ก่อนอื่นเลยมาเขียนให้กำลังใจ(ตัวเอง)และทุกท่านที่กำลังจะย่างเข้าสู่อายุห้าสิบปี...
ไม่มีอะไรมาก ตัวเองตอนสาวๆไม่ค่อยได้รู้จักแต่งตัว ดูแลตัวเองเหมือนสาวๆสมัยนี้ คนวัยเจนเอ๊กซ์ ต้องหัดเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์และวิวัฒนาการต่างๆที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปีๆ ผ่านๆไปอย่างเร็ว แป๊ปๆเดียวอายุเข้าห้าสิบเสียแล้ว
ขอแลกเปลี่ยน ปสก และความคิดกับคนรุ่นเดียวๆกันหรือคนรุ่นพี่ๆอื่นๆ ว่าจะรับมือกับชีวิตอายุเท่านี้อย่างไร
เรื่องแรกเลย สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต เป็นสิ่งสำคัญที่สุด บางคนหาแต่เงินแต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ให้ความสำคัญกับอาชีพการงาน ครอบครัวมากกว่าตัวเอง กินอาหารไม่ดี เอาแค่ยัดๆให้อิ่มๆไปวันๆ จนอ้วน ๆแล้วก็ดูแก่ขึ้นไปอีก ดิ่มเหล้า ไวน์ เบียร์เพื่อเข้าสังคมหรือความชอบก็แล้วแต่ สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย
พอถึงเข้าช่วงวัยกลางคน คราวนี้มาหมดค่ะ ทั้งโรคต่างๆสารพัด เจ็บปวดเข่า ขา แขน คอ หลัง เดินไม่ไหว ฯลฯ ความดันสูง เบาหวาน มะเร็ง บลาๆๆ ใครมีเงินก็รักษากันไป เข้าๆออกๆ รพ.เป็นเรื่องปรกติ
ตัวเองได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงเช่นกันและได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงร่างกาย โดยการลดความอ้วน (เคยเขียนกระทู้รีวิวไว้แล้วเมื่อสองปีก่อน ตามลิงค์นี้
https://ppantip.com/topic/35467741/ และได้เปิดห้อง"สุขภาพดีเงินซื้อไม่ได้" เพื่อเป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้ในการดูแลตัวเอง และเกี่ยวกับสุขภาพโดยไม่มีผลประโยชน์ทางการค้าอย่างใด
อย่างไรก็ตามได้สรุปคร่าวๆ นี่คือโพสต์ล่าสุดที่เขียนลงในห้องนะคะ (ขอลอกมาให้อ่านเลยละกัน ขี้เกียจพิมพ์
)
.....................
มาบอกเคล็ดไม่ลับ การรักษาสุขภาพให้สมวัย จะดียิ่งกว่ามั้ย ถ้าคนอื่นมองเราแล้วคิดว่าดูเด็กกว่าวัยอีก หลักการง่ายๆ มีอยู่ไม่กี่ข้อนะคะ
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องหักโหมหรือจะไปแข่งโอลิมปิกขนาดนั้น ตัวอย่างเราเองอายุ 50 การวิ่งวันละ 10 กิโลถือว่าค่อนข้างเยอะ แต่จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน เบื่อก็พักได้ บางวันวิ่งแค่ 5-8 กิโลเท่านั้น สลับกับการเล่นเวทซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อและทำให้แลดูกระชับ ไม่หย่อนคล้อย คนส่วนใหญ่อายุเกิน 40 ปี จะต้องเจอการเปลี่ยนแปลงนี้ทุกคน
