แชร์ประสบการณ์ PRK

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ซักเท่าไหร่ อาศัยเก็บข้อมูลอย่างเดียว  ผิดพลาดประการใด แนะนำด้วยนะคะ

จขกท.เป็นคนสายตาสั้นประมาณ 350 ค่ะ จากเดิมใส่ CL มาประมาณ 6 ปี จนรู้สึกว่าตาแห้งมากๆ
คือแห้งจนเวลาถอด CL แล้วมันดูดลูกตาอะค่ะ คือถอดออกยากมาก เลยต้องเปลี่ยนมาใส่แว่น
ซึ่งต้องบอกว่าไม่ชอบเลยจิงๆ จนวันนึงเจอข้อมูลว่าเราสามารถผ่าตัดรักษาอาการสายตาสั้น
ยาว เอียง ได้ด้วยวิธีการยิงเลเซอร์ ตอนนั้นหัวใจพองโตมากค่ะ เพราะรู้สึกว่าฉันจะไม่ต้องเป็น
ยายแว่นไปตลอดชีวิต ฮ่าฮ่าฮ่า ก็เลยเริ่มศึกษาข้อมูลมาเรื่อยๆ ทีแรกรู้จักแต่การทำ LASIK
และมุ่งมั่นมากว่าจะต้องทำ LASIK นี่แหละ แต่จากการอ่านกระทู้และศึกษาหาข้อมูลมากขึ้นค่ะ
เลยทำให้รู้ว่ามันไม่ได้มีเฉพาะวิธี LASIK นี่นา แต่มันยังมีการทำอีกวิธีนึงที่เรียกว่า PRK ซึ่งจาก
การดูวิธีการทำนั้นเหมือนจะน่ากลัว ตรงที่ต้องขูดเนื้อกระจกตาของเราออกแล้วถึงยิงเลเซอร์ลงไป
ต่างจาก LASIK ที่ฝานเปิดฝากระจกตา ยิงเลเซอร์ แล้วค่อยปิดกลับ มันดูชิลล์ซะเหลือเกิน ก็ตกลง
ปลงใจที่จะทำ LASIK แต่ๆๆ หลังจากศึกษาข้อมูลไปเรื่อย เราก็ต้องพบว่าการทำ LASIK กระจกตาที่ถูกเปิด
และปิดกลับลงไปนั้น ไม่ได้สมานกลับเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนเดิมอย่างที่เราเข้าในตอนแรก !!!!
บอกเลยว่าจิตตก กังวลมาก เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นเครียดเลยค่ะ จะทำ LASIK ก็กลัว
PRK ก็ไม่อยากโดนขูดผิวกระจกตา เอาไงดีหว่า ???? ระหว่างที่กำลังสับสน เราก็หาโรงพยาบาลที่จะทำไปด้วยนะคะ
จนมาเจอกระทู้รีวิว โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทีแรกต้องสารภาพเลยค่ะ ว่าสะดุดตาตรงที่ราคาค่อนข้างถูกกว่าที่อื่น
และจากกระทู้ที่รีวิวไว้ ผลหลังจากการทำก็ไม่มีอะไรที่ดูผิดปกติ เราก็เริ่มศึกษาที่นี่อย่างจริงจัง โดยค้นหารายชื่อแพทย์
และลองหาข้อมุลดูว่ามีอะไรผิดปกติมั๊ย จนเราคิดว่าที่นี่โอเคแล้วสำหรับเรา เลยตัดสินใจโทรไปสอบถาม
จนท.ที่คุยสายน่ารักค่ะ ยินดีตอบทุกคำถามที่เราอยากรู้ คุยกันอยู่นานก็ตัดสินใจนัดวันตรวจค่ะ

