นาย
ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ สายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท
มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จำกัด (
เอ็มไอ) และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
มีเดีย อินไซต์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามข้อมูลของบริษัทฯ พบว่า
การใช้จ่ายในอุตสาหกรรมโฆษณาช่วง 11 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่ารวม 78,755 ล้านบาท ติดลบ 13.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีมูลค่า 91,451 ล้านบาท และทั้งปี 2560 อุตสาหกรรมโฆษณาจะมีมูลค่า 85,755 ล้านบาท และติดลบ 14% ถือว่าขยายตัวต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรือต่ำสุดในรอบ 10 ปี จากปัจจัยพิเศษหลายปัจจัย ทั้งประเทศมีเหตุการณ์พิเศษ และการปรับส่วนลดใช้จ่ายด้านโฆษณาลดลง เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอด โดยสื่อโรงภาพยนตร์มีการลดราคาจากอัตราเดิมหรือราคาที่ตกลงกันไว้มากที่สุดประมาณ 70% ขณะที่
กลุ่มทีวีดิจิทัลและเคเบิล มีการลดราคาจากเดิม 10-50% ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมโฆษณาในปีหน้า คาดว่าจะดีขึ้นและเติบโต 10.3% เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์พิเศษและหลายธุรกิจสามารถกลับมาทำกำไรได้
“สื่อโฆษณานอกบ้านและสื่อโทรทัศน์ ยังเป็นสื่อหลักปีนี้และปีหน้า โดยสัดส่วนการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ คิดเป็นสัดส่วน 55-60 % และเนื้อหาของช่องรายการยังเป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ และสื่อออนไลน์จะเป็นพระเอก โดยเม็ดเงินจากการใช้จ่ายโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเติบโต 28% ทางยูทูบ 14% และการค้นหาในกูเกิลอีก 11% รวมเป็น 25% และอาจเห็นโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์ลดลง และเพิ่มการโฆษณาโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือการรีวิวสินค้าโดยดารามากขึ้น” นาย
ภวัต กล่าว
นาย
ภวัต กล่าวว่า ธุรกิจรุ่งในปีนี้ ได้แก่ ช้อปปิ้งออนไลน์ ธุรกรรมทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ (แบงก์กิ้ง ทรานแซคชั่น) ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ส่วนธุรกิจรุ่งในปีหน้า จะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ การสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ตเซอร์วิส ขณะที่ธุรกิจร่วงในปีนี้การโฆษณาสินค้าอุปโภคบริโภค และไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ขณะที่ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ มีแนวโน้มการปิดตัวของนิตยสารมากขึ้น และน่าจะเป็นการปิดตัวมากที่สุด
จากข้อมูล พบว่า ปี 2560 มีนิตยสารปิดตัวแล้ว 54 นิตยสาร จาก 129 นิตยสาร และลดลงจากข้อมูลปี 2554 อยู่ที่ 183 นิตยสาร เนื่องจากไม่มีรายได้จากค่าโฆษณา จากผู้บริโภคลดลง และสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลและแข่งขันรุนแรงขึ้น ซึ่งยังมีนิตยสารบางประเภทอยู่ได้ แต่ไม่มีรายได้หลักจากค่าโฆษณา เช่น นิตยสารเดินป่า ตกแต่งบ้าน นาฬิกา ส่วนกระแสปิดตัวของนิตยสารคู่สร้างคู่สม คงต้องรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของผู้ประกอบการเอง
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ ยอดโฆษณาร่วงหนัก ปีนี้ใช้จ่ายลบ 14% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ลุ้นปีหน้าจะดีขึ้น
“สื่อโฆษณานอกบ้านและสื่อโทรทัศน์ ยังเป็นสื่อหลักปีนี้และปีหน้า โดยสัดส่วนการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ คิดเป็นสัดส่วน 55-60 % และเนื้อหาของช่องรายการยังเป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ และสื่อออนไลน์จะเป็นพระเอก โดยเม็ดเงินจากการใช้จ่ายโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเติบโต 28% ทางยูทูบ 14% และการค้นหาในกูเกิลอีก 11% รวมเป็น 25% และอาจเห็นโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์ลดลง และเพิ่มการโฆษณาโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือการรีวิวสินค้าโดยดารามากขึ้น” นายภวัต กล่าว
นายภวัต กล่าวว่า ธุรกิจรุ่งในปีนี้ ได้แก่ ช้อปปิ้งออนไลน์ ธุรกรรมทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ (แบงก์กิ้ง ทรานแซคชั่น) ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น ธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ส่วนธุรกิจรุ่งในปีหน้า จะเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ การสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เน็ตเซอร์วิส ขณะที่ธุรกิจร่วงในปีนี้การโฆษณาสินค้าอุปโภคบริโภค และไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ขณะที่ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ มีแนวโน้มการปิดตัวของนิตยสารมากขึ้น และน่าจะเป็นการปิดตัวมากที่สุด จากข้อมูล พบว่า ปี 2560 มีนิตยสารปิดตัวแล้ว 54 นิตยสาร จาก 129 นิตยสาร และลดลงจากข้อมูลปี 2554 อยู่ที่ 183 นิตยสาร เนื่องจากไม่มีรายได้จากค่าโฆษณา จากผู้บริโภคลดลง และสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลและแข่งขันรุนแรงขึ้น ซึ่งยังมีนิตยสารบางประเภทอยู่ได้ แต่ไม่มีรายได้หลักจากค่าโฆษณา เช่น นิตยสารเดินป่า ตกแต่งบ้าน นาฬิกา ส่วนกระแสปิดตัวของนิตยสารคู่สร้างคู่สม คงต้องรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของผู้ประกอบการเอง