นั***งบ้าน 62 ตระกูลโร*คจิ*ต ที่ยังคงไม่ยอมหยุดราวี ไหนคือคำว่า “ต่างคนต่างอยู่” อย่างตอนที่เราเรียกตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ อสม.มาคุย???

17/8/67 วันที่ทะเลาะกัน(ครั้งที่ 3) ตำรวจมาย้ายถังขยะไปไว้หน้าบ้าน 59 แล้ว ตั้งแต่วันนั้นมันจะทิ้งขยะ จะกวาดอะไรก็แล้วแต่ มันไม่เคยเดินมาทิ้งฝั่งข้างเสาไฟระหว่างบ้าน 61 กับบ้าน 63(บ้านเรา)อีกเลย

18/12/67 นางตัวพ่อมันเห็นแม่เรายืนเช็ดรถอยู่ มันก็แกล้งเอาไม้กวาดกับที่ตักผง มาเคาะแรงๆ ดังๆ ให้แม่เราตกใจ แต่แม่เราเห็นมันก่อน เลยไม่ตกใจ

27/12/67 เวลา 13.30 น. บริษัทใหม่ที่เราเพิ่งสมัครหลังตอนที่โดนนางผีน้อยเกาหลีด่าว่าเกาะแม่กิน เลยหนีไปสมัครงานให้มันจบๆ (สมัครวันเดียวรู้ผล เข้าทำงานเลย : ขอขิงฟาดหน้าพวกมันหน่อย) วันนี้ทำงานวันสุดท้ายที่ทำงานเลยประกาศให้เลิกงานครึ่งวัน ซึ่งเพิ่งประกาศตอนประมาณ 9 โมงครึ่ง เราก็แคปหน้าจออีเมลให้แม่ดู แล้วบอกแม่ว่า จะแวะไปทำบุญที่วัดหน่อย เพราะ บ.อยู่ใกล้ๆ วัน ขับรถต่อไปอีกไม่กี่กิโลฯ เรากลับถึงบ้านประมาณ 13.30 น. นางตัวแม่ก็ไปฟ้องนางลูกสาว(ผีน้อยเกาหลี) ว่าเรากลับมาบ้าน(ซึ่งมันคือบ้านเรา บ้านของแม่เรา งงกับนางเหมือนกัน เรากลับบ้านครึ่งวันมันจะต้องมีปัญหาอะไร เวลาเราลาป่วยอยู่บ้าน ไม่ได้ไปส่งแม่ตอนเช้า มันจะชอบตะโกนคุยกันแต่ให้เราได้ยินว่า เราโดนไล่ออกแล้ว ทำเพื่ออะไรก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ปวดสมองมาก) 

ก่อนจะอ่านท่อนเหตุการณ์ถัดไป ต้องเท้าความก่อนว่า ก่อนหน้านั้นเราออกจากงานประจำและผันตัวมาทำฟรีแลนซ์ ทำงานอยู่บ้าน จะมีออกจากบ้านไปทำงาน JOB ข้างนอกบ้าง บางครั้ง แล้วทุกวันเราจะไปออกไปรับแม่เวลาประมาณนี้ พวกมันต้องใส่ใจเรามากกกกกกกกกกกกก เพราะมันออกมาดักรอเราทั้งบ้าน ตั้งแต่ 16.30 น. รู้เวลาที่เราจะออกจากบ้าน ดักเพื่อรอยั่วยุเรา ปกติเราค่อนข้างอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว เจอแต่คน Toxic จนตัวเราเองก็เริ่ม Toxic อันนี้ยอมรับ แต่อาการไม่ได้รุนแรงพร่ำเพื่อขี้อิจฉาใส่คนอื่นแบบที่พวกบ้าน 62 เป็น เราชอบที่จะอยู่แบบเงียบๆ สงบๆ ดูหนังฟังเพลงเล่นเกม วันหยุดอยู่บ้านทั้งวัน จนเพื่อนบ้านหลังข้างๆ มาถามแม่เราว่า เราหายไปไหน ทั้งๆ ที่เราก็อยู่บ้านทั้งวัน

