เพราะเรา
แสดงธรรมเพื่อกำจัด ราคะ โทสะ โมหะ
แสดงธรรมเพื่อกำจัดสถานะที่เป็นบาปอกุศลหลายอย่าง
นี้แล เหตุที่เขากล่าวหาเราว่าพระสมณโคดมช่างกำจัด แสดงธรรมเพื่อความกำจัด
และแนะนำสาวกตามแนวนั้น ดังนี้ ชื่อว่ากล่าวถูก.
ก็
ภาวนาพละ เป็นไฉน
ในพละ ๒ อย่างนั้น ภาวนาพละนี้เป็นพละของพระเสขะ ก็บุคคลนั้นอาศัยพละที่เป็นของพระเสขะ
ย่อมละราคะ ละโทสะ ละโมหะเสียได้เด็ดขาด ครั้นละราคะ ละโทสะ ละโมหะได้เด็ดขาดแล้ว
ย่อมไม่ทำกรรมที่เป็นอกุศล ย่อมไม่เสพกรรมที่เป็นบาป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าภาวนาพละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พละ ๒ อย่างนี้แล ฯ
พ. ดูกรภิกษุ เพราะฉะนั้นแล ท่านจงศึกษาในสิกขา ๓
คือ อธิศีลสิกขา ๑ อธิจิตตสิกขา ๑ อธิปัญญาสิกขา ๑
เมื่อใด ท่านจักศึกษาอธิศีลสิกขาก็ดี จักศึกษาอธิจิตตสิกขาก็ดี จักศึกษาอธิปัญญาสิกขาก็ดี
เมื่อนั้น เมื่อท่านนั้น ศึกษาอธิศีลสิกขาอยู่ก็ดี ศึกษาอธิจิตตสิกขาอยู่ก็ดี ศึกษาอธิปัญญาสิกขาอยู่ก็ดี
จักละราคะ โทสะ โมหะ เสียได้ เพราะละราคะ โทสะ โมหะ เสียได้
ท่านนั้นจักไม่กระทำกรรมเป็นอกุศล จักไม่เสพกรรมที่เป็นบาป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการ
อันภิกษุพึงให้เจริญ เพื่อละธรรม ๓ ประการเหล่านี้
ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ
อสุภะ ๑ อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละราคะ
เมตตา ๑ อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละโทสะ
ปัญญา ๑ อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละโมหะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้
อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
....เพราะเราแสดงธรรมเพื่อกำจัดราคะ โทสะ โมหะ แสดงธรรมเพื่อกำจัดสถานะที่เป็นบาปอกุศล
เพราะเรา
แสดงธรรมเพื่อกำจัด ราคะ โทสะ โมหะ
แสดงธรรมเพื่อกำจัดสถานะที่เป็นบาปอกุศลหลายอย่าง
นี้แล เหตุที่เขากล่าวหาเราว่าพระสมณโคดมช่างกำจัด แสดงธรรมเพื่อความกำจัด
และแนะนำสาวกตามแนวนั้น ดังนี้ ชื่อว่ากล่าวถูก.
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=5&A=1959&Z=2023&pagebreak=0
ในพละ ๒ อย่างนั้น ภาวนาพละนี้เป็นพละของพระเสขะ ก็บุคคลนั้นอาศัยพละที่เป็นของพระเสขะ
ย่อมละราคะ ละโทสะ ละโมหะเสียได้เด็ดขาด ครั้นละราคะ ละโทสะ ละโมหะได้เด็ดขาดแล้ว
ย่อมไม่ทำกรรมที่เป็นอกุศล ย่อมไม่เสพกรรมที่เป็นบาป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าภาวนาพละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พละ ๒ อย่างนี้แล ฯ
-อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต-
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=1374&Z=1563
คือ อธิศีลสิกขา ๑ อธิจิตตสิกขา ๑ อธิปัญญาสิกขา ๑
เมื่อใด ท่านจักศึกษาอธิศีลสิกขาก็ดี จักศึกษาอธิจิตตสิกขาก็ดี จักศึกษาอธิปัญญาสิกขาก็ดี
เมื่อนั้น เมื่อท่านนั้น ศึกษาอธิศีลสิกขาอยู่ก็ดี ศึกษาอธิจิตตสิกขาอยู่ก็ดี ศึกษาอธิปัญญาสิกขาอยู่ก็ดี
จักละราคะ โทสะ โมหะ เสียได้ เพราะละราคะ โทสะ โมหะ เสียได้
ท่านนั้นจักไม่กระทำกรรมเป็นอกุศล จักไม่เสพกรรมที่เป็นบาป
-วัชชีปุตตสูตร-
http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=20&item=524&items=13
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการ
อันภิกษุพึงให้เจริญ เพื่อละธรรม ๓ ประการเหล่านี้
ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ
อสุภะ ๑ อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละราคะ
เมตตา ๑ อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละโทสะ
ปัญญา ๑ อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละโมหะ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้
อันภิกษุพึงให้เจริญเพื่อละธรรม ๓ ประการนี้แล ฯ
- ราคสูตร-
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=22&A=10470&Z=10480&pagebreak=0
ดูกรภิกษุ
คำว่า ความกำจัดราคะ ความกำจัดโทสะ ความกำจัดโมหะ
นี้เป็นชื่อแห่งนิพพานธาตุ เพราะเหตุนั้น
จึงเรียกว่าธรรมเป็นที่สิ้นอาสวะ.
-สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค-
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=159&Z=173