“บิ๊กตู่”ยกเพลง "คืนความสุข" เราจะทำตามสัญญา รับปัญหามีมากมาย แก้ได้90เปอร์เซ็นต์ ชี้ ท่อนท้ายคือที่สุด “แผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา” แจงยิบยันทุกรัฐบาลทำงานมากเข้าสู่ปีที่3 ขึ้นปีที่4 เป็นปกติที่จุดอ่อนโผล่ ขออย่าเพิ่งเบื่อ “รัฐบาล คสช.” ขอเวลาวางรากฐานประเทศยึดโรดแมปเดิม เปรยช้าเร็วอยู่ที่ "กฎหมาย"
30 ม.ค. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์การเมืองที่เริ่มมีการเคลื่อนไหว ซึ่งพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เคยบอกว่า ต้องเร่งสร้างกองหนุนว่า สถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้ ตนมองเป็นเรื่องธรรมชาติ การเป็นรัฐบาลมาระยะเวลา 3 ปีเศษ เข้าปีที่ 4 ก็มีปัญหาแบบนี้มาทุกรัฐบาล พอถึงเวลาก็อาจจะมีจุดอ่อนมากขึ้นในการทำงาน ยิ่งทำงานมากปัญหาก็มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ต้องดูเหตุผลว่า จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร คนที่เคยสนับสนุนอยู่ตรงกลาง ไม่เข้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็เห็นชอบกับการทำงานของรัฐบาล บางครั้งมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น คนเหล่านี้ก็อยากให้ทุกอย่างราบรื่นในทางที่ดีที่สุด ซึ่งเขาอาจจะมีความรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาล มันก็เป็นธรรมดา ทุกรัฐบาลก็เป็นแบบนี้เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 แต่เรายืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนอาจจะมองว่า รัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ใช้อำนาจสิทธิขาดในการบริหารประเทศ จริงๆ แล้วไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด รัฐบาลฟังทุกอัน ลองคิดย้อนกลับปดู ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ หรือผู้ลำบากยากแค้น สิ่งแรกที่เป็นช่องทางถึงรัฐบาลคือ ศูนย์ดำรงธรรมมีหลายล้านเรื่อง ซึ่งเราแก้ไปได้ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นความเดือดร้อนเล็กๆน้อยๆ ทั้งสิ้น แล้วจะมาบอกว่า เราทำไม่ตรงความต้องการของประชาชนได้อย่างไร ทั้งเรื่อง ถนน แหล่งน้ำ ประปา ขยะ รัฐบาลนี้แก้ให้ทันที รัฐบาล คสช. นี่แหละคนทำ
นอกจากนี้ยังมีช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีคนคอยติดตามตรวจสอบว่า ใช่หรือไม่ หากเดือดร้อนจริง รัฐบาลก็แก้ไขปัญหาให้ ตนเองก็ได้รับข้อมูลมาเหมือนกัน และมอบหมายให้หน่วยราชการไปแก้ไข
“ผมไม่ได้ปิดกั้นประชาชนเลย แม้กระทั่งในสื่อที่เขียนบทความมากมาย คอลัมนิสต์ก็วิพากษ์วิจารณ์ ผมไม่เคยไปห้าม ดังนั้นอย่าไปสร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง มันไปถึงต่างประเทศ กลายเป็นว่า รัฐบาลนี้ปิดกั้นทุกคน แต่การจะทำอะไรก็ตาม ที่มีผลกระทบกับความสงบเรียบร้อยกับบ้านเมืองตรงนี้ต้องใช้กลไกกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่า จะทำอะไร ความเคลื่อนไหวต่างๆ ศาลปกครองเขาก็คุ้มครองช่วยแล้วระดับหนึ่ง