#icekung#📌📌part 2📌📌

•    วันพุธที่ 6 กรฏกฏาคม 2559 เช้านี้น้าเเสบกับพ่อ ขับรถมาส่งหนูกับแม่ ที่ รพ.บำรุงราษฏร์ รอสักพัก ป้าแอนก็มา จากนั้นก็เอาเอกสารต่างๆให้เซ็น พอดีวันนี้ภรรยาเจ้าของโรงพยาบาลมาด้วย ป้าแอนเลยแนะนำให้รู้จัก เค้ายังอวยพรให้หนูหายไวๆเลย ลุงหมอเรียกแม่กับหนูเข้าไปคุยสักพัก ก็ให้พาไปเอ็กซเรย์ ระหว่างที่รอเอ็กซเรย์ คงนานไปนิด หนูทำหน้าเบ่งอึ กลิ่นเริ่มโชยมาเชียว 😆😆555+ กะลังจะอุ้มไปล้างก้น เจ้าหน้าที่ห้องเอ็กซเรย์ดันเรียก ซะนี่😖 งั้นไปทั้งอย่างนี้ก่อนล่ะกันนะ 😁😁  จากนั้นพอเอ็กซเรย์เสร็จ รีบเเบกกันไปล้างก้น ด่วนๆๆๆ  จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ พาเราขึ้นไปรอที่ห้องพัก วันนี้หนูเก่งมาก หนูไม่ดื้อเลย😍 สักพักพี่พยาบาลก็มาเปลี่ยนชุดให้หนูเป็นชุดของโรงพยาบาล  พอประมาณ 6 โมงเย็น พี่พยาบาลให้แม่อุ้มหนูไปเจาะเลือดที่หลังมือ
•     แม่ถามหนู “ สู้ไม๊”
•    หนูก็ตอบแม่ว่า  “สู้”
พยาบาลปักเข็มลงกลางหลังมือ 💉แม่รู้ว่าหนูเจ็บ(ดูจากหน้า) แต่หนูไม่ร้องหนูอดทน  แต่พี่เค้าหาเส้นหนูไม่เจอ เค้าต้องเอาเข็มที่ปักเเล้วนั้น ควานหาเส้น(คิดสิลูกคงเจ็บมาก) แม่รู้ว่าหนูเจ็บๆมากๆแต่หนูก็ไม่ร้อง
แม่ถามหนู “เจ็บไม๊ลูก”
หนูบอก  “เจ็บ”ทำหน้าตาจะร้องแต่ก็  “”
แม่ถามหนู  “ สู้ไม๊”  
หนูตอบแม่มาว่า  “สู้”
แต่เริ่มมีน้ำตาไหลมาเป็นทาง แต่ไม่มีเสียงร้อง
พอแม่มีได้ยินพยาบาลบอกหาเส้นเจอแล้ว แม่ดีใจมาก เพราะจะได้เสร็จไวๆ สงสารลูกแม่เหลือเกิน  
พอเสร็จล่ะ หนูบอกแม่ว่า   “หมอทำ….เจ็บ….เลือด…” แล้วก็ชี้ไปทางพยาบาล พยาบาลชมลูกแม่ว่าเก่งมาก รู้ว่าน้องเจ็บแต่ไม่ปริปากร้องไห้ได้แต่น้ำตาไหล😂😂

•    วัน พฤหัสบดี ที่ 7กรกฏาคม 2559
Happy birthday นะครับลูกชายที่รักของแม่ วันนี้ครบ 2 ขวบแล้ว ปีนี้ไม่มีของขวัญไม่มีเค้กวันเกิดให้เป่า  เพราะเราอยู่ที่ โรงพยาบาล เตรียมรอผ่าตัด คุณหมอให้งดอาหารตอน 9โมงเช้า ก่อนที่จะให้งด แม่รีบให้หนูหม่ำๆนมแม่ก่อนให้เต็มที่ กลัวหนูจะหิว แม่ขอให่ให้การผ่าตัดครั้งนี้เป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้กับลูกของแม่ให้ได้หัวใจดวงใหม่ที่เเข็งแรงกว่าเดิม สู้ๆนะครับ แม่เชื่อว่าหนูทำได้ หนูต้องกลับมาหาแม่ด้วยหัวใจที่เเข็งแกร่ง แม่ขออวยพรให้การผ่าตัดครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีขอให้ลูกแม่ปลอดภัย หายไวๆ ฟื้นตัวและแข็งแรงไวๆนะครับ
