เขียนเล่าประสบการณ์ การผ่าตัfแก้ไขปัญหาสายตาสั้นจ้า
เราคิดอยากทำ Lasik มา 2-3 ปีแล้ว แต่ตอนนั้นยกเลิกความคิดไปเพราะเจอบทความเกี่ยวกับผลกระทบที่แย่มากๆ ถึงขั้นตาบอดของกลุ่มคนที่เจอปัญหา เลยกลัวขึ้นมา
ด้วยเนื้องาน เราจำเป็นต้องแต่งหน้า แล้วต้องใส่คอนแทคเลนส์ เรามีปัญหาตาแห้ง ใส่นานแล้วตาแห้งมาก ถอดมาตาแดง แม้จะใส่แบบรายวันก็ตาม
ส่วนแว่น ไม่รู้ทำไมมันพังบ่อยมากๆ ตกกลางถนน รถเหยียบกระจาย อันสำรองก็ลืมไว้ที่อื่น ตัดมาใหม่ ใส่ไปขาแว่นก็หัก
พอโควิดมา มีเวลาเยอะ เลยอ่ะ ปีนึงเปลี่ยนแว่นสามอัน อันละ สามพัน คอนแทคเลนส์ก็เดือนละเป็นพัน เอาเงินไปทำเลสิกละกัน เราก็เริ่มศึกษาใหม่
เลยได้วิธีแบบ Trans PRK มา ที่อยากทำอันนี้เพราะไม่ต้องมากลัวปัญหาเรื่อง Flap complications แค่ใช้เวลารักษาตัวนานกว่า เลสิกมาก
เรามีเวลาพักฟื้นหลายเดือน ว่าง เลยแน่วแน่ละว่าทำ Trans PRK ก็หา โรงพยาบาลที่มี วิธี Trans PRK เพราะมันหายเร็วกว่า PRK แบบปกติ (อ้างอิงจากบทความที่เราหาอ่าน) โรงพยาบาลที่เราสนใจคือ โรงพยาบาลปิยะเวท คุณหมอตุลยา แต่ติดเรื่องโควิด เลยไม่ได้ไป พอนัดอีกรอบ ศูนย์เลสิกที่ รพ.ปิยะเวชปิดปรับปรุง เลยถาม โรงพยาบาลเวชธานี เพราะราคาถูกดี แต่คุณหมอที่อยากทำด้วยไม่เข้าตรวจที่นี่แล้ว เลยจองตรวจโรงพยาบาลกลางแทน เราไม่ระบุคุณหมอ เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าคุณหมอเก่งทุกคน เราได้คุณหมอจิรพล ก็นัดไปตรวจ แต่สายตาเราสั้นบวกเอียงค่อนข้างไปทางกลางถึงมาก คุณหมอถามเหตุผลว่าทำไมอยากทำ PRK เพราะน้อยคนที่จะอยากทำวิธีนี้ เราเลยบอกว่า ไม่อยากมีแผลที่กระจกตา ไม่อยากมี flap คุณหมอก็บอกข้อเสียมาว่า ไม่แนะนำให้ทำแบบ PRK เพราะเราเสี่ยงต่อการเป็นฝ้าที่กระจกตา ถ้าเราสั้น ไม่เกิน 300 คุณหมอไม่ขัด แต่เราสั้นค่อนข้างเยอะ คุณหมอเลยแนะนำ Femto Lasik มากกว่า เราก็ยังอยากทำ PRK อยู่ดี คุณหมอก็บอกว่าถ้ายังยืนยันจะทำก็ทำให้ได้ แต่ยังมีเวลาให้เปลี่ยนใจ เพราะเรากะเข้ามาทำอาทิตย์หน้า
กลับมาเราก็หาข้อมูล ถามคุณหมออนุวัตร โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก (คนที่เราเคยอยากทำด้วยที่ รพ.เวชธานี) ผ่านเพจเฟซบุค บอกค่าสายตาคุณหมอไป คุณหมอก็ไม่แนะนำให้ทำ PRK ให้พิจารณาวิธีอื่น
