"อึ่งอ่าง อันธพาล" ดนตรี กวี สาระ (ประสาชาวบ้านคนธรรมดา By นายพระรอง)

กระทู้สนทนา
น้องเอ้ย : แมว จิรศักดิ์

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ






จิตใจที่เป็นอันธพาลเกิดขึ้นได้อย่างไร..?
       เคนต์ คีห์ล (Kent Kiehl) นักประสาทวิทยาศาสตร์ ใช้เวลา 20 ปี ทำการทดลองด้านสมองเพื่อหาข้อสรุปว่า สิ่งใดเป็นแรงผลักดันพฤติกรรมของมนุษย์ ในการกระทำความดีและความชั่ว แม้ผลการวิจัยจะไม่สามารถใช้ชี้วัดให้กับคนทั่วไปในสังคมได้ เพราะการทดลองนี้ ทำกับนักโทษที่อยู่ในเรือนจำเท่านั้น ไม่ได้เป็นเป็นการทดลองจากกลุ่มตัวอย่างที่มีความหลากหลาย แต่ก็สามารถวัดผลได้ในบางเรื่อง ถึงเรื่องพฤติกรรมความรุนแรงทั้งจากการกระทำและวาจา มีนิสัยระรานทำตัวเป็นอันธพาล และต่อต้านสังคมที่คิดแตกต่างไปจากตนเอง ซึ่งดูเหมือนว่ามีต้นตอมาจากวงจรประสาทที่บกพร่อง

       คีห์ลได้สร้างภาพจากนักโทษกว่า 4,000 คนที่ถูกคุมขังตั้งแต่ปี 2007 เพื่อทำการวัดผลกิจกรรมในสมองและขนาดของสมองในบริเวณต่างๆ ในการทดสอบ เมื่อนักวิจัยขอให้เหล่านักโทษที่เข้าทำการทดสอบ นึกถึงคำที่สื่อถึงอารมณ์ที่พวกเขาจดจำได้จากกิจกรรมก่อนหน้า เช่น “ทุกข์ใจ” และ “หน้านิ่วคิ้วขมวด” อาชญากรจิตใจอันธพาลแสดงให้เห็นว่า สมองส่วนอะมิกดาลาซึ่งเป็นส่วนแรกที่ประมวลผลด้านอารมณ์มีกิจกรรมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนปกติทั่วไปที่ไม่มีภาวะจิตใจอันธพาล

       ส่วนในกิจกรรมที่ออกแบบเพื่อทดสอบการตัดสินใจด้านศีลธรรม นักวิจัยขอให้นักโทษประเมินค่าความน่ารังเกียจของภาพที่ปรากฏขึ้นชั่วครู่บนจอ เช่น การเผาไม้กางเขนโดยพวกคลูคลักซ์แคลน หรือใบหน้าที่ถูกตีจนเลือดอาบ แม้ว่าทั้งสองกลุ่มจะตระหนักถึงความรุนแรงด้านศีลธรรมในภาพเหล่านั้นได้แทบไม่ต่างกัน แต่พวกจิตใจอันธพาลมีแนวโน้มที่จะแสดงการกระตุ้นที่อ่อนกว่ามากในสมองบริเวณที่มีบทบาทในการใช้เหตุผลทางศีลธรรม

       จากการค้นพบเหล่านี้และอื่นๆที่ได้ผลคล้ายคลึงกัน คีห์ลเชื่อว่า ผู้มีจิตใจอันธพาลมีความบกพร่องในระบบโครงสร้างต่างๆของสมองที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งรวมถึงสมองส่วนอะมิกดาลาและเปลือกสมองส่วนออร์บิโตฟรอนทัล ซึ่งช่วยในการประมวลผลด้านอารมณ์ ตัดสินใจ ควบคุมแรงกระตุ้น และตั้งเป้าหมาย “โดยพื้นฐานแล้วนักโทษที่มีลักษณะจิตใจอันธพาลอย่างรุนแรง มีส่วนเนื้อเทา (gray matter) ในโครงสร้างเหล่านั้นของสมองน้อยกว่านักโทษอื่นๆประมาณร้อยละห้าถึงเจ็ด”  คีห์ลบอก  ปรากฏว่าภาวะจิตใจอันธพาลจะชดเชยความบกพร่องนี้โดยการใช้สมองส่วนอื่นในการคิดเลียนแบบสิ่งที่ควรเป็นการแสดงอารมณ์ “กล่าวคือผู้มีจิตใจอันธพาลต้อง คิด ว่าอะไรถูกหรือผิด ในขณะที่คนปกติทั่วไปที่ไม่มีภาวะจิตใจอันธพาล ใช้ความรู้สึก ตัดสิน” คีห์ลเขียนไว้ในรายงานที่เขาใช้เวลาทดสอบอยู่ 20 ปี

อ่านแล้วคิดอย่างไรบ้างครับ กับภาวะที่บ้านเมืองมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักทำพฤติกรรมอัทธพาลใส่ผู้อื่นอยู่เป็นประจำ
เขาใจพวกเขามากขึ้นไหม..? หรือรู้สึกสังเวชใจที่ต้องอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันกับคนพวกนี้
คำถามสุดท้าย คือ แล้วเราจะต้องทำอย่างไรในการอยู่ร่วมกับคนจำพวกนี้..?
คำตอบก็คิดกันเองแล้วกันนะครับ ผมไม่กล้าแนะนำ เพราะตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าวิธีที่ผมใช้มันถูกต้องหรือดีที่สุดแล้วจริงๆหรือเปล่า


ป.ล.ส่วนใครจะตีโพยตีพาย ว่าผมตั้งกะทู้ขึ้นมาเพื่อโจมตีใครคนหนึ่งคนนั้น ก็ตามสบายนะครับ หากว่าสารประโยชน์ที่อยู่ในข้อเขียน จะไม่ได้เข้าไปในโพลงกะโหลกของใคร ผมก็จนใจจริงๆ ที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ครับ

ด้วยความเคารพ
นายพระรอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่