การออกกำลังควรดูที่เป้าหมายว่าเราต้องการอะไร ลดอ้วน ลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ อาหารที่กินควรจัดให้ครบอย่างไร ไปหาอ่านได้มีเยอะแยะ สำคัญคือความต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทำให้เป็นความสนุก เป็นนิสัย
2. อาหาร ปีนี้ ส่วนตัวจะพยายามลดเนื้อสัตว์ใหญ่ ไม่ได้มีอะไรกันหรอกเพียงแต่ไม่นึกอยากกิน แต่ไม่ใช่งดโดยสิ้นเชิงนะคะ อาหารทะเลยังรับประทานอยู่ แต่จะเน้นผักเยอะ ทั้งกินสดและต้มหรือนึ่งหรือผัด กินไข่นมชีส เพื่อรับวิตามินให้ครบ และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายที่ถั่วไม่มีค่ะ เพิ่มการกินผักสดๆปั่น ถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดีแต่ต้องล้างให้สะอาดนะ
3. ทัศนคติ ต่อตัวเอง หรือพูดง่ายๆคือคิดบวก ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับคนอื่น เพราะแข่งไม่หมด ต่างคนต่างมีจุดสวยจุดดีจุดเด่นของตนเอง ทางที่ดีคือกลบจุดด้อยดึงจุดเด่น ปฏิบัติตัวเองให้ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องไปเครียด เพราะจริงๆแล้วคุณแข่งกับตัวเองทั้งนั้น อ้วนผอมขึ้นก็ตัวกับเอง คนอื่นไม่ได้เกี่ยวเสียหน่อย ความต้องการมีซิคแพค ก้นเด้งๆเหมือนม้า หรือต้องมีเปอร์เซ็นต์ไขมันต่ำเหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ทำไปเพื่อ...? จะยืนยาวขนาดไหน หากใครมุ่งมั่นเพื่อเอาชนะตัวเองนั่นอีกเรื่องนึง แต่มันจะยั่งยืนหรือ...
ชอบทำสมาธิ และไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตานะ เราทำตอนวิ่งค่ะ 😊😊
4. การพักผ่อนให้เพียงพอ พูดทุกครั้งเลยเรื่องนี้ เพราะต่อให้คุณออกกำลังกายหนักขนาดไหนกินอาหารดีขนาดไหน แต่วันนึงนอนแค่ 4-5 ชั่วโมง ร่างกายคงไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มประสิทธิภาพ
5. การขับถ่ายประจำสม่ำเสมอ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ลองคิดดูอาหารที่กินเข้าไปเน่าเสียอยู่ในลำไส้เรา คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องนี้กันแต่อัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับสมัยก่อนสูงขึ้นอย่างมากมายเพราะอาหารแปรสภาพต่างๆอาหาร พวกนี้ไม่มีกากใย จะเน่าอยู่ในกับลำไส้เราตั้ง 3-4 วันแล้วไม่ออก ร้อยทั้งร้อยคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ มักจะไม่ได้ถ่ายทุกวัน และเรื่องแบบนี้ไม่ใช้เรื่องที่จะมาถามไถ่กันตอนเจอหน้าเสียด้วย
ุ6. ฟังเพลงสมัยใหม่ สมัยเก่า หลายๆสมัยหลากๆแนว ไม่ยึดติด ตามเทรนด์ ตามข่าวสารโลก อ่านหนังสือที่อยากอ่าน(แต่ไม่มีเวลาอ่านตอนสาวๆ)
อ้อ...ลืมบอกอีกอย่างนึง อายุปูนนี้แล้ว เมคอัพจำเป็นมากค่ะ หัดแต่งแต้มกันบ้าง จะเอาสาย ฝ หรือเกาหลีก้อจัดไป หน้าเกลี้ยงๆมันก้อดีอยู่แต่ระวังคุณผุ้ชายที่บ้านจะเมินน่ะซี้...
