เกริ่มก่อนว่าเราสายตาสั้นทั้งสองข้าง 850 และข้างซ้ายมีเอียงอีก 100
ใส่แว่น ไม่ได้ใส่คอนแท็กเลนส์ สุขภาพตาดี ไม่มีตาแห้ง หรือภาวะอื่นๆเลยนอกจากสายตาสั้น
ตอนนี้สายตาคงที่มา 3 ปีแล้วเลยตัดสินใจไปทำเลสิกดีกว่า

โจทย์คือ ต้องการที่ที่มีมารตฐาน หมอมีประสบการณ์ และแผลหายเร็ว 
หาข้อมูลนานมากหลายเดือน จนมีคนใกล้ตัวไปทำก่อน 55555 แล้วได้ผลดีนี้เลยตัดสินใจไปทำตาม

วิธีที่เลือกคือ
ReLEx SMILE (Refractive Lenticule Extraction, Small Incision Lenticule Extradition)
- แผลเล็ก ประมาณ 3 มม (คือกรีดข้างๆ ไม่ต้องกรีดเต็มวงเหมือนวิธีเลสิกอื่นๆ)
- ไม่ต้องทำการแยกชั้นกระจกตาเป็น flap เหมือนในวิธีเลสิกอื่นๆ (ReLEx SMILE คือภาพทางซ้าย สีฟ้าคือรอยผ่าตัด จะเห็นว่าเล็กกว่ามากถ้าเทียบกับการทำเลสิกภาพทางขวา)

- รบกวนกระจกตาน้อยที่สุด
- กระจกตาหลังผ่าตัดมีความแข็งแรงมากกว่าวิธี LASIK
- ไม่มีความเจ็บปวดระหว่างทำการผ่าตัด
- โอกาสเกิดภาวะแสงกระจายตอนกลางคืนน้อย

พอได้วิธีที่จะทำ ที่ที่จะไปทำ หมอที่เลือกแล้วก็โทรจองเลย
แจ้งวิธีที่จะทำ และชื่อหมอเลยค่ะ เดี๋ยวพอถึงหน้างานพยาบาลจะถามซ้ำอีกสองรอบว่าจะทำแบบไหน 

ขั้นที่ 1 ตรวจตา ประเมินว่าทำได้หรือไม่
แนะนำให้วันที่ไปตรวจตาหาเพื่อนไปด้วย หรือถ้าไปคนเดียวให้นั่ง Grab ไป
เพราะต้องหยอดยาขยายม่านตา จะขับรถ หรือมองอะไรไม่ค่อยเห็นหลังตรวจ
- วัดสายตา ตรวจสายตาแบบปกติ
- หยอดยาขยายม่านตา
- วัดสายตา และตรวจตาอีกรอบหลังหยอดยาขยายม่านตา
- ที่ที่เราไปทำ เค้ามีให้ดูวีดีโอ 30 นาที อธิบายขั้นตอน และความเสี่ยงหลังทำ ตอนดูเสร็จพูดตรงๆคือไม่อยากทำเลย ทำเราวิตกมาก แต่พอดูเสร็จจะมีพยาบาลเดินมาอธิบายขั้นตอนการทำโดยละเอียดอีกครั้ง และตอบคำถามคาใจที่เรากลัว ก็ทำให้สบายใจขึ้นมาได้นิดนึง
- เจอคุณหมอ ซึ่งหมอจะเอาข้อมูลการตรวจทั้งหมดมาวินิฉัยว่าเราทำได้หรือไม่ หรือทำไปแล้วจะมีโอกาสเห็นปกติ 100% ไหม ขึ้นอยู่กับสุขภาพลูกตาของเรา 
- ผลคือตาเราสุขภาพดีมาก กระจกตาดี ความดันตาดี ทุกอย่าง 10 10 10 ไปเลย
**มันจะมียาบางตัวที่ทานไม่ได้ก่อนผ่าตัด ฉะนั้นถ้ากินยาอะไรอยู่ควรแจ้งหมอให้หมดนะคะ**

