ที่บ้านผมให้เช่าพื้นที่ครับ เป็นอาคารเล็กๆ (แนว SME)

ธุรกิจของผู้เช่าก็จะประกอบไปด้วย หุ้นส่วนคนอื่นๆ และพนักงานคนอื่นๆ แต่ละคนก็รับผิดชอบต่างกันไป
เช่น
หุ้นส่วนคนนึง ดูแลเรื่องบัญชี การเงิน (คนรับหน้าที่จ่ายค่าเช่า)
หุ้นส่วนคนนึง ดูแลเรื่องก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติม
พนักงานโบกรถ
ฯลฯ
คนเซ็นต์สัญญาเช่า เป็นหุ้นส่วนใหญ่สุด

เวลาเกิดปัญหา เช่น
- ลูกค้าของผู้เช่าทำความเสียหายให้กับพื้นที่ เช่น ขับรถเฉี่ยวเสา
- ช่างที่มาทำสถานที่ เทปูนทิ้งตรงที่จอดรถ ช่างทำสายโทรศัพท์ขาด
- พนักงานของผู้เช่า ยกเอาของมาวางเกะกะนอกพื้นที่เช่า เช่น ลังเบียร์, ขวดเบียร์, โต๊ะ เก้าอี้ ที่พังแล้ว
- พนักงานของผู้เช่า หรือ ลูกค้าของผู้เช่า จอดรถผิดที่
- น้ำไหลออกมานอกร้าน ทำให้ลานที่จอดรถเปียก
ฯลฯ

พอผมทราบเรื่อง ผมก็โทรหาผู้เช่า ให้เค้าจัดการปัญหาที่เกิด
ก็จะเป็นลักษณะ ผู้เช่าไม่รับสาย หรือ ถ้ารับสายก็จะโยนไปให้คนอื่นคุยต่อ โดยให้เหตุผลประมาณว่า
- เค้าไม่ได้เข้าร้านเลย ติดธุระอยู่ หรืออยู่ต่างจังหวัด ให้ผมคุยกับหุ้นส่วนอีกคนนึง
- เค้าไม่ได้ดูแลทางด้านนี้ ให้คุยกับคนที่รับผิดชอบโดยตรงดีกว่า เช่น หุ้นส่วนที่ดูแลด้านนั้นๆ หรือ พนักงานที่ดูแลด้านนั้นๆ  


ฟังดูเหมือนมีเหตุผลครับ

แต่ในทางปฏิบัติมันจะประมาณว่า
พอผมคุยกับหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิดขึ้น เค้าก็บอกเค้าตัดสินใจไม่ได้ ให้ผมคุยกับอีกคนนึง ซึ่งอาจจะโยนให้ผมไปคุยกับอีกคนนึง
คุยไปคุยมาบอกให้ผมคุยกับหุ้นส่วนใหญ่ (ผู้เช่า)
วนกลับมาใหม่

หุ้นส่วนบางคนนี่ ผมยังไม่ทันอธิบายอะไรเลย ก็ตัดบทบอกให้ผมคุยกับอีกคนนึง แล้วก็วางหูใส่ผมเลย (ผมเป็นผู้ให้เช่า โดนหุ้นส่วนคนนึงของผู้เช่าวางหูใส่)

บางทีสุดท้ายก็จบด้วยการ "ผมไม่รู้เรื่อง",  "ผมไม่เห็นว่าใครทำนะ" เช่น
- กรณี สายโทรศัพท์ขาด ทั้งๆ ที่จุดที่สายขาดอยู่ตรงร้านเค้าเลย ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่ช่างมาต่อเติมอาคาร
- กรณี ลูกค้าชนเสาเหล็กกล่องบุบ ก็บอกเค้าไม่รู้ ทั้งๆ ที่ตรงบริเวณนั้นมีแต่ลูกค้าของร้านผู้เช่าจอด
ฯลฯ

สรุป สั้นๆ คือ เหมือนเค้าโยนกันไปโยนกันมาหนะครับ

- ผมควรแก้ไขปัญหาลักษณะนี้อย่างไรดีครับ
- ในสัญญาปีต่อไป ผมควรใส่เงื่อนไขที่มาแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไรดีครับ

ขอบคุณครับ