สวัสดีจ้า
มีเรื่องมาเมาส์ เจอผึ้งทีไรไม่เรื่องกิน ก็ เรื่องเที่ยว วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกที่ห้องอาหาร Atrium แห่ง The Landmark Bangkok เวลากินบุฟเฟต์แต่ละที่ แน่นอนว่า แต่ละเครือของโรงแรมจะมีความแตกต่างกันไปอย่างแน่นอน ครั้งนี้มาลองเปลี่ยนบรรยากาศเลยขอแบ่งปันจ้า
ทำเลที่ตั้งและการเดินทาง (เตรียมเงินไปเท่าไร)
ห้องอาหาร Atrium อยู่ที่โรงแรม The Landmark Bangkok ซึ่งอยู่ใกล้สุดๆกับ สถานี BTS นานา (ทางออกที่ 2) เรื่อง Location การเดินทางง่าย เราให้คะแนนเต็มสำหรับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องราคาเป็นดังนี้
ราคา (Nov 2017) (มีโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 2)
มื้อกลางวัน วันจันทร์ – วันเสาร์ : ราคารวมภาษีแล้ว 1,600 บาท/คน
มื้อกลางวัน วันอาทิตย์ : ราคารวมภาษีแล้ว 2,700 บาท/คน
มื้อเย็น วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี : ราคารวมภาษีแล้ว 2,200 บาท/คน
มื้อเย็น วันศุกร์ – วันเสาร์ : ราคารวมภาษีแล้ว 2,500 บาท/คน
ช่องทางการจอง
โทร : 02-254-0404
Line : @thelandmarkbangkok
Facebook :
https://www.facebook.com/TheLandmarkBangkok/
Website :
https://www.landmarkbangkok.com/atrium
มุมแซลม่อน (Salmon corner)
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงเทศกาลแซลม่อนพอดี เขาบอกว่าแซลม่อนที่นี่ส่งตรงมาจากนอเวย์โดยไม่ฟรีซ ทำให้เนื้อแซลม่อนไม่เปลือย และ คงรสชาติเดิมไว้ได้ ตามที่เขาบอกเลย เนื้อแน่น ส่วนเมนูแซลม่อนที่มีมาให้กินก็มีดังนี้
แซลม่อนดิบ - สาวกแซลม่อนคงชอบ ข้อดีของที่นี่อีกเรื่องคือ น้ำจิ้มรสชาติหลากหลาย
แซลม่อนรมควัน
ซูชิ ซาซิมิ - เป็นไปตามหน้าตาดังนี้เลย แต่ซูชิหนึ่งคำที่นี่ใหญ่นะมีอิ่มแน่นอนแค่กินประมาณ 2 ชิ้น
ยำแซลม่อน - ทางเชฟยำให้ทานกันตรงนั้นเลย แต่ถ้าเราคนไทยรสชาติอาจจะไม่จี๊ดจ๊าดแซ่บเวอร์อย่างคนไทยมากนัก รสชาติกลางๆเราให้คะแนน 8 เต็ม 10
สปาเก็ตตี้แซลม่อนไข่กุ้ง - สปาเกตตี้ที่นี่ราดด้วยเหล้า Absolute ด้วยนะ แล้วตามมาด้วยไข่กุ้ง แซลม่อน รสชาติเราให้คะแนน 9 เต็ม 10 อาจจะขาดพริกไทย หรือ เครื่องเทศบางอย่างที่ช่วยให้เราไม่เอียน
มุมซีฟ็ดสดๆ (Sea food corner)
ไฮไลต์ที่เราเห็นว่าที่นี่มี ไม่เหมือนที่อื่นก็คงจะเป็น
ปูไข่คลองโคน ตัวใหญ่เนื้อแน่นมาก สมกับที่เขาบอกว่าน็อคน้ำแข็งมาส่งวันต่อวัน เรากินตัวเดียวถึงกับอิ่ม ปูม้าก็มีนะแต่เนื้อจะนิ่มหน่อย กลืนง่ายๆเลย
ส่วนพวกที่ผ่านการทำให้สุกมาแล้ว แล้วมา On ice เท่าที่สังเกต เขาคัดมามาแต่จุดที่มีเนื้อโดยตรงเลย ไม่ว่าจะเป็นกรรเชียงปู แต่อย่าง King Crab แค่กล้ามปูเนื้อก็หลุดออกมาให้กินง่ายเลย แต่น้ำจิ้มซีฟู๊ดที่นี่มันออกเปรี้ยวไปนิด แต่แซ่บอยู่
ด้านหอยก็จะมีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรม และ หอยหวาน ตามจริงเรื่องหอยหวานนี่น้อยโรงแรมจะมีนะ เท่าที่เคยไปลอง ส่วนหอยนางรมตัวใหญ่ แต่ไม่อ้วนเท่าไร เราเลยขอหักคะแนนตรงหอยนางรม