แต่อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน ดังนั้นมันต้องมอง 2 ด้าน มองคนที่เขาไม่เห็นด้วย คนที่เขาเดือดร้อน ต้องดูเจตนาต่างๆ ให้ชัดเจน ผมไม่ขัดแย้งกับใคร หลายคนอยากให้ใช้กฎหมายแรงๆ เพื่อยุติให้ได้ ขณะที่หลายพวกเห็นว่า ใช้แรงๆ ก็ดี จะได้ขยายความขัดแย้งมากขึ้น มันมี 2 ฝ่ายเสมอ ฝากสื่อช่วยดูด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองว่า รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง นายกฯ กล่าวย้ำว่า ตนเข้าใจดี อย่างที่บอก ระยะเวลาการทำงานของเรา อาจจะมีความขัดแย้งสูง อาจจะมีคนได้ประโยชน์ เสียประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ ทุกคนอยากจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะผ่านมา 3 ปีแล้ว ก็ต้องไปดูกลุ่มไหนที่เดือดร้อน และเป็นตัวตั้งตัวดีในเรื่องเหล่านี้ สื่อคงหาเจออยู่แล้ว ตนคงไม่ไปขัดแย้งด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะทำงานดูแลพี่น้องประชาชนทั้งหมด นโยบายต่างๆ ในช่วงปีนี้อย่ามองว่า รัฐบาลนี้ทำเพื่อสืบทอดอำนาจ มันเป็นการทำงานต่อเนื่อง จากปีที่หนึ่ง สอง และสามตามโรดแมปของตน เพราะฉะนั้นในขั้นตอนนี้ ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายตามโรดแมป คือ ทำงานที่มีโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ลงไป คำว่า ไทยนิยม คือ นิยมความดี ความงาม นั่นคือ ความหมายไทยนิยมของตน ในทุกๆ เรื่อง เพราะความดีความงาม เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ที่จะมุ่งมั่นในการทำความดีเพื่อประเทศชาติให้บุตรหลานตัวเองในอนาคต
"รัฐบาลนี้มุ่งหวังเพียงวางพื้นฐาน รากฐานของประเทศไว้ให้ สุดแล้วแต่รัฐบาลต่อไป จะดำเนินการอย่างไรต่อ แล้วในการเลื่อนโรดแมป ผมยังไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการเลื่อนไม่เลื่อนตรงนี้เลย ผมก็ยืนยันโรดแมปเดิมที่กำหนดไว้ หากไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายมันก็เป็นไปตามนั้น ผมไม่ก้าวล่วงใครทั้งสิ้น ขอให้พิจารณา บางเรื่องถ้าไม่ตรงความต้องการของคนบางกลุ่มบางฝ่ายก็ไม่ค่อยพอใจ อยากให้ใช้มาตรา 44 อันไหนที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์ ก็หาว่า ไปละเมิดคนนู้นคนนี่ สรุปไม่มีความพอใจเท่าที่ควรจะเป็น”นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าตนไม่เคยสัญญาว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ว่า มีสื่อหลายคน ตนจำได้ว่าใครเป็นคนถามเรื่องสัญญาตามเนื้อเพลง คือทุกอย่างจับเป็นประเด็นได้หมด สัญญาคืนความสุขของตนคือ คืนความสุขให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกกลุ่มทุกฝ่าย มันมีกี่กลุ่ม ดังนั้นบางความสุขตนก็คืนให้ได้ทันที แต่บางความสุขก็ยังคืนไม่ได้ มันเป็นเรื่องของกลไกในการแก้ปัญหาจัดการคืนความสุขต่อๆไป ในรัฐบาลนี้และรัฐบาลหน้า
