'ชูวิทย์'ปรี๊ดแตก! หลังเปิดโปง'อ่างวิคตอเรีย' กลับถูกสื่อตีข่าวหาว่าโกหก



งานสบาย รายได้ดี ไม่ต้องมีจรรยาบรรณ”

ทุกวันนี้บางสื่อมีความตกต่ำ หากเทียบกับคนไม่มีจรรยาบรรณอย่างผม เพราะความจริงสื่อต้องตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างคนผิด

แต่กลับกลายเป็นคนอย่างผม ที่มาเปิดโปงเรื่อง “นายกำพล” เจ้าของวิคตอเรียตัวจริง ทั้งๆที่ผมกับกำพลไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันแต่อย่างใด แต่หากผมไม่พูดก็เท่ากับรู้แล้วเงียบ

ตั้งแต่วันที่ดีเอสไอบุกจับ “วิคตอเรีย” แล้วพบเด็กตำ่กว่า 18 ปี เป็นเรื่องขึ้นมา ไม่มีใครกล้าพูดถึงนายกำพล ทั้งๆที่รู้กันอยู่ อาจเพราะเกรงกลัวอิทธิพล หรือเกรงใจเงิน หรือได้เงินมาจากการค้าเด็กด้วย? ผมไม่อาจทราบได้

ซ้ำยังมาด่าคนที่เปิดโปงอย่างผม ทั้งที่เบื้องหลังของผมทุกคนรู้เป็นอย่างดียิ่ง แต่บางสื่อตีข่าวหาว่าผมโกหกคำโต หรือไม่ก็เอาเรื่องฟ้องแก้เกี้ยว ทั้งๆที่ดีเอสไอก็เป็นผู้แจ้ง ก.ล.ต. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกำพลที่เข้าไปสู่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์

ไอ้พวกโจรใส่สูท พฤติกรรมมันเลวพอๆกับพวกสื่อที่รับใช้ ตีข่าวให้คนผิด

จรรยาบรรณสื่อแทนที่จะไปด่าคนค้าเด็ก กลับมาหาว่าผมโกหก ทั้งๆที่ศาลออกหมายจับแล้วหนี

วันนี้มันถึงผิดฝา ผิดตัว ไอ้คนเลวมันถึงไม่กลัว เพราะได้สื่อเลวไปเข้าข้าง

อย่าคิดว่าผมกลัว เพราะยังมีเรื่องที่ผมรู้แต่ยังไม่ได้แฉอีกแยะ ว่ามันวางแผนออกข่าวผ่านสื่อตอนจะปั่นหุ้นกันยังไง ?

ไอ้ผมไม่ใช่คนดี แต่มีคนเลวมากกว่าผม แล้วทำเรื่องเลวๆแต่แสร้งทำเป็นคนดี

สันดานแบบนี้เคยเห็นมาเยอะตอนอยู่สภา สมัยนี้มันหิวเงิน ไม่มีสปอนเซอร์ก็ไปรับใช้คนเลวค้าเด็กค้ามนุษย์

http://www.naewna.com/local/317405

"ยงยุทธ" เดือด! "ชูวิทย์" พาดพิงนำเงินอาบอบนวดมาฟอกทำทีมฟุตบอลเชียงราย-ตั้งพรรคใหม่ ลั่นฟ้อง "เสี่ยอ่าง" พร้อม 2 ช่องทีวีแน่ ยอมรับเจ็บใจ เชื่อ "สรยุทธ" รู้เห็นด้วย "ดีเอสไอ" เร่งประสาน ตร. ล่าตัว "กำพล-เมีย" ดำเนินคดีค้ามนุษย์ พร้อมส่งข้อมูล ก.ล.ต. สอบวิคตอเรีย ซีเครท โยกเงินฟอกในตลาดหลักทรัพย์

    เมื่อวันอาทิตย์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำพรรคเพื่อไทย  กล่าวผ่านพีซทีวี ในรายการฉุกคิด ตอน "ข้อกล่าวหาชูวิทย์กับสโมสรฟุตบอลเชียงราย" ช่วงหนึ่งว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาเงินจากสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท มาฟอกกับสโมสรฟุตบอลนั้น จริงๆ แล้วนายธิติพันธ์ อดีตกรรมการบริหารสโมสรเชียงราย เป็นเพื่อนนายธนพล หรือโจอี้ วิระเทพสุภรณ์ ลูกชายนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของเครือเดอะลอร์ด ซึ่งชื่นชอบฟุตบอลเช่นกัน ก็เข้ามาช่วยเหลือสนับสนุน ไม่ใช่เรื่องการฟอกเงิน