เราก็นัดตรวจ รพ.ยันฮี กับคุณหมอเกรียงไกร เพราะเพื่อนเราทำกับคุณหมอหลายคน พอไปตรวจ พบคุณหมอ คุณหมอก็บอกเราทำ Lasik ได้ เราเลยแยบถาม ว่าถ้าเป็น Trans PRK ทำได้ไหม คุณหมอก็บอกว่าไม่มีปัญหา เราเลยถามว่า แล้วจะมีปัญหาฝ้าที่กระจกตาไหม คุณหมอบอกมียาหยอดตอนผ่าตัดที่ลดปัญหานี้ ถึงมีก็ไม่รบกวนการมองเห็น ส่องกล้องถึงจะเห็น เราก็โอเค มีคุณหมอที่สามารถทำให้ได้ แต่ก็กลับไปหาข้อมูลเพิ่ม
เราอ่านเพิ่มเรื่อง ค่าสายตาปานกลางกับการทำ TransPRK ซึ่ง ถ้าค่าสายตาน้อยมีความเสี่ยงเป็นฝ้า 1% ถ้าปานกลางถึงมาก -600 ขึ้น โอกาสเสี่ยงก็เพิ่มไปอีกเท่าตัว คือ 2% แม้จะมียาที่หยอดตอนทำแล้วลดความเสี่ยงนี้ให้ต่ำกว่า 1% แต่ก็มีผลวิจัยบอกมาว่า ยังไม่มีการศึกษาผลข้างเคียงของยาตัวนี้มากพอ จึงควรระวังเรื่องการใช้ เราก็เลย อะ เก็บไว้พิจารณา อีกทั้ง หลังทำก็ต้องเลี่ยงแดด ใส่แว่นกันแดด อย่างน้อย 6 เดือน
เราหาข้อมูลด้าน Femto Lasik เพิ่ม เพื่อเปรียบเทียบ เราตัด Relex Smile ทิ้ง เพราะแม้มันจะดูดีมากๆๆๆ แต่ ค่าทำสูง และสอง สำคัญมากๆ มันเพิ่งผ่าน FDA มาไม่นานมาก เราเลยไม่กล้าเสี่ยง
ส่วน Lasik ที่เรากลัวเรื่อง Flap เปิด มากๆๆๆ พอหาอ่านเพิ่ม มีเคสที่รายงานปัญหานี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ทำ หมอก็ยืนยัน อีกทั้ง พอเจอว่า NASA, US Air Force อนุญาต ให้นักบินทำเลสิกได้ เราเลยมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งเราอ่านการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการทำ Femto Lasik กับ Trans PRK ในคนที่สายตาสั้นปานกลาง ในระยะสั้น เฟมโตหายเร็วกว่า ภาพชัดมากกว่า แต่ในระยะยาวแบบ 10 ปี Trans PRK ให้คุณภาพการมองเห็นดีกว่า เสถียรกว่า แต่เราไม่กล้าเสี่ยงเรื่องฝ้า ระยะเวลาการดูแลที่ต้องเลี่ยงแสง บวกกับแทบไม่มีคุณหมอท่านไหนโอเคเลย เลยอะ Femto LASIK วิธีนี้ละกัน
เป็นความเสี่ยงที่กล้ายอมรับ
เลยโทรไปเลื่อนนัด และเปลี่ยนแผนกับ โรงพยาบาลกลาง เพราะตอนเดือนกุมพา รพ.กลาง ยังจ่ายบัตรเครดิตไม่ได้ รอเดือน มีนา ไหนๆก็ทำเลสิก พักฟื้นไม่นาน ไม่รีบ สุดท้ายมีนา ก็ยังใช้บัตรไม่ได้ เราเลยหา รพ.อื่น แทน
กะไปทำกับหมอ อนุวัตร รพ. หู ตา คอ จมูก แต่ รพ.แอบไกลจากที่พัก ไม่สะดวก ตอนไป follow up
ไปเจอ รพ.พระราม 9 ใกล้ที่พัก เพิ่งเปิดศูนย์เลสิกใหม่ มีโปร 59,000 ค่าตรวจประเมินฟรี ค่ายา ค่าตรวจเช็คหลังทำฟรี มีคุณหมอมีชื่อเสียงหลายคนให้เลือก ใครอยากทำลองเข้าไปตรวจได้เลยนะคะ ถ้าไม่ทำก็กลับบ้าน แค่ไลค์กับช่วยโปรโมทให้คุณหมอกับโรงพยาบาลก็พอ ^^
