เพื่อนรักเพื่อนร้าย

ก็สวัสดีค่ะ วันนี้ก็อยากจะมาเล่าประสบการณ์ 'เพื่อนรัก' เชื่อว่าหลายๆ คนได้ยินคำนี้แล้วก็คงต้องเบ้ปากมองบนทันที ก่อนอื่นเลย ตอนนี้เรากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่สาม ก่อนหน้านั้นช่วงวัยมัธยม

     เราเรียนที่โรงที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเป็นอันดับต้นๆ ที่มีพวกหัวกระทิอยู่มากมายแต่ขอโทษทีเราไม่ได้อยู่ในจำพวกนั้นชีวิตสามปีที่นั้นสนุกดีค่ะ จนจบการศึกษา หลังจบออกมาก็เลยลองคิดเปลี่ยนแนวดูบ้างเลยลองเปลี่ยนเป็นสายอาชีวะ

     ปรากฏว่าทุกอย่างก็ดีจริงๆ ความอิสระที่ทุกคนโหยหามันรวมอยู่ที่นี้หมดเลย สายอาชีวะให้อะไรหลายอย่างทั้งความรู้ ประสบการณ์ครบถ้วน...กลับเข้าเรื่องเลยแล้วกัน

     ตอนเข้ามาปีหนึ่งเราก็เงียบๆ อะเนอะเพราะไม่รู้จักใครในห้องมีเพื่อนมากหน้าหลายตาอยู่กันสิบกว่าคน วันแรกของการปฐมนิเทศก็สนุกดี พูดกันบ้างประปรายส่วนมากจะมีคนมาทักอะนะ แล้วดันบังเอิญเจอ (แทนนางว่า ท.) ท มันเป็นเกย์สาวกรี๊ดกร๊าดหวี๊ดหว๊าด เนี่ยแหละเวลาอยู่กับเพื่อนแต่พออยู่ภายนอกแอ๊บแมนสุด (สุดขั้นที่ต้องกราบ) มันจบมาจากโรงเรียนเดียวกับเรา

     ถามว่ารู้จักกันไหมก็ไม่เท่าไหร่นะ เห็นแค่ผ่านๆ ไม่ได้สนใจมันมากสักเท่าไหร่...ทีนี้มันก็เข้ามาทักคุยไปคุยมาก็เออสนุกดี หลังจากนั้นจะไปมาไหนก็มีมันหิ้วไปด้วยตลอด

     ตลอดเวลาที่อยู่วิลัยนี้มันเป็นเพื่อนที่สนิท และดีมากมันฉลาดและจริงจังกับการเรียนมาก มีน้ำใจสุด เสนอหน้าสุด ขี้เกรงใจเป็นที่รักของอาจารย์ (ตัดภาพมาที่เราค่อนข้างขี้เกียจและไม่ถูกกับอาจารย์มากเท่าไหร่)

     ไปส่งบ้านมารับไปนู้นนั้นนี้จนหลายคนคิดว่าเป็นผัวเมียกัน 55 เวลาผ่านล่วงเลยไปสองปีจะเข้าปีสาม ช่วงเทอมแรกใกล้ๆ จะสอบกลางภาคเนี่ยละคือจุดเปลี่ยนของชีวิต

     ในห้องของเรามีผู้ชายอยู่สองคน คนหนึ่งหน้าบ้านๆ ธรรมดาขี้เล่นปัญญาอ่อน ส่วนอีกคนสูงโปร่งหล่อ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร (มันก็คบกันอยู่สองคนนั้นแหละ) ไอเราก็เนอะดันไปเม้ากับ ท ว่าเนี่ย (เรียกว่าไอหล่อแล้วกัน) ไอหล่อเนี่ยมันตรงสเป็กเราเลย พอเราพูดไปเท่านั้นมันก็สะดุ้งแปปนึงก่อนจะกลับมายิ้มแย้มแซวกันปกติ