“มาบอกว่า ยังไม่เห็น ผมคืนความสุขให้ มันจะคืนได้ไหม ปัญหามันร้อยแปดพันเก้า ทุกคนก็ต้องมาช่วยกันแก้ ขอให้เข้าใจผมด้วย ผมไม่ได้แก้ตัวอะไรทั้งสิ้น บ้านเมืองมันสงบเรียบร้อยขึ้นไหมตอนนี้ เริ่มมีความสุขไหม เศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางดีขึ้นหรือไม่ ขนาดเล็กกำลังแก้ไขหรือเปล่า ปัญหาที่สะสมได้รับการแก้ไขหรือไม่ ทั้งเรื่องแรงงานและการเพิ่มค่าจ้าง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุขหรือ แม้มันจะไม่มากนัก แต่มันก็เป็นความสุขแล้วไง นี่คือสัญญาของผม ผมก็คืนให้ แต่ให้ในสิ่งที่ให้ได้ก่อน สิ่งไหนที่ยังไม่ได้ รัฐบาลต่อไปก็ต้องไปทำต่อ ไม่ใช่มาโจมตีกันในวันนี้ แล้ววันหน้าจะได้อะไรไหม มันก็โจมตีกันแบบนี้ ทุกครั้งที่ผ่านมา ทุกรัฐบาลก็เป็นอยู่แบบนี้ มันต้องเอานโยบายมาถกแถลงกันเห็นดีเห็นชอบหรือไม่ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลเราเอาทุกอย่างมาเปิดเผยหมดว่าคิดและทำอะไร”
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องโครงการไทยนิยมยั่งยืน ก็สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่งจะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทิ้งทุกพื้นที่ ไม่ใช่เพื่อจะไปสร้างคะแนนเสียง หากจะสร้างคะแนนเสียงคงไม่ยากขนาดนี้ที่ต้องเอาคณะลงไปเดิน ก็ให้เงินไปเลยก็จบ มันก็จะเป็นปัญหาแบบเดิมๆ แก้ไม่ได้สักที มันต้องถามประชาชนต้องการอะไรและจะใช้งบประมาณอย่างไรไม่ให้ซ้ำซ้อน วันหน้ารัฐบาลใหม่มาจะทำอย่างไรต่อไป ท่านยังไม่เคยเสนอให้ผมเห็นเลย จะทำอย่างไรต่อไป ตีรัฐบาลนี้อย่างเดียว ผมว่าไม่เป็นธรรมเท่าไหร่ ดังนั้น อยากให้สื่อทุกคนช่วยดูแลประเทศชาติด้วย
“ถ้าจะพูดถึงเพลงท่านก็เอาเฉพาะขอเวลาอีกไม่นาน ถ้าผมจะเอาตอนจบของผมบ้าง แผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา ผมก็เอาคนละตอนบ้างซิ ความหมายมันสมบูรณ์อยู่ในนั้นอยู่แล้ว” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้อยากให้เห็นใจรัฐบาลและข้าราชการบ้าง เขาเหน็ดเหนื่อยมหาศาลมา 3-4 ปี เพราะต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แน่นอนปัญหาต้องเกิดขึ้น พอใจบ้างไม่พอใจบ้าง ขอให้รอดูกันต่อไป อย่าเพิ่งหมดกำลังใจกับตนและรัฐบาลคสช.ก็พยายามทำเต็มที่ อะไรที่มีปัญหาตนก็ตอบรับทั้งหมด เพราะตนรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ขอให้เห็นใจบ้างกับสิ่งที่เราทำ อย่าทำให้สิ่งนี้ไปกระทบอีกอัน เราต้องแยกแยะ ประเด็นของตนไม่ใช่การแก้ตัว
“ขอเวลาให้ผมวางรากฐานประเทศอีกซักระยะนึงก่อนเท่านั้น มันจะมากจะน้อยก็เป็นไปตามกฎหมายนั่นแหละ”นายกรัฐมนตรี กล่าว
http://www.naewna.com/politic/317512
เมื่อตะวันยังคงส่องแสง เราจะสิ้นเรี่ยวแรงสิ้นหวังจะได้ไฉน
เมื่อทนงตนเอง ไม่ยำเกรงใคร จะแค่ไหนไม่สนใจสู้มัน
ความหวังยังมี วันนี้ไม่มีใคร ไม่เป็นไร วันพรุ่งนี้เป็นของเรา
* หากเมื่อวานขื่นขม วันนี้ก็ชื่นชมได้
หากเมื่อวานสุขสม วันนี้ยิ่งสุขสมใหญ่
สุขทุกข์หวั่นไหว ก็หวังที่ใจจะทน
สุขทุกข์หวั่นไหว ก็หวังที่ใจจะทน
🌞⏳~มาลาริน~คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย...'บิ๊กตู่'สัญญาคืนความสุข ยึดสัญญาโรดแมป เว้นกม.สะดุด
