สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 73
เจ้าของกระทู้คงคิดว่า แต่งนิยาย แล้วใช้ ip address คนละหมายเลข ใช้คอมคนละเครื่อง สมัครคนละ id
แล้วจะไม่มีใครจับได้ว่า เจ้าของกระทู้และคู่กรณีเป็นคนเดียวกัน
สงสัยจะว่างมาก เลยหัดแต่งนิยายปั่นหัวคนในพันทิปเล่น
*พอดีมีคนทักว่า นี้เป็นที่อยู่ของ isp เลยขอแก้ไขข้อมูลนะคะ
แต่อ่านจาก สำนวนการเขียนของเจ้าของกระทู้และคู่กรณี ก็คิดว่าเป็นเรื่องแต่งอยู่ดี
ขออภัยสำหรับข้อมูลที่ผิดพลาดค่ะ
เจ้าของกระทู้คงคิดว่า แต่งนิยาย แล้วใช้ ip address คนละหมายเลข ใช้คอมคนละเครื่อง สมัครคนละ id
แล้วจะไม่มีใครจับได้ว่า เจ้าของกระทู้และคู่กรณีเป็นคนเดียวกัน
สงสัยจะว่างมาก เลยหัดแต่งนิยายปั่นหัวคนในพันทิปเล่น
*พอดีมีคนทักว่า นี้เป็นที่อยู่ของ isp เลยขอแก้ไขข้อมูลนะคะ
แต่อ่านจาก สำนวนการเขียนของเจ้าของกระทู้และคู่กรณี ก็คิดว่าเป็นเรื่องแต่งอยู่ดี
ขออภัยสำหรับข้อมูลที่ผิดพลาดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 44
ผจก.ทุเรศค่ะ รองลงมาคือฝ่ายชาย
เหตุผลเพราะเป็นคนใกล้ตัว แถมยังเป็นเจ้านายกับลูกน้อง เพื่อนกันยังถือสา นับประสาอะไรกับเจ้านาย ถือว่าตำแหน่งใหญ่กว่าคนเป็นลูกน้องจึงต้องทน
ส่วนผช. ฝากถึงผช.ทั้งโลกเลย คุณไม่ควรจีบผญ.คนใหม่ที่เป็นคนสนิทคนเก่า เหลือที่ยืนให้ผญ.เค้าบ้าง เราเคยเห็นกระทู้ ผช.แค้นมากด่าผญ.และเพื่อนตัวเองที่มาคบกัน ทำให้เราเข้าใจว่า ผช.จะถือสามากถ้าเป็นคนใกล้ตัวเช่นกัน ผญ.ยิ่งคิดเล็กคิดน้อยเซนซิทีฟมากกว่า
ความรักตั้งเจ็ดปี พังลงง่ายๆ เสียแบบนั้นเพราะผญ.คนอื่น
อ่านคอมเม้นผช.ก็ชัดเจนดี ตอนแรกก็ตามใจพอมีคนใหม่เข้ามาเกิดจะเปรียบเทียบแล้ว ทำไมไม่เคยเข้าใจเหมือนอีกคน หึหึ ลองเอ็งมีคนใหม่สาวกว่าสวยกว่าสิ ได้รู้ฤทธิ์ลมหึงของหญิงวัยทองล่ะ
เหตุผลเพราะเป็นคนใกล้ตัว แถมยังเป็นเจ้านายกับลูกน้อง เพื่อนกันยังถือสา นับประสาอะไรกับเจ้านาย ถือว่าตำแหน่งใหญ่กว่าคนเป็นลูกน้องจึงต้องทน
ส่วนผช. ฝากถึงผช.ทั้งโลกเลย คุณไม่ควรจีบผญ.คนใหม่ที่เป็นคนสนิทคนเก่า เหลือที่ยืนให้ผญ.เค้าบ้าง เราเคยเห็นกระทู้ ผช.แค้นมากด่าผญ.และเพื่อนตัวเองที่มาคบกัน ทำให้เราเข้าใจว่า ผช.จะถือสามากถ้าเป็นคนใกล้ตัวเช่นกัน ผญ.ยิ่งคิดเล็กคิดน้อยเซนซิทีฟมากกว่า
ความรักตั้งเจ็ดปี พังลงง่ายๆ เสียแบบนั้นเพราะผญ.คนอื่น
อ่านคอมเม้นผช.ก็ชัดเจนดี ตอนแรกก็ตามใจพอมีคนใหม่เข้ามาเกิดจะเปรียบเทียบแล้ว ทำไมไม่เคยเข้าใจเหมือนอีกคน หึหึ ลองเอ็งมีคนใหม่สาวกว่าสวยกว่าสิ ได้รู้ฤทธิ์ลมหึงของหญิงวัยทองล่ะ
