สวัสดีค่า! อาจจะมีคนรีวิวการทำเลสิกอย่างละเอียดหลายโพสแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเคยเห็นใครรีวิวเลสิกที่โรงพยาบาลตำรวจเลยจะขอแบ่งปันประสบการณ์ที่เพิ่งทำมาค่ะ

โรงพยาบาลตำรวจมีบริการเลสิก 2 แบบ คือ PRK และ Femto Lasik ที่เราเพิ่งไปทำมาจะเป็น Femto Lasik หลักการคือ เปิดกระจกตา และปรับความโค้งของเลนส์ตา เพื่อแก้ไขปัญหาสายตาด้วยแสงเลเซอร์ ข้อดีคือ ระยะเวลาทำสั้นกว่า และพักฟื้นเร็วกว่า PRK แต่ราคาก็แพงกว่าด้วยๆ

ใครที่สนใจขั้นตอนแรกเลยคือโทรไปขอทำนัดเข้าไปตรวจประเมินสายตาว่าสายตาของเราอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถทำเลสิกได้หรือเปล่า เช่น วัดสายตา (สายตาเดิม สั้นประมาณ 475 ใกล้เคียงกันทั้งสองข้าง + เอียงนิดหน่อย) วัดความหนาของกระจกตา วัดค่าน้ำตา (ถ้าตาแห้งมากๆ จะไม่สามารถทำได้) ที่ไปวัดมารอบแรกไม่ผ่าน เพราะน้ำตาน้อยมากก ก็กังวลว่าอาจจะทำไม่ได้ แต่คุณหมอก็แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ และสำหรับคนที่แห้งมาก หมอจะให้น้ำตาเทียมแบบเจลมาทาก่อนนอน ซึ่งช่วยได้เยอะมาก หลังจากนั้นกลับไปตรวจใหม่ก็ดีขึ้น แล้วก็เริ่มนัดคิวผ่าตัดกับคุณหมอ (ตรวจประเมินใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)

คิวนัดที่นี่ค่อนข้างแน่นมาก เพราะว่าคุณหมอรับผ่าตัดเลสิกวันละ 3 คนเท่านั้นแล้วก็มีคนไข้ที่ใช้สิทธิข้าราชการตำรวจด้วย ตอนนั้นที่นัดก็ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แต่ติดช่วงงานแต่งก็เลยขยับๆ มาจนเป็น 4 เดือน รอจนลืมจริงจัง

วันนัดคุณหมอก็ให้เปลี่ยนเสื้อผ้า หยอดยาชา กับยาฆ่าเชื้อ ประมาณ 5 ครั้งเพื่อให้ตาเราชา เวลาโดนเครื่องมือจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ จากนั้นก็รอคิว นี่ได้คิวสุดท้ายเลย รอจนเกร็งไปหมด พอถึงเวลาคุณหมอก็จะมาอธิบายขั้นตอนว่าเราจะต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้างอย่างละเอียด แล้วก็ให้เราถามคำถามที่สงสัย เสร็จปุ๊บก็พาเข้าห้องผ่าตัดเลย

เข้าห้องผ่าตัดแล้ว พยาบาลก็จะทำความสะอาดหน้าให้เรา เพลินๆ เหมือนมานวดหน้า (ลืมบอกว่า ห้ามแต่งหน้า ใส่น้ำหอมมาผ่าตัด) ทำความสะอาดตาแล้วก็ใช้ที่ถ่างตาให้เพื่อป้องกันเรากระพริบตา คุณหมอจะวัดเส้นรอบวงของตาเพื่อปรับเครื่องมือจากนั้นก็สั่งให้มองแสงด้านบน ห้ามกรอกตาเด็ดขาด เพราะเป็นขั้นตอนที่ต้องตัดกระจกตาออก จุดนี้จะเหมือนมีอะไรลงมาทับตาหนักๆ เป็นความรู้สึกอึดอัด แต่ไม่เจ็บ มันตึงๆ แล้วก็อาจจะกลัวไปเอง จากนั้นหมอก็จะให้สัญญาณเครื่องตัดกระจกตา นี่ไม่เคยดูวีดีโอมา แต่รู้สึกเหมือนกำลังโดนเชือดไงไม่รู้ เสร็จปุ๊บจุดนี้จะมองอะไรไม่เห็น เหมือนมีหมอกบัง หมอก็จะตัดแต่งรอยตัด แล้วก็ล้างตา จากนั้นเป็นขั้นตอนการยิงเลเซอร์ น่ากลัวน้อยกว่าตัดกระจกตามาก เพราะว่าไม่หนัก ไม่ตึงอะไร แค่ต้องมีสมาธิจ้องแสงที่หมอบอก เพราะถ้าหลุกหลิก เลเซอร์อาจจะยิงไม่สมบูรณ์แล้วก็ส่งผลกับค่าสายตาของเราด้วย ตรงนี้ก็จะได้ยินเสียงเครื่องแล้วก็กลิ่นไหม้ แบบเลเซอร์ขน เหมือนเนื้อไหม้ แปปเดียวแล้วก็เสร็จหนึ่งข้าง

