คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 52
เล่าจากชีวิตผมให้ฟังละกันนะครับ
ผมจบอันดับสอง มหาลัยtop3ของไทย
ตอนเรียนเพื่อนเกาะอยู่พอสมควร เกาะจนกลายเป็นกลุ่มที่มีอยู่10คน
ผมไม่เคยโกรธเขาเลยนะที่เขามาเกาะ
ถ้ามองในมุมที่ว่าเราเหนื่อยกับงาน ทำคนเดียว ลุยคนเดียว อันนี้จริง
แต่สิ่งที่แลกมาคือความรู้มากมายที่ได้รับ สิ่งที่แลกมาคือเพื่อนดีๆที่ไม่ทิ้งไปไหน
และที่สำคัญที่สุด ประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้ในห้องเรียนจากเพื่อนพวกนั้น
เอาตอนสมัยเรียนก่อน
ผมก็เป็นเด็กเนิดๆ ที่มีเด็กแก๊งกวนๆมาเกาะติด ถามว่าชอบไหม แรกๆก็ไม่ชอบเหมือน จขกท แหละครับ
แต่แม่บอกว่า ลองศึกษาพวกเขาดู แล้วจะรู้ว่าเขามีอะไรดี มากกว่าที่เราเห็น และบางอย่างแกก็ไม่มีสิ่งนั้นหรอก
พอผมมาสังเกตดูมันก็จริง
เพื่อนคนแรก ชื่อณัฐ ไม่ได้เกเร ไม่ได้โง่ แต่ขี้เกียจมาก แต่หัวมันดีมาก ผมสอนมันได้ไวกว่าคนอื่น สอนยังไงก็เข้าใจ ทั้งๆที่มันไม่เข้าเรียน
เพื่อนคนสอง ชื่อบิ๊ก เด็กติดเกมส์ ติดมาก ติดชริบหาย ติดแบบไม่ได้เล่นเกมส์แล้วจะตายให้ได้ สมองไม่ได้ไว เรียนก็งั้นๆ แต่เรื่องtechnology ยกให้เขาเลย มันรู้ทุกเรื่อง
เพื่อนคนที่สาม ชื่อหนึ่ง ซื้อบื้อสุดในกลุ่ม พูดเป็นร้อยรอบก็ไม่เข้าใจ สอนจนจะสะกดเป็นคำใส่หูมันก็ยังไม่เข้าใจ แต่ถ้ามันเข้าใจอะไรแล้ว มันไม่ลืม มันจำแม่นมาก(ถ้ามันเข้าใจแล้ว สอนเรื่องปี1 ไปถามมันตอนปี4มันยังจำได้ แล้วมันก็บอก เมงสอนกุเองจำไม่ได้หรอ )
เพื่อนคนที่สี่ ชื่อ โอ ติดหญิง ชอบ หน้าม่อ เจ้าชู้ แต่ขอโทษ เรื่องหญิงไม่มีขาด อยากได้เบอร์ใครอยากรู้จักใคร มันสรรหาได้หมด (ส่วนเขาจะเอาเราไหมก็อีกเรื่องนะ แต่สร้างconnectionได้)
เพื่อนคนที่ห้า ชื่อพี ชายเงียบ เรียบร้อยประจำกลุ่ม เงียบจนสงสัยว่า วันๆหนึ่งมันพูดกี่คำเลย หัวไม่ได้ดี แต่ก็ดีกว่าไอ่หนึ่งหน่อยนึง แต่เพราะความเงียบของมันทำให้ทุกคนที่ไม่รู้จักมันคิดว่ามันเก่ง smart รู้ทุกเรื่อง จริงๆเปล่าหรอกมันก็แค่ อือๆ ออๆ ไปตามเขาแหละ
เพื่อนคนที่หก ชื่อมด เป็นคนเรื่อยๆ ชีวิตติดการ์ตูน ที่มหาลัยมีร้านเช่าการ์ตูนอยู่ อยู่ปี1 ถึงปี4 มันเช่าการ์ตูนมาอ่านจนหมดร้านได้ มันเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาก (ผมคิดว่ามันคงได้มาจากการ์ตูนเยอะ) คิดอะไรแบบความคิดพระเอกสุดๆยังกับในการ์ตูนเลย สามัคคีคือพลัง พวกเราต้องช่วยกันเราจะผ่านมันไปได้ มันเป็นคนที่ให้กำลังใจเพื่อนได้ดีมาก ถึงแม้มันจะช่วยอะไรไม่ได้ก็เถอะ