ความคิดเห็นที่ 34
ถึง จขกทนี้นะครับ
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ครับ แต่ก็อยากสะท้อนมุมมองที่แตกต่างนะครับ
คือผมกับแฟนเราอายุเท่ากัน คบกันมาตั้งแต่เรียนม.ปลายครับ จนผมเรียนจบมหาลัยแล้วเริ่มทำงาน ผมจบช้ากว่าเธอ 1 ปีครับ ตลอดเวลาที่คบกันมา 7 ปีผมก็พยายามที่จะให้และทำในสิ่งที่คนรักกันเค้าทำกันนะครับ
จนกระทั่งเธอบอกว่าอยากแต่งงาน พอผู้ใหญ่เริ่มพูดคุยกันเราก็เริ่มมีปัญหาครับ คือผมยังไม่พร้อมเพิ่งจบมาทำงานได้ 1 ปียังไม่มีเงินเก็บ ยังไม่ได้ทำอะไรให้พ่อแม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยครับ แต่ผมก็พยายามตามใจเธอนะครับ แต่เธอค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจ พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอวางแผน เธอก็จะประชดครับ เริ่มเรียกร้องเวลามากขึ้น ให้ผมไปรับไปส่งที่ทำงาน พอเลิกงานก็อยากใช้เวลากับผม ทั้งที่ผมทำงานมาเหนื่อยถึงเวลาพักผ่อน แต่ผมก็ยังแบ่งเวลาไปรับไปส่งเธอที่ทำงานตลอดนะครับ เวลาออฟฟิศเธอมีงานเลี้ยงเธอก็ชวนผมไปด้วยทุกครั้งนะครับ ทั้งๆที่มีแต่ผู้หญิงแต่ผมก็ไปนะครับเพราะเธอจะได้ไม่บ่นและมาทำตัวงี่เง่าอีก
จนวันนึงผมได้เริ่มรุ้จักและพูดคุยกับรุ่นพี่ที่ทำงานของเธอครับ ผญ.คนนี้อายุ40 แต่ยังดูเด็กอยู่เลยครับ ด้วยความที่เธอสดใสร่าเริงเข้ากับคนง่าย คอยรับฟังปัญหาของน้องๆและให้คำปรึกษาต่างๆนานาเสมอ ผมและแฟนผมก็สนิทกับเธอมากครับ ช่วงเวลาที่ผมกับแฟนผมทะเลาะกัน พี่เค้าก็มีข้อคิดดีๆมาเตือนใจผมและแฟนผมเสมอๆนะครับ
หลังๆผมทะเลาะกับแฟนหนักมากเลยครับ..เวลามีเรื่องทีไรเธอก็จะขอเลิกกับผม ประชดโดยการไปกินเหล้าเมา แล้วให้ผมขี่มอไซไปรับตอนฝนตก จนแม่ผมก็เริ่มเตือนว่าจะแต่งงานกับผญ คนนี้จิงๆเหรอ บางทีผมก็ไม่เข้าใจเลยนะครับว่าเธอต้องการอะไร
จนมาวันนึงเธอบอกว่าเธอเหนื่อยแล้วอยากจะหยุดพัก ผมก็ตามใจเธอครับเพราะผมก็เหนื่อยมากเหมือนกัน สำหรับผม ผมมองเธอเปลี่ยนไปนะครับ ผมเริ่มมีคำถามว่าทำไมเธอไม่เคยเข้าใจผมเหมือนรุ่นพี่เธอคนนั้นบ้าง ทำไมไม่คิดจะปรับตัวเข้าหากัน หรือว่าจริงๆแล้วเราไม่เคยรักกันจริงๆเลย
ผมยอมรับครับว่าผมมองเห็นความแตกต่างของผญ. 2 คนนี้ ด้วยวัยที่เค้าต่างกัน ความคิดก็แตกต่างกันครับ มันทำให้ผมเลือกที่จะจบและเดินออกมาจากแฟนผมครับ