“บิ๊กตู่”ยกเพลง "คืนความสุข" เราจะทำตามสัญญา รับปัญหามีมากมาย แก้ได้90เปอร์เซ็นต์ ชี้ ท่อนท้ายคือที่สุด “แผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา” แจงยิบยันทุกรัฐบาลทำงานมากเข้าสู่ปีที่3 ขึ้นปีที่4 เป็นปกติที่จุดอ่อนโผล่ ขออย่าเพิ่งเบื่อ “รัฐบาล คสช.” ขอเวลาวางรากฐานประเทศยึดโรดแมปเดิม เปรยช้าเร็วอยู่ที่ "กฎหมาย"
30 ม.ค. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์การเมืองที่เริ่มมีการเคลื่อนไหว ซึ่งพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เคยบอกว่า ต้องเร่งสร้างกองหนุนว่า สถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้ ตนมองเป็นเรื่องธรรมชาติ การเป็นรัฐบาลมาระยะเวลา 3 ปีเศษ เข้าปีที่ 4 ก็มีปัญหาแบบนี้มาทุกรัฐบาล พอถึงเวลาก็อาจจะมีจุดอ่อนมากขึ้นในการทำงาน ยิ่งทำงานมากปัญหาก็มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ต้องดูเหตุผลว่า จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร คนที่เคยสนับสนุนอยู่ตรงกลาง ไม่เข้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็เห็นชอบกับการทำงานของรัฐบาล บางครั้งมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น คนเหล่านี้ก็อยากให้ทุกอย่างราบรื่นในทางที่ดีที่สุด ซึ่งเขาอาจจะมีความรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาล มันก็เป็นธรรมดา ทุกรัฐบาลก็เป็นแบบนี้เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 แต่เรายืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนอาจจะมองว่า รัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ใช้อำนาจสิทธิขาดในการบริหารประเทศ จริงๆ แล้วไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด รัฐบาลฟังทุกอัน ลองคิดย้อนกลับปดู ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาจากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ หรือผู้ลำบากยากแค้น สิ่งแรกที่เป็นช่องทางถึงรัฐบาลคือ ศูนย์ดำรงธรรมมีหลายล้านเรื่อง ซึ่งเราแก้ไปได้ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นความเดือดร้อนเล็กๆน้อยๆ ทั้งสิ้น แล้วจะมาบอกว่า เราทำไม่ตรงความต้องการของประชาชนได้อย่างไร ทั้งเรื่อง ถนน แหล่งน้ำ ประปา ขยะ รัฐบาลนี้แก้ให้ทันที รัฐบาล คสช. นี่แหละคนทำ
นอกจากนี้ยังมีช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีคนคอยติดตามตรวจสอบว่า ใช่หรือไม่ หากเดือดร้อนจริง รัฐบาลก็แก้ไขปัญหาให้ ตนเองก็ได้รับข้อมูลมาเหมือนกัน และมอบหมายให้หน่วยราชการไปแก้ไข