ตอนแรกว่าจะทำกับคุณหมอตุลยา แต่อยากให้โอกาสเชื่อมือคุณหมอที่เด็กกว่ามากกว่า เจอคุณหมอเอ๋ย ฉันทกา พอดี คุณหมอเข้าตรวจอยู่หลายที่
เลยทักไปสอบถาม คุณหมอตอบดี เลยนัดตรวจกับคุณหมอ ไม่ผิดหวัง คุณหมอใจดี อธิบายเคลียร์ เป็นกันเอง ให้ขนมกินด้วย พายอร่อยมากค่ะ
ช่วงเช้าเข้าตรวจ พบคุณหมอ ถ้าทำเลยก็ไปจ่ายเงิน พักกินข้าว เราได้ทำช่วงเกทอบหกโมงเย็น ตอนรอทำพี่ๆพยาบาลก็มาอธิบายการดูแลตัวเอง ตอนทำพี่ๆก็อธิบาย ใจดี ไม่น่ากลัว ไม่เจ็บ เกร็งๆ กลัวมองไม่ตรงจุดเขียว ทำเสร็จก็ชิวๆ มีพี่พยาบาลหยอดตาปิดที่ปิดตาให้ เรียกรถเข็นมารับไปส่งขึ้นรถ ทำไปพักใหญ่ๆ ตาเริ่มแห้งๆ ตาเริ่มลืมไม่ได้เพราะหนังตามันติดกับตา เลยรีบอาบน้ำกินข้าว กินยานอนหลับนอน หกชั่วโมงรวด ตื่นมาเที่ยงคืน กินยานอนหลับอีกเม็ด ตื่นมาเช้า เช็ดตา หยอดตา ไปตรวจตา วัดค่าสายตา แล้วพบคุณหมอตรวจเซ็คแผล ตื่นมาตาก็เห็นชัดแบบใช้ชีวิตได้ แต่มีเคืองนิดๆเหมือนกรวดอยู่ในตา คุณหมอแนะนำให้หยอดตาทุกๆ หนึ่ง ชม. อาการจะดีขึ้น พอ ตอนนี้ครบ 24 ชม. ตาหายเคืองแล้ว
ส่วนโรงพยาบาลพระราม 9 ตึก B น่าจะเพิ่งสร้างใหม่ สวย สะอาดมากๆ ใหญ่ เจ้าหน้าที่ พยายาลน่ารักมากๆๆ ดูแลดีเป็นระบบค่ะ ประทับใจมากๆ
หลังจากเข้าไปตรวจมา 3 โรงพยาบาล ตามประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้รับ
โรงพยาบาลพระราม 9 ประทับใจความใหม่และหรูสุดค่ะ คุ้มราคาเว่อๆ แต่เราไม่ได้ทดสอบปริมาณน้ำตา ที่เอากระดาษสอดล่างเบ้าตา กับที่เอาเครื่องมือจิ้มตาเพื่อวัดอะไรสักอย่าง พนักงานและพี่พยาบาลน่ารักดูแลดีมากๆๆๆ มีคุณหมอเก่งๆให้เลือกหลายท่าน
โรงพยาบาลกลาง ก็สะอาด เครื่องมือครบคัน พี่ๆพยาบาลใส่ใจรายละเอียดมากๆ ดูเป็นกันเอง ได้ทำครบทุกขั้นตอนการตรวจ ศูนย์เลสิก แยกออกมาชั้น 16 สะดวกมาก ราคาถูกสุด และมาตราฐานดีมาก มีคุณหมอเก่งๆให้เลือกหลายท่าน
โรงพยาบาลยันฮี เป็นระบบดีค่ะ แต่ทุกอย่างดูรีบ คนไข้เยอะ เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยละเอียด เราไม่ได้ทดสอบปริมาณน้ำตาที่เอากระดาษสอดล่างเบ้าตา แต่ได้วัดที่เอาเครื่องมือจิ้มลูกตา แล้วก็มีแค่ 3 วิธี คือ PRK, Trans PRK, LASIK แต่แน่นอนว่าคุณหมอมีปะสบการณ์มาก
คนที่จะทำควรศึกษาผลเสียไว้ด้วยนะคะ ถ้ายอมรับได้ก็ทำเลยจ้าา ไม่ง้อคอนแทคเลนส์และแว่นแล้ว