มุมเนื้อ และ เล้ง (Meat and pock corner)
ที่นี่มีเนื้อที่มาเป็นขาเลย และ มีเมนูที่หากินยากสำหรับ
ฮอมอน อิบาริโค่ แฮม (Jamon Iberico) ซึ่งจะพบเจอเมนูนี้ได้แถบ สเปน ซึ่งเป็นหมูที่ถูกเลี้ยงให้กินผลต้นสน (acorn) จากนั้น เมื่อหมูอายุประมาณ 2 ปี จึงนำมาทำแฮม โดยไม่ผ่านกระบวนการให้ความร้อนใดๆทั้งสิ้น แต่หมักเกลือสามปี ก่อนจะนำออกขายได้
เมนูเซอไพรซ์ที่ไม่คิดว่าโรงแรมจะมีคือ เล้งหมูดำคูโรบูตะ ที่มีเชฟมาปรุงให้ มันจะอร่อยเปรี้ยวเผ็ด แต่ไม่ได้เผ็ดแบบต้องร้องขอชีวิตเหมือนที่ตลาดนัดรถไฟ เราชอบเมนูนี้สุดๆเลย
อาหารไทยเลอค่า (Thai food corner)
มุมนี้เราให้คะแนนเต็ม เพราะอาหารไทยที่นี่มันไม่เหมือนอาหารไทยในโรงแรม รสชาติน้ำยำของเขาคมมาก ถูกใจคนไทยแบบเราสุดๆ คืออย่างที่อื่นเขาจะรสชาติครึ่งๆกลางๆ แต่ที่นี่เน้นไทยชัดๆ ขนมจีนซาวน้ำที่นี่ก็มี แต่เขาว่ากันว่าเมนูจะหมุนเวียนทุกวัน แต่เรื่องยำไว้ใจ Atrium
ขนมหวาน (dessert corner)
ปกติแล้วโรงแรมจะมีขนมหวานพวกเค้กเป็น Default อยู่แล้ว แต่ความพิเศษของที่นี่คือ ฟองดูว รสชาติเข้มข้นโดยของที่เอามาจิ้มจะแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น มะม่วงแช่อิ่มอย่างงี้ กินเปล่าๆก็อร่อย
เมนูพิเศษที่มีเชฟมาทำให้สดๆเลย วันที่เราไปเจอ ชูแปง ที่ใช้แป้งเอแคร์ทอด แล้วมาคลุกกับผงอบเชย อร่อยเด็ดกินไป 12 อันได้ มันก็จะเขินๆหน่อยแอบสารภาพ 55+
[CR] ปูไข่คลองโคน...แซลม่อนส่งตรงจากนอเวย์กับที่นี่ Atrium | The Landmark Bangkok
ทำเลที่ตั้งและการเดินทาง (เตรียมเงินไปเท่าไร)
ห้องอาหาร Atrium อยู่ที่โรงแรม The Landmark Bangkok ซึ่งอยู่ใกล้สุดๆกับ สถานี BTS นานา (ทางออกที่ 2) เรื่อง Location การเดินทางง่าย เราให้คะแนนเต็มสำหรับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องราคาเป็นดังนี้
ราคา (Nov 2017) (มีโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 2)
มื้อกลางวัน วันจันทร์ – วันเสาร์ : ราคารวมภาษีแล้ว 1,600 บาท/คน
มื้อกลางวัน วันอาทิตย์ : ราคารวมภาษีแล้ว 2,700 บาท/คน
มื้อเย็น วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี : ราคารวมภาษีแล้ว 2,200 บาท/คน
มื้อเย็น วันศุกร์ – วันเสาร์ : ราคารวมภาษีแล้ว 2,500 บาท/คน
ช่องทางการจอง
โทร : 02-254-0404
Line : @thelandmarkbangkok
Facebook : https://www.facebook.com/TheLandmarkBangkok/
Website : https://www.landmarkbangkok.com/atrium
มุมแซลม่อน (Salmon corner)
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงเทศกาลแซลม่อนพอดี เขาบอกว่าแซลม่อนที่นี่ส่งตรงมาจากนอเวย์โดยไม่ฟรีซ ทำให้เนื้อแซลม่อนไม่เปลือย และ คงรสชาติเดิมไว้ได้ ตามที่เขาบอกเลย เนื้อแน่น ส่วนเมนูแซลม่อนที่มีมาให้กินก็มีดังนี้
