ประสบการ์ณนำผู้ป่วยวาระสุดท้ายมาดูแลที่บ้าน

ใครมีประสบการ์ณที่ต้องนำผู้ป่วยวาระสุดท้ายมาดูแลที่บ้านบ้างครับ

          เนื่องจาก จขกท. แม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งที่ลิ้นผ่าตัดเมื่อ มกราคม 60 ตอนนั้นหมอบอกเป็นระยะที่ 1 โดยหมอได้เลาะต่อมน้ำเหลืองออกด้วย  และให้ฉายแสงทั้งหมด 33 ครั้ง หลังจากฉายแสงแม่ก็มีอาการกลืนอาหารลำบาก กินข้าวไม่ได้ จนน้ำหนักลดลงอย่างมาก จนเมื่อปลายเดือนตุลาคม 60 แม่ทรุดลงโดยมีอาการบวมของแก้มและคอทั้ง 2 ข้าง ต้องให้อาหารทางสายยางผ่านจมูก และเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ

         จนล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 60 หมอได้แจ้งว่าอาการของแม่หนัก มะเร็งมันได้ลุกลามไปทั่วแก้มและบริเวณคอ ไม่มีทางรักษาแล้ว ให้ทำใจ และให้เซ็นต์ว่าหากคนไข้ทรุดจะให้ปั้มหัวใจหรือไม่ และให้ตัดสินใจว่าจะพาคนไข้กลับบ้านไหม หรือไปรพ.ใกล้ๆบ้าน เพราะตอนนี้รักษาแบบประคับประคองเท่านั้น (แม่มีสติรับรู้เรื่องทุกอย่าง บอกความต้องการได้ว่าอยากได้อะไร) โดยแม่อยากกลับบ้านมาก หลังจากนั้นเลยให้ รพ.ที่รักษาส่งตัวไปยัง รพ.ในอำเภอที่ใกล้บ้าน และพอหลังจากมายัง รพ.ในอำเภอ ก็มีทีมแพทย์มาถามความต้องการคนไข้ และญาติๆ ว่าอยากให้คนไข้กลับบ้านไหม  แน่นอนคำตอบที่ได้คือแม่อยากกลับ และญาติๆก็อยากให้กลับ

      ปัจจุบันได้นำแม่กลับบ้านเพื่อมารักษาตัวแบบประคับประคองต่อที่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 60 โดยหมอได้ให้ยาแก้ปวดทางผิวหนัง โดยยา 1 เข็มจะค่อยๆฉีดเข้าไปโดยใช้เครื่องฉีดอัตโนมัติในเวลา 24 ชม. เปลี่ยนยาทุกวัน (มอร์ฟีน) และได้เครื่องมือทางแพทย์จาก รพ.มา เช่น เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องดูดเสมหะ ทุกครั้งเวลาเห็นแม่เหนื่อย คนดูแลเหนื่อย ก็จะรู้สึกว่าเราคิดผิดไหมว่าพาแม่กลับบ้าน มาทรมานรึเปล่า...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่