ที่จริงแล้ว DNA แรกเริ่มของจีนที่เรียกตัวเองว่า han คือ ใช่ต้นกำเนิดคนจีนจริงๆหรือ

คนจีนในปัจจุบัน เชื่อว่า กลุ่มตนคือ ชาว han ฮั่น  แต่เมื่อ ดูการจากแทนชื่อตัวเอง ว่า wo หวอ หรือ hua  มันคือ wa ,lawa ,lao  หรือ ปักกิ่งแมน ที่มียีนส์ O1 จากลุ่มน้ำสินธุ ที่เรียกว่า กลุ่มพวก sindru,hindu
ดู peking man is javaman
https://en.wikipedia.org/wiki/Peking_Man
https://th.wikipedia.org/wiki/มนุษย์ชวา
https://en.wikipedia.org/wiki/Java_Man

กลุ่ม wa หรือ lawa peole
https://en.wikipedia.org/wiki/Wa_people

อดีต ญี่ปุ่นส่วนหนึ่งเรียกตัวเองว่า wa หรือ mon ที่รับคำนี้มาจากจีนคือ คำว่า hua
https://en.wikipedia.org/wiki/Wa_(Japan)
คำว่า ตง(คำนี้มาจากภาษากรีก δρον ) หรือ ทอง น่าจะเป็นคำเดียวกัน เช่น  ไผ่ตง(ไผ่ลำต้นสีทอง)  ชาวกวางตง(กวางตุ้ง) และชาวตงยี่หรือ wa ในยี่ปุ่น(東夷 แปลว่าคนเถื่อนทางตะวันออก"Eastern Barbarians".) ในยุคสมัยราชวงศ์สุ่ย ความน่าจะเป็นในยุคนี้จึงเป็นยีนส์ของคนชาว wa O1+O2 (ลาวมอญเขมร) อยู่เยอะพอสมควร

ดู DNA ของ sinitic  ถ้าอ้างแถบสี่ม่วง ก็คือกลุ่ม มลาบี (malabi) ซึ่งกลุ่มนี้ก็อยู่ในตระกูลภาษามอญเขมร
ดู DNA ของ wa ในจีน และ lawa ในไทย คือยีนส์ชุดเดียวกัน แถบสีแดง ซึ่งกลุ่มนี้ก็อยู่ในตระกูลภาษามอญเขมร
http://s1.zetaboards.com/anthroscape/topic/5174022/1/

ยีนส์ O3 เป็นยีนส์ที่มีมากในคนเนปาล ทิเบต พม่าตอนเหนือ และยูนนาน ซึ่งของทางจีนเองจะมีพอๆกับของไทย(ยีนส์ชุดนี้น่าจะเป็นยีนส์ O1 ผสมกับแขกขาวทางตอนเหนือและมียีนส์ของอันดาแมนผสม(D) ที่แตกกระเจิงในยุคพระเจ้ามิลินทน์ หรือ เมธันเดอร์แห่งยุโรปบุกอินเดีย )
https://th.wikipedia.org/wiki/พระเจ้ามิลินท์

ยีนส์ O2 เป็นยีนส์ที่มีมาก ใน คนมาเลย์อินโด เขมรมอญ ฟิลิปปินส์และ ไต้หวันดั้งเดิม (ยีนส์ชุดนี้น่าจะเป็นยีนส์ O1 ผสมกับแขกอินเดียวทมิฬทางใต้ )

ยีนส์ O1 ที่จะเรียกว่า javaman หรือ pekingman หรือ sindru,hindu,lawa ,wa,wo ,hua  คือยีนส์ตั้งต้นของกลุ่ม astro ที่ปักหลักบนลุ่มแม่น้ำสินธุ ก่อนที่ชาวผิวดำจากอิยีปต์เข้ามา(วัฒนธรรม โมเฮนจาดาโร ฮารัปปา) ทำให้ส่วนหนึ่งหนีไปอยู่จีนตอนใต้ (ผ่านทางทิเบต(ชาวนากา) สยาม(ก่อนยุคฟูนัน)และทางไต้หวัน ) หลังจากนั้นถูกชาวอิหร่านหรือแขกขาวเอามาตี กับ กลุ่มที่อยู่ลุ่มแม่น้ำสินธุ ที่ประกอบตัวชาวอียิปต์ผสมกับชาวนากาหรือจาวาแมน