    นายยงยุทธกล่าวว่า วันนี้เหมือนคนเกษียณ แต่ต้องออกมาพูด หากไม่พูดจะตกเป็นจำเลย ถ้าไม่ได้รักษาสิทธิตัวเองเท่ากับยอมรับ ต้องให้ศาลไปพิสูจน์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กับตนจากนี้ต้องไปคู่กัน ไม่ต้องไปบอกนะยามนายชูวิทย์ลำบากพาใครมาหาตน ไว้วันข้างหน้าจะเล่าให้ฟัง มาขอความเป็นธรรมกรณีบาร์เบียร์สมัยตนเป็นรัฐบาล

    "เสียใจ ไทยรัฐ ช่อง 3 รู้การต่อสู้แข่งขัน ดรามา เรตติ้ง จนลืมประวัติความเป็นมา สมมุติใครไปทำผิด บอกว่าล้างมือแล้ว เป็นคนดีแล้ว บางคนตอนลำบากไปวิ่งกับสื่อจนสนิทสนม สื่อเก่าบางคนยังเป็นลูกค้าอ่างอาบน้ำ ต้องรักษาจริยธรรมของสื่อ ไม่ใช่มาชี้เป้าโครมคราม ถ้าตำรวจไม่ทำต้องทำอย่างนี้ วันนี้ขอความกรุณาทางศาลมาพิสูจน์ ที่คุณชูวิทย์กล่าวหา นักการเมืองภาคเหนือ หมายถึงผมแน่นอน วันนี้ผมหยุดนิ่ง ถามว่าลูกชายทำผิดหรือไม่ ขอท้าเลย ถ้าผิดให้จัดการเลย ถ้าไม่ได้ทำผิดคุณต้องรับผิดชอบ คุณชูวิทย์ต้องนึกถึงลูกตัวเองเหมือนกันว่า ถ้าคนอื่นมาทำกับลูกแบบนี้ รู้สึกอย่างไร คุณชูวิทย์รักลูกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมรักลูก รวมถึงรักเพื่อนลูกด้วย” นายยงยุทธกล่าว

    นายยงยุทธกล่าวว่า เด็กมีความฝันอยากทำกีฬา แต่ไปโยงไอ้นี่รู้จักกับไอ้นั่นในตลาดหลักทรัพย์ นายชูวิทย์พยายามไปทำร้ายเด็ก ซึ่งเรื่องถูกกล่าวหาเชื่อว่าเด็กอธิบายได้หมด มีระบบบัญชี เพราะต้องเสียภาษีแจ้งสรรพากร แต่ไปพูดเป็นขั้นเป็นตอน จะเอาเข้าตลาดฯ ความเสียหายมันเกิด อย่างที่พูด บริษัท Aqua ตนก็ไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย

    ผู้ดำเนินรายการถามว่า ทำไมถึงต้องเชียงราย ไปโยงการเมืองหรือไม่ ที่จะไปช็อปปิ้งคนไปอยู่พรรค  นายยงยุทธกล่าวว่า รายการเดี๋ยวนี้แข่งเรื่องเรตติ้ง บางทีเจ้าของสถานีอาจลืมรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการเมือง มีข่าวการตั้งพรรคใหม่ การกวาดต้อนผู้คนเข้าไป ตนเป็นเป้า คนมองเป็นฮาร์ดคอร์ เวลาไปบรรยายที่ไหนคนก็ถามยุทธตู้เย็นหรือ ตามที่คนว่ามา ตัวจริงหรือเปล่า กับการที่ถูกดรามากับชีวิตจริงไม่เหมือนกัน