พอทำครบสองข้าง คุณหมอก็จะให้พักสายตาครึ่งชั่วโมงในห้องพัก แล้วก็ทานยาพารา 1 เม็ด จากนั้นก็ตรวจดูแผลก่อนกลับ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจ่ายเงินได้เลย
ก่อนกลับพยาบาลก็จะแนะนำการดูแลตัวเองคือ
1.    ห้ามล้างหน้า / สระผมเอง 2 อาทิตย์
2.    ห้ามน้ำเข้าตา เช็ดรอบดวงตาด้วยน้ำเกลือ
3.    ห้ามว่ายน้ำ / วิ่ง หรือออกกำลังกายหนัก 1 เดือน
4.    ใส่ที่ครอบตานอน 2 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้เผลอขยี้ตา หรือทับตาตอนนอน
5.    หยอดยาทุก 4 ชั่วโมง
6.    หยอดน้ำตาเทียมทุกชั่วโมง

แล้วก็กลับมาให้หมอเช็คตาอีกทีวันรุ่งขึ้น และอีกครั้งตอนครบ 7 วันเพื่อดูแผลและวัดค่าสายตาหลังผ่าตัด
ทำวันแรกเสร็จ พอยาหมดฤทธิ์รู้สึกปวดตานิดหน่อย ทนไหวอยู่ถ้าเทียบกับที่เคยผ่าตากุ้งยิง อันนั้นพอยาชาหมดฤทธิ์ละปวดกว่า แต่จะมองแสงแดดจ้ามากไม่ได้ จะรู้สึกเหมือนลืมตาไม่ขึ้น แล้วก็มีขี้ตาเยอะกว่าปกติ ตรงนี้ก็พยายามหยอดน้ำตาบ่อยๆ พอผ่านไปวันที่ 2 ก็มองเห็นชัดขึ้นประมาณ 85% (จริงๆ พอเดินออกจากห้องผ่าตัดก็รู้สึกชัดขึ้นแล้ว แค่ยังมัวๆ หมอกๆ) ก็ไปวัดสายตา 2 ข้าง เหลือสั้น 25 กับ 50 ซึ่งหมอบอกว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 7 วัน

สรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด
1.    วันตรวจประเมิน 1,500 บาท (ถ้าต้องตรวจน้ำตารอบสอง ก็เพิ่มอีกประมาณไม่เกิน 100 บาท)
2.    วันผ่าตัด 35,156 บาท (แบ่งเป็น ค่าผ่าตัด 35,000 อันนี้รวมยาหยอดกับน้ำตาเทียมแล้ว / ค่าชุดทำความสะอาดตา 106 / ค่าหมอ 50)
3.    วันตรวจหลังผ่า 1 วัน 50 บาท
4.    วันตรวจหลังผ่า 7 วัน 50 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประมาณ 36,800 บาท (สำหรับบุคคลทั่วไป)

Pros
1.    ราคาย่อมเยาว์มากสำหรับ Femto Lasik คือข้าราชการหรือครอบครัวตำรวจ 25,000 บาท และ บุคคลทั่วไป 35,000 บาทแก ราคานี้นึกว่าทำตาเดียวอ่ะเอาจริงๆ หรือถ้าเป็นที่อื่นราคานี้อาจจะได้ประมาณ PRK
2.    จริงๆ มีข้อเดียวก็พอแมะ

Cons
1.    ราคาย่อมเยาว์ก็จริง แต่ 35,000 ยังไม่รวมค่าหมอที่นัด follow up หรือตรวจประเมิน ซึ่งมันดูจะจ่ายยิบย่อยกว่าบางที่ๆ คิดเป็น package เลย แต่โดยรวมก็ถูกกว่ากันเยอะอยู่ดี (สามารถจ่ายบัตรเครดิตได้ แต่ต้องจ่ายเต็มจำนวน ไม่เหมือนโรงพยาบาลเอกชนที่มักจะมีโปรผ่านแบบ 0%)
2.    ด้วยความที่เป็นรพ.รัฐ อาจจะต้องรอคิวนานบ้าง อย่างวันที่ไป follow up วันแรกรอไปชิวๆ 2 ชั่วโมง และคิวผ่าตัดอาจจะต้องรอนานกว่าเอกชน อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ

ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจทำ LASIK หรือกำลังสนใจบริการของโรงพยาบาลตำรวจอยู่
หรือสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Blog >> https://thaicop.blogspot.com/2014/04/blog-post_25.html
Facebook >> ศูนย์เลสิก โรงพยาบาลตำรวจ (พิมพ์ในช่อง search ได้เลยค่ะ)