หลังจากที่เลิกกับแฟนนะครับ..ผมก็เคยขอคำปรึกษาจากรุ่นพี่คนนั้นนะครับถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พี่เค้าก็แนะนำให้กลับไปคืนดีกันนะครับเห็นว่าเราคบกันมานานแต่ความรุ้สึกผมเปลี่ยนไปแล้วจริงๆครับ
ผมเริ่มรุ้สึกดีเวลาคุยกับรุ่นพี่คนนี้ รุ้สึกสบายใจ อยากจะพูด อยากจะบอกเล่าทุกอย่างที่ผมพบเจอมาครับ ผมก็เลยหาโอกาสปรึกษาเรื่องงานกับเรื่องครอบครัวผมอยู่บ่อยๆครับ ใช่ครับผมรุ้สึกดีกับพี่เค้าครับ แต่ด้วยความที่พี่เค้าอายุห่างจากผมเยอะมากครับ เค้าก็ปฏิเสธความรุ้สึกของผมมาตลอด
หลังจากที่ผมเลิกกับแฟนมาได้สักระยะนึงแล้ว ผมพยายามที่จะขอโอกาสเจอพูดคุย กินข้าวกับรุ่นพี่คนนี้ครับ แต่พี่เค้าก็ไม่เคยรับนัดผมเลยสักครั้งครับ เพราะพี่เค้าก็ยังคงทำงานที่เดียวกับแฟนเก่าของผมครับ และก็ปฏิเสธผมมาตลอด แต่ผมก็ไม่เลิกล้มความคิดที่จะเดินหน้าจีบพี่เค้านะครับ ก็ยังคงพยายามหาเรื่องไปปรึกษาเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไปปีกว่านะครับ วันนึงพี่เค้าเริ่มใจอ่อนยอมให้ผมมาเจอครับ
แล้วปัญหาก็เกิด เมื่อแฟนเก่าผมรุ้ครับว่าผมมาเจอพี่เค้า
จนถึงวันนี้ผมกับแฟนเก่าเลิกกันมาปีกว่าแล้วครับ ผมได้รุ้ข่าวว่าแฟนเก่าผมก็มีผู้ชายคนใหม่ไปตั้งนานแล้วครับ แต่ด้วยความที่เธอไม่เคยมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร และยังเป็นนักเลงคีย์บอร์ดคือเก่งตอนที่มีอุปกรณ์ในมืออะครับ เธอไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวระหว่างผมกับรุ่นพี่คนนี้เลยว่ากว่าจะมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ผมต้องผ่านอะไรมาบ้าง เธอเลือกที่จะทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของคนอื่นด้วยสื่อโซเชียลมีเดียครับ พยายามจับแพะชนแกะและว่ากล่าวคนอื่นเสียๆหายๆครับ ผมรุ้ความจริงข้อนี้ดีครับว่าแฟนเก่าผมเป็นคนที่น่ากลัวครับ ..เธอไม่เคยคิดว่าที่เราต้องเลิกกันเป็นเพราะเรา2คนเองหรือเปล่าครับ เธอโยนความผิดให้รุ่นพี่คนนั้นว่ามาแย่งผมไป ทั้งที่เรื่องของผมกับเธอจบกันมาปีกว่าแล้วนะครับ ...ผมมีความคิด มีสมองนะครับเวลาจะคบกับใคร ต่อให้ไม่มีใครผมก็บอกได้เลยครับว่าผมกับเธอต้องเลิกกันอยู่แล้วก็เพราะที่เธอเป็นแบบนี้
ถ้าเรื่องของคุณ จขกท คล้ายๆกับเรื่องราวของผม ลองมองต่างมุมดูสิครับ แล้วก็ย้อนกลับมาดูตัวเองนิดนึงนะครับว่า ที่เค้าเลือกที่จะทิ้งคุณแล้วเดินออกไปหาคนอื่น เพราะคุณเองไม่ดีพอหรือเปล่าครับ