อยากทำ Trans PRK สุดท้ายได้ทำ Femto Lasik
เราคิดอยากทำ Lasik มา 2-3 ปีแล้ว แต่ตอนนั้นยกเลิกความคิดไปเพราะเจอบทความเกี่ยวกับผลกระทบที่แย่มากๆ ถึงขั้นตาบอดของกลุ่มคนที่เจอปัญหา เลยกลัวขึ้นมา
ด้วยเนื้องาน เราจำเป็นต้องแต่งหน้า แล้วต้องใส่คอนแทคเลนส์ เรามีปัญหาตาแห้ง ใส่นานแล้วตาแห้งมาก ถอดมาตาแดง แม้จะใส่แบบรายวันก็ตาม
ส่วนแว่น ไม่รู้ทำไมมันพังบ่อยมากๆ ตกกลางถนน รถเหยียบกระจาย อันสำรองก็ลืมไว้ที่อื่น ตัดมาใหม่ ใส่ไปขาแว่นก็หัก
พอโควิดมา มีเวลาเยอะ เลยอ่ะ ปีนึงเปลี่ยนแว่นสามอัน อันละ สามพัน คอนแทคเลนส์ก็เดือนละเป็นพัน เอาเงินไปทำเลสิกละกัน เราก็เริ่มศึกษาใหม่
เลยได้วิธีแบบ Trans PRK มา ที่อยากทำอันนี้เพราะไม่ต้องมากลัวปัญหาเรื่อง Flap complications แค่ใช้เวลารักษาตัวนานกว่า เลสิกมาก
เรามีเวลาพักฟื้นหลายเดือน ว่าง เลยแน่วแน่ละว่าทำ Trans PRK ก็หา โรงพยาบาลที่มี วิธี Trans PRK เพราะมันหายเร็วกว่า PRK แบบปกติ (อ้างอิงจากบทความที่เราหาอ่าน) โรงพยาบาลที่เราสนใจคือ โรงพยาบาลปิยะเวท คุณหมอตุลยา แต่ติดเรื่องโควิด เลยไม่ได้ไป พอนัดอีกรอบ ศูนย์เลสิกที่ รพ.ปิยะเวชปิดปรับปรุง เลยถาม โรงพยาบาลเวชธานี เพราะราคาถูกดี แต่คุณหมอที่อยากทำด้วยไม่เข้าตรวจที่นี่แล้ว เลยจองตรวจโรงพยาบาลกลางแทน เราไม่ระบุคุณหมอ เพราะค่อนข้างมั่นใจว่าคุณหมอเก่งทุกคน เราได้คุณหมอจิรพล ก็นัดไปตรวจ แต่สายตาเราสั้นบวกเอียงค่อนข้างไปทางกลางถึงมาก คุณหมอถามเหตุผลว่าทำไมอยากทำ PRK เพราะน้อยคนที่จะอยากทำวิธีนี้ เราเลยบอกว่า ไม่อยากมีแผลที่กระจกตา ไม่อยากมี flap คุณหมอก็บอกข้อเสียมาว่า ไม่แนะนำให้ทำแบบ PRK เพราะเราเสี่ยงต่อการเป็นฝ้าที่กระจกตา ถ้าเราสั้น ไม่เกิน 300 คุณหมอไม่ขัด แต่เราสั้นค่อนข้างเยอะ คุณหมอเลยแนะนำ Femto Lasik มากกว่า เราก็ยังอยากทำ PRK อยู่ดี คุณหมอก็บอกว่าถ้ายังยืนยันจะทำก็ทำให้ได้ แต่ยังมีเวลาให้เปลี่ยนใจ เพราะเรากะเข้ามาทำอาทิตย์หน้า
กลับมาเราก็หาข้อมูล ถามคุณหมออนุวัตร โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก (คนที่เราเคยอยากทำด้วยที่ รพ.เวชธานี) ผ่านเพจเฟซบุค บอกค่าสายตาคุณหมอไป คุณหมอก็ไม่แนะนำให้ทำ PRK ให้พิจารณาวิธีอื่น