     แต่ถามว่าเราคิดอะไรกับมันไหมหรอ ก็ไม่นะหน้าตาไม่ได้หล่อขนาดนั้นแล้วนิสัยไม่ค่อยเอาเพื่อนของไอหล่อนี้เลวร้ายขั้นสุด ชอบโกหกปลิ้นปล้อน เที่ยวเก่งยิ่งกว่า

     เรามองออกนะว่า นาง ท. แอบชอบไอหล่อซึ่งเราก็ไม่ได้พูดอะไรภาพมันก็บอกอยู่แล้วอะ (พวกผู้ชายในห้องจะสนิทกับมันพอสมควรเนื่องจากหน้ามันไม่ออกสาวมาก เลยคุยกันง่ายต่างกับเราที่ออกสาวแรงจิกคิ้วหน้าแน่น)

     ธรรมดาพออยู่ใกล้กันมันก็ต้องรู้สึกดีอันนี้เราเข้าใจเพราะเราก็เคยมีบ้างกับโมเม้นท์แบบนี้เวลาใกล้ชิดคนที่เราชอบยิ่งมันทำดีกับเรายิ่งคิดไปไกลใหญ่เลยทีนี้

     จะบอกว่าช่วงที่ขึ้นปีสามเนี่ยเรากับ ท. ห่างกันเพราะมันอยู่แก๊งเด็กดีประจำห้อง มีกันอยู่ 4-5 คนเดี่ยวตีกันปัญญาอ่อนยิ้ม พูดแล้วขึ้น!

     กลุ่มพวกมันจะประมาณ เอางานเอาการเด็กดีเป็นที่รักของเหล่าครูบาอาจารย์ต่างกับเราที่ไม่ชอบอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นเลยมาอยู่แก๊งเด็กเลว ซึ่งแก๊งเราประกอบไปด้วย 9 คนรวมผู้ชายทั้งสองนั้นด้วยแต่เราไม่ค่อยคุยกับพวกมันหรอก เพราะลำไยเคยโมโหจนไม่คุยกันเป็นเดือนแก๊งเราก็ตามชื่ออะไม่ค่อยช่วยงานการอะไรหรอกแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายขั้นนั้นที่สำคัญแก๊งของเราหัวดีกว่าแก๊งเด็กเรียนแบบพวกมันอีกถ้าไม่นับความขยันไปด้วยอะนะ

     มีแต่ตัวจี๊ดๆ แซ่บๆ ออกไปสร้างชื่อเสียงให้วิลัยและแผนกตั้งมากมายแต่ไม่เค๊ยไม่เคย ได้รับคำชมจากอาจารย์ในแผนก อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เลียแข้งเลียขาด้วยมั้ง?

     แน่นอนว่ามีสองแก๊งมันก็ต้องจิกกัดกันเป็นธรรมดา มันอะชอบกัดคนอื่นๆ ย้ำว่ายิ่งเรามันยิ่งกัดแรง ซึ่งก็ถามว่านอยไม่ก็ไม่นะ ส่วนมากเราจะด่ากลับตอกหน้าแรงเหมือนกันชนิดที่อาจารย์ ก็เคยเรียกไปด่าแล้ว (เพราะไปตะโกนด่าหน้ามันกลางโรงอาหาร) ไปๆมาๆ ความสัมพันธ์ของเรากับมันยิ่งเลวร้ายลง จากที่ไปไหนมาไหนด็ไม่ได้ไป จากที่นั้งข้างๆ กันก็ต้องนั้งแยกเวลากับบ้านก็กลับกับคนในแก๊งแทน

     วันนั้นเป็นวันที่แผนกมีงานวุ่นวายมาก เป็นงานช่วยวิลัยแผนกเราเป็นแผนกด้านการบริการเลยต้องไปคอยเสิร์ฟน้ำบริการแขก และบรรดาครูในวิลัยพวกแก๊งเด็กดี ก็สมชื่อได้ตำแหน่งเด็กดีบวกขยันอาจารย์ในแผนกเลยให้พวกมันไปเสิร์ฟพวกแขกคนสำคัญที่ตึกใหญ่ และแยกย้ายพวกแก๊งเราไปตามตึกต่างๆ ซึ่งก็โอเคดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องมากังวลอะไร