ในตัวอักษรจีน คำว่า คำว่า ยี่ 夷(大(ใหญ่,คน)+弓(ธนู))  ยี่หรือเยว์จึงหมายถึงทิเบตมองโกล  ตัวอักษรจีนประกอบด้วยคันธนู ส่วนคำว่า หวอ我( มือ +ขวาน +มีด ) ตัวอักษรประกอบด้วยขวานกับมีดคล้ายเคียว จึงหมายถึงว่ากลุ่มคนที่ใช้คันธนู คือเย่ว์
มองโกลเรียกตัวเอง ว่า buryat
กวางตุ้งเรียกตัวเองว่า puyat  
จ้วงสุ่ยและคนทางใต้เรียกตัวเองว่า puyue
และกลุ่มคนแบบจีน(ออสโตรนีเซียนและไซบีเรียน)ที่ใช้ขวานและมีดคล้ายเคียวเป็นหลัก )  อาวุธหลักของชาวหวอ คือ มีดคล้ายเคียว(ออสโต) และ ขวานเป็นหลัก(ไซบีเรียน)  
ชาวเบอร์จัด ปูเย่ว์
https://en.wikipedia.org/wiki/Buryats
https://th.wikipedia.org/wiki/ภาษาจีนกวางตุ้ง
https://en.wikipedia.org/wiki/Yue_Chinese
https://en.wikipedia.org/wiki/Baiyue
https://en.wikipedia.org/wiki/Tai%E2%80%93Kadai-speaking_peoples

คนไซบีเรียน
https://en.wikipedia.org/wiki/Indigenous_peoples_of_Siberia

แม้แต่ภาษาเอง สำเนียงของทางทิเบต จะใกล้เคียงกับทาง จ้วงสุ่ยและจีนตอนใต้ มากกว่าสำเนียงแบบฮั่น ที่ใช้เสียงแฟลตโทน แบบภาษามอญเขมร  และใช้ตัวควบกล้ำในการออกเสียง เช่นเดียวกับเวียดนามและมอญเขมร   ต่างจากภาษาทิเบต ที่ใช้เสียงควบกล้ำไม่กี่คำคล้ายภาษาไต(โลโล)  

ที่จีนเรียกตัวเองว่า han คำนี้มาจากคำว่า khan  ออกเสียงแบบTurkish คือ han  จีนอาจจะมองตัวเองว่าเป็นชาวเตริก ในช่วงที่ไปเป็นทหารรับจ้าง หรือ เป็นลูกหลานของ เจงกีสข่านก็ว่าได้  
https://en.wikipedia.org/wiki/Khan_(title)


ถ้าให้มองจากความน่าจะเป็น แรกเริ่มของจีนคือ ชาว peking man หรือ jawaman ,nakaman แห่งลุ่มน้ำสินธุ ที่ย้ายกลุ่มมาอยู่ทางจีน ยีนส์ชุด O1
ยีนส์ O2  คือกลุ่ม กลุ่ม อินเดียทางใต้(กลุ่ม สินธุ ที่ผสมคนผิวดำจากอียิปต์(โมเฮนจา ดาโร ฮารับปปาแล้ว) มาผสมกับ กับ O1 ที่เคลื่อนย้ายมาก่อนหน้าอีกทีหนึ่ง แล้ว คือพวก มอญ เขมร อินโด มาเลย์ ฟิลิปปินส์  (กลุ่มนี้ขึ้นไปถึงลุ่มแม่น้ำแยงซี)
ยีนส์ O3 คือกลุ่มแขกอินเดียทางเหนือ ที่หนีจากการบุกรุกของชาวยุโรป (พระมิลินทน์ หรือ เนธันเดอร์แห่งกรีก) ผ่านทาง เนปาล ธิเบต มาผสมกับ O1 และ O2 บริเวณจีนตอนใต้  
https://en.wikipedia.org/wiki/Mohenjo-daro
https://en.wikipedia.org/wiki/Harappa