เราก็นัดตรวจ รพ.ยันฮี กับคุณหมอเกรียงไกร เพราะเพื่อนเราทำกับคุณหมอหลายคน พอไปตรวจ พบคุณหมอ คุณหมอก็บอกเราทำ Lasik ได้ เราเลยแยบถาม ว่าถ้าเป็น Trans PRK ทำได้ไหม คุณหมอก็บอกว่าไม่มีปัญหา เราเลยถามว่า แล้วจะมีปัญหาฝ้าที่กระจกตาไหม คุณหมอบอกมียาหยอดตอนผ่าตัดที่ลดปัญหานี้ ถึงมีก็ไม่รบกวนการมองเห็น ส่องกล้องถึงจะเห็น เราก็โอเค มีคุณหมอที่สามารถทำให้ได้ แต่ก็กลับไปหาข้อมูลเพิ่ม
เราอ่านเพิ่มเรื่อง ค่าสายตาปานกลางกับการทำ TransPRK ซึ่ง ถ้าค่าสายตาน้อยมีความเสี่ยงเป็นฝ้า 1% ถ้าปานกลางถึงมาก -600 ขึ้น โอกาสเสี่ยงก็เพิ่มไปอีกเท่าตัว คือ 2% แม้จะมียาที่หยอดตอนทำแล้วลดความเสี่ยงนี้ให้ต่ำกว่า 1% แต่ก็มีผลวิจัยบอกมาว่า ยังไม่มีการศึกษาผลข้างเคียงของยาตัวนี้มากพอ จึงควรระวังเรื่องการใช้ เราก็เลย อะ เก็บไว้พิจารณา อีกทั้ง หลังทำก็ต้องเลี่ยงแดด ใส่แว่นกันแดด อย่างน้อย 6 เดือน
เราหาข้อมูลด้าน Femto Lasik เพิ่ม เพื่อเปรียบเทียบ เราตัด Relex Smile ทิ้ง เพราะแม้มันจะดูดีมากๆๆๆ แต่ ค่าทำสูง และสอง สำคัญมากๆ มันเพิ่งผ่าน FDA มาไม่นานมาก เราเลยไม่กล้าเสี่ยง
ส่วน Lasik ที่เรากลัวเรื่อง Flap เปิด มากๆๆๆ พอหาอ่านเพิ่ม มีเคสที่รายงานปัญหานี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่ทำ หมอก็ยืนยัน อีกทั้ง พอเจอว่า NASA, US Air Force อนุญาต ให้นักบินทำเลสิกได้ เราเลยมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งเราอ่านการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการทำ Femto Lasik กับ Trans PRK ในคนที่สายตาสั้นปานกลาง ในระยะสั้น เฟมโตหายเร็วกว่า ภาพชัดมากกว่า แต่ในระยะยาวแบบ 10 ปี Trans PRK ให้คุณภาพการมองเห็นดีกว่า เสถียรกว่า แต่เราไม่กล้าเสี่ยงเรื่องฝ้า ระยะเวลาการดูแลที่ต้องเลี่ยงแสง บวกกับแทบไม่มีคุณหมอท่านไหนโอเคเลย เลยอะ Femto LASIK วิธีนี้ละกัน
เป็นความเสี่ยงที่กล้ายอมรับ
เลยโทรไปเลื่อนนัด และเปลี่ยนแผนกับ โรงพยาบาลกลาง เพราะตอนเดือนกุมพา รพ.กลาง ยังจ่ายบัตรเครดิตไม่ได้ รอเดือน มีนา ไหนๆก็ทำเลสิก พักฟื้นไม่นาน ไม่รีบ สุดท้ายมีนา ก็ยังใช้บัตรไม่ได้ เราเลยหา รพ.อื่น แทน
กะไปทำกับหมอ อนุวัตร รพ. หู ตา คอ จมูก แต่ รพ.แอบไกลจากที่พัก ไม่สะดวก ตอนไป follow up
ไปเจอ รพ.พระราม 9 ใกล้ที่พัก เพิ่งเปิดศูนย์เลสิกใหม่ มีโปร 59,000 ค่าตรวจประเมินฟรี ค่ายา ค่าตรวจเช็คหลังทำฟรี มีคุณหมอมีชื่อเสียงหลายคนให้เลือก ใครอยากทำลองเข้าไปตรวจได้เลยนะคะ ถ้าไม่ทำก็กลับบ้าน แค่ไลค์กับช่วยโปรโมทให้คุณหมอกับโรงพยาบาลก็พอ ^^