เพื่อนคนที่เจ็ด ชื่อฝน ผู้หญิง คนแรกในกลุ่ม เรียบร้อยยังกับผ้าพับไว้ ไม่รู้อะไรเลย ป้ำๆ เป๋อๆ เอ๋อๆ ด๋าๆ แต่เป็นเจ้าแม่แห่งเอกสาร เอกสารฉบับไหนมีอะไรตรงไหนรู้หมด แต่มันไม่เข้าใจนะ มันแค่รู้ว่าอยู่ตรงนี้
เพื่อนคนที่แปดชื่อ มุก ผู้หญิงคนสุดท้ายในกลุ่ม(ในกลุ่มมี2คน) ห้าว นักเลง ผู้ชายยังต้องถอย เวลามีเรื่องยัยนี่แหละเดินหน้าลุยดะตลอด ไม่สนอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่มันสูงแค่150 = =" แต่ก็ดีนะมันทำให้เราเข้าใจว่าเวลาเราโดนคนอื่นเอาเปรียบก็อย่าไปยอมมัน
เพื่อนคนที่เก้าคนสุดท้าย ชื่อต้า เป็นคนที่ชอบดนตรี กีฬามาก เล่นเป็นตั้งแต่ กีต้าร์ กลอง เบส ไวโอลีน แซกโซโฟน กีฬาบอกมาเหอะได้หมด แบต บอล บาส เปตอง!!! วอลเล่ย์(ตัวกีฬาจังหวัดด้วย) เรื่องกีฬา ดนตรีบอกมันเลยมันช่วยได้หมดอะ จะซื้ออะไรแบบไหน รองเท้า ชุดกีฬา คุณภาพกีต้าร์ คุณภาพไม้ที่เอามาทำ เหล็กแบบนี้ไม่ดี รอยต่อตรงนี้ไม่สวย
ตัวผมคนที่10ก็อย่างที่บอกแหละครับ หนอนหนังสือ เด็กเนิดๆใส่แว่นตั้งใจเรียน แต่ก็ทำอย่างอื่นได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร
ในกลุ่มผม10คนมีอะไรหลากหลายมากมายครับ ตอนเรียนเหนื่อยมาก อะไรๆก็กุ ทุกอย่างนี่กุคนเดียว แต่พอมาสังเกตดีๆ ทุกคนมีข้อดีของตัวเองครับ แค่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเท่านั้นเอง
พอโตมาเป็นผู้ใหญ่
เพื่อนคนแรกไอ่ณัฐ มันไปทำงานต่อกิจการของพ่อ มันเก่งหัวดีอยู่แล้ว แต่แค่มันขี้เกียจ
เพื่อนคนสอง ไอ่บิ๊ก ตอนนี้มันเป็นเจ้าของร้านเกมส์ และร้านเกมส์มันไม่ใช่เล็กๆนะ 200กว่าเครื่อง แถมมีงานเสริมเป็น colo server อีก เวลามีปัญหาเรื่องคอม เรื่องtechnology โทรไปถามมันสิครับรู้ทุกอย่าง
เพื่อนคนที่สาม ไอ่หนึ่ง ตอนนี้จบ ดร.แล้ว ใครจะเชื่อหัวช้า เข้าใจอะไรยากแบบมันจะจบ ดร. ก็เพราะมันเป็นคนลืมอะไรโคตรยากเนี่ยแหละ เมื่อมันจำได้แล้วแทบจะไม่ลืมเลย ตอนนี้ก็เป็นอ.มหาลัยสอนรุ่นน้องผมอยู่
เพื่อนคนที่สี่ ไอ่โอ พลิกผันตัวไปทำงาน สายHR มันเข้ากับคนเก่งมาก ตอนนี้ก็กลายเป็น VP ไปแล้ว มันเข้าใจสังคม เข้าใจคน ยุคนี้ gen นี้เป็นแบบนี้ ต้องทำแบบนี้เขาถึงจะเข้าใจ เวลามีปัญหาเรื่องคนโทรไปถามมันทีไรช่วยได้ตลอด
เพื่อนคนที่ห้า ไอ่พีมันจบตรีวิศวะคอมไปมันไปเรียนตรีนิติต่อ โทนิติสอบเป็นทนายความจนติด ด้วยความเงียบ มาด บุคลิกของมันสุดยอด มาดเข้มมาก มีปัญหาเรื่องกฎหมายก็ถามมันสิชีวิตดีขึ้นเยอะ
เพื่อนคนที่หก ไอ่มด ทุกวันนี้มีร้านขายหนังสือเป็นของตัวเอง ว่างๆมันก็ไปช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาสตามที่ต่างๆ ก็นะ อุดมการณ์มันเยอะ