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ครับ แต่ก็อยากสะท้อนมุมมองที่แตกต่างนะครับ
คือผมกับแฟนเราอายุเท่ากัน คบกันมาตั้งแต่เรียนม.ปลายครับ จนผมเรียนจบมหาลัยแล้วเริ่มทำงาน ผมจบช้ากว่าเธอ 1 ปีครับ ตลอดเวลาที่คบกันมา 7 ปีผมก็พยายามที่จะให้และทำในสิ่งที่คนรักกันเค้าทำกันนะครับ
จนกระทั่งเธอบอกว่าอยากแต่งงาน พอผู้ใหญ่เริ่มพูดคุยกันเราก็เริ่มมีปัญหาครับ คือผมยังไม่พร้อมเพิ่งจบมาทำงานได้ 1 ปียังไม่มีเงินเก็บ ยังไม่ได้ทำอะไรให้พ่อแม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยครับ แต่ผมก็พยายามตามใจเธอนะครับ แต่เธอค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจ พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอวางแผน เธอก็จะประชดครับ เริ่มเรียกร้องเวลามากขึ้น ให้ผมไปรับไปส่งที่ทำงาน พอเลิกงานก็อยากใช้เวลากับผม ทั้งที่ผมทำงานมาเหนื่อยถึงเวลาพักผ่อน แต่ผมก็ยังแบ่งเวลาไปรับไปส่งเธอที่ทำงานตลอดนะครับ เวลาออฟฟิศเธอมีงานเลี้ยงเธอก็ชวนผมไปด้วยทุกครั้งนะครับ ทั้งๆที่มีแต่ผู้หญิงแต่ผมก็ไปนะครับเพราะเธอจะได้ไม่บ่นและมาทำตัวงี่เง่าอีก
จนวันนึงผมได้เริ่มรุ้จักและพูดคุยกับรุ่นพี่ที่ทำงานของเธอครับ ผญ.คนนี้อายุ40 แต่ยังดูเด็กอยู่เลยครับ ด้วยความที่เธอสดใสร่าเริงเข้ากับคนง่าย คอยรับฟังปัญหาของน้องๆและให้คำปรึกษาต่างๆนานาเสมอ ผมและแฟนผมก็สนิทกับเธอมากครับ ช่วงเวลาที่ผมกับแฟนผมทะเลาะกัน พี่เค้าก็มีข้อคิดดีๆมาเตือนใจผมและแฟนผมเสมอๆนะครับ
หลังๆผมทะเลาะกับแฟนหนักมากเลยครับ..เวลามีเรื่องทีไรเธอก็จะขอเลิกกับผม ประชดโดยการไปกินเหล้าเมา แล้วให้ผมขี่มอไซไปรับตอนฝนตก จนแม่ผมก็เริ่มเตือนว่าจะแต่งงานกับผญ คนนี้จิงๆเหรอ บางทีผมก็ไม่เข้าใจเลยนะครับว่าเธอต้องการอะไร
จนมาวันนึงเธอบอกว่าเธอเหนื่อยแล้วอยากจะหยุดพัก ผมก็ตามใจเธอครับเพราะผมก็เหนื่อยมากเหมือนกัน สำหรับผม ผมมองเธอเปลี่ยนไปนะครับ ผมเริ่มมีคำถามว่าทำไมเธอไม่เคยเข้าใจผมเหมือนรุ่นพี่เธอคนนั้นบ้าง ทำไมไม่คิดจะปรับตัวเข้าหากัน หรือว่าจริงๆแล้วเราไม่เคยรักกันจริงๆเลย
ผมยอมรับครับว่าผมมองเห็นความแตกต่างของผญ. 2 คนนี้ ด้วยวัยที่เค้าต่างกัน ความคิดก็แตกต่างกันครับ มันทำให้ผมเลือกที่จะจบและเดินออกมาจากแฟนผมครับ
หลังจากที่เลิกกับแฟนนะครับ..ผมก็เคยขอคำปรึกษาจากรุ่นพี่คนนั้นนะครับถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พี่เค้าก็แนะนำให้กลับไปคืนดีกันนะครับเห็นว่าเราคบกันมานานแต่ความรุ้สึกผมเปลี่ยนไปแล้วจริงๆครับ