ของที่แนะนำให้ซื้อก่อนทำเลสิก
1. แว่นตาดำ 2 อัน อันนึงเอาเข้มๆเลยเอาไว้เวลาออกไปข้างนอก แล้วก็อันนึงเทาๆเวลาใส่ในบ้านจะได้ไม่มืดมาก
2. คัตตอนบัต (เอาไว้เวลาเช็ดขึ้ตา เบาๆหรือเกาปลายตา หางตาเวลาคัน)
3. น้ำเกลือ (ปกติหมอจะสั่งให้อยู่แล้ว แต่เผื่อไม่พอซื้อมาเผื่อไว้เลยขวดใหญ่ๆ 2 ขวด)
4. สำลีก้อนใหญ่ๆเอาไว้เช็ดหน้า (สำลีเช็ดตาหมอจะสั่งมาให้อยู่แล้ว แต่ก้อนมันเล็ก เช็ดหน้าไม่สะใจ)
5. แผ่นแปะผม/แผ่นแปะไรผม ซื้อมาแปะไม่ให้ปอยผมหล่นลงตาเวลาอาบน้ำหรือนอน หรือเวลาใช้ชีวิตประจำวัน ไม่แนะนำที่คาดผมเพราะใส่นานๆแล้วเจ็บ 

ขึ้นที่ 2 วันผ่าตัด
แนะนำให้วันที่ไปผ่าหาเพื่อนไปด้วย หรือถ้าไปคนเดียวให้นั่ง Grab ไป
เพราะหลังผ่าจะมองไม่ค่อยเห็น
- ใส่เสื้อติดกระดุมไป (เพราะห้ามถอดใส่เสื้อแบบสวมหัวหลังจากผ่าตัด)
- ห้ามแต่งหน้า ทาครีมใดๆ 
- สระผมไปให้เรียบร้อยเพราะห้ามสระผม 3 วันหลังทำ
- พอไปถึงพยาบาลจะเอาเอกสารมาให้เซ็นก่อนเลย พวกความเสี่ยงต่างๆ ว่าเรารับทราบและจะไม่ฟ้อง รพ. ในกรณีที่ผลไม่เป็นอย่างที่หวัง อาจจะไม่ชัด 100% หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตอนอ่านคือใจเสียเหมือนกันนะ แต่ก็ต้องเซ็นไม่งั้นไม่ได้ทำ พยาบาลก็จะมานั่งอธิบายขั้นตอนการผ่าอีกรอบ พร้อมอธิบายวํธีดูแลตาหลังผ่าอย่างละเอียด (แนะนำให้จดเพิ่มเติมตอนเค้าอธิบายการดูแลไว้ด้วย เพราะบางอย่างที่เค้าบอกก็ไม่อยู่ในเอกสารที่เค้าให้กลับบ้านไปอ่าน จะได้ไม่งงทีหลังว่าทำอะไรได้ ไม่ได้บ้าง)
- ก่อนผ่าตัดมีพยาบาลมาหยอดยาชา ยาฆ่าเชื้อ ให้กินพาราและยาแก้วิตก 
- พอเข้าห้องผ่าตัดหมอจะคอยอธิบายทุกขึ้นตอนตั้งแต่เข้าห้องผ่าตัดไป
- สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือจังหวะที่เลเซอร์มันยิงใส่ตา(ภาพประกอบด้านล่าง) แล้วตาเราจะเริ่มมองไม่เห็นเป็นสีขาวด้านๆกลมๆบังการมองเห็น จังหวะนั้นเรากังวลมากแบบใจเต้นรัวๆเลย แต่ต้องพยายามตั้งสติให้อยู่นิ่งๆ พอหมอผ่าเอาส่วนขาวๆออกจากตาก็มองเห็นปกติ 

(เริ่มมองเห็นหลังจากหมอดึงเอาแผ่นขาวๆนั้นออก)