7. ปล่อยวาง อันนี้สำคัญมากต่อจิตใจ สภาพจิตใจคนวัยนี้ จะเหวี่ยงมากมาย ไหนจะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างที่เขาว่า วัยทอง นั่นแหละ
8. ท่องเที่ยวตามอัตภาพ หาเวลาเปิดโลกทัศน์ โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ เรียนเท่าไรก็ไม่มีวันหมด อายุปูนนี้หากยังมีแรง มีกำลังทรัพย์ก็ควรจัดไป บางคนอยากไปๆ แต่พอป่วยขึ้นมา เอาเงินมากองเต็มหน้าก็ไม่อยากได้แล้วล่ะ
ตอนนี้คิดได้แค่นี้ คิดเพิ่มเติมได้อย่างไรจะมาเขียนเพิ่มนะคะ
ใช้ชีวิตอย่างไรตอนอายุ 50
ไม่มีอะไรมาก ตัวเองตอนสาวๆไม่ค่อยได้รู้จักแต่งตัว ดูแลตัวเองเหมือนสาวๆสมัยนี้ คนวัยเจนเอ๊กซ์ ต้องหัดเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์และวิวัฒนาการต่างๆที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปีๆ ผ่านๆไปอย่างเร็ว แป๊ปๆเดียวอายุเข้าห้าสิบเสียแล้ว
ขอแลกเปลี่ยน ปสก และความคิดกับคนรุ่นเดียวๆกันหรือคนรุ่นพี่ๆอื่นๆ ว่าจะรับมือกับชีวิตอายุเท่านี้อย่างไร
เรื่องแรกเลย สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต เป็นสิ่งสำคัญที่สุด บางคนหาแต่เงินแต่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ให้ความสำคัญกับอาชีพการงาน ครอบครัวมากกว่าตัวเอง กินอาหารไม่ดี เอาแค่ยัดๆให้อิ่มๆไปวันๆ จนอ้วน ๆแล้วก็ดูแก่ขึ้นไปอีก ดิ่มเหล้า ไวน์ เบียร์เพื่อเข้าสังคมหรือความชอบก็แล้วแต่ สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย
พอถึงเข้าช่วงวัยกลางคน คราวนี้มาหมดค่ะ ทั้งโรคต่างๆสารพัด เจ็บปวดเข่า ขา แขน คอ หลัง เดินไม่ไหว ฯลฯ ความดันสูง เบาหวาน มะเร็ง บลาๆๆ ใครมีเงินก็รักษากันไป เข้าๆออกๆ รพ.เป็นเรื่องปรกติ
ตัวเองได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงเช่นกันและได้ตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงร่างกาย โดยการลดความอ้วน (เคยเขียนกระทู้รีวิวไว้แล้วเมื่อสองปีก่อน ตามลิงค์นี้ https://ppantip.com/topic/35467741/ และได้เปิดห้อง"สุขภาพดีเงินซื้อไม่ได้" เพื่อเป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้ในการดูแลตัวเอง และเกี่ยวกับสุขภาพโดยไม่มีผลประโยชน์ทางการค้าอย่างใด
อย่างไรก็ตามได้สรุปคร่าวๆ นี่คือโพสต์ล่าสุดที่เขียนลงในห้องนะคะ (ขอลอกมาให้อ่านเลยละกัน ขี้เกียจพิมพ์ )
.....................
มาบอกเคล็ดไม่ลับ การรักษาสุขภาพให้สมวัย จะดียิ่งกว่ามั้ย ถ้าคนอื่นมองเราแล้วคิดว่าดูเด็กกว่าวัยอีก หลักการง่ายๆ มีอยู่ไม่กี่ข้อนะคะ
1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องหักโหมหรือจะไปแข่งโอลิมปิกขนาดนั้น ตัวอย่างเราเองอายุ 50 การวิ่งวันละ 10 กิโลถือว่าค่อนข้างเยอะ แต่จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน เบื่อก็พักได้ บางวันวิ่งแค่ 5-8 กิโลเท่านั้น สลับกับการเล่นเวทซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นการสร้างกล้ามเนื้อและทำให้แลดูกระชับ ไม่หย่อนคล้อย คนส่วนใหญ่อายุเกิน 40 ปี จะต้องเจอการเปลี่ยนแปลงนี้ทุกคน