ดั้งนั้น ยีนส์ O3 จึงถือว่าเป็นวิวัฒนาการใหม่ของยีนส์ กลุ่ม ออสโต O   (หรือยีนส์คน lawa คนลาวนั่นเอง  คนที่ชอบล้อคนอื่นว่า ลาว เช่นคนจีน คนแขกใต้ คนเขมรมอญ เอง ก็มียีนส์ของลาวอยู่ทั้งนั้น )
ซึ่ง ไตผสมลาว หรือ จ้วงนั้น น่าจะเรียกกลุ่มตัวเองว่า han ได้เต็มปากมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะมีความเป็นข่าน สูงกว่าพวกจีน,ชิน,ฉิน ที่คนทางยูนนานมี O3 สูงถึง 82% ขณะที่จีนบางกลุ่มมียีนส์ตัวนี้สูงสุดเพียง 65%  
https://en.wikipedia.org/wiki/Y-DNA_haplogroups_in_populations_of_East_and_Southeast_Asia
แต่คนทางทิเบต เรียกกลุ่มตัวเองว่า kham (khan or kha ) ชาวไตใหญ่เรียกตัวเอง ว่า เสือข่านฟ้า(เสอก๊านฟ้า (ก๊านแปลว่า ชนะ(พบในศิลาจารึกพ่อขุนก็แปลว่า ชนะ) )  กลุ่ม kham น่าจะหมายถึงคนโพกหัว kumar แนวพวกแขกเปอร์เซียร์
คำว่า kham ( ทอง,ของมีค่า,ภาษา ในภาษาไต(โลโล) ) เขมรรับคำนี้มาจากไต(น่าจะรับผ่านพวกกุลาขาวหรือไตใหญ่ ผ่านทางอีสานและเขมร)  คือ คำโพช ซึ่งทองในภาษาเขมร คือ เมียะ  (เรียกคนเขมร ขะแมร์ ว่า คำเมียะ ก็น่าสนใจดี)
https://en.wikipedia.org/wiki/Kham
https://en.wikipedia.org/wiki/Hamnigan

ส่วน DNA ของคนไทย ถ้าดูตาม งานวิจัยนี้ จะพบว่า ยีนส์แบบไตกะไดหรือ O3 จะพบมากในกลุ่มคนทางตอนเหนือของไทย
ในขณะที่ภาคกลางจะผสมหลายส่วน ไตกะได(สีเหลือง)  เขมรมอญ(สีฟ้า) จีนดั้งเดิม(สีแดง) มาเลย์อินโด(สีน้ำเงิน)
http://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0079522

ส่วนคำว่า ไต ที่มาจาก ชื่อของ ซากาไต บุตรคนที่สองของเจงกีสข่าน(หรืออาจจะมาจาก ไต(เต,ตา)มูจิน ชื่อของเจงกีสข่านเองก็เป็นได้)  ได้ชื่อว่า รบเก่งที่สุดของมองโกลมากกว่าเจงกีสข่านเองด้วยซ้ำ  คำนี้มีใช้ในภาษาทิเบต จีน ไต ญี่ปุ่น มองโกล ที่แปลว่า ยิ่งใหญ่  หรือ ผู้ยิ่งใหญ่ ...เฉกเช่นเดียวกับคำว่าข่าน
https://en.wikipedia.org/wiki/Chagatai_Khanate

ท่านทั้งหลายมีความคิดเห็นแตกต่างอย่างไรในบทความนี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่