“ผมไม่ได้ปิดกั้นประชาชนเลย แม้กระทั่งในสื่อที่เขียนบทความมากมาย คอลัมนิสต์ก็วิพากษ์วิจารณ์ ผมไม่เคยไปห้าม ดังนั้นอย่าไปสร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง มันไปถึงต่างประเทศ กลายเป็นว่า รัฐบาลนี้ปิดกั้นทุกคน แต่การจะทำอะไรก็ตาม ที่มีผลกระทบกับความสงบเรียบร้อยกับบ้านเมืองตรงนี้ต้องใช้กลไกกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่า จะทำอะไร ความเคลื่อนไหวต่างๆ ศาลปกครองเขาก็คุ้มครองช่วยแล้วระดับหนึ่ง แต่อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน ดังนั้นมันต้องมอง 2 ด้าน มองคนที่เขาไม่เห็นด้วย คนที่เขาเดือดร้อน ต้องดูเจตนาต่างๆ ให้ชัดเจน ผมไม่ขัดแย้งกับใคร หลายคนอยากให้ใช้กฎหมายแรงๆ เพื่อยุติให้ได้ ขณะที่หลายพวกเห็นว่า ใช้แรงๆ ก็ดี จะได้ขยายความขัดแย้งมากขึ้น มันมี 2 ฝ่ายเสมอ ฝากสื่อช่วยดูด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองว่า รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง นายกฯ กล่าวย้ำว่า ตนเข้าใจดี อย่างที่บอก ระยะเวลาการทำงานของเรา อาจจะมีความขัดแย้งสูง อาจจะมีคนได้ประโยชน์ เสียประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ ทุกคนอยากจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะผ่านมา 3 ปีแล้ว ก็ต้องไปดูกลุ่มไหนที่เดือดร้อน และเป็นตัวตั้งตัวดีในเรื่องเหล่านี้ สื่อคงหาเจออยู่แล้ว ตนคงไม่ไปขัดแย้งด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะทำงานดูแลพี่น้องประชาชนทั้งหมด นโยบายต่างๆ ในช่วงปีนี้อย่ามองว่า รัฐบาลนี้ทำเพื่อสืบทอดอำนาจ มันเป็นการทำงานต่อเนื่อง จากปีที่หนึ่ง สอง และสามตามโรดแมปของตน เพราะฉะนั้นในขั้นตอนนี้ ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายตามโรดแมป คือ ทำงานที่มีโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ลงไป คำว่า ไทยนิยม คือ นิยมความดี ความงาม นั่นคือ ความหมายไทยนิยมของตน ในทุกๆ เรื่อง เพราะความดีความงาม เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ที่จะมุ่งมั่นในการทำความดีเพื่อประเทศชาติให้บุตรหลานตัวเองในอนาคต
"รัฐบาลนี้มุ่งหวังเพียงวางพื้นฐาน รากฐานของประเทศไว้ให้ สุดแล้วแต่รัฐบาลต่อไป จะดำเนินการอย่างไรต่อ แล้วในการเลื่อนโรดแมป ผมยังไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการเลื่อนไม่เลื่อนตรงนี้เลย ผมก็ยืนยันโรดแมปเดิมที่กำหนดไว้ หากไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายมันก็เป็นไปตามนั้น ผมไม่ก้าวล่วงใครทั้งสิ้น ขอให้พิจารณา บางเรื่องถ้าไม่ตรงความต้องการของคนบางกลุ่มบางฝ่ายก็ไม่ค่อยพอใจ อยากให้ใช้มาตรา 44 อันไหนที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์ ก็หาว่า ไปละเมิดคนนู้นคนนี่ สรุปไม่มีความพอใจเท่าที่ควรจะเป็น”นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าตนไม่เคยสัญญาว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ว่า มีสื่อหลายคน ตนจำได้ว่าใครเป็นคนถามเรื่องสัญญาตามเนื้อเพลง คือทุกอย่างจับเป็นประเด็นได้หมด สัญญาคืนความสุขของตนคือ คืนความสุขให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกกลุ่มทุกฝ่าย มันมีกี่กลุ่ม ดังนั้นบางความสุขตนก็คืนให้ได้ทันที แต่บางความสุขก็ยังคืนไม่ได้ มันเป็นเรื่องของกลไกในการแก้ปัญหาจัดการคืนความสุขต่อๆไป ในรัฐบาลนี้และรัฐบาลหน้า