27/12/67 เวลา 16.40 น. เราจะออกไปรับแม่ที่ทำงาน แล้วเราเผลอดึงประตูรั้วบ้านแรงไป ซึ่งเป็นประตูเหล็ก แล้วประตูหลุดออกจากเบ้าของมัน ทำให้ตัวประตูร่วงหล่นลงเข้าไปในพื้นที่หน้าบ้านเรา(หล่นเข้าด้านใน) พวกมันที่ออกมาดักรออยู่ก่อนแล้ว ก็เริ่มส่งเสียงสนุกสนาน ด่าเรา หาว่าเราชอบใช้ความรุนแรง ด่าว่าโง่ ด่าแล้วยืนขำกัน พ่อแม่ลูกหลาน แล้วอีคนหลานก็ออกมายืนเต้นกลางถนนให้เราดู ประมาณว่าสะใจที่ประตูเราร่วง(เด็ก ม.ปลายละ รู้ความทุกอย่างละ)
             แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี มีคนที่เพิ่งมาเช่าตึกสีชมพูเป็นผู้หญิงใจดีท่านหนึ่ง ตะโกนถามเราว่า ให้ช่วยไหม เราก็พยักหน้าตอบแรงๆ เขาก็เดินเข้ามาช่วย พอยกประตูขึ้นเอาลูกล้อเลื่อนเข้าล็อกเสร็จ ดึงกลับเข้าเบ้าได้ เราก็ยกมือไหว้ขอบคุณเขาไป เขาก็ยกมือไหว้ตอบกลับเราตามมารยาท แต่อีคนแม่ดันพูดให้เราได้ยินอีกว่า ดูมันๆ ทำเป็นยกมือไหว้ โถๆ แล้วพวกมันก็หัวเราะกันสนุกสนาน

ตั้งแต่ที่พวกมันสร้างเรื่อง เราก็เป็นซึมเศร้า และแพนิคกลัวเสียงมอเตอร์ไซค์ตอนกลางดึก สาเหตุเพราะอีตัวลูกชายมันเอาเพื่อนมาเล่นเกมส์ข้างถนนในซอย แล้วชอบขับมอเตอร์ไซค์เข้าออกกันทุก 1 ชั่วโมง เราเป็นอยู่เป็นปี ตกใจตื่นตลอดที่ได้ยินเสียงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์กลางดึก กว่าจะรักษาหาย จนได้นอนหลับสนิท แต่ก็ยังมีตกใจตื่นตอนได้ยินเสียงคนตะโกนกลางดึก เพราะตอนพวกมันเล่นเกม มันชอบตะโกนด่า สัตว์ป่ามาทั้งสวน จนเรานอนไม่ได้ และอาการซึมเศร้า เพราะอีลูกสาวบ้าน 62 (ผีน้อยเกาหลี) มันด่าเรา เราเลยจิตตก เพราะมันด่าเรากลางซอย คนได้ยินไปหลายสิบบ้าน และไม่มีเรื่องไหนจริงสักเรื่อง แต่มันกระทบกระเทือนจิตใจเราเป็นอย่างมาก ด่าหาว่าเราไม่มีพ่อ พ่อไปนอนตายอยู่ไหน (เรื่องจริงคือพ่อเราไปดูแลสวนที่ต่างจังหวัด) ด่าแรงจนเราคิดว่าเราปากร้ายแล้ว แต่เราไม่อาจด่าสู้กับคนต่ำๆ ได้ ปากต่ำใจต่ำ คิดได้แต่เรื่องต่ำๆ เรื่องใต้สะดือ อวดว่าตัวเองหาผั***วได้ แต่ไม่พูดล่ะ ว่าไปแย่งผั***วคนอื่นเขามา แล้วตอนไปแย่งมาก็ยังไม่เลิกกับผั***วคนแรกด้วย นางไปเป็นผีน้อย แล้วนางก็โทรมาบ่นกับพ่อแม่นางว่าเหนื่อยอยากกลับไทย ซึ่งพ่อแม่นางชอบด่ากันชอบคุยกันตรงหน้าบ้านของนาง ทำให้คนในซอยต้องได้ยินอยู่แล้ว นางก็ไปแย่งสามีชาวบ้าน ที่บอกว่าแย่ง เพราะโปรไฟล์ ผช. นางไปเกาหลีกับเมียตอนปี 62 (ซึ่งไม่ใช่ลูกบ้าน51/62) แต่ปี 65 มาโผล่โปรไฟล์ลูกบ้าน 51/62 ว่าเมีย(ใหม่?)คลอดลูก นางจงใจปล่อยท้อง แล้วหอบลูกกลับเข้าไทยแล้วให้ผู้ชายเลี้ยง ส่วนอีตายาย พอพ่อเด็กโอนเงินมา ก็เรียกเด็กว่าเฮีย...(ชื่อเด็ก)... พอพ่อเด็กไม่โอนมาให้หรือโอนมาน้อย ก็เรียกเด็กว่า ไอ้เห.... ได้ยินทุกอย่างเพราะนางออกมาพูดตรงหน้าบ้านนาง(ติดกับถนนในซอย)