- จริงๆ เราจะขยับไม่ได้ เพราะเครื่องมันจะดูดลูกตาเราไว้ให้อยู่กับที่เลย (ไม่เจ็บนะ) ฉะนั้นคนที่กังวลว่าจะขยับตาแล้วเลเซอร์ยิงผิดโอกาสเป็นไปได้น้อยมากๆ เพราะลูกตาเราถูกเครื่องดูดเอาไว้ หมอก็จับล็อกหัวเอาไว้ด้วย ขยับอะไรไม่ได้ 
- ขั้นตอนการทำทั้งหมด ไม่เจ็บ เจ็บสุดคือตอนดึงเทปกาวที่แปะออก
- ตอนผ่าตัดทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากจริงๆ 

อาการหลังผ่า
การมองเห็นหลังผ่าทันที จะเป็นประมาณนี้ คือมองอะไรยังไม่ค่อยชัด แสงกระจาย โฟกัสไม่ได้ (แต่ละคนอาการไม่เหมือนกัน) ภาพจะเป็นประมาณรูปด่านล่าง
 
- หลังทำเรายังมองไม่เห็นอะไรมาก มันยังเบลอๆชัดๆสลับแบบงงๆ แต่ที่แน่ๆ แสบตากับความสว่างรอบคัว
- หลังจากกลับจากรพ. เรานอนหลับตาบ้าง ดูทีวีบ้าง เบื่อมากๆเลยนอนหลับตาฟังเพลงยาวๆไปเลย **ห้ามเล่นมือถือ**

การมองเห็นหลังผ่าในเช้าวันถัดมา (วันที่ 2)
- ตื่นมาเจ็บตามากๆ เพราะตาแห้งไม่ไหว เหมือนมีทรายในตา
- วันนี้ต้องไปหาหมอ ถอดฝาครอบตาไปได้เลย
- เราต้องใส่แว่นดำเพราะมีอาการแพ้แสงแบบหนักมาก แสงอาทิตย์คือสว่างไม่ไหวแบบรูปด้านล่างเลย แต่การมองเห็นเริ่มชัดเจนขึ้น 50%

- วันนี้หมอจะสั่งยา ด้วยความที่เราตาแห้งมาก เลยขอยาหยอดตามา 3 กล่องใหญ่ๆ (จริงๆหมอสั่งให้กล่องเดียว)
- เราหยอดทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกตาแห้ง เฉลี่ยหยอดทุก 3-5 นาที เพราะตาเราไม่ผลิตน้ำตาเองเลย ยกเว้นตอนหาว 
- แนะนำให้ขอน้ำเกลือมาสัก 2-3 ขวดจะได้เช็ดตาแบบฉ่ำๆ 
- เรื่องการมองเห็นหมอบอกจะดีขึ้นใน 3 อาทิคย์ ฉะนั้นเราจะไม่ใจร้อน แม้จะแพ้แสงมากๆก็ตาม (เพราะสายตาเราสั้นมากๆด้วยเลยเข้าใจ)
- มองไกลๆไม่มีปัญหา ชัดประมาณ 60% แต่มองใกล้อ่านหนังสือยังไม่ค่อยได้ เบลอๆซ้อนๆ

การมองเห็นหลังผ่าวันที่ 3
- เหมือนทุกอย่างฟุ้งๆ เหมือนอยู่บนสววรค์ ทุกคนเหมือนเป็นเอ็ดเวิร์ดจากทไวไลน์ ตัวกระทบแสงจะ glowๆ สว่างๆ ก็จอยไปอีกแบบ

- วันนี้เริ่มทำงานมองคอมเห็นประมาณ 70% แต่ต้องพักสายตาบ่อยๆ เล่นมือถือไม่ค่อยได้ ตัวอักษรยังซ้อนๆอยู่ (อารมณ์เหมือนคนสายตายาว)
- ตายังแห้งอยู่แต่ดีขึ้นกว่าวันแรกและวันที่ 2 
- ใส่แว้นดำไปยาวๆ 

การมองเห็นหลังผ่าวันที่ 4-6
- อาการตาแห้งลดน้อยลองดีขึ้นเยอะไม่ตื่นมาแล้วเจ็บแล้ว แม้จะยังรู้สึกแห้งๆอยู่ แต่เราไม่กลัวเพราะมีน้ำตาเทียมที่ขอหมอมา 3 กล่องใหญ่ๆ หยอดไปเลยรัวๆ (อันนี้คือน้ำตาเทียมที่ทางรพ.สั่งมาให้) เวลามีขึ้ตาหรอคันๆก็เอาคัตตอนบัตชุบน้ำตาเทียมแล้วปาดออกเบาๆ หรือเวลาคันแล้วทนไม่ไหวจริงๆ ก็เอามาแตะๆหัวตาหางตาเบาๆจะลดอาการคันตาได้ดีมาก