ตอนแรกว่าจะทำกับคุณหมอตุลยา แต่อยากให้โอกาสเชื่อมือคุณหมอที่เด็กกว่ามากกว่า เจอคุณหมอเอ๋ย ฉันทกา พอดี คุณหมอเข้าตรวจอยู่หลายที่
เลยทักไปสอบถาม คุณหมอตอบดี เลยนัดตรวจกับคุณหมอ ไม่ผิดหวัง คุณหมอใจดี อธิบายเคลียร์ เป็นกันเอง ให้ขนมกินด้วย พายอร่อยมากค่ะ
ช่วงเช้าเข้าตรวจ พบคุณหมอ ถ้าทำเลยก็ไปจ่ายเงิน พักกินข้าว เราได้ทำช่วงเกทอบหกโมงเย็น ตอนรอทำพี่ๆพยาบาลก็มาอธิบายการดูแลตัวเอง ตอนทำพี่ๆก็อธิบาย ใจดี ไม่น่ากลัว ไม่เจ็บ เกร็งๆ กลัวมองไม่ตรงจุดเขียว ทำเสร็จก็ชิวๆ มีพี่พยาบาลหยอดตาปิดที่ปิดตาให้ เรียกรถเข็นมารับไปส่งขึ้นรถ ทำไปพักใหญ่ๆ ตาเริ่มแห้งๆ ตาเริ่มลืมไม่ได้เพราะหนังตามันติดกับตา เลยรีบอาบน้ำกินข้าว กินยานอนหลับนอน หกชั่วโมงรวด ตื่นมาเที่ยงคืน กินยานอนหลับอีกเม็ด ตื่นมาเช้า เช็ดตา หยอดตา ไปตรวจตา วัดค่าสายตา แล้วพบคุณหมอตรวจเซ็คแผล ตื่นมาตาก็เห็นชัดแบบใช้ชีวิตได้ แต่มีเคืองนิดๆเหมือนกรวดอยู่ในตา คุณหมอแนะนำให้หยอดตาทุกๆ หนึ่ง ชม. อาการจะดีขึ้น พอ ตอนนี้ครบ 24 ชม. ตาหายเคืองแล้ว
ส่วนโรงพยาบาลพระราม 9 ตึก B น่าจะเพิ่งสร้างใหม่ สวย สะอาดมากๆ ใหญ่ เจ้าหน้าที่ พยายาลน่ารักมากๆๆ ดูแลดีเป็นระบบค่ะ ประทับใจมากๆ
หลังจากเข้าไปตรวจมา 3 โรงพยาบาล ตามประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้รับ
โรงพยาบาลพระราม 9 ประทับใจความใหม่และหรูสุดค่ะ คุ้มราคาเว่อๆ แต่เราไม่ได้ทดสอบปริมาณน้ำตา ที่เอากระดาษสอดล่างเบ้าตา กับที่เอาเครื่องมือจิ้มตาเพื่อวัดอะไรสักอย่าง พนักงานและพี่พยาบาลน่ารักดูแลดีมากๆๆๆ มีคุณหมอเก่งๆให้เลือกหลายท่าน
โรงพยาบาลกลาง ก็สะอาด เครื่องมือครบคัน พี่ๆพยาบาลใส่ใจรายละเอียดมากๆ ดูเป็นกันเอง ได้ทำครบทุกขั้นตอนการตรวจ ศูนย์เลสิก แยกออกมาชั้น 16 สะดวกมาก ราคาถูกสุด และมาตราฐานดีมาก มีคุณหมอเก่งๆให้เลือกหลายท่าน
โรงพยาบาลยันฮี เป็นระบบดีค่ะ แต่ทุกอย่างดูรีบ คนไข้เยอะ เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยละเอียด เราไม่ได้ทดสอบปริมาณน้ำตาที่เอากระดาษสอดล่างเบ้าตา แต่ได้วัดที่เอาเครื่องมือจิ้มลูกตา แล้วก็มีแค่ 3 วิธี คือ PRK, Trans PRK, LASIK แต่แน่นอนว่าคุณหมอมีปะสบการณ์มาก
คนที่จะทำควรศึกษาผลเสียไว้ด้วยนะคะ ถ้ายอมรับได้ก็ทำเลยจ้าา ไม่ง้อคอนแทคเลนส์และแว่นแล้ว