เพื่อนคนที่เจ็ด ยัยฝนตอนนี้กลายเป็นนักบัญชีไปแล้วใครจะเชื่อวิศวะคอมไปต่อโทบัญชีก็ได้ด้วย สอบCFA ผู้ตรงบัญชีอะไรของมันผ่านหมด อยู่บริษัทบัญชีที่ไหนไม่รู้จำไม่ได้
เพื่อนคนที่แปด ยัยมุกสาวห้าวของเราตอนนี้เป็น vendor sale engineer ค่าคอมไม่ต้องพูดถึง ลูกค้าอยู่ไหน ลุยถึงนั่น เรื่องเดินทางไม่ต้องกังวล พร้อมรับทุกสถานการณ์
เพื่อนคนที่เก้า ไอ่ต้า ตอนนี้ผันตัวไปเป็นครูโรงเรียนเอกชนสอนพละ ดนตรีควบ ทำในสิ่งที่รักไป
ส่วนผมนะหรอก ก็เป็นแค่วิศวะคอมธรรมคนหนึ่งที่เรียนจบมาทำงานบริษัทเอกชน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ดูแลครอบครัว ธรรมดาคนหนึ่งแหละครับ
ที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนี่
ก็แค่อยากบอกว่า ชีวิตมนุษย์มันไม่มีถูกหรือผิดหรอกครับ มันไม่มีขาวกับดำ บนโลกจริงๆทุกอย่างต่างเป็นสีเทา และที่สำคัญคือมันยากที่แยกระหว่างถูกและผิด
ถ้าโลกจริงๆมันแยกถูกผิดง่ายๆ เหมือนในห้องเรียน ก็คงดีครับ
dilemma theory ครับลองหาอ่านดูก็ได้ครับ
ปล.ที่ผมพิมพ์ลงไปทั้งหมด คือส่วนหนึ่งในชีวิตผมที่ผมเจอมา ผมไม่ได้บอกว่าคนอื่นจะเจอแบบผมนะครับ ^__^
ผมจบอันดับสอง มหาลัยtop3ของไทย
ตอนเรียนเพื่อนเกาะอยู่พอสมควร เกาะจนกลายเป็นกลุ่มที่มีอยู่10คน
ผมไม่เคยโกรธเขาเลยนะที่เขามาเกาะ
ถ้ามองในมุมที่ว่าเราเหนื่อยกับงาน ทำคนเดียว ลุยคนเดียว อันนี้จริง
แต่สิ่งที่แลกมาคือความรู้มากมายที่ได้รับ สิ่งที่แลกมาคือเพื่อนดีๆที่ไม่ทิ้งไปไหน
และที่สำคัญที่สุด ประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้ในห้องเรียนจากเพื่อนพวกนั้น
เอาตอนสมัยเรียนก่อน
ผมก็เป็นเด็กเนิดๆ ที่มีเด็กแก๊งกวนๆมาเกาะติด ถามว่าชอบไหม แรกๆก็ไม่ชอบเหมือน จขกท แหละครับ
แต่แม่บอกว่า ลองศึกษาพวกเขาดู แล้วจะรู้ว่าเขามีอะไรดี มากกว่าที่เราเห็น และบางอย่างแกก็ไม่มีสิ่งนั้นหรอก
พอผมมาสังเกตดูมันก็จริง
เพื่อนคนแรก ชื่อณัฐ ไม่ได้เกเร ไม่ได้โง่ แต่ขี้เกียจมาก แต่หัวมันดีมาก ผมสอนมันได้ไวกว่าคนอื่น สอนยังไงก็เข้าใจ ทั้งๆที่มันไม่เข้าเรียน
เพื่อนคนสอง ชื่อบิ๊ก เด็กติดเกมส์ ติดมาก ติดชริบหาย ติดแบบไม่ได้เล่นเกมส์แล้วจะตายให้ได้ สมองไม่ได้ไว เรียนก็งั้นๆ แต่เรื่องtechnology ยกให้เขาเลย มันรู้ทุกเรื่อง
เพื่อนคนที่สาม ชื่อหนึ่ง ซื้อบื้อสุดในกลุ่ม พูดเป็นร้อยรอบก็ไม่เข้าใจ สอนจนจะสะกดเป็นคำใส่หูมันก็ยังไม่เข้าใจ แต่ถ้ามันเข้าใจอะไรแล้ว มันไม่ลืม มันจำแม่นมาก(ถ้ามันเข้าใจแล้ว สอนเรื่องปี1 ไปถามมันตอนปี4มันยังจำได้ แล้วมันก็บอก เมงสอนกุเองจำไม่ได้หรอ )
