เรื่องสั้น
ขั้นราคา
เมื่อเราลงจากสะพานลอยเข้าไปในวัดปทุมวนาราม และบริจาคเงินร่วมบูรณะปฏิสังขร พระอุโบสถแล้วก็ออกมาเดินต่อไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะขึ้นสะพานลอยอีกรอบหนึ่งคงไม่ไหวแน่ ตรงลานหน้าศูนย์การค้าแห่งนี้ จัดการตกแต่งเป็นงานฉลองตรุษจีน ที่เต็มไปด้วยสีแดง ไม่เห็นมีสัญลักษณ์ของวันแห่งความรักเลย
พอเลี้ยวซ้ายถึงเชิงสะพานลอยอีกแห่งหนึ่ง ก็เห็นขอทานคนหนึ่งมีไม้ค้ำยันรักแร้ เพราะมีขาข้างเดียวยืนอยู่ที่เชิงบันได จึงล้วงกระเป๋าตามสัญชาตญาณ ได้เหรียญบาทติดมือมาสามอัน ก็ใส่ลงในกระบอกที่แกถืออยู่ แกสะดุ้งเพราะไม่ได้มองมาทางเราเลย มัวแต่เงยหน้าสนใจผู้คนที่ลงจากสะพานลอย แล้วก็ผ่านไปคนแล้วคนเล่าเท่านั้น
เมื่อเดินต่อมาถึงป้ายรถเมล์ ก็หลบเข้าร่มเงาต้นไม้เล็ก ๆ แถวนั้น พอได้ลมเย็นโชยมากระทบเสื้อที่เปียกเหงื่อชุ่ม ค่อยชื่นใจหน่อย ก็มองเห็นชายผู้หนึ่งใส่เสื้อยืดคอกลม นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่ทราบว่าสีอะไร เพราะทั้งเสื้อและกางเกงตลอดจนแขนขา ทั้งหน้าตาเผ้าผม ก็เป็นสีเดียวกันไปหมด คือสีดำ
เขาผู้นี้เดินไปกลับอยู่ระหว่างความยาว ของศาลาพักผู้โดยสารรถเมล์สองหลังติดต่อกัน เขาคงจะใช้ความสังเกตว่าผู้คนที่ยืนรอรถเมล์อยู่นั้น คนไหนมีท่าทีใจบุญก็จะเข้าไปยกมือไหว้ตรงหน้า ซึ่งส่วนมากเขาก็จะส่ายหน้าหรือโบกมือปฏิเสธเป็นส่วนมาก
เราก็ล้วงกระเป๋าควักสองเหรียญสุดท้ายขึ้นมาถือไว้ในมือ กะว่าถ้าเดินผ่านหน้าก็จะให้ แต่พอผ่านเข้าจริง เขากลับสนใจธนบัตรใบละยี่สิบบาทในมือ จนไม่สนใจเราเลย คงจะดีใจมากเลยเดินหายไป
เรายืนรอรถเมล์ ปอ.๕๐๕ อยู่อีกนานพอควร เพราะเห็นมีคันหนึ่งแล่นไปในทางตรงข้าม ซึ่งไปสุดสายที่มุมสวนลุมพินี ด้านสี่แยกถนนสาทร ทำให้มีกำลังใจรอต่อไป จนชายในชุดดำเดินกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อจะผ่านเราก็แวะเข้ามายกมือไหว้ บอกว่า ขอเงินห้าบาท
เราก็แบมือให้เห็นเหรียญในมือว่ามีสองบาทเท่านั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่แบมือรับและรีบเดินห่างออกไป
เราเห็นผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ใกล้กัน ยิ้มแก้มแทบปริ สงสัยว่าเธอขำขอทาน ที่ไม่ยอมรับค่าตัวซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน
หรือขำเราที่ยังไม่รู้ว่า ขอทานเขาขึ้นราคาตามค่าครองชีพ โดยขอทีละห้าบาทกันแล้วมั้ง
อนิจจาอนิจจังกาละมังแตก.