ผมเริ่มรุ้สึกดีเวลาคุยกับรุ่นพี่คนนี้ รุ้สึกสบายใจ อยากจะพูด อยากจะบอกเล่าทุกอย่างที่ผมพบเจอมาครับ ผมก็เลยหาโอกาสปรึกษาเรื่องงานกับเรื่องครอบครัวผมอยู่บ่อยๆครับ ใช่ครับผมรุ้สึกดีกับพี่เค้าครับ แต่ด้วยความที่พี่เค้าอายุห่างจากผมเยอะมากครับ เค้าก็ปฏิเสธความรุ้สึกของผมมาตลอด
หลังจากที่ผมเลิกกับแฟนมาได้สักระยะนึงแล้ว ผมพยายามที่จะขอโอกาสเจอพูดคุย กินข้าวกับรุ่นพี่คนนี้ครับ แต่พี่เค้าก็ไม่เคยรับนัดผมเลยสักครั้งครับ เพราะพี่เค้าก็ยังคงทำงานที่เดียวกับแฟนเก่าของผมครับ และก็ปฏิเสธผมมาตลอด แต่ผมก็ไม่เลิกล้มความคิดที่จะเดินหน้าจีบพี่เค้านะครับ ก็ยังคงพยายามหาเรื่องไปปรึกษาเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไปปีกว่านะครับ วันนึงพี่เค้าเริ่มใจอ่อนยอมให้ผมมาเจอครับ
แล้วปัญหาก็เกิด เมื่อแฟนเก่าผมรุ้ครับว่าผมมาเจอพี่เค้า
จนถึงวันนี้ผมกับแฟนเก่าเลิกกันมาปีกว่าแล้วครับ ผมได้รุ้ข่าวว่าแฟนเก่าผมก็มีผู้ชายคนใหม่ไปตั้งนานแล้วครับ แต่ด้วยความที่เธอไม่เคยมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร และยังเป็นนักเลงคีย์บอร์ดคือเก่งตอนที่มีอุปกรณ์ในมืออะครับ เธอไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวระหว่างผมกับรุ่นพี่คนนี้เลยว่ากว่าจะมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ผมต้องผ่านอะไรมาบ้าง เธอเลือกที่จะทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของคนอื่นด้วยสื่อโซเชียลมีเดียครับ พยายามจับแพะชนแกะและว่ากล่าวคนอื่นเสียๆหายๆครับ ผมรุ้ความจริงข้อนี้ดีครับว่าแฟนเก่าผมเป็นคนที่น่ากลัวครับ ..เธอไม่เคยคิดว่าที่เราต้องเลิกกันเป็นเพราะเรา2คนเองหรือเปล่าครับ เธอโยนความผิดให้รุ่นพี่คนนั้นว่ามาแย่งผมไป ทั้งที่เรื่องของผมกับเธอจบกันมาปีกว่าแล้วนะครับ ...ผมมีความคิด มีสมองนะครับเวลาจะคบกับใคร ต่อให้ไม่มีใครผมก็บอกได้เลยครับว่าผมกับเธอต้องเลิกกันอยู่แล้วก็เพราะที่เธอเป็นแบบนี้
ถ้าเรื่องของคุณ จขกท คล้ายๆกับเรื่องราวของผม ลองมองต่างมุมดูสิครับ แล้วก็ย้อนกลับมาดูตัวเองนิดนึงนะครับว่า ที่เค้าเลือกที่จะทิ้งคุณแล้วเดินออกไปหาคนอื่น เพราะคุณเองไม่ดีพอหรือเปล่าครับ
แสดงความคิดเห็น
เมื่อเราไปเจอความจริงในกล้องวงจรปิด ที่เห็นแฟนเราและ...***
.. เกิดขึ้นกับตัวเองและเรื่องที่กำลังจะเล่ามันเกิดขึ้นจริงๆเกินที่จะรับไหว
เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ ...
