้เราสองคนเดินออกไปจากตรงนี้ โดยที่เราสองคนยังไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่อง”

          ฉันตัดสินใจหันหลังกลับไป เพราะยังไงคนที่ฉันกำลังพูดคุยอยู่ ถ้าเราสนิทกันจริงๆ เราต้องกล้าที่จะเปิดใจคุยกัน  

          “ฉันหันมาแล้ว แกมีอะไรว่ามาเลย”

          “ประมาณสองเดือนก่อน จำวันที่เราถามรินทร์ชอบเราหรือเปล่า แกจำได้มั้ย”

           ฉันนิ่งคิดพอจะนึกออกมาบ้างก่อนที่จะพูดออกไป

           “อือ ขอโทษนะแก เเต่ตอนนั้นฉันตอบไปว่าอะไรหรอ”  

           “เลวมากรินทร์ เเต่ไม่เป็นไร วันนั้นเราเคยคิดที่จะบอกชอบรินทร์  วันที่รินทร์ชวนเราไปเข้าห้องน้ำอ่ะ แต่เราเปลี่ยนใจ คิดว่าเก็บความรู้สึกนี้ไว้ รอให้มันหายไปเองน่าจะดีกว่า แต่ความรู้สึกมันไม่เคยหายไปเลย กลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง.. วันนี้  สิ่งที่เราพูดออกไปทุกอย่างมันคือเรื่องจริง ฉันอยากมีแก..”

         ฉันนิ่งทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา มีบางเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่านับดาวแอบชอบฉันหรือเปล่า แต่ก็โยนความคิดแบบนั้นทิ้งไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เพราะกลัวว่าการคิดแบบนั้นอาจจะกลายเป็นฉันหลงตัว

        แต่ตอนนี้ฉันไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร  รู้เเค่ว่าไม่อยากเสียเพื่อนคนนี้ไปเลย
  
       “ขอโทษนะแก... ฉันคิดว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีอยู่เเล้ว”

       คำตอบของฉันไม่รู้ว่าทำร้ายจิตใจนับดาวขนาดไหน แต่ถ้าเทียบกับฉันเเล้ว ตอนนี้มันคงไม่ต่างกันมากเท่าไหร่หรอก  คนปฏิเสธ ก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บปวดเลยนะ!!  

      “ความสัมพันธ์แบบคนรักกันมันไม่มีทางอยู่ไปได้นาน ไม่วันใดก็วันหนึ่งเราก็ต้องเลิกกัน  ฉันไม่อยากเสียแกไป... เพื่อนอย่างแกอ่ะ ขอโทษนะนับ ฉันไม่ได้ชอบแกแบบนั้น”

        ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันพูดออกไปคือสิ่งที่ฉันต้องการ เเต่ทำไม ทำไมใจมันร้าวๆ แปลกๆ ยังไงพิลึก

        “แล้วแกชอบเราแบบไหนหรอรินทร์”

        นับดาวพูดพร้อมกับก้าวเท้ามาหาฉันเพียงก้าวเดียว เราสองคนก็เเทบยืนจะชิดติดกัน
        ฉันอยากจะถอยหลังออกไปจากตรงนี้ เเต่ก็ไม่มากพอกับความต้องการอยากรู้ว่านับกำลังจะทำอะไร  
        
        “แล้วรินทร์รู้ไหม ความรักของเราคืออะไร .... คือการได้ครอบครองรินทร์ยังไงล่ะ”  

         พูดจบเจ้าตัวก็เอามือข้างหนึ่งมาจับที่ท้ายทอยของฉันให้โน้มก้มหน้าลงไปหา พร้อมกับเงยหน้าของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน
          ตึกๆ
          ตึกๆ
          นี่เรากำลังจะจูบกันใช่ไหม  ฉันมีเหตุผลล้านเเปดอยู่ในหัวตอนนี้ที่จะปฏิเสธการกระทำนี้ เเต่ฉันว่าข้อมูลล้านแปดที่อยู่ในสมองมันคงจะตีกัน เเละคงเหลือเหตุผลเพียงข้อเดียว ที่ตอนนี้ฉันยังอธิบายให้ตัวเองเข้าใจไม่ได้เลย    
          ฉันสัมผัสถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของนับดาวเป็นกลิ่นที่ฉันชอบมาโดยตลอด ลมหายใจร้อนๆ ของเราทั้งสองใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  
          ตึก
          ตึก
          ตึกๆ
          ฉันหลับตาพริ้ม


         “อ่าวหนูสองคน มาทำอะไรกันที่นี่  เวลานี้น่ะ!!~”
          
          เสียงของผู้หญิงสูงวัยมาเเต่ไม่ไกลจากข้างหลังเเละเป็นเสียงผู้หญิงที่ฉันเเสนจะคุ้นเคย เป็นเสียงที่ในเวลานี้ฉันควรที่จะดีใจถูกไหม ฉันถอยหลังออกห่างจากนับดาวเพียงหนึ่งก้าว เเล้วหันไปหาต้นเสียง
          
          “อ้าววว รินทร์มาทำอะไรที่สวนเวลานี้เนี่ย”
           ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นป้าแก้วที่เป็นภารโรงของโรงเรียนเเละรู้จักกับเเม่ของฉันเป็นอย่างดีเอ่ยถาม
          
           “หนูนึกว่าใคร ป้าแก้วนี่เอง เอ่อออ...พอดีหนูสองคนมาเก็บดอกไม้ แต่ตอนนี้กำลังจะไปเเล้วค่ะป้า หนูไปก่อนนะ”  

          ฉันหันไปคว้าข้อมือของนับดาวแล้วก้าวเท้าออกมาอย่างรีบร้อน

          “เดี๋ยว!! หนูรินทร์  ไหนดอกไม้ล่ะ”

          “รินทร์กินไปแล้วค่ะป้า”

           .
           .
           .
           ฉันจูงมือนับดาวเดินมาได้สักพักกำลังจะไปทำกิจกรรมกับเพื่อนคนอื่นๆ ป่านนี้คงถามหาเราสองคนกันยกใหญ่

           “รินทร์กินดอกไม้ไปตอนไหนหรอ เมื่อกี้ มีเเต่จะกินน....”
          
          นับดาวลากเสียงว่ากินยาวประมาณเมตรครึ่งได้ ถามเหมือนจะขยี้มุกแต่กลับจะสื่อถึงอะไรบางอย่าง ที่ฉันก็พยายามจะไม่เข้าใจสิ่งนั้น

         “ฉันยังยืนยันคำเดิมนะนับ และฉันมีเรื่องต้องบอกแก และแกจะเป็นคนเเรกที่ฉันจะบอก”

          “ฉันมีเเฟนแล้ว”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่