แซลม่อนดิบ - สาวกแซลม่อนคงชอบ ข้อดีของที่นี่อีกเรื่องคือ น้ำจิ้มรสชาติหลากหลาย
แซลม่อนรมควัน
ซูชิ ซาซิมิ - เป็นไปตามหน้าตาดังนี้เลย แต่ซูชิหนึ่งคำที่นี่ใหญ่นะมีอิ่มแน่นอนแค่กินประมาณ 2 ชิ้น
ยำแซลม่อน - ทางเชฟยำให้ทานกันตรงนั้นเลย แต่ถ้าเราคนไทยรสชาติอาจจะไม่จี๊ดจ๊าดแซ่บเวอร์อย่างคนไทยมากนัก รสชาติกลางๆเราให้คะแนน 8 เต็ม 10
สปาเก็ตตี้แซลม่อนไข่กุ้ง - สปาเกตตี้ที่นี่ราดด้วยเหล้า Absolute ด้วยนะ แล้วตามมาด้วยไข่กุ้ง แซลม่อน รสชาติเราให้คะแนน 9 เต็ม 10 อาจจะขาดพริกไทย หรือ เครื่องเทศบางอย่างที่ช่วยให้เราไม่เอียน
มุมซีฟ็ดสดๆ (Sea food corner)
ไฮไลต์ที่เราเห็นว่าที่นี่มี ไม่เหมือนที่อื่นก็คงจะเป็น ปูไข่คลองโคน ตัวใหญ่เนื้อแน่นมาก สมกับที่เขาบอกว่าน็อคน้ำแข็งมาส่งวันต่อวัน เรากินตัวเดียวถึงกับอิ่ม ปูม้าก็มีนะแต่เนื้อจะนิ่มหน่อย กลืนง่ายๆเลย
ส่วนพวกที่ผ่านการทำให้สุกมาแล้ว แล้วมา On ice เท่าที่สังเกต เขาคัดมามาแต่จุดที่มีเนื้อโดยตรงเลย ไม่ว่าจะเป็นกรรเชียงปู แต่อย่าง King Crab แค่กล้ามปูเนื้อก็หลุดออกมาให้กินง่ายเลย แต่น้ำจิ้มซีฟู๊ดที่นี่มันออกเปรี้ยวไปนิด แต่แซ่บอยู่
ด้านหอยก็จะมีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยนางรม และ หอยหวาน ตามจริงเรื่องหอยหวานนี่น้อยโรงแรมจะมีนะ เท่าที่เคยไปลอง ส่วนหอยนางรมตัวใหญ่ แต่ไม่อ้วนเท่าไร เราเลยขอหักคะแนนตรงหอยนางรม
มุมเนื้อ และ เล้ง (Meat and pock corner)
ที่นี่มีเนื้อที่มาเป็นขาเลย และ มีเมนูที่หากินยากสำหรับ ฮอมอน อิบาริโค่ แฮม (Jamon Iberico) ซึ่งจะพบเจอเมนูนี้ได้แถบ สเปน ซึ่งเป็นหมูที่ถูกเลี้ยงให้กินผลต้นสน (acorn) จากนั้น เมื่อหมูอายุประมาณ 2 ปี จึงนำมาทำแฮม โดยไม่ผ่านกระบวนการให้ความร้อนใดๆทั้งสิ้น แต่หมักเกลือสามปี ก่อนจะนำออกขายได้
เมนูเซอไพรซ์ที่ไม่คิดว่าโรงแรมจะมีคือ เล้งหมูดำคูโรบูตะ ที่มีเชฟมาปรุงให้ มันจะอร่อยเปรี้ยวเผ็ด แต่ไม่ได้เผ็ดแบบต้องร้องขอชีวิตเหมือนที่ตลาดนัดรถไฟ เราชอบเมนูนี้สุดๆเลย
อาหารไทยเลอค่า (Thai food corner)
มุมนี้เราให้คะแนนเต็ม เพราะอาหารไทยที่นี่มันไม่เหมือนอาหารไทยในโรงแรม รสชาติน้ำยำของเขาคมมาก ถูกใจคนไทยแบบเราสุดๆ คืออย่างที่อื่นเขาจะรสชาติครึ่งๆกลางๆ แต่ที่นี่เน้นไทยชัดๆ ขนมจีนซาวน้ำที่นี่ก็มี แต่เขาว่ากันว่าเมนูจะหมุนเวียนทุกวัน แต่เรื่องยำไว้ใจ Atrium
ขนมหวาน (dessert corner)
ปกติแล้วโรงแรมจะมีขนมหวานพวกเค้กเป็น Default อยู่แล้ว แต่ความพิเศษของที่นี่คือ ฟองดูว รสชาติเข้มข้นโดยของที่เอามาจิ้มจะแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่น มะม่วงแช่อิ่มอย่างงี้ กินเปล่าๆก็อร่อย
เมนูพิเศษที่มีเชฟมาทำให้สดๆเลย วันที่เราไปเจอ ชูแปง ที่ใช้แป้งเอแคร์ทอด แล้วมาคลุกกับผงอบเชย อร่อยเด็ดกินไป 12 อันได้ มันก็จะเขินๆหน่อยแอบสารภาพ 55+
งานนี้เราไม่เน้นอวย ส่วนใครอยากพูดคุยเพิ่มเติม เชิญได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น