- ที่แสงกระจายเริ่มดีขึ้น ยังต้องใส่แว่นดำอยู่ แต่ความฟุ้งแสงลดลงเยอะเลย ไม่ค่อยรู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เท่าไร
- ยังมีปัญหากับการโฟกัสคอมและโทรศัพท์อยู่มองเห็นเราว่าประมาณ 80% แบบมีเบลอๆ ซ้อนๆฟุ้งๆอยู่ อ่านออก แต่ต้องเพ่ง และโฟกัสระดับนึง ส่วนตัวไม่อยากเพ่งมาก เลยปล่อยชิวๆ 
- การมองเห็นจะสลับๆกันไปบางทีก็แพ้แสงคอม บางทีก็ไม่ แต่มีปัญหาเรื่องความชัดเจนของตัวอักษรอยู่ อาการเหมือนประมาณภาพตัวอย่างด้านล่าง


การมองเห็นหลังผ่าวันที่  7
- อาการเบื้องต้น ยังแพ้แสงอยู่ มีภาวะแสงกระจาย และตาแห้ง แค่น้อยลงกว่าวันแรกๆเยอะมาก อาการดีขึ้น แต่มันก็ยังมีอาการข้างเคียงอยู่
- ความชัดของภาพอยู่ที่ 90% 
- ยังมีภาพเบลอ ตัวอักษรไม่คมเวลามองมือถือ หรือมองคอมอยู่ (ความชัด 85%)

- มองไกลชัด 85% เหมือนกัน ยังมีฟุ้งๆ แต่มีภาพซ้อนเล็กน้อย มองป้ายถนนได้ ขับรถต้องใส่แว่นกันแดด ขับรถกลางคืนไม่ค่อยไหว แสบตาแสงไฟรถคันอื่น

- ตาสองข้างเห็นชัดไม่เท่ากัน ข้างซ้ายจะชัดกว่าข้างขวา โดยวันที่ผ่าตัดหมอบอกว่าไม่ต้องกังวลมันหายไม่เท่ากัน กว่าจะเห็นชัด 100% ต้องใช้เวลา 3 เดือน ในระหว่างนั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆเอง

----------------------
ให้คะแนนภาพรวม
สถานที่ 8/10 
ห้องผ่าตัด 9/10 
อุปกรณ์ผ่าตัด 9/10 
บริการ 6/10 เรามีตีกับพยาบาลเรื่องการจองคิว และสับสนกับกระบวนการต่างๆมากๆ แต่พยาบาลพูดจาดีนะ แค่ระบบการทำงานแอบแย่
หมอ 10/10 หมอมีประสบการณ์ทำมาเยอะมาก และให้คำแนะนำดี ทำเร็ว เบามือ ให้คำแนะนำดี หมอรับคิวน้อยด้วย ลิมิตว่าต่ออาทิตย์จะทำแค่ไม่กี่คน 

ราคา ReLEx SMILE 75,000 บาท (แต่จ่ายค่ายา ค่าหาหมอแต่ละครั้ง ค่าตรวจ ค่าเดินทาง รวมๆที่น่าจะต้องจ่ายทั้งหมดประมาณ 90,000 บาท)
---------------------

เรื่องตาเรายังการันตีไม่ได้ว่าเราจะหายดี 100% เพราะแต่ละคนอาการไม่เหมือนกัน ซึ่งก่อนทำเค้าก็แจ้งเราถึงความคาดหวัง และความน่าจะเป็นต่างๆเรียบร้อย เราอาจจะเป็นคนซวยคนนั้นที่มีปัญหาตาแห้ง หรือแสงกระจาย หรือมองกลางคืนไม่เห็นก็ได้ เราก็ได้แต่ภาวนาให้เราสายตาชัดแบบ100% และอาการข้างเคียงหายเร็วๆ หายดีทั้งหมดโดยไม่ต้องกลับไปใส่แว่นอีก เราก็ลุ้นเหมือนกัน 55555555 