9:00-14:00  กินได้แต่น้ำเปล่า หนูก็เริ่มงี่เง่า ร้องหิวๆไม่ยอมกินน้ำ ง่วงก็ไม่ยอมนอน ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อเวลา 14:00 คุณหมอให้งดทุกอย่างเลย เอาแล้วงัย บอกให้กินน้ำก็ไม่กิน  แต่แม่ต้องใจแข็ง ห้ามให้กินเด็ดขาด เพราะถ้าป้อนมันจะเป็นอันตรายถึงชีวิตหนูได้  สงสารหนูแทบขาดใจ ต้องทำทุกอย่าง ทำทุกทาง ไม่ให้หนูร้อง เพราะร้องมากๆก็จะเหนื่อย ระบบหัวใจก็จะทำงานหนัก  หาตัวช่วยได้หนึ่งอย่างคือรถเข็นของ โรงบาล  พอจะช่วยได้ แต่หยุดเข็นไม่ได้เลย พอหยุดหนูก็จะร้อง  แม่เลยต้องเข็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ว่าแม่จะเหมื่อยจะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องสู้ๆ แม่ทนได้ เพื่อลูก
15:00น.  มีเจ้าหน้าที่มารับตัวหนูเพื่อไปทำการแอคโค่ อีกรอบก่อนที่จะต้องไปผ่าตัด หนูร้องไห้ลั่นหวอดเลย จะไม่ยอมไป จนต้องหลอกล่อให้นั่งรถเข็นเด็กเล่นลงไป และไม่ยอมให้พี่เค้าเข็นต้องให้แม่เป็นคนเข็นเท่านั้น พอลงถึงห้งแอคโค่ ก็ร้องไม่ยอมหยุดอีก กลัวคนเอารถเข็นไปต้องคอยให้แม่อุ้มออกมาดูว่ารถเข็นยังอยู่หรือเปล่า พออุ้มกลับเข้าไปในห้องก็ร้องอีก ลุงหมอเลยแอคโค่ทั้งๆที่ร้องนี่เเหละ555  แต่พอลุงหมอแอคโค่เสร็จปุ๊ป หนูก็หยุดร้องปั๊บ อ่าวๆๆๆ555
15:30 น. ป้าสร้อยป้าแอน ตัวเเทนจากมูลนิธิเด็กโรคหัวใจฯ มาเยี่ยม มาถ่ายรูปกับหนู ให้ตุ๊กตาเจ้าหมาน้อยมาด้วย  แต่แปลกแฮะ!!หนูไม่ร้องงี่เง่าเลย พี่เค้าจะขอถ่ายรูปหน่อย  กลับยิ้มเเฉ่งเลย หนูชอบตุ๊กตาหมาน้อยที่พีาๆเค้าให้มามากไม่ยอมปล่อยไปไหนก็เอาไปด้วย  บอกให้แม่พาน้องหมาไปนั่งรถเล่นด้วยกัน แต่พอพี่ๆเค้ากลับกันแล้ว  หนูก็กลับมาร้องงี่เง่าเหมือนเดิม😖😖
16:30น.    พยาบาลเอายาลดไข้มาให้หนูกิน พี่พยาบาลชมหนูใหญ่เลย ว่าทานยาเก่งตัง  ใช่ครับ..น้องไอซ์กินยาง่ายตั้งแต่เกิดครับ  พี่พยาบาลบอกว่าไม่มีไข้หรอกแต่กินไว้กันมีไข้หลังผ่าตัด สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาพาเราไปที่ชั้น 5 ตอนนี้หนูกะลังหลับคาไหลแม่เลย คงเหนื่อยคงเพลีย  ร้องมาทั้งวันล่ะ  หิวก็หิว น่าสงสารร้งจนหลับ   แต่พอพาลงมาห้องรอผ่าตัด หนูก็ตื่น คงเพราะหิวเลยนอนได้ไม่นาน กลับมาร้องงอแงเหมือนเดิม แต่ไม่ยอมให้แม่อุ้มไม่ให้แม่เข้าใกล้เลย  แต่บอกให้แม่เปิดยูทูปให้หน่อยเเล้วไล่แม่ไปไกลๆ เตียง ค่อยลดอาการงี่เง่าลงมาได้บ้าง ให้แม่เปิด เพลงabc ที่หนูชอบ แล้วก็หัวเราะชอบใจ