***ที่กล้าพูดว่านางเป็นผีน้อย เพราะ 1.โปรไฟล์ ผช.ไปเกาหลีกับเมีย(แม่ของลูกคนแรก มีลูกด้วยกัน 1 คน)เมื่อปี 62 ซึ่งปัจจุบันยังไม่กลับมาไทย เกินระยะเวลาตามกฎหมาย ตีความได้ว่าเป็น "ผีน้อย" ชัวร์   2.นางผีน้อยบ้าน 62 นางก็ไปก่อนมีโควิดแค่แปบเดียว แล้วนางเพิ่งกลับไทยประมาณสิ้นเดือนตุลาคม 2566 เวลาอาจจะคาบเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่ให้ไปแบบถูกกฎหมายเป็นเวลา 2 ปี แต่ถ้านายจ้างถูกใจ จะขอต่ออายุทำงานให้อีก 1 ปี 10 เดือน รวมเป็น 3 ปี 10 เดือน(ไม่มั่นใจว่าเปลี่ยนข้อกำหนดนี้หรือยังนะ เราหาข้อมูลมาได้เกือบปีละ) แต่ที่สำคัญ ถ้าไปแบบถูกกฎหมาย คิดว่ากรมฯ ของไทยที่ส่งแรงงานไป จะให้คนถูกกฎหมายไปอยู่รวมกับคนผิดกฎหมายไหม? ยังไงก็ผีน้อย ปล.ถ้าใครไม่พอใจที่เราพาดพิงเรื่องผีน้อย ก็เก็บกลืนอารมณ์ของคุณลงไป แล้วออกไปจากกระทู้เราค่ะ ขอบคุณ***

***จะหาว่าเสื****อกก็ได้ เพราะเราต้องรู้ข้อมูลศัตรู มันถึงจะเซฟตัวเองได้ รู้เขารู้เรา ย่อมได้เปรียบ มันด่าเรากลางซอย เราก็ขอประจานมันกลางโซเชียลเลยแล้วกัน จะหาว่านิสัยไม่ดีก็ยอม อึดอัดมา 30 ปี ขอเอาคืนหน่อยเหอะ วิธีไหนก็ได้ อึดอัด อัดอั้น ตันใจ มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!***