การออกกำลังควรดูที่เป้าหมายว่าเราต้องการอะไร ลดอ้วน ลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ อาหารที่กินควรจัดให้ครบอย่างไร ไปหาอ่านได้มีเยอะแยะ สำคัญคือความต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทำให้เป็นความสนุก เป็นนิสัย
2. อาหาร ปีนี้ ส่วนตัวจะพยายามลดเนื้อสัตว์ใหญ่ ไม่ได้มีอะไรกันหรอกเพียงแต่ไม่นึกอยากกิน แต่ไม่ใช่งดโดยสิ้นเชิงนะคะ อาหารทะเลยังรับประทานอยู่ แต่จะเน้นผักเยอะ ทั้งกินสดและต้มหรือนึ่งหรือผัด กินไข่นมชีส เพื่อรับวิตามินให้ครบ และกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายที่ถั่วไม่มีค่ะ เพิ่มการกินผักสดๆปั่น ถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดีแต่ต้องล้างให้สะอาดนะ
3. ทัศนคติ ต่อตัวเอง หรือพูดง่ายๆคือคิดบวก ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับคนอื่น เพราะแข่งไม่หมด ต่างคนต่างมีจุดสวยจุดดีจุดเด่นของตนเอง ทางที่ดีคือกลบจุดด้อยดึงจุดเด่น ปฏิบัติตัวเองให้ดีที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องไปเครียด เพราะจริงๆแล้วคุณแข่งกับตัวเองทั้งนั้น อ้วนผอมขึ้นก็ตัวกับเอง คนอื่นไม่ได้เกี่ยวเสียหน่อย ความต้องการมีซิคแพค ก้นเด้งๆเหมือนม้า หรือต้องมีเปอร์เซ็นต์ไขมันต่ำเหลือแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ทำไปเพื่อ...? จะยืนยาวขนาดไหน หากใครมุ่งมั่นเพื่อเอาชนะตัวเองนั่นอีกเรื่องนึง แต่มันจะยั่งยืนหรือ...
ชอบทำสมาธิ และไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตานะ เราทำตอนวิ่งค่ะ 😊😊
4. การพักผ่อนให้เพียงพอ พูดทุกครั้งเลยเรื่องนี้ เพราะต่อให้คุณออกกำลังกายหนักขนาดไหนกินอาหารดีขนาดไหน แต่วันนึงนอนแค่ 4-5 ชั่วโมง ร่างกายคงไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มประสิทธิภาพ
5. การขับถ่ายประจำสม่ำเสมอ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ลองคิดดูอาหารที่กินเข้าไปเน่าเสียอยู่ในลำไส้เรา คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องนี้กันแต่อัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับสมัยก่อนสูงขึ้นอย่างมากมายเพราะอาหารแปรสภาพต่างๆอาหาร พวกนี้ไม่มีกากใย จะเน่าอยู่ในกับลำไส้เราตั้ง 3-4 วันแล้วไม่ออก ร้อยทั้งร้อยคนที่เป็นมะเร็งลำไส้ มักจะไม่ได้ถ่ายทุกวัน และเรื่องแบบนี้ไม่ใช้เรื่องที่จะมาถามไถ่กันตอนเจอหน้าเสียด้วย
ุ6. ฟังเพลงสมัยใหม่ สมัยเก่า หลายๆสมัยหลากๆแนว ไม่ยึดติด ตามเทรนด์ ตามข่าวสารโลก อ่านหนังสือที่อยากอ่าน(แต่ไม่มีเวลาอ่านตอนสาวๆ)
อ้อ...ลืมบอกอีกอย่างนึง อายุปูนนี้แล้ว เมคอัพจำเป็นมากค่ะ หัดแต่งแต้มกันบ้าง จะเอาสาย ฝ หรือเกาหลีก้อจัดไป หน้าเกลี้ยงๆมันก้อดีอยู่แต่ระวังคุณผุ้ชายที่บ้านจะเมินน่ะซี้...
7. ปล่อยวาง อันนี้สำคัญมากต่อจิตใจ สภาพจิตใจคนวัยนี้ จะเหวี่ยงมากมาย ไหนจะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างที่เขาว่า วัยทอง นั่นแหละ
8. ท่องเที่ยวตามอัตภาพ หาเวลาเปิดโลกทัศน์ โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ เรียนเท่าไรก็ไม่มีวันหมด อายุปูนนี้หากยังมีแรง มีกำลังทรัพย์ก็ควรจัดไป บางคนอยากไปๆ แต่พอป่วยขึ้นมา เอาเงินมากองเต็มหน้าก็ไม่อยากได้แล้วล่ะ
ตอนนี้คิดได้แค่นี้ คิดเพิ่มเติมได้อย่างไรจะมาเขียนเพิ่มนะคะ