    "วงจรอุบาทว์เรื่องกิจการ เรื่องค้ามนุษย์ คุณชูวิทย์รู้เรื่องดีหมด วันนั้นถ้าไม่ขาย เก็บเงิน ไม่ต้องทำอะไรเป็นสีเทา ปัญหาก็ไม่เกิด คุณก็เป็นต้นเหตุอันหนึ่ง แม้แต่การขุดน้ำบาดาลมาใช้ พิสูจน์ได้ ขุดจากสมัยไหนมาใช้ การไปชี้เป้า เจ้าของรายการต้องระมัดระวัง เพราะมีคดีอยู่ เรื่องอะไรทั้งหลาย การรับผิดชอบต่อสังคมต้องมี ผมคนต้นทุนต่ำ ไม่ได้อายอะไร ไม่ได้มีฐานะในสังคม เป็นคนเกษียณ คนกระจอก ถามผมสักนิด ตรวจสอบผมก่อนที่ว่ามาแน่นอนก็ต้องไปเจอกัน แต่คุณชูวิทย์ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำมา เจ้าของรายการก็ต้องรับผิดชอบด้วย ถึงบอกวันนี้รู้จักกันหมด ใครเป็นใคร มาแต่งเติมสีสัน เหมือนที่ชูวิทย์ว่าก็มาเฮกัน แต่ความเสียหายเกิด ต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม" นายยงยุทธกล่าว

    แกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า นายชูวิทย์เล่นกับกระแสสังคมได้เก่ง เลยย่ามใจ แต่ต้องมีแบ็กอัพ ใครเป็นแบ็กทุกคนคงรู้ กรณีรื้อบาร์เบียร์ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ เอาคนในเครื่องแบบไล่ที่ สังคมไม่รับ ธุรกิจถูกซักฟอก คงจะกลัวต้องไปประกาศขายอ่างทั้งหลาย ทำภาพจากลบเป็นบวก ที่ดินของเขาเดิมประกาศยกให้สาธารณะ ต่อมาให้แลนด์แอนด์เฮ้าส์เช่า แต่ขว้างงูไม่พ้นคอ ฎีกา 9/2538 ระบุใครที่มีเจตนาต้องการจะยกที่ให้สาธารณะ แม้ไม่จดทะเบียน แสดงว่ายกที่ให้แล้วถือว่ามีผลสมบูรณ์ แล้ววันนี้เอาที่ไปปล่อยให้เช่าหรือขาย ถามว่าคนดีของสังคม ที่สังคมลืม ต้องเจออะไรบ้าง สัญญาที่ทำไว้ถือว่าโมฆะหรือไม่ การเอาที่สาธารณะไปขายถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่

    นายยงยุทธยืนยันจะฟ้อง ส่วนเรื่องลูก สโมสร เรื่องบริษัท ให้เขาไปหารือกันจะฟ้องหรือไม่อย่างไร เวลาไปขึ้นศาลต้องใส่หมวกกันน็อกหรือเปล่ายังไม่รู้ พ้นระยะศอกไหม กลัวแกด้วย กลัว ทราบว่าคุณชูวิทย์กับคุณสรยุทธรักกันดี วันนี้สรยุทธบาดเจ็บ พักร่างกาย เลยหาเรตติ้งกัน แล้วพิธีกรก็ยิ้มแย้มแจ่มใส พยักเพยิดกัน เดี๋ยวก็ไปเจอกันที่ศาล

    "สงสารนะ เจ้าหน้าที่ พิธีกรอาจไม่รู้เรื่องต่างๆมาก ถูกสั่งมาก็ต้องทำ ก็ต้องรักษาสิทธิ์ แล้วทีมงานทั้งหลายเป็นของคุณสรยุทธ ช่อง 3 เอารายการแบบนี้มาออก มันเสี่ยง คุณประชา มาลีนนท์ ก็หนี ยังไม่กลับมา อย่าทำร้ายคนอื่นเลย ให้อะไรมันพิสูจน์แน่ชัด แล้วเอาให้เต็มที่ อันนี้มาเล่นดรามาทำให้คนอื่นเสียหาย ผมไม่มีต้นทุน ไม่ได้มีปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าผมไม่ลุกขึ้นมารักษาสิทธิ์ ย่ามใจเลยนะ เป็นการกล่าวร้าย ผมไม่ได้มีการโอนเงิน บอกจะไปตั้งพรรคการเมือง หาเงินฟอกเงิน ผมเสียหาย เจ็บใจนะไม่ใช่เจ็บปวด" นายยงยุทธกล่าว

http://www.thaipost.net/main/detail/1918

นี่แหละค่ะ จึงหาคนดีๆในสังคมยากเย็น