คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ ได้เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่คัดเลือกเป็นเมืองอัจฉริยะต้นเเบบด้วยกัน 7 จังหวัด คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้• กรุงเทพฯ
• เชียงใหม่
• ภูเก็ต
• ขอนแก่น
• ชลบุรี
• ระยอง
• ฉะเชิงเทรา
พร้อมทั้งมอบหมายให้
กระทรวงพลังงาน คมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเน้น 5 เสาหลักสำคัญ ได้แก่
เสาหลักที่ 1 :การพัฒนาเมืองอัจฉริยะต้นแบบ มีเป้าหมายในการเลือกเมืองที่มีศักยภาพ ที่จะใช้สำหรับการดำเนินงานนำร่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
เสาหลักที่ 2 : การปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายที่จะบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ
เสาหลักที่ 3 : สร้างกลไกบริหารจัดการในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะไปสู่ภาคปฏิบัติ มีเป้าหมายให้มีผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการพื้นที่ จัดเตรียมองค์กร ระบบ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมการให้บริการสาธารณะในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
เสาหลักที่ 4 : ผลักดันเมืองอัจฉริยะด้วยการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม มีเป้าหมายในการส่งเสริมและต่อยอดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่สามารถนำไปปรับใช้สำหรับเมืองอัจฉริยะในอนาคต
เสาหลักที่ 5 : ส่งเสริมการจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเข้าถึงการเชื่อมโยงและการใช้งานข้อมูล โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ข้อมูล สร้างการเรียนรู้ รวมทั้งสนับสนุนการวางแผน ตลอดจนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม
ความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของกระทรวงพลังงาน จำนวน 6 โครงการของ 6 หน่วยงาน คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาบัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) เทศบาลนครขอนแก่น และบริษัทวิสดอม 101 (ปุณณวิถี) จำกัด
สำหรับ 6 โครงการตัวอย่างนี้จะทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงกว่า 270 ล้านหน่วย/ปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 264 แสนต้น/ปี
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
7 เมืองนำร่อง "Smart City"
คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ ได้เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่คัดเลือกเป็นเมืองอัจฉริยะต้นเเบบด้วยกัน 7 จังหวัด คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงพลังงาน คมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเน้น 5 เสาหลักสำคัญ ได้แก่
เสาหลักที่ 1 :การพัฒนาเมืองอัจฉริยะต้นแบบ มีเป้าหมายในการเลือกเมืองที่มีศักยภาพ ที่จะใช้สำหรับการดำเนินงานนำร่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
เสาหลักที่ 2 : การปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายที่จะบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ
เสาหลักที่ 3 : สร้างกลไกบริหารจัดการในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะไปสู่ภาคปฏิบัติ มีเป้าหมายให้มีผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการพื้นที่ จัดเตรียมองค์กร ระบบ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมการให้บริการสาธารณะในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
เสาหลักที่ 4 : ผลักดันเมืองอัจฉริยะด้วยการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม มีเป้าหมายในการส่งเสริมและต่อยอดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่สามารถนำไปปรับใช้สำหรับเมืองอัจฉริยะในอนาคต
เสาหลักที่ 5 : ส่งเสริมการจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเข้าถึงการเชื่อมโยงและการใช้งานข้อมูล โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ข้อมูล สร้างการเรียนรู้ รวมทั้งสนับสนุนการวางแผน ตลอดจนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม
ความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของกระทรวงพลังงาน จำนวน 6 โครงการของ 6 หน่วยงาน คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาบัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) เทศบาลนครขอนแก่น และบริษัทวิสดอม 101 (ปุณณวิถี) จำกัด
สำหรับ 6 โครงการตัวอย่างนี้จะทำให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงกว่า 270 ล้านหน่วย/ปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 264 แสนต้น/ปี
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