17:15น.  คุณหมอ ธรรมบวร มาวางยาสลบให้หนู หลังจากที่ได้ยาหนูก็ค่อยๆหลับไป ในอ้อมกอดแม่ แม่ก็ได้แต่นั่งมองดูหนูที่อยู่ในอ้อมกอด ก้มลงหอมหน้าผาก ใจคอรู้สึกไม่ค่อยดีเลย รู้สึกเจ็บแบบบอกไม่ถูก
17:30น.  คุณหมอ ธรรมบวร เดินเข้ามาดูว่าหนูหลับหรือยัง หมอจับแขนยกขึ้นแล้วปล่อย จากนั้นก็อุ้มหนูไปจากอ้อมกอดของแม่ แม่ยังคงจำภาพทุกภาพได้เป็นอย่างดี แล้วพยาบาลก็บอกแม่ว่า ให้แม่ขึ้นไปรอที่ห้องพักก่อน ผ่าตัดเสร็จเมื่อไหร่จะโทรตาม ความรู้สึกในตอนนั้น บอกไม่ถูกจริงๆ ทั้งสับสน กลัว มึนงง เว้งคว้าง ทำอะไรไม่ถูกเลย สมองมันเบลอไปหมดเเล้ว เดินขึ้นมาชั้น7ห้องพักแบบมึนๆ เจอ พยาบาลที่เคาเตอร์เลยถามไปว่า “คุณพยาบาลค่ะ คือคุณหมอไม่ได้บอกรายละเอียดเลยค่ะว่าน้องต้องทำอะไรบ้าง”
พยาบาลทำหน้าตกใจนิดนึง  “อ่าว!!คุณแม่ยังไม่ได้เจอคุณหมอสัมพันธ์ที่ผ่าตัดหรอค่ะ”
“ยังเลยค่ะ  ตั้งแต่มาโรงบาลจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยเจอกับคุณหมอที่จะผ่าตัดเลยค่ะ มีแต่คุณหมอผู้หญิงที่มาวางยาสลบ และอุ้มน้องเข้าห้องผ่าตัดค่ะ”
พยาบาลยกหูโทรศัพท์โทรลงไปที่ชั้น 5  พยาบาลบอกว่า ตอนนี้คุณหมอกำลังผ่าตัดน้องอยู่ เดี๋ยวหลังผ่าตัด จะรีบแจ้งคุณหมอให้คุยกับคุณแม่ ระหว่างรอนี่มันช่างทรมานเหลือเกินทำไมมันชั่งโดดเดี่ยวอ้างว้างเหลือเกิน ใครไม่มาเป็นแม่คงไม่รู้ เป็นห่วงหนูมากเหลือเกินห่วงมากแบบบอกไม่ถูก คงเพราะเราสองคนไม่เคยอยู่ห่างกันเลย แม่ไม่ได้รอบนห้องเพราะร้อนใจ เหมือนคนบ้าเดินหงุ่นหง่านๆไปมาๆ เดินไปเรื่อยๆจนไกลมากไม่รู้เดินไปได้ไง เจอพวงมาลัย เลยซื้อมาไหว้ศาลที่ รพ ศาลตายาย เจ้าที่เจ้าทาง  และขอบารมีพระเเม่อุมาและพระแม่ลักษมี ได้โปรดคุ้มครองน้องไอซ์ลูกชายของแม่ให้ปลอดภัยด้วยเทอญ
20:45น.  เสียงโทรศัพท์ ในห้องดังขึ้น ปลายสายคือ พยาบาลเเจ้งว่า ตอนนี้หมอกำลังผ่าตัดจะเสร็จแล้ว ให้คุณแม่ลงไปรอที่ccuชั้น5 ห้อง 512 จะได้รอเจอคุณหมอ
21:05 น. เจ้าหน้าที่เข็นเตียงหนูออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว  แม่เห็นเเล้วน้ำตาไหล เห็นสภาพหนูมีแต่สายระโยงระยาง เต็มไปหมด มีทั้งท่อช่วยหายใจหนูนอนหลับนิ่งยังไม่ฟื้น