ส่วนบ้านตึก 64 เรียกว่า "นางตลาดล่าง" ละกัน นางอยู่ห้องแรกชั้นล่างของตึก เพิ่งมาอยู่ไม่นาน ก็เข้าร่วมเป็นพรรคพวกกับบ้าน 62 เป็นพวกเก่งกับผู้หญิง เหตุการณ์โดยรวมคือ นางมาเช่าบ้านอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูกสาว เหตุการณ์คือ
1.เมียนางโดนคนในตึกแอบดูอาบน้ำ นางก็มาตะโกนขอกล้องวงจรปิดจากบ้านเรา ตอนตี 5 แล้วมาตะโกนทวงคลิปจากกล้องอีกครั้งตอน 3 ทุ่ม ทำเหมือนบ้านเราไปติดหนี้มันไว้ เราก็บอกว่า ส่งคลิปให้เจ้าของตึกแล้ว ไปขอที่เจ้าของตึก สาเหตุที่ไม่ให้พวกนาง คือไม่อยากแอดไลน์กับพวกนาง พวกนางเป็นพวก เสียงดังรบกวนชาวบ้าน อันธพาล ทำตัวกร่าง จอดรถขวางทางเข้าออกตึก จับกลุ่มสูบบุหรี่หน้าตึก ทำตัวเป็นแก๊งอันธพาลเลย คุยเสียงปกติไม่ได้ ต้องตะโกนคุยจนคนเขารู้ปัญหาของนางทั้งซอยอ่ะ
2.นางเสียงดังตั้งแต่เช้ายันมืด มีวันนึงเจอกันพอดี เราจะออกไปทำงานกับแม่(ทำคนละที่เราไปส่งแม่ก่อน แล้วค่อยขับรถไปที่ทำงานตัวเอง) เราก็มองหน้านาง หวังให้นางเบาเสียงลง แต่ด้วยความที่นางเก่งกับผู้หญิง นางเลยด่าเรามา 1 กรุบ ว่ามองK**u**y**อะไร หลังจากนั้นก็ไม่ชอบหน้ากันมาตลอด แต่บ้านเราไม่ด่านางนะ เพราะนางอันธพาล มีแต่พวกนาง 3 คนพ่อแม่ลูกสาว(คนลูกก็ไม่ใช่ย่อย อยู่แค่ประถมแต่ร้ายกาจมากตามรอยพ่อแม่นางเลย) ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อลูกที่ชอบแขวะบ้านเรา ยิ่งตอนที่นางผีน้อยเกาหลีมายืนด่าเรากลางซอย พ่อลูกคู่นี้ยิ่งได้ใจ เพราะเราด่าแพ้ มันด่าต่ำเกิน เราสู้ไม่ไหว
3.นางมาคุยโทรศัพท์โวยวายตั้งแต่เย็นเลิกงาน นางโทรหาทุกคนที่นางรู้จัก เพื่อโวยวายและหาพรรคพวก เนื้อหาคือ นางทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน (น่าจะเป็นคนสั่งงานพนักงาน ประมาณจัดงานให้ว่าคนนี้ให้ไปกับใคร ไปที่ไหน (นางตลาดล่างนางทำงานเป็นเด็กนั่งรถขนส่งน้ำดื่ม) เราถึงได้รู้ว่า อ๋อ นางเก่งกับผู้หญิง เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวกับเรา แต่มันทำให้เรารู้ว่านางเก่งกับผู้หญิง นางโทรฟ้องทุกคนที่นางรู้จัก แล้วตะโกนคุยโทรศัพท์เสียงดังอยู่แบบนั้น 3 วัน (น่าจะประสาท ไม่ก็เมายา เพราะนางเคยออกมายืนด่าว่าหลานนางติดยา แต่พฤติกรรมนาง เราคิดว่านางนั่นแหละ คลั่งยา)
4.พ่อลูกมันเอานกมาเลี้ยง แล้วชอบเอากรงนกออกมา วางไว้ริมถนนซอย เอาราวตากผ้ามาตากริมถนน แล้วทีนี้มีแมวสีส้มเดินมาดมกรงนก นางคนพ่อออกมาเห็นก็มาไล่ นางคนแม่บ้าน 62 ได้ยิน ก็รีบออกมาเผือ*ก แล้วนางก็ปั่นว่าเป็นแมวบ้านเรา ซึ่งความจริง บ้านเราไม่มีแมวสีส้ม แมวสีส้มเป็นแมวของคนบ้านตึกอีกหลัง ซึ่งคนบ้านตึกหลังนั้นก็ไม่ชอบบ้าน 62 กับนางตลาดลางคนพ่อนี่เหมือนกัน เพราะนางเคยไปด่าคนตึกนั้นว่าเขาเสียงดัง แต่เขาไม่ลดเสียงนะ ทำเสียงดังยิ่งกว่าเดิมด้วย (แอบสะใจ วะฮ่าฮ่า) นางตลาดล่างเสียงดัง ก็หันหน้าเข้าบ้านเรา(นางยืนอยู่หน้าตึกนางนะ) แล้วด่ากราดบ้านเราว่ามีแมวทำไมไม่เก็บไว้ในบ้าน(บ้านเราเลี้ยงแบบเปิด แต่เรามีคลิปกล้องวงจรว่าเป็นแมวสีส้ม แมวเราอยู่ในบ้านทุกตัวกำลังนอนกลางวันกันอยู่) เลี้ยงแมวเห**ๆ มึ**ไม่ยอมรับใช่ไหม GUจะฆ่**แมวแม่**ให้หมดเลย (นกยังไม่ตายนะ ยังไม่ถูกกัดเลยด้วยซ้ำ แมวส้มแค่เดินมาดมนอกกรงนกเฉยๆ)
5.เรากำลังจะด่ากลับ ยกมือถือขึ้นมาถ่ายมันแล้วแหละ แต่แม่ห้าม บอกว่าไม่ใช่แมวเรา เรามาย้อนดูกล้องถึงรู้ว่าเป็นแมวส้ม แต่ในเมื่อมันด่าเรา เราเลยฟ้องเจ้าของตึกเลย แล้วผู้เช่ารายอื่นเขาก็ฟ้องเจ้าของตึกถึงพฤติกรรมของนางเหมือนกัน ตอนนี้นางเลยเงียบๆ ไป แต่ยังจอดรถ และนั่งขวางทางเข้าออกตึกอยู่เหมือนเดิม

***เมื่อไรเวรกรรมจะตามพวกมันทันสักทีนะ ธรณีช่วยสูบบ้านพวกมันลงไปทั้งหลังได้ไหม? ไม่ได้เหยียดนะ แต่จากพฤติกรรมของพวกนาง จะให้เราเรียกพวกนางว่าคนก็ยังกระดากปากเลย [พฤติกรรมแย่แค่ไหน ต้องมาเจอกับตัวเอง จะได้รู้สึกเหมือนกัน]***

***ใกล้สิ้นปีแล้ว ขอมีเรื่องดีๆ บ้างเถ๊ออออออออออะะะะะะะะะะ ไหว้ละ***