เราคบกับแฟนมา 7 ปี คบกับตั้งแต่เรียน ม.ปลาย จนกระทั่งเรียนจบ จนถึงวัยทำงาน
ทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ในการคบกันของเราค่ะ จนถึงขนาดที่จะนัดให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายมาเจอกันเพื่อคุยกันเรื่องหมันหมายและแต่งงาน
ต้องบอกก่อนว่าเราก็รักกัน ทะเลาะกัน เหมือนคู่อื่นๆกันแหละค่ะก็เรื่องปกติทะเลาะกันเรื่องเล็กๆน้อยๆ
เราเรียนจบก่อนแฟนเรา 1 ปี ในช่วงนี้เราก็ยังทำงานอยู่ที่เก่าจนแฟนเราเรียนจบ
เราก็เปลี่ยนงานมาทำงานโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิทใจกลางเมืองใกล้ห้างชื่อดัง
เราทำงานในส่วนของออฟฟิตโรงแรมแห่งนี้ ทุกอย่างก็ไปได้สวยทั้งงานทั้งความรัก
จนกระทั่ง ... แฟนเราเริ่มทำงาน เริ่มมารับมาส่งเราทุกวัน
เริ่มเข้าออกที่ทำงานเราจนทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี ถึงขนาดที่ว่าสามารถเข้ามานั่งเล่นในออฟฟิตเราได้
เวลามีกินเลี้ยงกันที่ออฟฟิตแฟนเราก็จะไปด้วยกันทุกครั้ง เพราะเราก็สนิทกันกับผู้จัดการแผนกของเรา
จากนั้นไม่นานความสัมพันธ์ระหว่างเรากับแฟนก็เริ่มแย่ลง
เค้าชวนทะเลาะ บอกว่าเหนื่อยที่จะมารับไม่อยากเจอบ้างอะไรบ้างต่างๆนานา
จากที่วันหยุดเราจะไปดูหนังหรือกินข้าวกันก็กลายเป็นว่าเหนื่อยอยากพักอยากอยู่บ้านเล่นเกมไม่อยากไปไหน
และแล้วไม่นานเรากับแฟนก็เลิกกัน โดยเค้าให้เหตุผลในไลน์ว่าเค้าเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว
เราก็พยามหาเหตุผลว่าทำไมกันนะ ? เพราะอะไรกันแน่ ? หรือมีคนอื่น ?
ด้วยความที่เสียใจมากถึงขั้นร้องไห้แม้กระทั่งตอนที่ทำงาน
แต่ก็ยังดีนะ ที่พี่ๆที่ทำงานคอยปลอบและให้กำลังใจโดยเฉพาะ ผู้จัดการแผนก
ถือว่าผู้จัดการรู้ใจและรับรู้เรื่องราวระหว่างเราและแฟนมาโดยตลอด
ผู้จัดการแนะนำให้เรา unfriend facebook, block line, unfollow ig แฟนเรา โดยให้เหตุผลว่าแกจะได้ไม่ต้องไปเห็นมัน
ถ้าวันนึงมันมีแฟนใหม่แกจะรับได้หรอ แต่เราก็ไม่ได้ทำตามนะเพราะก็รู้สึกว่าเลิกกันก็ยังเป็นเพื่อนกันได้
เราไม่เคยคิดเลยว่า ผู้จัดการ จะทำกับเราแบบนี้ ....
ผู้จัดการแผนกเราเป็นผู้หญิงอายุราว 40 ปี เคยมีแฟนแต่เลิกกันมานานมากแล้ว
เริ่มที่จะชวนพวกเราในแผนกไปเลี้ยงข้าวรวมถึงให้เราชวนแฟนเราไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าเวลากลับดึกเราจะได้มีแฟนเราไปส่งไม่อันตราย
ตอนนั้นก็โอเคค่ะไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ความสนิทระหว่างแฟนเรากับผู้จัดการเริ่มเกินความพอดี
ช่วงหลังๆที่แฟนเราเข้ามารอในออฟฟิตจากที่ปกติเค้าจะมานั่งโต๊ะข้างๆเรา กลับกลายเป็นว่าเข้ามาถึงก็ไปนั่งข้างผู้จัดการ
ไปกระเซ้าเย้าแหย่กัน จนเราก็แอบคิดนะว่าเอ๊ะมันยังไง แต่ก็นั่นแหละค่ะใครจะไปคิดเนอะคนอายุ 40 แล้วเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ห่างกับเราและแฟนตั้ง 14 ปี (เรากับแฟนอายุเท่ากันค่ะ) จะมาคิดอะไรกับแฟนเราก็อย่างที่บอกแหละค่ะเค้าเป็นที่ปรึกษาที่ดีมาก