เพื่อนคนที่สี่ ชื่อ โอ ติดหญิง ชอบ หน้าม่อ เจ้าชู้ แต่ขอโทษ เรื่องหญิงไม่มีขาด อยากได้เบอร์ใครอยากรู้จักใคร มันสรรหาได้หมด (ส่วนเขาจะเอาเราไหมก็อีกเรื่องนะ แต่สร้างconnectionได้)
เพื่อนคนที่ห้า ชื่อพี ชายเงียบ เรียบร้อยประจำกลุ่ม เงียบจนสงสัยว่า วันๆหนึ่งมันพูดกี่คำเลย หัวไม่ได้ดี แต่ก็ดีกว่าไอ่หนึ่งหน่อยนึง แต่เพราะความเงียบของมันทำให้ทุกคนที่ไม่รู้จักมันคิดว่ามันเก่ง smart รู้ทุกเรื่อง จริงๆเปล่าหรอกมันก็แค่ อือๆ ออๆ ไปตามเขาแหละ
เพื่อนคนที่หก ชื่อมด เป็นคนเรื่อยๆ ชีวิตติดการ์ตูน ที่มหาลัยมีร้านเช่าการ์ตูนอยู่ อยู่ปี1 ถึงปี4 มันเช่าการ์ตูนมาอ่านจนหมดร้านได้ มันเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาก (ผมคิดว่ามันคงได้มาจากการ์ตูนเยอะ) คิดอะไรแบบความคิดพระเอกสุดๆยังกับในการ์ตูนเลย สามัคคีคือพลัง พวกเราต้องช่วยกันเราจะผ่านมันไปได้ มันเป็นคนที่ให้กำลังใจเพื่อนได้ดีมาก ถึงแม้มันจะช่วยอะไรไม่ได้ก็เถอะ
เพื่อนคนที่เจ็ด ชื่อฝน ผู้หญิง คนแรกในกลุ่ม เรียบร้อยยังกับผ้าพับไว้ ไม่รู้อะไรเลย ป้ำๆ เป๋อๆ เอ๋อๆ ด๋าๆ แต่เป็นเจ้าแม่แห่งเอกสาร เอกสารฉบับไหนมีอะไรตรงไหนรู้หมด แต่มันไม่เข้าใจนะ มันแค่รู้ว่าอยู่ตรงนี้
เพื่อนคนที่แปดชื่อ มุก ผู้หญิงคนสุดท้ายในกลุ่ม(ในกลุ่มมี2คน) ห้าว นักเลง ผู้ชายยังต้องถอย เวลามีเรื่องยัยนี่แหละเดินหน้าลุยดะตลอด ไม่สนอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่มันสูงแค่150 = =" แต่ก็ดีนะมันทำให้เราเข้าใจว่าเวลาเราโดนคนอื่นเอาเปรียบก็อย่าไปยอมมัน
เพื่อนคนที่เก้าคนสุดท้าย ชื่อต้า เป็นคนที่ชอบดนตรี กีฬามาก เล่นเป็นตั้งแต่ กีต้าร์ กลอง เบส ไวโอลีน แซกโซโฟน กีฬาบอกมาเหอะได้หมด แบต บอล บาส เปตอง!!! วอลเล่ย์(ตัวกีฬาจังหวัดด้วย) เรื่องกีฬา ดนตรีบอกมันเลยมันช่วยได้หมดอะ จะซื้ออะไรแบบไหน รองเท้า ชุดกีฬา คุณภาพกีต้าร์ คุณภาพไม้ที่เอามาทำ เหล็กแบบนี้ไม่ดี รอยต่อตรงนี้ไม่สวย
ตัวผมคนที่10ก็อย่างที่บอกแหละครับ หนอนหนังสือ เด็กเนิดๆใส่แว่นตั้งใจเรียน แต่ก็ทำอย่างอื่นได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร
ในกลุ่มผม10คนมีอะไรหลากหลายมากมายครับ ตอนเรียนเหนื่อยมาก อะไรๆก็กุ ทุกอย่างนี่กุคนเดียว แต่พอมาสังเกตดีๆ ทุกคนมีข้อดีของตัวเองครับ แค่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเท่านั้นเอง
พอโตมาเป็นผู้ใหญ่