13/10/14 เราไปถึงรพ.ประมาณ 10 โมงเช้า (นัด 10.30 น.) พอทำประวัติเสร็จก็มานั่งรอตรวจซักแปบนึงค่ะ
มีการวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ตรวจวัดค่าสายตา วัดความดันลูกตา วัดค่า Wave Fornt (วัดค่าแสงกระจาย)
แล้วก็อะไรอีก 2-3 อย่าง แฮ่ จำไม่ได้อะค่ะ และต้องมีการหยอดยาขยายม่านตาด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นห้ามขับรถ
กลับเองค่ะ จากนั้นก็จะมีพี่พยาบาลมาคุยกะเราว่าเราอยากทำวิธีไหน คือ
LASIK,PRK, FEMTO เพราะตาเราสามารถทำได้ทุกวิธี (คนที่กระจกตาบางจะไม่สามารถทำ LASIK ได้ค่ะ)
เราก็คุยกับพี่พยาบาลคร่าวๆถึงวิธีการทำแต่ละแบบ จนได้พบคุณหมอ ก็เหมือนเดิมค่ะ คุณหมอให้เลือก
แล้วก็บอกข้อดี ข้อเสียของแต่ละวิธี และจากการหาข้อมูลมาเพิ่มเติม + กับการสอบถามคุณหมอ ทำให้เราตัดสินใจ
เลือกทำ PRK ค่ะ เหตุผลคือ
1. การทำ LASIK กระจกตาที่ถูกฝานแล้วปิดกลับลงไปนั้น ไม่ได้สมานเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนเดิม ถ้าเราถูกกระแทก
อย่างแรงที่ตา อาจทำให้กระจกตาเลื่อนหรือหลุดได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิด หรือไม่เกิด แต่เราอยากจะเซฟตรงนี้เอาไว้ก่อน
2. เครื่องเลเซอร์ที่ใช้เป็น Trans PRK No touch คุณหมออธิบายว่า เทคโนโลยีนี้จะทำให้เราเจ็บตัวน้อยกว่า PRK แบบปกติ
เพราะไม่มีเครื่องมือมาขูดผิดกระจกตาเรา แต่จะใช้เลเซอร์ยิงลงไปอย่างเดียว คุณหมอยังพูดขำๆว่าหมอแทบจะไม่ต้องใช้
ฝีมือเลยนะเนี่ย มันง่ายมากๆ ยิงๆๆ อย่างเดียวเลย
3. การทำ PRK เราจะได้กระจกตาอันใหม่ที่แข็งแรงและหลังจากแผลหายสนิทก็ไม่ต้องกลัวมันจะหลุดด้วยจ้า ^.^

18/10/14  วันขึ้นเขียง
พอไปถึงก็วัดค่าสายตาซ้ำอีกครั้งพอเสร็จก็ลงไปจ่ายเงิน แล้วก็ขึ้นมาเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดค่ะ ก่อนเข้าห้องผ่าตัดก็จะมี
พี่พยาบาลมาคุยให้ฟังคร่าวๆ ว่าในห้องผ่าตัดคุณหมอจะทำอะไรบ้าง บอกวิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแล้วก็จะคอยบอกเราว่า
ไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ต้องกังวล เพราะในห้องผ่าตัดไม่มีอะไรเลยยยยย แต่ตอนนั้นตื่นเต้นมากค่ะ มือไม้เย็นไปหมด คุณหมอก็แวะมาบอก
ว่าไม่ต้องตื่นเต้นน๊า แปบเดียวก็เสร็จแล้ว ....
บนเตียงผ่าตัดจะมีผ้าห่มให้ค่ะ เพราะแอร์เย็นมาก มีลูกบอลให้บีบ 2 ลูกเพื่อคลายความกังวล จากนั้นช่วงเวลาพีคที่สุดก็มาถึง
เริ่มทำข้างขวาก่อนค่ะ หลังจากหยอดยาชา คุณพยาบาลเอาเทปมาเก็บขนตา คุณหมอก็เอาที่ถ่างตามาใส่ แล้วคุณหมอก็บอกว่า
หมอจะยิงเลเซอร์แล้วนะคะ มองที่ไฟสีเขียวไว้ ... แล้วก็ จี๊ดดดดดดด เสียงเลเซอร์ดัง คุณผู้ช่วยก็นับถอยหลัง 20 วินาที 10 วินาที 5 4 3 2 1
พอสิ้นเสียงคุณผู้ช่วย เราก็รู้สึกโล่งขึ้นมาก เพราะมันไม่มีอะไรอย่างที่คุณหมอบอกจริงๆ จากนั้นคุณหมอก็ล้างตาค่ะ หยดน้ำใส่ตาเรา
แล้วก็จะมีเครื่องมือสีขาวๆมาป้ายๆที่ตา เราก็รู้สึกนะ แต่ไม่ได้เจ็บอะไร จากนั้นคุณหมอก็ใส่คอนแทคเลนส์ครอบไว้ เป็นอันเสร็จ 1 ข้าง
พอทำข้างซ้าย เราก็ชิลล์มากคุณหมอชมตลอดว่านิ่งมาก เก่งแบบนี้น่าจะทำ LASIK เราเลยบอกหมอไปว่า หนูกลัวใบมีดค่ะ ...
เรายิงข้างละ 35 วินาทีเองค่ะ ออกจากห้องผ่าตัด พี่พยาบาลก็เอายาแก้ปวดมาให้กินกันไว้ก่อนเลย 2 เม็ด แล้วก็แปะสก็อตเทป
ที่ครอบตาเพิ่มเติมให้จากในห้องผ่าตัดเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ...
ตอนนั้นก็จะมีอาการเคืองๆตานิดหน่อย แต่พอยาชาหมดฤทธิ์ โลกก็เปลี่ยน น้ำตาเราเริ่มไหล อย่างที่พี่
พยาบาลบอก แล้วก็เคืองตาตลอดเวลา คืนนั้นซัดยานอนหลับเลยค่ะ