21:20น.  หมอผ่าตัด( อ.สัมพันธ์) เดินออกมาคุยถึงการผ่าตัด ว่าทำอะไรตรงไหนไปบ้าง หมอบอกว่าการผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ราบรื่น แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถ บอกได้ว่าน้องจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะต้องรอดูอาการหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิดอีก 3-4วัน  คุณหมอบอกว่าทำให้ทุกอย่างแล้ว
-ปะผนังหัวใจห้องล่างที่รั่วขนาดใหญ่
-ซ่อมเส้นเลือดหัวใจที่ไปเลี้ยงปอดที่พองโตให้มีขนาดเล็กลง
-ใส่ลิ้นหัวใจเทียม ลิ้นหัวใจที่คุณหมอใส่ให้หนูเป็นลิ้นหัวใจวัว หมอบอกไม่ใส่ลิ้นหัวใจเทียมชนิดโลหะให้ เพราะแบบนั้นต้องกินยาละลายลิ่มเลือดไปตลอดชีวิต
และต้องคอยระวังเกี่ยวกับเรื่องเลือดออกง่าย คุณหมอบอกว่า ปกติเด็ก 2 ขวบจะมีลิ้นหัวใจ ขนาด 10 มิล ผู้ใหญ่ 18 มิล  คุณหมอลองใส่ 18 มิลให้แล้ว มันใหญ่เกินไปคับเกินไป เลยต้องใส่ขนาด 14 มิลให้ ถ้าหากไม่เสื่อมหรือไม่มีหินปูนเกาะ จะอยู่ได้ถึง อายุ 10-12ขวบ แล้วค่อยทำการเปลี่ยนใหม่  
ตอนนี้หนูยังคงหลับเพราะฤทธิ์ยาอยู่ แต่ถ้าหากรู้สึกตัว คุณหมอจะให้ยายนอนหลับต่อก่อน หมออยากให้พักผ่อนมากๆ((พรุ่งนี้เจอกันนะครับลูกชาย))
วันศุกร์ที่ 8 กรกฏาคม 2559
9:30 น. แม่รีบลงไปหาหนู แต่หนูยังคงนอนหลับเพราะฤทธิ์ยา พยาบาลบอกแม่ว่าหนูฟื้นมาแล้วแต่ยังสลึมสลือเพราะยา เวลาพยาบาลจับเช็ดตัวก็รู้เรื่อง ถามว่าหนาวไม๊ก็พยักหน้ารับรู้ว่าหนาว หนูมีไข้สูง 39 องศา(คงเพราะผ่าตัดมาแน่ๆ) เวลาหนูลืมตาแม่ต้องคอยหลบลงข้างเตียงไม่ให้หนูมองเห็น แม่กลัวหนูจะร้องไห้หาแม่แต่ตอนนี้อุ้มหนูไม่ได้ หนูคงคิดว่า แม่ไปไหนแม่ทิ้งหนูหรือเปล่า ?  แม่อยู่ข้างๆหนูไม่เคยทิ้งหนูนะลูก
21:15 น. แม่แอบลงมาดูหนูอีกรอบ หนูยังมีไข้สูงไม่ยอมลดเลย แต่คุณหมอเอาสายที่ปากออกแล้ว เหลือท่อที่จมูก กับสายที่ต่อลงกระเพาอาหาร (สงสารลูกแม่เหลือเกิน อยากจะไปนอนเป็นแทนหนูเหลือเกิน)
เมื่อช่วงสายๆ แม่ปวดนมมากจนทนไม่ไหวแล้ว ปวดมาตั้งแต่เมื่อวาน  แม่ต้องรีบไปหาซื้อที่ปั้มนมมาปั้มนมทิ้ง นึกถึงแต่หน้าหมาน้อยของแม่จัง รอหนูหายไวๆ จะได้รีบกลับมาจุ๊บนมแม่เหมือนเดิมนะครับ
วันเสาร์ ที่ 9 กรกฏาคม 2559
วันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม ยังคงมีไข้สูง พี่พยาบาล(พี่แอน)บอกว่า เอาน้ำเเข็งมาลูบปากให้ เพราะปากเริ่มแห้ง แต่คุณหมอยังไม่ให้กิน (โอ้ย!!น่าสงสารลูก) สักพักพี่พยาบาลก็เอาน้ำแข็งมาลูบปากให้อีก หนูพยามจะดูดเอาน้ำจากน้ำแข็งที่พี่เค้าเอาลูบปากให้ เอาเข้าปากด้วยความหิว  ส่งสายตาพยามจะบอกพี่เค้าว่า ขอหนูกินหน่อยครับ หนูหิว หนูเจ็บ (หนูอยากจะบอกแบบนี้ใช่ไม๊ลูก) พี่พยาบาลบอกว่าหมอยังให้กินไม่ได้ครับ เท่านั้นแหละ!! หนูก็ร้องไห้อย่างน่าสงสาร แต่ก็ไม่มีเสียงออกมา เพราะหนูยังใส่ท่อช่วยหายใจที่จมูกอยู่ พยามดิ้นสุดเเรงที่มี แต่ก็ต้องถูกพี่พยาบาลเอาถุงทรายหนักๆมาวาง ทับแขนขาไว้ ร้องได้สักพักหนูก็ผล่อยหลับไป
17:30น.  ลงมาดูหนูอีกรอบ ไข้ก็ไม่ยอมลดสักที แต่อาการก็ไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ หนูเป็นปอดบวมมาหลายครั้งเหลือเกิน มันคงทำให้ร่างกายหนูไม่ค่อยแข็งแรง คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเด็กคนอื่น   วันนี้คุณหมอลดอ๊อกซิเจ้นลงบ้างแล้ว
วัน อาทิตย์ ที่ 11 กรกฏาคม 2559
ลงมาดูแต่เช้าเหมือนเดิม พี่พยาบาลบอกว่า เมื่อตอนเย็นเมื่อวาน หลังแม่ขึ้นห้องแล้ว  หมอลองให้งดยานอนหลับ  สรุปว่า แต่พอหนูเริ่มรู้สึกตัวหนูดิ้นแรงมากๆ คุณหมอกลัวหนูจะไปโดนท่อ และสายต่างๆถ้าหลุดมาเรื่องใหญ่ คุณหมอเลยให้ยานอนหลับกลับไปเหมือนเดิม พอดีเจอคุณลุงหมอ (อ.ปรีชา)มาตรวจหนูพอดี  ลุงหมอบอกแม่ว่า อาการดีขึ้นมาบ้างนะ แต่คงต้องใช้เวลานิดนึง เพราะหัวใจห้องขวายังไม่ค่อยเเข็งแรง แต่ดูอาการโดยรวมแล้วก็ดีขึ้น พี่พยาบาลบอกว่า ไข้ยังมีขึ้นๆลงๆตลอด และเสมหะเหลืองมากๆ หมอเลยให้เก็บไปเพาะเชื้อดู
ตอนเย็นแม่ลงมาหลังจากที่ขึ้นไปอาบน้ำแล้ว พี่ๆพยาบาลกำลังดูดเสมหะให้หนูพอดี  พอดูดเสร็จหนูก็หลับต่อ  พี่พยาบาลบอกว่าวันนี้ ภรรยาและลูกเจ้าของโรงบาลเอาตุ๊กตาพี่หมีมาเยี่ยมหนูด้วยแหละ หมีน้อยน่ารักมาก
วันจันทร์ ที่ 11 กรกฏาคม  2559
วันนี้อาการทุกอย่าง ยังคงเหมือนเดิม ไข้ก็ยังไม่ลด แม่เริ่มกังวลแล้วซินะ ทำไมเป็นไข้นานจังเลยอีกทั้งเริ่มมีไออีกต่างหาก เเม่ยืนมองหนูแม่ก็เจ็บในใจเหลือเกิน มีทางไหนที่แม่จะแบ่งความเจ็บมาแทนหนูบ้างได้ไม๊   ผลเพาะเชื้อก็ยังคงต้องรอ สามวัน  สาธุๆๆขออย่าให้เป็นอะไรร้ายแรงเลยลูก ขอให้ลูกปลอดภัยหายไวๆ เราจะได้กลับบ้านกันสักที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่