ผู้จัดการก็เริ่มที่จะชวนแฟนเราเล่นเกมโดยเล่นเป็นกรุ๊ปมีอะไรก็ช่วยเหลือกันในเกม
จนเราไม่เคยรู้เลยว่าเค้าทั้งสองคนแลกไลน์กันตอนไหน ทั้งๆที่เราก็อยู่กับเค้าตลอดในช่วงที่อยู่ในออฟฟิต
(ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่เราทำงานแฟนทำงานก็ไม่เคยที่จะเช็คมือถือของแฟน เพราะเราไว้ใจ)
มารู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าเป็นเพื่อนกันใน facebook อีกซะด้วย
ผ่านมาสักระยะเราเริ่มสังเกตุท่าที่ของผู้จัดการว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป
เพื่อนร่วมงานเริ่มแซวว่าผู้จัดการมีความรักกับเด็ก เราก็ตะหงิดๆแต่ก็ไม่ได้อะไรก็ยังไปดีใจกับเค้าอีก
แต่เป็นความรักที่เป็นความลับ อันนี้เราก็งงว่าทำไมถึงไม่เปิดตัวหล่ะ
และในเมื่อเรากับผู้จัดการก็สนิทกันแต่เราไม่เคยแม้กระทั่งเห็นหน้าแฟนของเค้าหรือรู้ชื่อเลย
ตั้งแต่ผู้จัดการมีแฟนก็เริ่มทำตัวห่างกับเราไป ทำตัวเหมือนมีความลับอะไรแบบนั้นแหละ
ที่สุดแล้วสิ่งที่เราตามหาคำตอบมาตลอดก็ได้มาเจอ...เหมือนราวกับว่าเราค่อยๆต่อจิ๊กซอว์ในส่วนที่เหลือแบบนั้นเลย
เช่น facebook ที่ unfriend เรา แต่แปลกนะที่เหลือผู้จัดการเราไว้ และส่วนเพื่อนแฟนก่าที่รู้จักเราแฟนเก่าก็ unfriend เพื่อนเค้าหมด
ทำไมเราถึงรู้ว่าเค้า unfriend หนะหรอ เพราะมีวันนึงผู้จัดการมาถามว่าเราหน่ะ ทำตามที่เค้าเคยบอกหรือยัง
เราก็ตอบไปตรงๆว่ายังค่ะ ผู้จัดการก็พูดสวนขึ้นมาว่า หรอ ระวังมันจะ unfriend นะแกหลังจากนั้นแฟนเก่าเราก็เริ่มที่จะ block เราในทุกๆทาง
จนกระทั่งมีเหตุบังเอิญวันนึงลูกค้าทำกระเป๋าตังตกที่จอดรถชั้นใต้ดินของโรงแรม
เราจึงต้องไปช่วยกันดูกล้องวงจรปิด สิ่งที่เราเห็นในกล้องคือ ผู้จัดการเราซ้อนมอเตอร์ไซด์กอดเอวกับแฟนเก่าเราเข้ามาที่จอดรถชั้นใต้ดินของโรงแรม
แล้วเค้าทั้งคู่ก็เดินหายเข้าไปในรถยนต์ของผู้จัดการไปครึ่งชั่วโมง เราอึ้งมือเย็นและสั่นไปหมดไม่คิดว่าเค้าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้
โดยที่จริงแล้วคนทั้งโรงแรมตั้งแต่หน้าประตูยันออฟฟิตเค้ารับรู้เรื่องราวเหล่านี้มานานมากแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าที่จะมาเล่าหรือมาพูดให้เราฟัง
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกอาทิตย์อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในทุกๆวันหยุดประจำสัปดาห์ของเรา
คนทั้งโรงแรมเอือมระอากับพฤติกรรมของผู้จัดการคนนี้
เรารู้สึกเสียใจมากที่สุด...
ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เรารักและเคารพมากจะทำกับเราแบบนี้ทั้งสองคน
เหมือนกับว่าเอามีดมาแทงข้างหลังเราไม่พอยังโยกมีดไปมาให้แผลมันลึกไปอีกเจ็บซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
ยิ่งย้อนนึกถึงวันที่เราไปปรึกษาและวันที่เราร้องไห้ เรายิ่งรู้สึกเจ็บมากกว่าเดิมหลายเท่า
แค่คนที่เรารักหักหลังเราก็เจ็บมากพอแล้ว
คนที่เราเคารพมาทำแบบนี้กับเราอีกลองคิดดูว่าจะเจ็บมากแค่ไหน