"ชูวิทย์" ตั้งทนายอนันต์ชัย ยื่นฟ้องษิทรา ถ้าทนายตั้มเก่งจริงต้องไปฟ้องศาลหรือแจ้งความ ไม่ใช่ใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ มั่นใจปมเงินบริจาคให้ รพ.ไม่ใช่ฟอกเงิน ประกาศเดินหน้าคว่ำกัญชาเสรี
วันนี้ (24 มี.ค.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีนำเงินสีเทา 6 ล้านบาท ไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล หลังลงพื้นที่รณรงค์การต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ว่าวานนี้ (23 มี.ค.66) มีผู้ใหญ่ในวงการการเมืองบอกให้หาทางลงได้แล้ว แต่ตนยืนยันจะสู้ต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว เพราะยังมีอีก 2 เรื่อง ที่ต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครทำ คือ 1.การรณรงค์เรื่องต่อต้านกัญชาเสรี ซึ่งมีพรรคการเมืองพยายามฟ้องร้องตน ทั้งที่เยาวชนอาจมีแนวโน้มจะเริ่มเสพกัญชาและไปใช้ยาเสพติดชนิดอื่น และ 2.การคอรัปชัน ดังนั้นตนจะทำกิจกรรมรณรงค์ต่อไป และยินดีขึ้นศาลตามวิถีประชาธิปไตย
นายชูวิทย์ ระบุด้วยว่า ได้มอบหมายทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีกระบวนการทำลายล้างตนและลูกๆ รวมถึงทรัพย์สิน หากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เก่งจริงต้องไปฟ้องศาลหรือแจ้งความ ไม่มาใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ เรื่องของทนายตั้มนั้น ให้สอบถามลูกน้องของนายตำรวจใหญ่ระดับผู้กำกับ
นายชูวิทย์ ยังต่อสายโทรศัพท์ถึงนายอนัตตชัย ไชยเดช ทนายความ ยืนยันจะฟ้องร้องทนายตั้ม ส่วนประเด็นการบริจาคเงินให้โรงพยาบาลนั้น ไม่ใช่การฟอกเงิน เพราะไม่ได้นำเงินไปซื้อหรือลงทุนอะไร จากนี้ จะนำเงินทั้งหมดไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบที่มาของเงิน โดยได้แจ้งชื่อผู้ที่นำเงินมาให้ เพื่อสอบสวน ว่าเงินได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ดินสุขุมวิทซอย 10 ของตนที่เคยมีคดีความนั้น ยืนยันว่าดำเนินการถูกต้องและเสียภาษีตามกฎหมาย
https://news.ch7.com/detail/632688
จัดไปครับเฮียชู แค่เหยื่อล่อเล็กก็ได้เห็นพวกใจเทาละ
วันนี้ (24 มี.ค.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีนำเงินสีเทา 6 ล้านบาท ไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล หลังลงพื้นที่รณรงค์การต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ว่าวานนี้ (23 มี.ค.66) มีผู้ใหญ่ในวงการการเมืองบอกให้หาทางลงได้แล้ว แต่ตนยืนยันจะสู้ต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว เพราะยังมีอีก 2 เรื่อง ที่ต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครทำ คือ 1.การรณรงค์เรื่องต่อต้านกัญชาเสรี ซึ่งมีพรรคการเมืองพยายามฟ้องร้องตน ทั้งที่เยาวชนอาจมีแนวโน้มจะเริ่มเสพกัญชาและไปใช้ยาเสพติดชนิดอื่น และ 2.การคอรัปชัน ดังนั้นตนจะทำกิจกรรมรณรงค์ต่อไป และยินดีขึ้นศาลตามวิถีประชาธิปไตย
นายชูวิทย์ ระบุด้วยว่า ได้มอบหมายทนายความดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีกระบวนการทำลายล้างตนและลูกๆ รวมถึงทรัพย์สิน หากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เก่งจริงต้องไปฟ้องศาลหรือแจ้งความ ไม่มาใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ เรื่องของทนายตั้มนั้น ให้สอบถามลูกน้องของนายตำรวจใหญ่ระดับผู้กำกับ
นายชูวิทย์ ยังต่อสายโทรศัพท์ถึงนายอนัตตชัย ไชยเดช ทนายความ ยืนยันจะฟ้องร้องทนายตั้ม ส่วนประเด็นการบริจาคเงินให้โรงพยาบาลนั้น ไม่ใช่การฟอกเงิน เพราะไม่ได้นำเงินไปซื้อหรือลงทุนอะไร จากนี้ จะนำเงินทั้งหมดไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบที่มาของเงิน โดยได้แจ้งชื่อผู้ที่นำเงินมาให้ เพื่อสอบสวน ว่าเงินได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ดินสุขุมวิทซอย 10 ของตนที่เคยมีคดีความนั้น ยืนยันว่าดำเนินการถูกต้องและเสียภาษีตามกฎหมาย
https://news.ch7.com/detail/632688