---------------------

อัพเดทอาการหลังทำมา 2 เดือน 
- เกริ่นก่อนว่าเราใช้สายตาเต็มที่มาก และนอนดึกทำงานจ้องคอมตลอด
- อาการตาแห้งดีขึ้นเยอะมากๆ แต่ยังเป็นอยู่ต้องคอยหยอดตาทุก ชั่วโมง
- ภาพชัดเราว่าประมาณ 95% เลย ทั้งมองใกล้และไกล ทำงาน ดูทีวี เล่นมือถือ อ่านหนังสือปกติ ไม่ต้องใส่แว่นดำแล้ว
- ยังขับรถตอนกลางคืนไม่ได้ ถึงขับก็แสบตา มีอาการแสงกระจายจากไฟถนน ไฟรถคันอื่นๆ
- ไปตรวจตาล่าสุดตอน 28 มิ.ย. ตาซ้ายยาว 50 ตาขวาสั้น 50 แต่หมอบอกว่าสามเดือนมาดูอีกที รออาการข้างเคียงหายหมดก่อนมันมีโอกาสสูงมากจะเป็น 0 ทั้งสองข้าง หมอบอกว่าจริงๆค่า +-50 ก็คือเท่ากับ 0 แล้วไม่นับว่าสายตาสั้นหรือยาว

-----------

อัพเดทอาการหลังทำมา 5 เดือน 
- ตาไม่แห้งแล้วนะคะ กลับเป็นปกติ
- ยังมีอาการแพ้แสงอยู่ ไปหาหมอ และไปร้านแว่น 3 ร้าน เค้าบอกว่าอาจเป็นเพราะชินที่ใส่แว่นกรองแสงUV กันแสงคอมมาตลอดชีวิต พอไม่ใส่แว่นใช้สายตามองตรงๆเลยรู้สึกแสบตา ไปห้างไฟสว่างๆก็ต้องหยีตาค่ะ รู้สึกว่าสว่างไป ตอนนี้เลยใส่แว่นกันแดดสีชาอ่อนๆตลอดเวลาเลยไม่ถอด สบายตาดีกว่า แต่ถ้าอยู่บ้านไฟธรรมดาก็ไม่ใส่ค่ะ 
- ค่าสายตาเหมือนจะมีปัญหาอยู่นิดหน่อยค่ะ ไปวัดร้านแว่นมาสามร้าน ข้างขวาสั้น 0.50 และบวกเอียง 0.25 ส่วนข้างซ้ายสั้น 0.25 ซึ่งทางร้านบอกว่าอยากตัดแว่นก็ได้ไว้กันแสดงคอม นี่เลยคิดอยู่ว่าอาจจะตัดไว้ใส่ทำงานค่ะ เพราะต้องทำงานหน้าคอมทีนึง 5-6 ชั่วโมง ชอบแพ่งไม่รู้ตัวทำงานไปสักชั่วโมงคิ้วเริ่มขมวดหน่อยๆแล้ว เพราะเผลอแพ่ง
- ทางโรงพยาบาลบอกว่าถ้าค่าสายตาไม่ถึง 0.50 ถือว่าสายตาปกติค่ะ ไม่จำเป็นต้องใส่แว่น
**ขอบอกก่อนว่าเราใช้สายตามองคอมเยอะมากติดกันหลายชั่วโมงทุกวัน ทั้งมองในที่มืด และแสงปกติ ก่อนหน้านี้ใส่แว่นทำงานได้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพิ่งมามีปัญหามองคอมอย่างที่เล่าว่าตัวอักษรมันซ้อนกันนิดหน่อยเวลามองใกล้ๆหลังทำเลสิกเอง 
**ภาพรวมก็รู้สึกว่ามองชัดขึ้นมากค่ะ

--------
 1 ปี จะมาอัพเดทว่าการมองเห็นเป็นยังไงบ้าง