เพื่อนคนแรกไอ่ณัฐ มันไปทำงานต่อกิจการของพ่อ มันเก่งหัวดีอยู่แล้ว แต่แค่มันขี้เกียจ
เพื่อนคนสอง ไอ่บิ๊ก ตอนนี้มันเป็นเจ้าของร้านเกมส์ และร้านเกมส์มันไม่ใช่เล็กๆนะ 200กว่าเครื่อง แถมมีงานเสริมเป็น colo server อีก เวลามีปัญหาเรื่องคอม เรื่องtechnology โทรไปถามมันสิครับรู้ทุกอย่าง
เพื่อนคนที่สาม ไอ่หนึ่ง ตอนนี้จบ ดร.แล้ว ใครจะเชื่อหัวช้า เข้าใจอะไรยากแบบมันจะจบ ดร. ก็เพราะมันเป็นคนลืมอะไรโคตรยากเนี่ยแหละ เมื่อมันจำได้แล้วแทบจะไม่ลืมเลย ตอนนี้ก็เป็นอ.มหาลัยสอนรุ่นน้องผมอยู่
เพื่อนคนที่สี่ ไอ่โอ พลิกผันตัวไปทำงาน สายHR มันเข้ากับคนเก่งมาก ตอนนี้ก็กลายเป็น VP ไปแล้ว มันเข้าใจสังคม เข้าใจคน ยุคนี้ gen นี้เป็นแบบนี้ ต้องทำแบบนี้เขาถึงจะเข้าใจ เวลามีปัญหาเรื่องคนโทรไปถามมันทีไรช่วยได้ตลอด
เพื่อนคนที่ห้า ไอ่พีมันจบตรีวิศวะคอมไปมันไปเรียนตรีนิติต่อ โทนิติสอบเป็นทนายความจนติด ด้วยความเงียบ มาด บุคลิกของมันสุดยอด มาดเข้มมาก มีปัญหาเรื่องกฎหมายก็ถามมันสิชีวิตดีขึ้นเยอะ
เพื่อนคนที่หก ไอ่มด ทุกวันนี้มีร้านขายหนังสือเป็นของตัวเอง ว่างๆมันก็ไปช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาสตามที่ต่างๆ ก็นะ อุดมการณ์มันเยอะ
เพื่อนคนที่เจ็ด ยัยฝนตอนนี้กลายเป็นนักบัญชีไปแล้วใครจะเชื่อวิศวะคอมไปต่อโทบัญชีก็ได้ด้วย สอบCFA ผู้ตรงบัญชีอะไรของมันผ่านหมด อยู่บริษัทบัญชีที่ไหนไม่รู้จำไม่ได้
เพื่อนคนที่แปด ยัยมุกสาวห้าวของเราตอนนี้เป็น vendor sale engineer ค่าคอมไม่ต้องพูดถึง ลูกค้าอยู่ไหน ลุยถึงนั่น เรื่องเดินทางไม่ต้องกังวล พร้อมรับทุกสถานการณ์
เพื่อนคนที่เก้า ไอ่ต้า ตอนนี้ผันตัวไปเป็นครูโรงเรียนเอกชนสอนพละ ดนตรีควบ ทำในสิ่งที่รักไป
ส่วนผมนะหรอก ก็เป็นแค่วิศวะคอมธรรมคนหนึ่งที่เรียนจบมาทำงานบริษัทเอกชน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ดูแลครอบครัว ธรรมดาคนหนึ่งแหละครับ
ที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนี่
ก็แค่อยากบอกว่า ชีวิตมนุษย์มันไม่มีถูกหรือผิดหรอกครับ มันไม่มีขาวกับดำ บนโลกจริงๆทุกอย่างต่างเป็นสีเทา และที่สำคัญคือมันยากที่แยกระหว่างถูกและผิด
ถ้าโลกจริงๆมันแยกถูกผิดง่ายๆ เหมือนในห้องเรียน ก็คงดีครับ
dilemma theory ครับลองหาอ่านดูก็ได้ครับ
ปล.ที่ผมพิมพ์ลงไปทั้งหมด คือส่วนหนึ่งในชีวิตผมที่ผมเจอมา ผมไม่ได้บอกว่าคนอื่นจะเจอแบบผมนะครับ ^__^
แสดงความคิดเห็น
คนที่มหาวิทยาลัยไม่เรียน งานกลุ่มก็เกาะเพื่อนเอา โตขึ้นไปเขากลายเป็นผู้ใหญ่แบบไหนคะ