     และแล้วช่วงแตกหักก็มาถึง ผู้ชายแท้สองคนในห้องที่เป็นเสาหลัก? ก็ได้รับหน้าที่คนส่งคอยเติมของแบกของ เผอิญตอนนั้นเป็นตอนเที่ยงแล้วน้ำแข็งที่ตึกเรามันหมดเลยจะให้พวกมันผู้ชายยกมาให้

     ก็เลยส่งไปในแชทกลุ่ม นาง ท. ก็ขึ้นอ่านคนแรกนางก็กัดมาเลยจ่ะ ประมาณว่า แหม่ม ทำไมไม่โทรเรียกละ ตังโทรสัพท์ไม่มีหรือไง แล้วก็ประมาณใช้พวกมันบ่อยจัง (เราเร่งไงเพราะแขกรอกินอยู่)

     ท. : โทรศัพท์ไม่มีหรอ ทำไมไม่โทรไปหรือไม่มีตังค์ ใช้มันจังเลยนะตึกอยู่แต่ตรงนี้เอง

     เรา : เอ้าแล้วเป็น ? อะไรมันมีหน้าที่อะไรแล้วจะมา ? ทำไม (แล้วก็วอยซ์ไปด่า) มันก็อ่านไม่ตอบ
     
     มันน่าคิดไหมแค่ใช้ผู้ชายมายกของแค่นี้ถึงกับต้องออกมารับหน้าแทน สงสัยนางคงจะกลัวผู้ชายเหนื่อย เราด่านางไปหนึ่งยกนางอ่านและก็ไม่ตอบหลังจากนั้นก็ไม่คุยกันอีกเลย ความสัมพันธ์เหมือนจะพังกันวันนั้นเพราะ ไอหล่อ แค่คนเดียวตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมามันไร้ค่าไปเลย

     เราไม่เคยโกรธใครจริงจังเท่าไหร่หรอก และไม่ค่อยจะเกลียดใครง่ายๆ ด้วยมันเป็นคนแรกที่ทำให้เกลียดได้มากขนาดนี้จนถึงขั้นขยะแขยงเลย มันบล็อคเฟสเราซึ่งเราก็โอเคจะได้ไม่มีปัญหา

     อาจารย์ก็จมูกดียิ่งกว่าเห็นเรากับมันไม่พูดไม่คุยกัน ก็เรียกเข้าไปพบ ให้ขอโทษกันกอดกัน คิดแล้วก็ขำ แต่ขอโทษทีเราไม่ทำเลยสักอย่างเพราะไม่ได้ผิด ปัญหาแค่นี้ถ้ามันจะตัดเพื่อนก็ตัดไปเลยเราไม่แคร์อยู่แล้ว เราบอกอาจารย์ไปว่าไม่มีทางที่จะเป็นเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้อะไรแล้ว...แล้วก็เดินออกมาเลย

      หลังจากนั้นมันก็ปลดบล็อคและเพิ่มเพื่อนเรามา เราก็รับนะแต่ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย จนคึงตอนนี้ล่าสุดไปเจอกันวันก่อนเพื่อนสอบวีเน็ท ก็ไม่มองหน้ากันไม่เดินผ่านกันด้วย

      มันก็หยอกกับไอหล่อ กันสนุกสนาน หวานจนมดจะขึ้นนึกแล้วก็มั่นไส้เหมือนกัน 55

..

      จบแล้วไม่มีอะไรมากอยากระบายให้ฟังเฉยๆ ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านมาถึงตรงนี้ อยากจะบอกว่าเพือนๆ เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กันบ้างไหม อยากเอาไว้เป็นเรื่องเตือนใจ

     แด่ เพื่อนรัก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่