##########
ขี้นราคา ๑ ก.พ.๖๑
ขั้นราคา
เมื่อเราลงจากสะพานลอยเข้าไปในวัดปทุมวนาราม และบริจาคเงินร่วมบูรณะปฏิสังขร พระอุโบสถแล้วก็ออกมาเดินต่อไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะขึ้นสะพานลอยอีกรอบหนึ่งคงไม่ไหวแน่ ตรงลานหน้าศูนย์การค้าแห่งนี้ จัดการตกแต่งเป็นงานฉลองตรุษจีน ที่เต็มไปด้วยสีแดง ไม่เห็นมีสัญลักษณ์ของวันแห่งความรักเลย
พอเลี้ยวซ้ายถึงเชิงสะพานลอยอีกแห่งหนึ่ง ก็เห็นขอทานคนหนึ่งมีไม้ค้ำยันรักแร้ เพราะมีขาข้างเดียวยืนอยู่ที่เชิงบันได จึงล้วงกระเป๋าตามสัญชาตญาณ ได้เหรียญบาทติดมือมาสามอัน ก็ใส่ลงในกระบอกที่แกถืออยู่ แกสะดุ้งเพราะไม่ได้มองมาทางเราเลย มัวแต่เงยหน้าสนใจผู้คนที่ลงจากสะพานลอย แล้วก็ผ่านไปคนแล้วคนเล่าเท่านั้น
เมื่อเดินต่อมาถึงป้ายรถเมล์ ก็หลบเข้าร่มเงาต้นไม้เล็ก ๆ แถวนั้น พอได้ลมเย็นโชยมากระทบเสื้อที่เปียกเหงื่อชุ่ม ค่อยชื่นใจหน่อย ก็มองเห็นชายผู้หนึ่งใส่เสื้อยืดคอกลม นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่ทราบว่าสีอะไร เพราะทั้งเสื้อและกางเกงตลอดจนแขนขา ทั้งหน้าตาเผ้าผม ก็เป็นสีเดียวกันไปหมด คือสีดำ
เขาผู้นี้เดินไปกลับอยู่ระหว่างความยาว ของศาลาพักผู้โดยสารรถเมล์สองหลังติดต่อกัน เขาคงจะใช้ความสังเกตว่าผู้คนที่ยืนรอรถเมล์อยู่นั้น คนไหนมีท่าทีใจบุญก็จะเข้าไปยกมือไหว้ตรงหน้า ซึ่งส่วนมากเขาก็จะส่ายหน้าหรือโบกมือปฏิเสธเป็นส่วนมาก
เราก็ล้วงกระเป๋าควักสองเหรียญสุดท้ายขึ้นมาถือไว้ในมือ กะว่าถ้าเดินผ่านหน้าก็จะให้ แต่พอผ่านเข้าจริง เขากลับสนใจธนบัตรใบละยี่สิบบาทในมือ จนไม่สนใจเราเลย คงจะดีใจมากเลยเดินหายไป
เรายืนรอรถเมล์ ปอ.๕๐๕ อยู่อีกนานพอควร เพราะเห็นมีคันหนึ่งแล่นไปในทางตรงข้าม ซึ่งไปสุดสายที่มุมสวนลุมพินี ด้านสี่แยกถนนสาทร ทำให้มีกำลังใจรอต่อไป จนชายในชุดดำเดินกลับมาอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อจะผ่านเราก็แวะเข้ามายกมือไหว้ บอกว่า ขอเงินห้าบาท
เราก็แบมือให้เห็นเหรียญในมือว่ามีสองบาทเท่านั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่แบมือรับและรีบเดินห่างออกไป
เราเห็นผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ใกล้กัน ยิ้มแก้มแทบปริ สงสัยว่าเธอขำขอทาน ที่ไม่ยอมรับค่าตัวซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน
หรือขำเราที่ยังไม่รู้ว่า ขอทานเขาขึ้นราคาตามค่าครองชีพ โดยขอทีละห้าบาทกันแล้วมั้ง
อนิจจาอนิจจังกาละมังแตก.
##########