“มาบอกว่า ยังไม่เห็น ผมคืนความสุขให้ มันจะคืนได้ไหม ปัญหามันร้อยแปดพันเก้า ทุกคนก็ต้องมาช่วยกันแก้ ขอให้เข้าใจผมด้วย ผมไม่ได้แก้ตัวอะไรทั้งสิ้น บ้านเมืองมันสงบเรียบร้อยขึ้นไหมตอนนี้ เริ่มมีความสุขไหม เศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางดีขึ้นหรือไม่ ขนาดเล็กกำลังแก้ไขหรือเปล่า ปัญหาที่สะสมได้รับการแก้ไขหรือไม่ ทั้งเรื่องแรงงานและการเพิ่มค่าจ้าง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสุขหรือ แม้มันจะไม่มากนัก แต่มันก็เป็นความสุขแล้วไง นี่คือสัญญาของผม ผมก็คืนให้ แต่ให้ในสิ่งที่ให้ได้ก่อน สิ่งไหนที่ยังไม่ได้ รัฐบาลต่อไปก็ต้องไปทำต่อ ไม่ใช่มาโจมตีกันในวันนี้ แล้ววันหน้าจะได้อะไรไหม มันก็โจมตีกันแบบนี้ ทุกครั้งที่ผ่านมา ทุกรัฐบาลก็เป็นอยู่แบบนี้ มันต้องเอานโยบายมาถกแถลงกันเห็นดีเห็นชอบหรือไม่ แต่ที่ผ่านมารัฐบาลเราเอาทุกอย่างมาเปิดเผยหมดว่าคิดและทำอะไร”
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องโครงการไทยนิยมยั่งยืน ก็สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ซึ่งจะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทิ้งทุกพื้นที่ ไม่ใช่เพื่อจะไปสร้างคะแนนเสียง หากจะสร้างคะแนนเสียงคงไม่ยากขนาดนี้ที่ต้องเอาคณะลงไปเดิน ก็ให้เงินไปเลยก็จบ มันก็จะเป็นปัญหาแบบเดิมๆ แก้ไม่ได้สักที มันต้องถามประชาชนต้องการอะไรและจะใช้งบประมาณอย่างไรไม่ให้ซ้ำซ้อน วันหน้ารัฐบาลใหม่มาจะทำอย่างไรต่อไป ท่านยังไม่เคยเสนอให้ผมเห็นเลย จะทำอย่างไรต่อไป ตีรัฐบาลนี้อย่างเดียว ผมว่าไม่เป็นธรรมเท่าไหร่ ดังนั้น อยากให้สื่อทุกคนช่วยดูแลประเทศชาติด้วย
“ถ้าจะพูดถึงเพลงท่านก็เอาเฉพาะขอเวลาอีกไม่นาน ถ้าผมจะเอาตอนจบของผมบ้าง แผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา ผมก็เอาคนละตอนบ้างซิ ความหมายมันสมบูรณ์อยู่ในนั้นอยู่แล้ว” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้อยากให้เห็นใจรัฐบาลและข้าราชการบ้าง เขาเหน็ดเหนื่อยมหาศาลมา 3-4 ปี เพราะต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แน่นอนปัญหาต้องเกิดขึ้น พอใจบ้างไม่พอใจบ้าง ขอให้รอดูกันต่อไป อย่าเพิ่งหมดกำลังใจกับตนและรัฐบาลคสช.ก็พยายามทำเต็มที่ อะไรที่มีปัญหาตนก็ตอบรับทั้งหมด เพราะตนรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ขอให้เห็นใจบ้างกับสิ่งที่เราทำ อย่าทำให้สิ่งนี้ไปกระทบอีกอัน เราต้องแยกแยะ ประเด็นของตนไม่ใช่การแก้ตัว
“ขอเวลาให้ผมวางรากฐานประเทศอีกซักระยะนึงก่อนเท่านั้น มันจะมากจะน้อยก็เป็นไปตามกฎหมายนั่นแหละ”นายกรัฐมนตรี กล่าว
http://www.naewna.com/politic/317512
เมื่อตะวันยังคงส่องแสง เราจะสิ้นเรี่ยวแรงสิ้นหวังจะได้ไฉน
เมื่อทนงตนเอง ไม่ยำเกรงใคร จะแค่ไหนไม่สนใจสู้มัน
ความหวังยังมี วันนี้ไม่มีใคร ไม่เป็นไร วันพรุ่งนี้เป็นของเรา
* หากเมื่อวานขื่นขม วันนี้ก็ชื่นชมได้
หากเมื่อวานสุขสม วันนี้ยิ่งสุขสมใหญ่
สุขทุกข์หวั่นไหว ก็หวังที่ใจจะทน
สุขทุกข์หวั่นไหว ก็หวังที่ใจจะทน