-วันรุ่งขึ้น วันนี้เป็นวันที่ทรมานสุดๆ เพราะเคืองตามากๆ น้ำตาไหลตลอด ต้องนอนอย่างเดียวเลยค่ะ

-วันที่สอง น้ำตาไม่ไหลแล้วค่ะ เคืองตาน้อยลง ตามัวๆ แบบที่คุณหมอบอก เพราะกระจกตาเรากำลังสร้างใหม่

-วันที่สาม สี่ เคืองตาน้อยลงเรื่อยๆ ตายังมัวอยู่

-วันที่ห้า 23/10/14 คุณหมอนัดตรวจ
คุณหมอตรวจดูแผลแล้วก็ถอดคอนแทคเลนส์ให้ค่ะ ตามัวลงกว่าเดิมเล็กน้อย นัดตรวจอีก 1 เดือนค่ะ

นัดตรวจครบ 1 เดือน วัดค่าสายตาเหลือ -25 ทั้ง 2 ข้าง พอใจมากค่ะ เพราะมองเห็นชัดแจ่มแจ๋ว นัดตรวจอีกทีก็อีก 2 เดือนข้างหน้า

ตอนนี้ทำมาครบ 2 เดือนพอดีค่ะ ทุกอย่างปกติดี เวลาขับรถกลางคืนก็ไม่เจอแสงกระจายด้วย ดีใจมากกกกกก จะมีก็แต่อาการตาแห้ง
ก็อาศัยหยอดน้ำตาเทียมเอาค่ะ

จากการใช้บริการที่นี่ เราประทับใจค่ะ ทั้งตัวบุคคลากร การบริการที่ดี รวดเร็ว และราคาที่เอื้อมถึง (สำหรับคนงบน้อยอย่างเรา ^.^)

สำหรับเรา ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆค่ะ ไม่ต้องมาวุ่นวายกับแว่นสายตา ได้ใส่แว่นกันแดดที่ชอบ และที่สำคัญ เราชอบตัวเองเวลา
ที่ไม่ใส่แว่นมากกว่าค่ะ  

สุดท้ายหากใครที่คิดจะทำ เราอยากให้ศึกษาข้อมูลให้มากๆ เลือกสถานที่ เลือกคุณหมอที่คิดว่าโอเคที่สุดสำหรับตัวเองนะคะ

อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามหรือหลังไมค์มาได้นะคะ

ปล.ไม่ได้ลงชื่อสถานที่ กับราคา เพราะไม่แน่ใจว่าสามารถลงได้รึป่าวหนะคะ (มือใหม่หัดโพสต์) พาพันขอบคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่