ความรู้เบื้องต้นเรื่องวาล์วที่ใครๆยังไม่รู้? (ตอน2)

กระทู้คำถาม
ชนิด / ประเภทของวาล์ว และ ข้อดี-ข้อเสีย ของวาล์วแต่ละชนิด
แบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภท คือ

1. วาล์วที่ใช้ในการปิด หรือ เปิด (On - Off Type)  ไม่เหมาะกับการเร่งหรี่
    เช่น Gate Valve, Plug Valve, Ball Valve
2. วาล์วที่ใช้ในการควบคุมปริมาณการไหล (Flow Regulating Type)
    เช่น Globe Valve, Needle Valve, Diaphragm Valve, Butterfly Valve

3. วาล์วที่ใช้ในการควบคุมทิศทางการไหล (Single Direction Valve)
    เช่น Swing Check Valve, Silent Check Valve, Lift Check Valve, Ball Check Valve, Foot Valve
4. วาล์วพิเศษอื่นๆ


วาล์วที่ใช้ในการควบคุมปริมาณการไหล (หรี่วาล์วได้)
1. Globe Valve เป็นวาล์วที่ออกแบบเพื่อใช้ในการควบคุมอัตราการไหลโดยเฉพาะ
   ข้อดี 1. เหมาะที่สุด สำหรับการใช้ควบคุมอัตรการไหลของไหล
                   2. ช่วยลดแรงดัน ในกรณีที่ของไหลมีแรงดันสูง
                   3. ปิดวาล์วได้แน่นสนิทมาก
   ข้อเสีย 1. สูญเสียแรงดัน เมื่อไหลผ่านวาล์ว แรงดันลดลง
                      2. บ่าวาล์วสึกหรอง่าย มีโอกาสที่ของแข็งตกค้างที่บ่าวาล์ว
                      3. วาล์วขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก การปิดเปิดวาล์วต้องใช้แรงมาก
                      Globe Valve แยกออกเป็น อีก 2ชนิด Angle Valve, Y-Type
                      1. Angle Valve = ท่อทางออก เป็นมุมตั้งฉากกับทางเข้า, วาล์วมีน้ำหนักน้อยกว่า ช่วยในการเปลี่ยนทิศทางได้ ประหยัดข้องอ 90 องศา
                      2. Y-Type = ตัวลิ้นของวาล์วและตัวก้านวาล์วจะเอียงทำมุม 45 องศา

2. Needle Valve เป็น Globe Valve ชนิดหนึ่ง "วาล์วรูเข็ม"
   ข้อดี 1. เหมาะเป็นพิเศษสำหรับการปรับปริมาณการไหลอย่างละเอียด
                   2. ปิดได้สนิท สำหรับของไหลที่ค่อนข้างสะอาด
   ข้อเสีย 1. แรงดันลดผ่านค่อนข้างสูง
                      2. ช่องทางการไหลอุตตันง่าย

3. Diaphragm Valve วาล์วที่ใช้ในการหรี่ หรือ เปลี่ยนแปลงปริมาณช่องทางผ่านของของไหล ยืดหยุ่นได้โดยการใช้ ก้านวาล์วเคลื่อนที่กดลงมายัง แผ่น
    Diaphragm
    ข้อดี 1. ไม่มีการรั่วซึม จึงไม่ต้องมีปะเก็น
                    2. เหมาะสำหรับใช้ในของเหลว ประเภทที่ผิดจากธรรมชาติ เช่น สารแขวนลอย หรือ กัดกร่อน อุตสาหกรรมอาหาร เพราะ ชิ้นส่วนของก้าน
                    วาล์วจะไม่มาสัมผัสกับของไหล
    ข้อเสีย 1. ไม่เหมาะกับงานที่มีแรงดันสูงมากนัก
                        2. การควบคุมอัตราการไหลจะไม่ดีนัก โดยเฉพาะในตอนที่มีอัตราการไหลต่ำ

4. Butterfly Valve วาล์วปีกผีเสื้อ
    การปิด และ เปิดวาล์ว จะต้องใช้วิธีหมุนแกนวาล์วไปเป็นมุมประมาณ 90 องศา การหมุนลิ้นทำมุมต่างๆกับตัววาล์ว จะทำให้เกิดการหรี่ปริมาณของไหลที่ไหลผ่านตัววาล์วได้ มี 2 แบบใหญ่ๆ
1. Wafer Type ถอดวาล์วออกได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถปิดของไหล ด้านใดด้านหนึ่งได้
2. Lug Type สามารถถอดท่อด้านหนึ่ง แต่วาล์วยังสามารถปิดกั้นของไหลทางอีกด้านหนึ่งของท่อได้
    ข้อดี 1. สามารถลดแรงดันได้มาก เนื่องจาก ตัวลิ่นวาล์ว อยู่ในกระแสการไหลของของไหล
                     2. ประหยัดเนื้อที่ในการติดตั้ง
                     3. ควบคุมการไหลได้ดี ตั้งแต่วาล์วปิดสนิท จนถึง ช่วงเปิดประมาณ 60-70 องศา
                     4. เปิดและปิด วาล์วได้รวดเร็วมาก เพราะมีองศาปิดเปิดเพียง 90 องศา เท่านั้น
    ข้อเสีย  1. ไม่เหมาะกับงานที่จะปรับอัตราการไหลที่ละเอียดมากๆ
                         2. Seat / Liner สึกหรอง่าย ปะทะของไหลตลอดเวลา
                         3. การหมุนปิดเปิดวาล์วใช้แรงมาก ต้องมีการทดแรงโดยการใช้ Gear ช่วย

สำหรับวันนี้ทางเราก็ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับาล์วที่ใช้ในการควบคุมปริมาณการไหล (หรี่วาล์วได้) ส่วนพรุ่งนี้ เราจะมาให้ความรู้ กับ ประเภทวาล์วที่ใช้ในการควบคุมทิศทางการไหล (Single Direction Valve) ต่อไปนะคร๊าบ สำหรับวันนี้ สวัสดีคร๊าบ...!




www.dwellengineer.com

https://www.facebook.com/groups/valvemanual/ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการ์ณ ได้อีกหนึ่งช่องทางยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่